ราชันเร้นลับ 843 : เห็ดวิเศษ
“ลำดับ 0 : เดอะฟูล!”หลังจากจำแนกข้อความบนไพ่ทาโรต์ ไคลน์รู้สึกราวกับได้ยินเสียงของซาราธอีกครั้งในวินาทีนี้ ชายหนุ่มสัมผัสถึงการชักนำทางโชคชะตาอย่างรุนแรง คล้ายกับทุกสิ่งถูกจัดเตรียมไว้ตั้งแต่เริ่ม เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากฝีมือ 0-08ไคลน์เริ่มสงสัยในทฤษฎีเดิมของตัวเอง บางที คนฝึกสัตว์สาวในคณะละครสัตว์เมืองทิงเก็นที่อาสาดูดวงไพ่ทาโรต์ให้ฟรี อาจไม่ใช่คนธรรมดาขณะความคิดมากมายแล่นผ่าน ไคลน์เริ่มเปลี่ยนมุมมอง ความกังวลและหดหู่จึงเริ่มบรรเทาไม่สิ… อาจไม่มีใครชักใยเรื่องนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ…สืบเนื่องจากพิธีกรรมเดินทางข้ามโลก เรามีโอกาสเข้ามาพัวพันกับมิติลึกลับเหนือมิติสายหมอก นั่นทำให้ชะตากรรมเกิดการเปลี่ยนแปลง… ระบุให้ชัดก็คือ ในฐานะคนแปลกหน้าจากโลกอื่น เราไม่มี ‘ชะตากรรม’ ที่นี่ตั้งแต่แรก ทุกสิ่งผสมผสานจากโชคชะตาของเจ้าของร่าง ผนวกกับอิทธิพลจากมิติเหนือสายหมอกและสภาพแวดล้อม…มิติลึกลับเหนือสายหมอกสีเทา… ค่อนข้างชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับเส้นทางนักทำนาย และเนื่องจากลำดับ 0 ของเส้นทางนี้มีชื่อว่า ‘เดอะฟูล’ การทำนายไพ่ทาโรต์บนโลกความจริงจึงได้รับอิทธิพลไปด้วย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หมอดูนิรนามจะหยิบไพ่เดอะฟูลออกมา!และในทำนองเดียวกัน นั่นทำให้เราเลือกใช้ชื่อตัวเองว่า ‘เดอะฟูล’ไคลน์สงบลงหลายระดับ เชื่อว่านี่คือเหตุผลที่ฟังขึ้นหลังจากตัดความไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดออก นี่คือคำอธิบายที่สมเหตุสมผลที่สุด และมีโอกาสเป็นความจริงมาก… ไคลน์บังคับตัวเองให้หยุดคิดในสิ่งที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ดึงสติกลับมาสนใจเหตุการณ์ตรงหน้าบัลลังก์ยักษ์… กลุ่มหนอนแมลงโปร่งแสง… เป็นภาพที่เราเคยเห็นขณะใช้พลังทำนายบนมิติเหนือสายหมอก…พิจารณาจากฉากที่มอบความสยองขวัญและขนลุกแก่ผู้พบเห็น… น่าจะเป็นเทวทูตบนเส้นทางนักทำนาย… เทวทูตผู้คลุ้มคลั่งและกลายเป็นสัตว์ประหลาด!ซาราธ…?หรือจะเป็นผู้นำตระกูลอันทีโกนัสในยุคสมัยที่สี่?ถ้าเป็นรายแรก… ทั้งอาโรเดสและวิล·อัสตินต่างยืนยันตรงกันว่า ซาราธกลายเป็นลำดับ 1 เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่อยู่ในร่างสัตว์ประหลาดเสียสติ สอดคล้องกับภาพที่เห็น… ทฤษฎีนี้ยังอธิบายได้ว่า เหตุใดซาราธถึงต้องการเพียงให้เรา ‘เปิดประตู’ เพราะเมื่อ ‘ประตูลับ’ เปิดออก ทั้งสองโลกจะเชื่อมต่อกัน ช่วยขจัดภาวะผิดปรกติในปัจจุบัน