ราชันเร้นลับ 803 : เปลี่ยนสมญานาม
จากบรรดาผีดูดเลือดทั้งหมด ถึงเอ็มลินจะมิได้ประหลาดที่สุด แต่ก็ต้องติดอยู่ในสิบอันดับแรกแน่นอนในฐานะผีดูดเลือดที่มีอายุยืนยาวตั้งแต่เกิด ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีงานอดิเรกสักอย่างสองอย่างเพื่อฆ่าเวลา เอ็มลินไม่ใช่คนเดียวที่ชอบตุ๊กตา แต่ปัญหาคือ หากไม่นับการออกมาซื้อตุ๊กตาตัวใหม่พร้อมเสื้อผ้า หรือการออกมาหาเลือดสดดื่ม เอ็มลินแทบไม่เคยออกไปไหน ไม่ชอบสุงสิงกับพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์ เว้นเสียแต่จะต้องการเลือดสดใหม่ หรือไม่ก็อยากได้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ หรือไม่ก็ต้องการซื้อวัตถุดิบสักชนิด ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งเหล่านี้ เอ็มลินจะไม่เข้าร่วมชุมนุมใดๆ ของพี่น้องเลยวิถีชีวิตเช่นนี้มีแต่จะทำให้แก่ตัวไปอย่างเปล่าประโยชน์ เหมือนกับผีดูดเลือดอาวุโสบางตนที่ต้องนอนอยู่ในโลงพิเศษเพื่อประทังชีวิต เอ็มลินที่ไม่มีสิ่งใดเหมือนผีดูดเลือดโตเต็มวัยเลย จึงกลายเป็นประเด็นสนทนาในแวดวงผีดูดเลือดไปโดยปริยายเมื่อหลายปีก่อน ทุกคนอาจพูดถึงเอ็มลินเป็นครั้งคราว ติดตลกเล็กน้อย คล้ายกับการเล่าถึงพฤติกรรมประหลาดๆ ของมนุษย์ในกรุงเบ็คลันด์ จนกระทั่งมีข่าวลือว่า เอ็มลินหลงเข้าไปในวิหารฤดูเก็บเกี่ยวและถูกนักบวชของพระแม่ธรณีจับกุมตัว ภาพพจน์ของมันเริ่มกลายเป็นตัวตลกในสายตาพี่น้องทันที ถึงขั้นถูกเรียกว่าเป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล ยากจะกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมาแต่ผีดูดเลือดที่ไม่เอาไหนตนนั้นกลับล่าสาวกดวงจันทร์บรรพกาลได้สามคนรวด!ทั้งหมดนั่นคือแวมไพร์เทียม!หมอนั่นขอความช่วยเหลือจากนักบวชพระแม่ธรณี? หรือว่าจ้างนักล่าค่าหัวที่เก่งกาจ? ความคิดมากมายแล่นผ่านสมองของเหล่าผีดูดเลือด พยายามคาดเดาว่าเอ็มลินใช้วิธีใดเอาชนะเกมนี้ในเวลาเดียวกัน คาซีมีกระแอมแห้ง“เอ็มลินได้ครอบครองมรดกพลังพิเศษและกลายเป็นบารอนแล้ว”บารอน… เมื่อเหล่าพี่น้องจ้องมาทางเอ็มลิน คราวนี้สีหน้าปราศจากความงุนงงและสงสัย แต่แววตากำลังเปี่ยมด้วยความประหลาดใจและตกตะลึงเสียเต็มประดาเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เอ็มลินถูกเครือญาติมองด้วยสายตาแบบนี้ ร่างกายพลันเบาหวิวและซาบซ่านอย่างเหนือคำบรรยาย ความพึงพอใจเอ่อล้นไปทั่วร่างจนมันอยากจะเชิดคางขึ้นและพูดว่า ‘พวกเจ้าต้องเรียกข้าว่าท่านลอร์ดบารอน’เป็นความพึงพอใจระดับเดียวกับ การได้ซื้อตุ๊กตาตัวที่ต้องการหลังจากเก็บเงินเป็นเวลานาน… เอ็มลินรำพันเงียบ กลืนความคิดลงคอ จากนั้นก็เดินไปหาคาซีมีพลางติดกระดุมเสื้อรอจนกระทั่งเหล่าผีดูดเลือดได้สติคืนมาและจ้องหน้าสองบารอนด้วยอารมณ์ซับซ้อน คาซีมีถือโอกาสกล่าว“ผู้ชนะการแข่งล่าในครั้งนี้จะได้สิทธิ์ต่อคิวในรายชื่อเลื่อนลำดับเป็นไวเคาต์ แถมยังจะได้รับความช่วยเหลือในพิธีเลื่อนลำดับโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย… นอกจากนั้น เขายังจะได้รับแหวนวงที่ทานบรรพบุรุษเป็นผู้สร้างกับมือ”ขณะกล่าว คาซีมีหยิบกล่องเครื่องประดับสีเงินลวดลายซับซ้อนออกจากกระเป๋าเสื้อ กดปุ่มกลไก เปิดฝาและเผยวัตถุภายในให้ทุกคนเห็นเนื้อแหวนโปร่งแสง คล้ายกับแหวนที่สร้างจากอำพันสีแดงอ่อน ด้านบนฝังอัญมณีสีเลือด ขนาดเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของเล็บมือ กำลังเปล่งแสงเจือจาง“ชื่อของมันคือแหวนลิลิธ จะทำให้ผู้สวมใส่มีเสน่ห์มากขึ้น และอยู่ในสภาพสมบูรณ์สุดขีดเมื่อเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์เต็มดวง” คาซีมีแนะนำเบื้องต้น “นอกจากนั้น แหวนยังมีพลังทำให้จุดใดจุดหนึ่งมีสภาพคล้ายกับพระจันทร์เต็มดวง เพิ่มประสิทธิภาพอย่างมากให้กับพลังพิเศษที่เกี่ยวข้อง แถมยังสามารถสร้างประตูมายาที่เชื่อมต่อกับส่วนลึกของโลกวิญญาณได้ด้วย”คาซีมีเว้นวรรค ก่อนจะเสริม“ประตูบานดังกล่าวมีชื่อว่า ‘ประตูอัญเชิญ’ จะทำให้สิ่งมีชีวิตในส่วนลึกของโลกวิญญาณออกมาสู่โลกความจริง แต่สามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียว และต้องรออีกสักพักจึงจะใช้พลังได้ใหม่… หากสัตว์วิญญาณตัวใดย่างกรายผ่านประตูบานนี้ นั่นจะเท่ากับการทำพันธสัญญากับผู้สวมใส่เป็นระยะเวลาหนึ่ง ตามข้อมูลคือห้านาที ถ้าต้องการใช้งานนานกว่านั้น ผู้สวมต้องสื่อสารกับสัตว์วิญญาณและเขียนพันธสัญญาฉบับใหม่ด้วยตัวเอง… ภายใต้สถานการณ์ปรกติ สัตว์วิญญาณที่อัญเชิญออกมาจะแข็งแกร่งเทียบเท่าหรือมากกว่าผู้สวมเล็กน้อย แต่ก็มีโอกาสที่จะอ่อนแอกว่ามาก และแข็งแกร่งมากเช่นกัน… เคยมีไวเคาต์ตนหนึ่งใช้แหวนวงนี้เรียกสัตว์วิญญาณระดับครึ่งเทพออกมา… แต่ยิ่งสัตว์วิญญาณทรงพลังเพียงใด มันก็ยิ่งฝ่าฝืนพันธสัญญาของ ‘ประตูอัญเชิญ’ ได้ง่าย และทำให้ผู้สวมแหวนตกอยู่ในอันตราย หากเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว คำแนะนำก็คือ รีบยุติการอัญเชิญทันที… ผลข้างเคียงขณะสวมใส่คือการป่วยเป็น ‘โรคกระหายเลือด’ จำต้องดื่มเลือดมนุษย์จากขวดสำรองทุกๆ หนึ่งชั่วโมงเพื่อบรรเทาอาการ ไม่อย่างนั้นเลือดจะเดือดพล่านและระเหย