ราชันเร้นลับ 865 : ข้อเสนอของเอิร์ลฮอลล์
ราชันเร้นลับ 865 : ข้อเสนอของเอิร์ลฮอลล์
หนึ่งหมื่นปอนด์… ออเดรย์กะพริบตา เผยความประหลาดใจด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าเพียงเล็กน้อยโดยไม่รอให้ถามต่อ เอิร์ลฮอลล์ที่สังเกตเห็นความสงสัย หัวเราะในลำคอพลางอธิบาย“สุภาพบุรุษคนนี้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทัศนคติบางส่วนของเขาได้กระตุ้นให้พ่อตาสว่าง จิตใจมิอาจยอมเพิกเฉยต่อความทุกข์ยาก มิอาจเพิกเฉยต่อปัญหา แม้จะรู้ดีว่าไม่สามารถแก้ไขได้ในเร็ววัน”ออเดรย์เข้าใจคำพูดบิดาอย่างคลุมเครือ ไม่ชัดเจนมากนัก เพียงพยักหน้าเล็กน้อย หยิบสมุดเช็คออกจากกระเป๋าถือที่เข้ากันกับเดรส เขียนตัวเลขลงไปหนึ่งพันปอนด์ที่นี่คืองานเลี้ยงการกุศล แถมยังจัดขึ้นในโถงของวิหาร แน่นอนว่าจะไม่มีการเต้นรำหรือกิจกรรมสันทนาการ ไม่มีสาวใช้หรือบุรุษรับใช้คอยติดตาม มีเพียงการช่วยเหลือตัวเองและการบริจาคเงิน สุภาพสตรีจึงต้องนำกระเป๋าถือติดตัวมาด้วยหลังจากแขกผู้มีเกียรติทยอยหย่อนเช็คลงในกล่องบริจาค แต่ละคนแยกย้ายไปยังโต๊ะยาวที่มีอาหารและเครื่องดื่มอย่างง่ายๆ จัดเตรียมไว้ จากนั้นก็เดินไปสนทนากับคนรู้จัก แทบไม่มีใครกลับไปนั่งที่เดิมฉากตรงหน้าใกล้เคียงกับงานเลี้ยงอาหารค่ำไคลน์เดินตามบิชอปอีเล็คตร้ามาหานักบุญแอนโทนี ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับหนึ่งในเบื้องบนของโบสถ์รัตติกาลนักบุญแอนโทนียิ้มตอบรับคำทักทายของดอน·ดันเตส จ้องหน้าและกล่าว“ยอดเยี่ยมมาก ทางเราภูมิใจที่มีผู้ศรัทธาเช่นคุณ… เทพธิดาสอนพวกเราว่า ทัศนคติสำคัญกว่ายศถาบรรดาศักดิ์ ดังนั้น คุณคือสุภาพบุรุษที่มีเกียรติและน่ายกย่อง”ด้วยความสัตย์จริง ขณะเผชิญหน้ากับนักบุญรายนี้ หัวใจไคลน์เต้นระรัวประหนึ่งกลองศึก เนื่องจากครึ่งเทพหรือผู้วิเศษที่เกี่ยวข้องกับขอบเขต ‘โชคชะตา’ มักมองเห็นหมอกสีเทาบนร่างกายตน จำพวกเส้นทางสัตว์ประหลาดและรัตติกาลที่ถือครองอำนาจ ‘ความอับโชค’ หากนักบุญแอนโทนีเป็นผู้ไร้หลับลำดับสูงจริง หรือครอบครองพลังในขอบเขต ‘ความอับโชค’ เกรงว่าอาจมองเห็นถึงปัญหาในตัวดอน·ดันเตสด้วยเหตุนี้ ก่อนที่ไคลน์มาเดินทางมายังงานเลี้ยงการกุศล มันทำนายบนมิติหมอกและได้รับคำตอบว่าไม่มีอันตรายแม้แต่เทพธิดายังไม่พูดอะไร… ถึงอาร์ชบิชอปจะค้นพบความผิดปรกติ แต่ก็คงแสร้งทำเป็นไม่เห็น… ไคลน์ตอบสนองด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“ในระยะหลัง ผมมักมาที่วิหารเพื่อสวดมนต์และฟังเทศน์จากบิชอปอีเล็คตร้า สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผมเข้าถึงแก่นของคำสอน กระทั่งดวงวิญญาณก็ดูคล้ายจะบริสุทธิ์มากขึ้น ผมจึงอยากเผยแผ่คำสอนของเทพธิดา ส่งต่อความดีและความหวังให้ผู้อื่น”นักบุญแอนโทนีพยักหน้าและกล่าว“ต่อหน้าเทพธิดา