ราชันเร้นลับ 804 : ทีมนักโบราณคดี
ขณะถอนหายใจ เฉกเช่นคนปรกติ ไคลน์ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามธรรมชาติ เพลิดเพลินไปกับความสงบและสะดวกสบายที่หาได้ยากภายในความฝันราวสิบห้านาทีถัดมา ในที่สุดผู้วิเศษของโบสถ์ก็กลับไปได้นอนอย่างสงบสักที… ไคลน์คิดจะลืมตาขึ้นตามปรกติเพื่อกลับไปหลับบนโลกความจริง แต่ทันใดนั้นก็ฉุกคิดได้ว่า ตนไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวล จึงอาศัยภาวะผ่อนคลายภายในความฝันเพื่อหลับไปตามธรรมชาติคุณภาพการนอนตลอดทั้งคืนเข้าขั้นดีเยี่ยม ไคลน์หลับยาวจนกระทั่งรุ่งสาง ด้านนอกมีแสงอาทิตย์ส่องเข้า แต่ดวงจันทร์สีแดงก็ยังไม่เลือนลับโดยสมบูรณ์ ผสมผสานกับสายลมพัดเอื่อยตลอดเวลาชายหนุ่มนอนแช่บนเตียงนานกว่าสิบนาที ก่อนจะหยิบนาฬิกาพกสีทองบนโต๊ะข้างเตียงมาตรวจสอบเวลายังไม่หกโมงครึ่ง… เราควรพลิกตัวและนอนต่อ หรือสมควรตื่นได้แล้ว? ไคลน์สำรวจสภาพร่างกาย พบว่าจิตใจกำลังปลอดโปร่งและเต็มไปด้วยพลังงาน ปราศจากความเมื่อยล้า ชายหนุ่มจึงตัดสินใจลุกจากเตียงเพื่อไปล้างหน้า ตรงไปทางระเบียงและมองไปยังเส้นขอบฟ้าสีส้มอมแดงกรุงเบ็คลันด์ในฤดูกาลนี้มีลมแรง หมอกควันจึงไม่หนาแน่นมากนัก นอกจากนั้นยังมีมาตรการควบคุมมลพิษอย่างเข้มงวดในช่วงหลัง ท้องฟ้าจึงมีสีครามสดใสอยู่บ่อยครั้ง เมื่อมองลงไป คนสวนกำลังยุ่งอยู่กับงานในสวน สาวใช้และเด็กลูกมือกำลังเดินไปจ่ายตลาด หากไม่นับสิ่งเหล่านี้ สภาพแวดล้อมเต็มจะไปด้วยความงามของธรรมชาติ ช่วยมอบความร่าเริงแจ่มใสให้ไคลน์ ช่วยทำให้หลงลืมปัญหาของตัวเองไปชั่วขณะ รู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังเป็นของตนคนเดียวด้วยรอยยิ้มเจือจาง ไคลน์ยืนดื่มด่ำฉากตรงหน้าอย่างเงียบงัน จนกระทั่งผ่านไปสิบห้านาที คนรับใช้ของบ้านในละแวกใกล้เคียงเริ่มจับกลุ่มสองถึงสามคนเดินออกมา บ้างหิวตะกร้า บ้างจูงม้า ช่วยมอบชีวิตชีวาให้กับบล็อกถนนในแถบนี้ ยิ่งเวลาผ่านไป ดวงอาทิตย์ก็ยิ่งส่องแสงสว่างนี่คือวิถีชีวิตที่ควรจะเป็น… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ นึกครึ้มอยากออกไปเดินเล่น จึงหันหลังกลับและเดินออกจากระเบียง ตรงไปที่ประตูและบิดลูกบิดด้านนอกห้องนอนใหญ่ ริชาร์ดสันกำลังยืนรออยู่ เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าชายคนนี้ตื่นกี่โมงหนึ่งสิ่งที่ยากที่สุดในการเป็นบุรุษรับใช้ก็คือ ต้องนอนทีหลังและตื่นก่อนเจ้านาย“อาหารเช้าจะเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งชั่วโมง… ถ้านายท่านต้องการให้เริ่มก่อน ครัวจะพร้อมในอีกสิบห้านาที” ริชาร์ดสันไม่ได้ถามว่าทำไมดอน·ดันเตสถึงตื่นเช้านักไคลน์หัวเราะในลำคอ“ไม่ต้องรีบ ผมแค่จะออกไปเดินเล่น”“ครับ นายท่าน” ริชาร์ดสันเดินเข้ามาในห้องนอน อาศัยข้อมูลที่นายจ้างบอก เลือกเสื้อโค้ทมาสวมให้ถัดมา ไคลน์สวมหมวกผ้าไหมและถือไม้ค้ำเลี่ยมทอง เดินลงไปยังชั้นหนึ่งและออกจากประตูบ้าน เดินผ่านต้นเมเปิลอินทิสและโคมไฟสีดำริมถนน ย่างกรายอย่างไม่รีบร้อนไปยังสุดสายของถนนตลอดทางจะมีกลิ่นหอมจางๆ จากสวนของเพื่อนบ้านแต่ละหลัง ใบไม้สีเขียวมอบความเงียบสงบจากมุมสูง คนเดินเท้าผ่านไปผ่านมาประปราย รถม้าแล่นผ่านบางครั้งบางคราว ทำลายความเงียบงันและจากไปในเวลาไม่นานไคลน์ที่มีความสุขกับสภาพแวดล้อมยามเช้า พบว่าเศษเสี้ยวอารมณ์ด้านลบเมื่อวานค่อยๆ ละลายหายไปทีละนิดนั่นสินะ… ผู้วิเศษควรสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับตัวเองเพื่อควบคุมอารมณ์… การที่เราเดินเล่นบนถนนแถบนี้ บิชอปของวิหารนักบุญแซมมวลคงทราบแล้วว่า ดอน·ดันเตสฟื้นตัวจากอาการจิตตกแล้ว… คงไม่มารบกวนกลางดึกอีก… ชายหนุ่มรำพันพลางมองไปยังบ้านเลขที่ 39 ถนนเบิร์คลุนบ้านของส.ส. มัคท์รั้วด้านนอกสุดทำจากซี่เหล็กแหลม ผู้คนที่ผ่านไปมาสามารถชื่นชมวิวทิวทัศน์ของสวนหน้าบ้านได้จากช่องว่างรั้วขณะกวาดตามอง ไคลน์พบบุคคลที่คุ้นเคย ไม่ใช่ใครนอกจากเฮเซล เจ้าของเส้นผมสีเขียวเข้มและดวงตาสีน้ำตาลเข้ม สตรีโอหังรายนี้อยู่กับสาวใช้ กำลังเดินไปตามทางของสวนและกวาดตามองรอบตัวเป็นครั้งคราวเธอก็ตื่นเช้าเหมือนกัน? หืม… หรือว่าหลังจากลงท่อระบายน้ำกลางดึกไม่ได้ คุณภาพการนอนก็เลยดีขึ้น? ไคลน์หัวเราะในใจ ถอนสายตากลับและเดินตรงไประหว่างทาง ขณะหันกลับไปมองริชาร์ดสันที่เดินตามหลังอย่างใจเย็น ไคลน์พลันนึกถึงสิ่งที่ตนเพิ่งอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และเรื่องราวเกี่ยวกับทวีปใต้แต่ไหนแต่ไร ชายหนุ่มจะนำตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับทวีปใต้อย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้การสร้างตัวตนของดอน·ดันเตสแนบเนียนที่สุด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับทวีปใต้เกือบทั้งหมดมาจากแอนเดอร์สัน