หรือไม่ก็ฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อย… ค่อนข้างชัดเจนว่าโกศขี้เถ้าเป็นแค่ข้ออ้าง…แต่ปัญหาคือ… สภาพแวดล้อมปัจจุบันของซาราธที่ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสแสดงให้เห็น ไม่เหมือนกับพระราชวังบนยอดเขาหลักของเทือกเขาโฮนาซิส ไม่อย่างนั้น เราต้องเอะใจทันทีที่เห็น…ถ้านั่นคือเทวทูตของตระกูลอันทีโกนัสที่มีชีวิตรอดมาจนถึงปัจจุบัน… หลังจากซาราธครอบครองสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัสจากโรซายล์และเดินทางมายังยอดเขาโฮนาซิสเพื่อตามหาสมบัติ อันทีโกนัสทำให้ซาราธต้องทุกข์ทรมานด้วยการแบ่งจิตซาราธออกโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว ส่งผลให้เสียสติขณะพยายามเลื่อนลำดับ… ‘อันทีโกนัส’ อาจเป็นลำดับ 1 ‘บริวารเร้นลับ’ ส่วนซาราธในตอนนั้นยังเป็นลำดับ 2 ‘ผู้ชี้นำปาฏิหาริย์’ …พิจารณาจากประเด็นดังกล่าว ซาราธต้องการเปิดประตูเพื่อให้โลกภายในหมู่บ้านสายหมอกและโลกภายนอกเชื่อมต่อกัน ร่างแบ่งภาคของตัวเองจะได้กลับมารวมตัวอีกครั้ง…แต่ไม่ว่าจะแบบไหน… กลุ่มก้อนหนอนแมลงโปร่งใสน่าจะเป็นลำดับ 1 ที่คลุ้มคลั่ง… เป็นเรื่องธรรมดาที่แม่มดสิ้นหวังจะสติแตกทันทีที่เห็นท่าน… ถึงในช่วงแรกจะดิ้นรนขัดขืนได้เล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ต้องถูกแขวนเป็นหุ่นตากแห้ง… อา โชคดีที่ในตอนนั้นเรายังมีเบาะแสไม่มาก ภาพในการทำนายจึงไม่ชัดเจน… ไม่อยากนั้น หากได้เห็นร่างสัตว์ในตำนานที่สมบูรณ์และเสียสติ เราคงคลุ้มคลั่งและกลายพันธุ์ทันที…เดี๋ยวสิ… ไม่ว่าอันทีโกนัสจะแข็งแกร่งสักเพียงใด แต่จะทรงพลังไปกว่าสุริยันเจิดจรัสกับพระผู้สร้างแท้จริงเลยหรือ? ไม่ใช่แน่นอน… ต่อให้ผู้วิเศษเส้นทางนักทำนายมีพลังของมิติหมอกเกื้อหนุน อย่างมากก็ได้แค่ทัดเทียมพวกท่านทั้งสอง… กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากเราเตรียมตัวล่วงหน้าดีพอและสามารถทนไหว ก็จะมีโอกาสที่จะ ‘แอบส่อง’ สัตว์ในตำนานร่างสมบูรณ์เพื่อให้ได้รับความรู้ที่สอดคล้องกับเส้นทาง…บางที เราอาจได้สูตรโอสถลำดับสูงหนึ่งถึงสองสูตร เหมือนกับตอนที่ได้รับสูตรโอสถ ‘ผู้เจิดจรัส’ มาจากการแอบส่องเทพสุริยันเจิดจรัส…คิดถึงตรงนี้ ไคลน์อดนึกถึงภาพหนึ่งไม่ได้‘เดอะฟูล’ แห่งมิติเหนือสายหมอก กำลังเหยียดแขนออกมาช่วงชิงบางสิ่งอีกครั้งขณะไคลน์กำลังตื่นเต้น ใจหนึ่งก็ผิดหวัง เพราะด้วยระดับพลังและสมบัติวิเศษในปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปใกล้บัลลังก์ซึ่งเต็มไปด้วยหนอนแมลงโปร่งใสเพื่อหยิบไพ่ ‘เดอะฟูล’เมื่อสิ่งที่ปรารถนาที่สุดกำลังวางอยู่ตรงหน้า แต่ไม่มีปัญญาหยิบออกมา ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดฟู่ว… อย่างน้อยเราก็ได้สูตรโอสถจอมเวทพิสดารมาแล้ว… ในอนาคต ยังมีโอกาสมากมายให้ส่องความลับจากร่างสัตว์ในตำนาน… ปฏิบัติการคราวนี้ไม่สูญเสีย เงินทองและหุ่นเชิดที่ต้องเสียไปไม่เปล่าประโยชน์… อา ซาราธไม่น่าจะให้สูตรโอสถปลอมกับเรา ตัวตนระดับนั้นไม่มีความจำเป็นต้องโกหกผู้วิเศษลำดับ 5 ที่แทบไม่มีโอกาสรอดชีวิตกลับออกมา… แถมซาราธยังน่าจะระแวงเรื่องที่เราอาจรู้สูตรโอสถอยู่ก่อนแล้ว แต่ถามไปเพื่อทดสอบความน่าเชื่อถือ… ไคลน์ถอนหายใจผ่อนคลาย เมื่อพบว่าไม่มีความผิดปรกติเกิดขึ้นภายนอก จึงตัดสินใจเดินไปยังประตูวิหาร ชะโงกหน้าสำรวจภายในสำหรับชายหนุ่ม ข้อสงสัยทั้งหมดมิได้สลักสำคัญอีกต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการหนีออกจากโลกปัจจุบัน หนีออกจากหมู่บ้านสายหมอกสุดพิสดารแห่งนี้!ด้านนอกวิหาร ไคลน์ในสภาพสวมหมวกสามมุมและแจ็คเก็ตสีแดงเข้ม เดินมาหยุดหน้าประตูวิหารด้วยความระมัดระวัง ย่างกรายผ่านประตูที่เปิดแง้มศพจำนวนมากที่แต่งกายหลากหลาย ยังอยู่ในสภาพเดิมทุกประการ ถูกแขวนไว้กลางอากาศ โยกเอนไปตามสายลม ปากขยับส่งเสียงเพรียก ‘โฮนาซิส… เฟรเกีย…’ไคลน์เดินผ่านด้านล่างกลุ่มศพ เมื่อสายตาเริ่มปรับสภาพ ฉากต่างๆ ก็ปรากฏในการมองเห็นรูปปั้นครึ่งคนครึ่งหมาป่าอสูรยังคงเด่นตระหง่าน ปราศจากความเสียหาย ด้านหลังมีแผ่นหินออบซิเดียนและโกศดีบุกสีขาวในสภาพสมบูรณ์ไคลน์ถอนหายใจโล่งอก สำรวจบริเวณรอบๆ อย่างใจเย็น จนกระทั่งดวงตาแข็งทื่อในมุมมืดแห่งหนึ่ง ดอกเห็ดขนาดมหึมาสูงกว่ามนุษย์กำลังตั้งเด่นสง่าด้านบนของเห็ดมีสีแดงราวกับเลือดสด ผสมผสานลายจุดสีขาว ส่วนโคนประกอบด้วยเห็ดแบบเดียวกันแต่ขนาดเล็กกว่าจำนวนมากเรียงชิดกัน ลวดลายคล้ายใบหน้าที่งดงามของมิสเตอร์ Aทว่า บริเวณ ‘ดวงตา’ ของมิสเตอร์ A นั้นว่างเปล่า ปราศจากชีวิตชีวาของมนุษย์ สองฝั่งซ้ายขวามีเห็ดที่เรียงตัวกันเป็นแขน โดยแขนซ้ายกำลังสวมถุงมือหนังมนุษย์แผ่นบาง คล้ายกับหลอมรวมเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์นี่มันสัตว์ประหลาดประเภทไหนกัน… ไคลน์ผงะถอยหลังอย่างมิอาจควบคุม พบว่าความรู้ในเชิงศาสตร์เร้นลับของตนยังบกพร่องอยู่มากโดยไม่ได้ปิดเนตรด้ายวิญญาณ ขณะชายหนุ่มพยายามป้องกันตัวเอง มันพบว่าเห็ดประหลาดดอกนี้ปราศจากด้านวิญญาณ คล้ายกับเสียชีวิตไปนานแล้ว ที่ยังขยับตัวได้เพราะเส้นประสาทชักกระตุกทันใดนั้น ไคลน์ผุดข้อสันนิษฐานมิสเตอร์ A