สาวกทุกคนจะถูกจำแนกตามทัศนคติ ไม่สนใจว่าจะเป็นขุนนางหรือสามัญชน บุรุษหรือสตรี ทุกคนล้วนเท่าเทียม… ผมขอภาวนาให้ผู้ที่กำลังทุกข์ทรมานเป็นอิสระจากความกลัวโดยเร็ว ได้ใช้ชีวิตด้วยความเงียบสงบ… เทพธิดาจงเจริญ”ไคลน์และบิชอปอีเล็คตร้าต่างแตะสี่จุดบนหน้าอกตามเข็มนาฬิกา“เทพธิดาจงเจริญ”เมื่อเห็นอาร์ชบิชอปนักบุญแอนโทนีหันไปหาสาวกคนอื่น ไคลน์เตรียมเดินไปที่โต๊ะยาวเพื่อรับแชมเปญหนึ่งแก้ว บรรเทาอาการกระหายน้ำทันใดนั้น สุภาพบุรุษคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ผิวพรรณของสุภาพบุรุษรายนี้หย่อนคล้อยเล็กน้อย หน้าท้องบวมออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็พอจะเดาได้ว่าในวัยหนุ่มมีใบหน้าหล่อเหลาขนาดไหน หรือแม้กระทั่งปัจจุบัน ดวงตาสีฟ้าที่เป็นมิตรและเคราสง่างามก็ยังช่วยทำให้ดูดีไคลน์เพิ่งได้ฟังคำแนะนำมาจากส.ส. มัคท์ จึงทราบว่าชายคนนี้คือเอิร์ล·ฮอลล์ สมาชิกสภาขุนนางและนายธนาคารใหญ่แน่นอน สำหรับชายหนุ่ม สิ่งที่สำคัญที่สุดของขุนนางรายนี้คือ เขาเป็นบิดาของมิสจัสติส และออเดรย์เองก็กำลังยืนอยู่ด้านข้าง จ้องดอน·ดันเตสด้วยดวงตาสีเขียวสดใส คล้ายกับรอฟังบทสนทนาของสุภาพบุรุษนั่นทำให้ไคลน์เกิดความกระอักกระอ่วนเราต้องวางมาดให้เหมาะสมกับบุคลิกของดอน·ดันเตส… ชาติกำเนิดธรรมดา แต่ใช้ความสามารถไต่เต้าจนกลายเป็นคนร่ำรวย พยายามผลักดันตัวเองให้เป็นชนชั้นสูงและขุนนาง เมื่อเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพลระดับอาณาจักร ท่าทีที่ควรเกิดขึ้นคือความประหม่า… อา สำหรับบุรุษที่ชื่อชอบสาวงาม เมื่อได้เผชิญหน้ากับอัญมณีที่เจิดจรัสที่สุดของเบ็คลันด์ซึ่งตนมิอาจเอื้อม สีหน้าควรตึงเครียดและเจ็บปวด แต่ยังคงเผยเสน่ห์ออกมาตามธรรมชาติ เนื่องจากประสบการณ์ได้หล่อหลอมให้มันคือส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต… นั่นสินะ คนที่ประสบความสำเร็จท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย ต้องทระนงตนทุกลมหายใจ ภายนอกสงบนิ่งสุขุม สุภาพนอบน้อม แต่ไม่ถ่อมตัว… ความคิดมากมายแล่นผ่านสมองไคลน์ ก่อนจะเผยรอยยิ้มพลางกล่าวกับเอิร์ลฮอลล์ที่เดินเข้ามาใกล้“ท่านเอิร์ลที่เคารพ ผมบังเอิญเห็นตัวเลขบนเช็คของคุณ ขอชื่นชมในความกรุณาและใจกว้าง… สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดก็คือ คุณไม่เคยโอ้อวดกับใครว่าบริจาคไปเท่าไร”เอิร์ลฮอลล์หัวเราะในลำคอ“ไม่เลย ถ้าเทียบกับคุณ ผมเสียสละน้อยกว่ามาก”ความนัยแฝงของประโยคก็คือ หนึ่งหมื่นห้าพันปอนด์อาจหมายถึงทรัพย์สินหนึ่งในสิบหรือหนึ่งในห้าของดอน·ดันเตส แต่สำหรับตน หนึ่งหมื่นปอนด์อาจหมายถึงหนึ่งในพันหรือน้อยกว่านั้น ดอน·ดันเตสจึงเสียสละมากกว่า เป็นการให้ด้วยใจบริสุทธิ์ยิ่งกว่า“ตามความเห็นของผม