ราชันเร้นลับ 817 : แขก
ในฐานะสุภาพบุรุษวางตัวดี ไคลน์ไม่หันไปจ้องภรรยาของอลัน เพียงมองหน้าศัลยแพทย์ชื่อดังและกล่าว“สายัณห์สวัสดิ์ อลัน ผมควรเรียกสุภาพสตรีท่านนี้ว่าอย่างไร?”อลันเดินมายื่นไวน์แดงซึ่งมีบรรจุภัณฑ์สวยงามให้เจ้าภาพด้วยสีหน้าเย็นชาไม่แปรเปลี่ยน ยิ้มอย่างสุภาพและกล่าว“ภรรยาของผม เวลม่า·กลาดีส ครูสอนโรงเรียนมัธยม”“กำลังจะได้เป็นพ่อคนอีกแล้วสินะครับ กำหนดคลอดช่วงไหน?” ไคลน์รับของขวัญจากอีกฝ่ายและถามกลับเดิมที หัวข้อสนทนาที่เตรียมไว้สำหรับอลันจะเกี่ยวกับผลงานตีพิมพ์ทางการแพทย์ในช่วงหลัง คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะพาภรรยาท้องแก่ใกล้คลอดมาร่วมงานเรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้ไคลน์ไม่น้อย เพราะทารกที่กำลังจะเกิดมาจากท้องมาดามเวลม่าไม่ใช่ใคร แต่เป็น ‘อสรพิษปรอท’ วิล·อัสตินอลันชำเลืองครรภ์ภรรยา เผยรอยยิ้มเล็กๆ“ต้นเดือนกรกฎาคม หากไม่ติดขัดอะไร ผมอยากให้คุณมาร่วมงานฉลองวันเกิด”กล่าวจบ สุภาพสตรีเลอโฉมผมดำขลับ บุคลิกอ่อนโยน เลื่อนมือขึ้นมาลูบท้องและพึมพำด้วยสีหน้าเจ็บปวด“เกิดอะไรขึ้น?” อลันโพล่งถาม“เมื่อครู่เขาเตะท้องฉัน แต่ตอนนี้สงบแล้ว” เวลม่ากล่าวด้วยสีหน้าผ่อนคลายหญิงสาวมองหน้าดอน·ดันเตส วาดยิ้มและพูด“นับตั้งแต่ตั้งครรภ์ ดิฉันก็ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำอีกเลย ได้แต่บ้านด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวเล็กๆ นั่นคือเหตุผลที่ดิฉันรบเร้าให้อลันพามางานวันนี้ด้วย แม้ว่าตัวเองจะเต้นไม่ได้ แต่ก็ยังได้พูดคุยกับเหล่าสุภาพสตรี รวมถึงการร่วมวงเล่นไพ่”“การมาเยือนของคุณ ถือเป็นเกียรติแก่งานเลี้ยงของผมมาก” ไคลน์ตอบจากก้นบึ้ง “ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ผมจะเข้าร่วมงานวันเกิดอย่างแน่นอน”ชายหนุ่มไม่แยแสอุบัติเหตุเล็กน้อยเมื่อครู่ ยังคงหนักแน่นในคำเชิญของนายแพทย์อลันหลังจากทักทายกันตามมารยาท ไคลน์ส่งของขวัญในมือให้บุรุษรับใช้ริชาร์ดสัน เดินนำทางแขกทั้งสอง— สามคนเข้าไปในโถงโดยไม่ต้องรอนาน ชายหนุ่มกลับมาต้อนรับแขกอีกหนึ่งคู่ บิชอปอีเล็คตร้าและสตรีที่มาด้วยกัน ฝ่ายชายยังคงสวมเสื้อคลุมนักบวชสีดำทรงโบราณฝ่ายหญิงแก้มยุ้ยเล็กน้อย น่ารักน่าเอ็นดู อายุของเธอราวยี่สิบตอนต้น ยังคงมองโลกสวยงามและมีชีวิตชีวา แต่เนื่องจากเคยมีบุตรแล้ว บุคลิกจึงดูค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่“สายัณห์สวัสดิ์ บิชอป พักหลังมานี้ผมหลับสบายมาก” ไคลน์แสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าได้รับความช่วยเหลือลับๆ จากโบสถ์รัตติกาลบิชอปอีเล็คตร้าทำสัญลักษณ์สี่จุดบนหน้าอก“คงเป็นพรจากท่านเทพธิดา”จากนั้น