โจรสลัดนักผจญภัย และนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลหมอก ไม่มีสิ่งใดยืนยันได้ว่า ชายคนนั้นจะไม่โอ้อวดเกินความจริงข้อมูลที่เราเคยอ่านในหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ส่วนมากจะกล่าวถึงคนที่แสวงหาโอกาสและประสบความสำเร็จในทวีปใต้ บางคนกลับมาอาศัยในเบ็คลันด์ แต่บางคนก็เลือกจะอยู่ต่อ… อา… ข้อมูลเหล่านี้คงทำให้ชาวเบ็คลันด์จำนวนไม่น้อยคิดว่าทวีปใต้เต็มไปด้วยทองคำ เต็มไปด้วยโอกาสกอบโกยความมั่งคั่ง เพราะแม้แต่ต้นไม้ที่มีอยู่ดาษดื่น ยางของมันก็ยังมีประโยชน์หลากหลายและขายได้ราคาสูง… คงเป็นเหตุผลที่อาณาจักรมักทำสงครามกับฟุซัค อินทิส และอาณาจักรอื่นๆ เพื่อแย่งชิงอาณานิคม… หากไม่ใช่เพราะชาวเมืองส่วนใหญ่ไม่มีเงินเก็บ และบางคนไม่กล้าลอบขึ้นเรือ คงมีชาวโลเอ็นจำนวนไม่น้อยหลั่งไหลไปยังทวีปใต้… หลังจากคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไคลน์ซักถามคนรับใช้อย่างเป็นกันเอง“คุณคิดว่าทวีปใต้เป็นยังไง”มันยังจำได้ว่า ริชาร์ดสันเกิดในคฤหาสน์ของทวีปใต้ และถูกพามายังเบ็คลันด์ในตอนโตริชาร์ดสันเงียบงันสักพัก“นายท่าน ผมไม่รู้จักทวีปใต้มากนัก ส่วนมากมักจะอยู่แต่ในคฤหาสน์ แทบไม่มีโอกาสได้ออกไปไหน”“ลองบอกความรู้สึกมาก็พอ… สิ่งแรกที่คิดในหัวหลังจากสลัดความรู้สึกรบกวนออกไปทั้งหมด ผมแค่อยากเห็นภาพกว้างๆ … ใครหลายคนคิดว่าผมเป็นผู้เชี่ยวชาญทวีปใต้ แต่ความจริงแล้วยังห่างไกลนัก เคยไปแค่ไม่กี่แห่งในฐานะพ่อค้า” ไคลน์หัวเราะกับตัวเองขณะเดิน ริชาร์ดสันก้มหน้าจนเห็นนิ้วเท้า“ความประทับใจแรกของผมก็คือ… ความหิว เหนื่อย เจ็บปวด และการโหยหาโลกหลังความตาย”หิว เหนื่อย และเจ็บปวด… ไคลน์ทวนสามคำซ้ำในใจ ค่อยๆ ก้าวไปบนถนนเบิร์คลุนโดยไม่ถามอะไรเพิ่ม…แคว้นเชสเตอร์ตะวันออก ภายในอาคารติดกับมหาวิทยาลัยสโตนออเดรย์กำลังเยี่ยมชมตู้จัดแสดงที่กองทุนขุดค้นและเก็บรักษาวัตถุโบราณรวบรวมมาได้เดิมที เธอวางแผนจะมาในช่วงบ่ายวังอังคาร แต่รองศาสตราจารย์มิตเชล·ดิตเตอร์ติดประชุมวิชาการในกรุงเบ็คลันด์ ว่างแค่วันนี้ เธอจึงต้องปรับเปลี่ยนตารางเวลา“รองเท้าบูตเหล่านี้ถูกพบในซากปรักหักพังบนภูเขาใกล้กับเมืองสโตน ผู้ค้นพบคือชาวนา รูปทรงคล้ายคลึงกับรองเท้าที่ได้รับความนิยมในยุคสมัยที่สี่” มิตเชลแนะนำของในตู้จัดแสดงให้กับสตรีเลอโฉมผู้สูงศักดิ์ออเดรย์มองด้วยความสนใจ พบว่าปลายรองเท้าบูตโค้งขึ้นชัดเจน คล้ายกับเป็นรองเท้าของตัวตลกแต่ความสูงในจุดที่โค้งขึ้นนั้นไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งสามเซนติเมตร อีกข้างห้าเซนติเมตร คล้ายกับไม่ใช่คู่กันสไตล์ไม่สมมาตรของยุคสมัยที่สี่… ซ้ายสามขวาห้า… เราไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร… ออเดรย์ถอนสายตากลับและเดินตามรองศาสตราจารย์มิตเชลไปยังตู้จัดแสดงถัดไปจนกระทั่งมาถึงตู้สุดท้าย มิตเชลชี้เข้าไปในแผ่นกระจก“ตราประจำตระกูลแผนนี้เพิ่งถูกส่งมาถึงเมื่อไม่กี่วันก่อน เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมบูชามหามังกรที่เก่าแก่มาก”มหามังกร… ออเดรย์ก้าวเท้าเพื่อขยับเข้าใกล้ พบภาพมังกรสีเทาอมขาวกำลังสยายปีกถูกสลักลงบนแผ่นตรา“มาจากไหน?” ออเดรย์ถามเหมือนกับทุกครั้งมิตเชลตอบ“หมู่บ้านที่ชื่อฮาร์ตลาร์ค อักษรโลเอ็นเหล่านี้ไม่มีในภาษาฟุซัคโบราณ จึงอ่านไปตามที่เขียน”ฮาร์ตลาร์ค… เป็นชื่อของหมู่บ้านบูชามังกรที่เราเคยไปสำรวจ มีมังกรจิตอาศัยอยู่ในทะเลจิตใต้สำนึกรวม… บันทึกสงครามยี่สิบปีที่ได้จากรองศาสตร์มิตเชลก็เป็นของอัศวินที่ชื่อ ‘ลินเดลิร่า’ ซึ่งเป็นคนของหมู่บ้านนี้เช่นกัน ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับมังกรจิตไม่ทางใดทางหนึ่ง… ออเดรย์พยักหน้าใคร่ครวญพลางเรียบเรียงคำพูด ในใจอยากถามว่าใครเป็นคนพบตราประจำตระกูลทันใดนั้น สีหน้าของรองศาสตราจารย์มิตเชลพลันดำมืด“การค้นพบตราแผ่นนี้มาพร้อมกับโศกนาฏกรรม”“โศกนาฏกรรม?” ออเดรย์ไม่เก็บซ่อนความประหลาดใจรองศาสตราจารย์มิตเชลหายใจออก“ทีมนักโบราณคดีที่เข้าไปในหมู่บ้านเพื่อศึกษาธรรมเนียมบูชามังกร เกิดเสียสติในตอนกลางคืน และดูเหมือนว่าอาการดังกล่าวจะเป็นโรคติดต่อ ทีมนักโบราณคดีทุกคนเสียสติในเวลาถัดมาและเริ่มเข่นฆ่ากันเอง หรือไม่ก็ทำร้ายตัวเอง ไม่มีใครรอดชีวิต… ตราแผ่นนี้ถูกพบในศพของพวกเขา ทางตำรวจได้นำไปตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว เมื่อยืนยันว่าไม่มีปัญหาจึงส่งมาให้เรา”ทีมนักโบราณคดีที่เข้าไปในหมู่บ้าน กลายเป็นบ้าทีละคนสองคน… ดวงตาออเดรย์เบิกกว้างเล็กๆ ขณะทบทวนคำพูดของรองศาสตราจารย์มิตเชลทันใดนั้น สัมผัสวิญญาณของเธอถูกกระตุ้นพร้อมกับผุดแนวคิดหนึ่งสมาคมแปรจิต!สมาชิกของทีมนักโบราณคดีคือคนของสมาคมแปรจิต!………………………………………………..
คอมเม้นต์