ที่กินเห็ดเข้าไป ดันเหลือบไปเห็นกลุ่มหนอนแมลงโปร่งใสก่อนจะหนีออกมา ถือเป็นการจ้องมองร่างสัตว์ในตำนานโดยตรง จิตใจจึงแตกสลายในพริบตา ร่างกายทำงานล้มเหลว ส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ที่เลวร้าย แถมยังผสานเข้ากับ ‘เนื้อปลา’ ในศพ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลที่ถูกเผาอยู่ใกล้ๆ จนเกิดการกลายพันธุ์ทับซ้อน แปรสภาพเป็นสัตว์ประหลาดเห็ดพิสดาร!อา… น่าจะผสานเข้ากับยุบพองหิวโหยด้วยเช่นกัน… ‘เห็ด’ ดอกนี้น่าขยะแขยงชะมัด… ในอนาคต ถ้าแฟรงค์เกริ่นเรื่องการเพาะเห็ดขึ้นมา เราจะจับเขาโยนลงทะเลทันที… ไคลน์ขยับสายตา มองไปทางแผ่นหินออบซิเดียน เตรียมหนีออกไปโดยไม่สนใจ ‘เห็ด’ ประหลาดทันใดนั้น ชายหนุ่มตกอยู่ในภวังค์กะทันหัน สติเริ่มเลือนรางเพียงพริบตา ไคลน์พบว่าตนถูกกระชากเข้าไปในดินแดนความฝัน!หลังจากปลุกตัวเองให้ตื่น ไคลน์เห็น ‘เห็ด’ สูงสองเมตรค่อยๆ ‘เลื่อน’ เข้ามาใกล้ตน ในมืออีกฝ่ายกำลังถือดาบยักษ์ที่ทำจากหินลาวาสีแดงสว่าง ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีฟ้าอ่อนใช้ดาบแมกมาได้ด้วย… โดยไม่ลังเล ไคลน์อ้าปากส่งเสียง“ปัง!”กระสุนอัดอากาศที่มีพลังทะลุทะลวงสูงพุ่งเข้าหา ‘เห็ด’ ซึ่งเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าเนื่องจากพยายามควบคุมความฝัน คมกระสุนตัดผ่านหมวกเห็ด เกิดการฉีกขาดเป็นแผลใหญ่บาดแผลดังกล่าวเต็มไปด้วยเลือดเนื้อของมนุษย์และเส้นใย พวกมันยุบพองตัวสักพัก จนกระทั่งบาดแผลถูกสมานอย่างรวดเร็วแบบนี้ก็ได้หรือ… ทันใดนั้น ลางสังหรณ์ไคลน์แจ้งเตือนอันตราย จึงรีบกลิ้งตัวไปด้านข้างหลายตลบ‘เห็ด’ ปรี่เข้าหาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับฟาด ‘ดาบแมกมา’ ในมือใส่จุดที่ไคลน์เคยยืน ส่งผลให้พื้นกระเบื้องแหลกละเอียด สะเก็ดไฟสาดกระเซ็นทันใดนั้น ไคลน์ดีดนิ้วเพื่อจุดไฟเผาเห็ดเล็กๆ ตามลำตัวสัตว์ประหลาดเห็ดถัดมา ชายหนุ่มรีบวิ่งอ้อมไปด้านหลังรูปปั้น พยายามเข้าใกล้แผ่นดินออบซิเดียนทว่า หัวสมองไคลน์ขาวโพลนกะทันหัน จากนั้นก็พบว่าตัวเองเดินมาผิดทิศมันกำลังเร่งฝีเท้าออกไปทางประตูวิหารเจ้านั่นบิดเบือนเจตนาเรา? หัวใจไคลน์เริ่มเต้นแรง มองเห็นจากมุมสายตาว่าร่างกาย ‘เห็ดยักษ์’ ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง เป็นการใช้พลังเพื่อดับไฟขณะความคิดมากมายแล่นผ่าน ไคลน์วิ่งต่อไปทางประตูพร้อมกับดีดนิ้วจุดไฟเผาใบไม้ด้านนอกวิหารในสถานการณ์ที่ยังไม่เข้าใจศัตรูดีพอ แถมยังไม่มีเวลาเตรียมตัวมากนัก ชายหนุ่มเชื่อว่า ‘นักมายากล’ ที่ดีควรถอยกลับไปตั้งหลักและเหนือสิ่งอื่นใด พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของนักเชิดหุ่นอย่าง ‘ควบคุมด้ายวิญญาณ’ กลับไร้ประโยชน์ในสถานการณ์ตรงหน้า เพราะเห็ดยักษ์ไม่มีด้ายวิญญาณให้ควบคุม!