หากผู้ยากไร้สามารถนำเงินของกองทุนไปใช้ศึกษาหาความรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต จำนวนเงินบริจาคล้วนมีคุณค่าเท่าเทียม ไม่แบ่งแยกว่าใครเสียสละมากกว่า หากมองจากมุมนี้ หนึ่งหมื่นห้าพันปอนด์ก็มากกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์เพียงห้าพันปอนด์” ไคลน์ตอบอย่างจริงใจ ขณะเดียวกันก็ชำเลืองไปทางสตรีผมทองด้านข้างที่กำลังยืนฟังมันทราบดีว่า ‘ยิ่งกลบเกลื่อน’ สำหรับผู้ชมก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนออเดรย์เผยรอยยิ้มเจือจางขณะฟังบทสนทนาระหว่างบิดากับดอน·ดันเตส คล้ายกับไม่สังเกตเห็นการแอบมองของสุภาพบุรุษ สิ่งนี้ทำให้ไคลน์ผู้เป็นนักแสดงขาดความมั่นใจเอิร์ลฮอลล์หัวเราะ“ต่างคนต่างมุมมอง แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งคู่ และอย่างน้อยพวกเราก็ชื่นชมกันและกัน… คุณทำให้ผมเชื่อว่า คุณเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากและช่วงชีวิตยากจนข้นแค้นมาก่อน”ไคลน์พยักหน้ารับ“ผมไม่คิดปกปิดอดีตเหล่านั้น พวกมันคือสมบัติล้ำค่าของตัวผม”“นั่นคือสิ่งที่ผมกับเพื่อนๆ ไม่มี” เอิร์ลฮอลล์ยิ้ม “ด้วยเหตุนี้ คุณจึงมีวิสัยทัศน์และสติปัญญาในแง่มุมที่น่าสนใจและพิเศษแตกต่างจากพวกเรา หวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันในอนาคต”“ผมเองก็หวังเช่นนั้น” ไคลน์ตอบสนองอย่างเหมาะสม เป็นความรู้สึกจากใจจริงเอิร์ลฮอลล์ชี้ไปด้านข้าง“เพื่อนบางคนกำลังรอให้ผมเข้าไปทัก… ขอให้กองทุนการกุศลที่คุณริเริ่มดำเนินไปอย่างราบรื่น ขอให้มีเงินทุนสมทบไม่ขาดสาย”ไคลน์ไม่ลากบทสนทนาออกไป เพียงวาดพระจันทร์แดงกลางหน้าอก“เทพธิดาจงเจริญ”“เทพธิดาจงเจริญ” เอิร์ลฮอลล์และออเดรย์แตะหน้าอกตามเข็มนาฬิกาสี่จุดพร้อมกันเมื่อเห็นทั้งสองคนเดินไปทางอื่น ไคลน์แอบถอนหายใจโล่งอกทันใดนั้น ชายหนุ่มเกิดความตึงเครียดกะทันหัน รีบมองไปรอบๆ ห้องโถงโดยยังสงวนกิริยา จนกระทั่งพบเงาดำนอกประตูที่นั่นมีสุนัขโกลเดนรีทรีเวอร์ยังคงนั่งจ้องอย่างเงียบงัน…บนรถม้าระหว่างทางกลับไปยังเขตราชินี เอิร์ลฮอลล์ที่คล้ายกับกำลังหลับตา หันไปมองบุตรสาวและกล่าว“ออเดรย์ ลูกเคยบอกใช่ไหมว่าอยากเข้าร่วมองค์กรการกุศลของศาสนจักร? อยากเข้าร่วมกองทุนการกุศลนี้ไหม?”“หือ?” ออเดรย์สังเกตเห็นนานแล้วว่าบิดาของเธอมีความคิดเช่นนี้ตั้งแต่อยู่ในวิหาร จึงเผยอาการตกใจอย่างเหมาะสม“แต่นี่เป็นแค่กองทุนเล็กๆ” พี่ชายของออเดรย์ ฮิบเบิร์ต·ฮอลล์โต้แย้งแทนน้องสาวเอิร์ลฮอลล์ยิ้มพลางส่ายหน้า“พ่อถามบิชอปมาแล้ว ยอดบริจาคในคืนนี้สูงเกินกว่าหนึ่งแสนปอนด์… รู้ไหมว่าทำไมถึงมากขนาดนี้?”ฮิบเบิร์ตฮอลล์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไตร่ตรองสักพักก่อนจะตอบ“ติดสินบน?”