มันแนะนำตัวสุภาพสตรีที่มาด้วยกัน“ภรรยาของผม ชอว์น่า·จอห์นสัน”เนื่องจากอีเล็คตร้าสนิทสนมกับดอน·ดันเตส และเคยแวะมาหาที่คฤหาสน์บ่อยครั้ง จึงไม่จำเป็นต้องมอบของขวัญ เพราะนั่นจะถือว่าเป็นทางการเกินไป ดูห่างเหินเกินไป“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณสาวกว่าที่ผมคิดไว้มาก” ไคลน์หันไปพยักหน้าให้ชอว์น่า กึ่งชมเชยกึ่งติดตลกขณะเดียวกัน มันคำนวณในใจเราได้ยินว่าบิชอปแต่งงานเมื่อสองปีก่อน กล่าวอีกนัยหนึ่ง… ตอนนั้นภรรยาของเขาเพิ่งสิบแปดสิบเก้า… ห่างกันพอสมควร… เกรงว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราคงต้องแนะนำนักปรุงยาร่างท้วมคนนั้นให้บิชอป…เมื่อได้ยินมุกตลกของดอน·ดันเตส อีเล็คตร้าหวนนึกถึงบทสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งเคยมาเยี่ยมไข้ ภายในใจเริ่มกระอักกระอ่วน จึงกระแอมแห้งหนึ่งหนและตอบแทนในส่วนของภรรยา“เธอยังรักสนุกอยู่ หากมีโอกาสจะไม่พลาดงานเลี้ยงเต้นรำ”ไคลน์ไม่สานต่อบทสนทนา เนื่องจากเห็นมาดามแมรีกำลังลงจากรถม้าและเดินตรงมาหลังจากส่งบิชอปอีเล็คตร้าและภรรยาเข้าไปในห้องโถง ไคลน์ยิ้มและทักทายแมรี่“มาดาม หวังว่าพวกเราจะได้ทำงานด้วยกันในสัปดาห์หน้า”นักกฎหมายและทีมทนายที่จ้างมา ส่งรายงานสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว บริษัทโคอิมไม่มีปัญหา เหมาะสมอย่างมากที่จะลงทุนด้วย และไคลน์ก็บรรลุข้อตกลงกับผู้ขายแล้ว หุ้นสามเปอร์เซ็นต์จะมีมูลค่ารวม 12,800 ปอนด์ เหลือแค่รอการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายสัปดาห์หน้าได้ยินเช่นนั้น แมรี่หัวเราะในลำคอ“สำหรับตอนนี้ ดิฉันก็คิดว่าพวกเราเป็นหุ้นส่วนกันแล้ว”ฟังดูเหมือนมีนัยมากกว่านั้น… อย่าบอกนะว่าเธอกำลังแอบสนใจดอน·ดันเตส? หัวใจไคลน์เริ่มเต้นแรง แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายแฝง เหยียดแขนออกไปหาและกล่าว“ยินดีที่ได้ร่วมงานกัน”หลังจากจับมือเบาๆ ตามมารยาท ชายหนุ่มบอกให้พ่อบ้านวอลเตอร์เดินนำสตรีเข้าไปในห้องโถงถึงตรงนี้ แขกเริ่มทยอยเข้ามามากขึ้น ไคลน์ทบทวนหัวข้อสนทนาที่สอดคล้องกับแต่ละคน ทักทายอย่างเป็นกันเองและอบอุ่น ได้รับของขวัญมากมายหากไม่ใช้เพราะ ‘ผู้ไร้หน้า’ สามารถจดจำใบหน้าของอีกฝ่ายได้แม่นยำ เราคงบอกไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ยากจะนึกถึงหัวข้อสนทนาที่เกี่ยวข้อง… เข้าใจแล้วว่าทำไม ในเวลาแบบนี้ การมีพ่อบ้านถึงเป็นสิ่งสำคัญ… ไคลน์ถอนหายใจด้วยอารมณ์ซับซ้อน ก่อนจะหันไปเห็นครอบครัวของส.ส. มัคท์เดินตรงมาชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง เดินไปทักทาย“สายัณห์สวัสดิ์ วันนี้ดาวบนฟ้าสวยจังเลยนะครับ”ส.ส. มัคท์ยิ้มพลางยื่นขวด ‘แรนดี้ดำ’ ที่บ่มจากคฤหาสน์แห่งหนึ่ง“ผมอาศัยอยู่ในเบ็คลันด์มาเกือบยี่สิบปี จำนวนวันที่เห็นดวงดาว รวมกันยังไม่เท่าปีนี้ปีเดียว”“หวังว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” ไคลน์หันไปมองมาดามลีอานน่า “ผมได้ยินว่าคุณกำลังมองหาโรงเรียนประจำให้มิสเฮเซล?”ลีอานน่าชำเลืองไปทางบุตรสาวสีหน้าเย็นชาและบุคลิกหยิ่งทระนงด้านข้าง มอบคำตอบอย่างสุภาพ“ตอนนี้โรงเรียนประจำกำลังได้รับความนิยม ไม่เว้นแม้แต่โรงเรียนหญิงล้วน และเหนือสิ่งอื่นใด เฮเซลจะได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจ คล้ายกับไม่อยากจากพวกเราไปไหน”ในกรุงเบ็คลันด์ โรงเรียนประจำหญิงล้วนของชนชั้นสูงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีคุณภาพไม่เท่าการเรียนที่บ้าน แต่ก็จะได้สายสัมพันธ์ทางสังคมโรงเรียนประจำในทำนองนี้ ลำพังค่าเทอมต่อปีจะไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปอนด์สิ่งที่เฮเซลไม่อยากแยกจาก น่าจะเป็นท่อระบายน้ำมากกว่า… ไคลน์จิกกัด ทักทายพอเป็นพิธี จากนั้นก็เดินนำครอบครัวมัคท์เข้าไปในห้องโถงรอจนกระทั่งใกล้ถึงเวลา ชายหนุ่มเลิกยืนรอหน้าประตู เดินขึ้นไปยังชั้นสอง หยุดยืนหน้าราวบันไดฝั่งตรงข้ามประตูทางเข้า ส่งสัญญาณบอกให้วงดนตรีหยุดบรรเลงชั่วคราวด้วยแก้วแชมเปญในมือ ไคลน์กวาดสายตาไปรอบๆ เมื่อเห็นแขกส่วนใหญ่มองกลับมา มันกล่าวเสียงดัง“ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนตอบรับคำเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำในคืนนี้ อันดับแรก ขอขอบคุณองค์เทพธิดา และอันดับถัดมา ขอขอบคุณทุกคนจากใจจริง… อาหารและดนตรีในค่ำคืนนี้จะอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายของอ่าวเดซีย์ หวังว่าทุกคนจะชอบ…”จบการกล่าวเปิดงานอย่างเรียบง่าย ไคลน์เดินลงมายังฟลอร์เต้นรำชั้นหนึ่ง เตรียมชักชวนสตรีเต้นรำเป็นคู่เปิดเดิมที ในการเต้นคู่เปิด เจ้าภาพจะต้องชักชวนคู่สมรสของตน หากยังโสดจะเลือกจากญาติต่างเพศ หรือไม่ก็คนที่กำลังสนใจ ถือเป็นการทำความรู้จักเบื้องต้น แต่ดอน·ดันเตสไม่มีญาติที่นี่ และไม่มีสตรีที่กำลังหมายตา สถานการณ์จึงค่อนข้างกระอักกระอ่วนอย่างไรก็ตาม ไคลน์มีพ่อบ้านมือฉมังอยู่ข้างกาย วอลเตอร์ได้นัดแนะกับสตรีคนดังในสังคมไว้ล่วงหน้า การเต้นรำกับเธอจะช่วยให้ไม่เกิดข่าวลือเสียๆ หายๆ ตามมาไคลน์จึงสามารถมองหน้าสุภาพสตรีนามว่าฮอลลี่ได้โดยไม่ต้องลำบากใจ ย่างกรายไปหาอีกฝ่ายอย่างมั่นคงสุภาพสตรีรายนี้เป็นแม่หม้าย มีความสัมพันธ์อันดีกับชนชั้นสูงหลายฝ่ายในเบ็คลันด์ ฮอลลี่ชื่อชอบวิถีชีวิตในปัจจุบันและไม่อยากเปลี่ยนแปลง แต่บรรดาสตรีสูงศักดิ์หลายคนไม่ชอบหน้าเธอเหนือสิ่งอื่นใด ฮอลลี่เป็นสุภาพสตรีที่มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะรูปร่างที่สมส่วนและโค้งเว้าจนเกือบสมบูรณ์แบบ หากไม่เพราะหน้าตาดีกว่ามาตรฐานเพียงเล็กน้อย ไคลน์คงสงสัยว่ามาดามฮอลลี่เป็นแม่มด“มาดาม รบกวนเป็นคู่เต้นให้ผมได้ไหมครับ” ไคลน์ทำตามคำนำแนะของครูสอนมารยาทวาฮาน่า กิริยาท่าทางเป็นไปอย่างสง่าผ่าเผยฮอลลี่เจ้าของเส้นผมสีทอง เผยรอยยิ้มสงวนกิริยา ยื่นแขนออกมาพร้อมกับกล่าว“คำเชิญจากสุภาพบุรุษอย่างคุณ คงไม่สตรีใดปฏิเสธลง”รุกหนักมาก… นั่นสินะ ด้วยฐานะทางสังคมของเธอ มาดามฮอลลี่สามารถทำตัวเปิดเผยได้มากกว่าสุภาพสตรีส่วนใหญ่… ไคลน์ยื่นแขนออกไปจับมืออีกฝ่ายและจูงมายังกลางฟลอร์ ตามด้วยการเต้นรำภายใต้ดนตรีกลิ่นอายชนบทขุนนางส่วนมากมักมีที่ดิน มีปราสาท และมีคฤหาสน์ในแถบชนบท แถมยังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นปีละหลายเดือน ส่งผลให้ท่วงทำนองของเพลงชนบทได้รับความนิยม“คุณเต้นเก่งมาก หากไม่ใช่เพราะวาฮาน่าเล่าให้ฟัง ดิฉันคงไม่รู้ว่าคุณไม่เคยเต้นรำมาก่อน” ฮอลลี่จงใจโน้มตัวเข้ามาใกล้ ผนวกกับจังหวะการก้าวเท้าในปัจจุบัน ต่างฝ่ายต่างได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันเนื่องจากอีกฝ่ายยังเป็นคนแปลกหน้า ไคลน์ค่อนข้างอึดอัดกับระยะห่าง แต่ก็มิได้ผลักไสเธอต่อหน้าทุกคน เพียงส่งยิ้มให้“ผมแค่ไม่รู้จักวิธีเต้นของที่นี่… ถนัดการเต้นรำแบบเดซีย์หรือทวีปใต้มากกว่า”“ดิฉันเองก็ชอบการเต้นรำของพวกเขา ทั้งทรงพลังและเต็มไปด้วยอารมณ์ เป็นการเต้นรำเพื่อตัวเอง มิใช่เพื่อใคร” ฮอลลี่ตอบโต้บทสนทนาพลางหมุนตัวจนขยับเข้าใกล้ดอน·ดันเตสเป็นอย่างมากขณะใกล้จบการเต้นคู่เปิด หญิงสาวลดเสียงลง“หากไม่เคยได้ยินข่าวลือของคุณมาก่อน ดิฉันคงคิดว่าคุณไม่ชอบผู้หญิง เพราะบุคลิกค่อนข้างเย็นชา… แต่ตอนนี้หายข้องใจแล้ว”กล่าวจบ เธอลดสายตาลงมองต่ำอันที่จริง ไคลน์กำลังอึดอัดไม่น้อย อีกฝ่ายชำนาญการบริหารเสน่ห์และภาษากายเพื่อสร้างบรรยากาศสองแง่สองง่าม แต่ดอน·ดันเตสเป็นสุภาพบุรุษมากประสบการณ์ จากภายนอก มันจึงยอมแพ้ไม่ได้ชายหนุ่มยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ“ผมทำตัวเย็นชาเพราะยังไม่คุ้นชินกับสังคมในกรุงเบ็คลันด์”“ดิฉันยินดีสอน” ฮอลลี่หัวเราะในลำคอจนกระทั่งเพลงจบ หญิงสาวก้าวถอยหลัง กะพริบตาและส่งยิ้ม“การได้เต้นกับคุณทำให้ดิฉันใจสั่น”เธอพูดจาสองแง่สองง่ามอีกครั้ง ไคลน์เกือบหน้าแดงด้วยความเขินอาย เริ่มสงสัยอย่างจริงจังว่าอีกฝ่ายอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่มดชายหนุ่มยังคงสุขุมบนเปลือกนอก โค้งศีรษะคำนับและพาอีกฝ่ายไปส่งในตำแหน่งเดิม ขณะเดียวกัน มุมสายตาบังเอิญชำเลืองไปเห็นว่า มาดามเวลม่า·กลาดีสกำลังพา ‘อสรพิษปรอท’ เดินตรงไปยังโต๊ะยาว เป้าหมายดูเหมือนจะเป็นไอศกรีม………………………………………..
คอมเม้นต์