ผ่านไปสักพัก เปลวไฟสีแดงเข้มอาบท่วมร่างไคลน์ประหนึ่งสายน้ำ ก่อนจะอันตรธานหายไปโผล่ด้านนอกและร่อนลงพื้นอย่างนุ่มนวลขณะเตรียมรักษาระยะห่าง ชายหนุ่มได้ยินเสียงสายลมโหยหวน‘เห็ดยักษ์’ หมวกแดงจุดขาว อาศัยสายลมกระโชก ช่วยพัดพาออกจากวิหารด้วยความเร็วสูง!มันบินได้! ไคลน์รีบดีดนิ้ว อาศัยการกระโจนไฟเพื่อรักษาระยะห่างขณะเดียวกัน ชายหนุ่มพบว่าจมูกเริ่มคัน อยากจามออกมาเสียงดังๆแถมยังป่วย… แล้วต้องสู้ยังไง? เราไม่มีสมบัติวิเศษ ไม่สามารถใช้พลังนักเชิดหุ่น… นี่มันเห็ดวิเศษรึไง! ไคลน์ที่ซ่อนตัวในบ้าน หัวเราะไม่ได้ร่ำไห้ไม่ออกทันใดนั้น ร่างกายไคลน์หนาวสั่นกะทันหัน จึงรีบสำรวจร่างกายตัวเองตามความเคยชินหมวกสามมุมใบเก่า แจ็คเก็ตสีแดงเข้ม กางเกงขายาวสีขาว รองเท้าบูตหนังสีดำ ทุกสิ่งล้วนอันตรธานหาย เหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวที่คอยเป็นปราการด่านสุดท้ายหรือว่า… ครบครึ่งชั่วโมงแล้ว เซนอลที่ถูกอัญเชิญจากประวัติศาสตร์จึงหายไป… ไคลน์เข้าใจเหตุผลได้ไม่ยากถ้าอย่างนั้น… บางส่วนของพลเรือเอกโลหิตที่ผสานเข้ากับ ‘เห็ด’ ก็น่าจะหายไปด้วย…และอีกสิบห้านาทีข้างหน้า ‘เนื้อปลา’ ที่เป็นบ่อเกิดความวุ่นวายทั้งหมดก็จะหายตามไป… ขาดแกนหลักของการกลายพันธุ์…ไคลน์ยกมุมปากเล็กน้อยด้วยสีหน้ายินดี ตามด้วยการจุดไฟเพื่อส่งตัวเองออกนอกบ้าน และไม่ผิดจากที่คาด ตามลำตัวของเห็ดยักษ์เต็มไปด้วยโพรงน้อยใหญ่ บาดแผลในจุดดังกล่าวมิอาจซ่อมแซม ส่งผลให้การเคลื่อนไหวเชื่องช้าลงได้เลย… มาเล่นซ่อนหากันสักยก… ไคลน์รำพันเงียบ เริ่มหนีไปรอบๆ ถนนในหมู่บ้าน อาศัยพลังกระโจนไฟเพื่อสร้างระยะห่างกับเห็ดยักษ์ระหว่างนี้ ปรากฏการณ์จันทร์แดงกระจ่างไม่เกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียวผ่านไปนานกว่าสิบนาที เห็ดที่น่ารังเกียจและหวาดกลัวเริ่มสิ้นฤทธิ์ ซวนเซก่อนจะล้มลงบนถนนไคลน์ถอนหายใจโล่งอก ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้อย่างระมัดระวัง เฝ้ามองเลือดเนื้อของ ‘เห็ด’ เกิดการหดตัว จนกระทั่งเหลือเพียงถุงมือหนังมนุษย์บางๆ ข้างเดียวอย่านอกนะว่า… เนื่องจากเป็นการกลายพันธุ์โดยเทวทูตลำดับ 1 ยุบพองหิวโหยจึงผสานกับมิสเตอร์ A อย่างสมบูรณ์? เป็นยุบพองหิวโหยรุ่นพัฒนา? ไคลน์บรรจงโน้มตัวลงไปหยิบถุงมือหนังมนุษย์ด้วยความไม่ประมาท………………………………………………
คอมเม้นต์