ขณะเดียวกัน ออเดรย์มอบคำตอบในมุมของเธอ“ความรู้และการผ่อนปรนคุณสมบัติในการเลือกตั้ง?”เอิร์ลฮอลล์พยักหน้าพลางถอนหายใจ“ไม่มีสิ่งใดอยู่ค้ำฟ้าไปตลอดกาล แม้กระทั่งมนุษยชาติ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงขุนนาง”จากนั้นก็มองออเดรย์ กล่าวด้วยรอยยิ้ม“พ่อไม่ได้บังคับ… พ่อสามารถหาคนอื่นมาเข้าร่วมกองทุนการศึกษานี้แทนได้ แค่อยากให้ลูกได้เปิดโลกมากขึ้น ประสบการณ์บางอย่างหาได้เฉพาะกับบางที่เท่านั้น… หึหึ แต่ถึงจะพลาดองค์กรนี้ ก็ยังมีองค์กรถัดไปให้เลือกทำงาน”“ท่านพ่อ หนูจะเก็บเรื่องนี้ไปคิด” ออเดรย์ตอบด้วยสีหน้าจริงจังหลังจากฟังเรื่องราวของคนยากจนที่ดอน·ดันเตสเล่า หญิงสาวต้องการเข้าร่วมกับกองทุนนี้จากใจจริง รวมสมทบทุนบริจาค คอยประสานกับหน่วยงานราชการ คอยจัดกิจกรรมพิเศษ แต่ที่ยังลังเลว่าเธอพบว่าดอน·ดันเตสมีปัญหากลับถึงบ้าน ออเดรย์เรียกให้ซูซี่เข้ามาในห้องและปิดประตู“เธอคิดยังไงกับมิสเตอร์ดอน·ดันเตสคนนั้น?” ออเดรย์ถามเข้าประเด็นโกลเดนรีทรีเวอร์ตัวใหญ่ที่หมอบอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำหน้านึกสักพักก่อนจะตอบ“ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักเธอหรือบางสิ่งบนร่างกายเธอ นอกจากนั้น เขาเล่นละครเกือบตลอดเวลา ฉันสังเกตเห็นร่องรอยได้เป็นครั้งคราว… ค่อนข้างระมัดระวังตัว เป็นคนที่ประสาทสัมผัสเฉียบแหลมมาก”“เรื่องนั้นฉันเองก็สังเกตเห็น เขาน่าจะเป็นผู้วิเศษ… แต่ถึงจะเล่นละครได้แนบเนียนก็ยังมีจุดให้จับผิด… อย่างไรก็ตาม การเล่นละครคือเรื่องปรกติขณะออกงานสังคม เมื่อคนเราเผชิญหน้ากับแวดวงที่แตกต่าง บางครั้งก็จำเป็นต้องสมบทบาทให้เหมาะสม” ออเดรย์พูดพลางคิด “เรื่องที่น่ากังวลก็คือ ทำไมเขาถึงต้องตกตะลึงขนาดนั้นตอนที่เห็นฉัน แม้กระทั่งเผยความหวาดกลัวเล็กๆ … นอกจากนั้น รอบตัวเขาเพิ่งเกิดคดีร้ายแรงสองครั้ง หนึ่งในนั้นคือคดีของบารอนซินดราส กล่าวกันว่ามีต้นเหตุมาจากพลังพิเศษและการชักนำทางจิตใจ”ซูซี่อ้าปากกว้าง แต่นึกสิ่งที่จะพูดไม่ออก จึงทำเพียงส่งเสียง ‘โฮ่ง’ออเดรย์ครุ่นคิดต่อไปอย่างไม่แยแสอา เราคงต้องหาคนมาตรวจสอบดอน·ดันเตสให้แน่ใจ เมื่อยืนยันได้ว่าเขาไม่ใช่ตัวปัญหา ค่อยตอบตกลงเข้าร่วมกองทุนการกุศลเพื่อการศึกษา… จริงสิ ใกล้จะวันจันทร์แล้ว เราสามารถฝากฝังให้ฟอร์สและมิสเตอร์มูนรับทำงานนี้ พวกเขาต่างอยู่ในเบ็คลันด์…บ่ายสามโมงตรงวันจันทร์เสาลำแสงสีแดงเข้มส่องสว่างบนเก้าอี้แต่ละตัวรอบโต๊ะทองแดงยาว เปลี่ยนให้ร่างที่พร่ามัวเริ่มคมชัด‘จัสติส’ ออเดรย์มองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ตามด้วยการมองไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวฝั่งหนึ่ง กล่าวอย่างยิ้มแย้ม“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ฟูล~”
คอมเม้นต์