ภายในสิบห้านาที บารอนผีดูดเลือดจะจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ”อันที่จริงมันก็ไม่ได้แย่… กลับกัน เราชอบเสียอีกที่จะได้ดื่มเลือดมนุษย์บ่อยๆ แต่ปัญหาคือ เราจะไปหาเลือดมากขนาดนั้นได้จากไหน… เอ็มลินระงับความตื่นเต้น ขบคิดหาวิธีแก้ผลข้างเคียงทันใดนั้น คาซีมีหันมามอง“สำหรับเลือดในส่วนดังกล่าว ทางเผ่าผีดูดเลือดมีไว้คอยบริการ”ถ้าอย่างนั้น ปัญหาก็เหลือแค่ จะใส่ขวดและพกพาเลือดจำนวนมากด้วยวิธี… เอ็มลินหันไปมองผีดูดเลือดตนอื่นๆ ที่กำลังจ้องตนด้วยสายตาอิจฉาริษยา“ถ้าข้าไม่สวมไว้ จะได้รับโรคกระหายเลือดไหม?”“ไม่” คาซีมีส่ายศีรษะหนักแน่นเอ็มลินจ้องแหวนลิลิธ ถามอีกครั้ง“ถ้าข้าสวมมันไว้ห้าสิบเก้านาทีและถอดออก จะป่วยเป็นโรคกระหายเลือดไหม”กล้ามเนื้อใบหน้าคาซีมีกระตุก ก่อนจะตอบ“เมื่อเจ้าสวมแหวน โรคกระหายเลือดจะแสดงผลทันที ต้องดื่มเลือดมนุษย์จากขวดสำรองเพื่อทำให้สงบลงเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ในระหว่างนั้น หากเจ้าถอดและสวมมันอีก โรคกระหายเลือดก็จะกลับมาแสดงผลอีก ไม่ว่าจะครบหนึ่งชั่วโมงหรือไม่ก็ตาม จำเป็นต้องดื่มเลือดอีกครั้ง… เข้าใจที่ข้าพูดไหม?”“แน่นอน มันไม่ได้ซับซ้อนอะไร” เอ็มลินถอนหายใจคาซีมีถอนสายตากลับ หันไปมองผีดูดเลือดตนอื่นๆ“เช่นนั้นแล้ว ข้าขอมอบแหวนวงนี้ให้กับผู้ชนะในการแข่งล่าเหยื่อ… เอ็มลิน·ไวท์”“ยินดีด้วยเอ็มลิน” มันหันกลับมามองเอ็มลินพร้อมกับยื่นมือขวาออกไปจับและเขย่าเบาๆจากนั้น คาซีมีส่งมอบแหวนลิลิธสีเลือดให้แก่เอ็มลิน“ขอบใจ” เอ็มลินยิ้มอย่างสงวนกิริยาคาซีมีเลิกสนใจเอ็มลิน หันไปกล่าวกับผีดูดเลือดที่เหลือ“ยังเหลืออีกสองเป้าหมายที่เป็นเหยื่อของพวกเจ้า ยังมีรางวัลให้สำหรับคนที่ล่าสำเร็จ”…สิบโมงเช้า มิติเหนือสายหมอกไคลน์ได้รับบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ที่เอ็มลินสังเวย พร้อมกับทราบประโยชน์ของแหวนลิลิธประเด็นอื่นไม่สำคัญอะไร สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ‘ประตูอัญเชิญ’ ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนลึกของโลกวิญญาณ… อาจจะมีสักวันที่เทพบรรพกาล ลิลิธ เป็นผู้ก้าวออกจากประตูบานนี้เอง… แน่นอน การจะทำแบบนั้นได้ต้องบรรลุเงื่อนไขหลายข้อ… ไคลน์คาดเดาอย่างไร้หลักการ พลางพลิกเปิดบันทึกการเดินทางของเลมาโน่เพื่อสำรวจว่า เอ็มลินใช้พลังใดไปบ้าง และมีพลังใดเพิ่มเข้ามา‘อสนีบาต’ ถูกใช้จนเกลี้ยง… ‘ท่องเที่ยว’ ก็หายไปเช่นกัน… หมอนี่ไม่รู้จักเกรงใจพลังของคนอื่นเลยหรือ?ที่เพิ่มเข้ามาคือ ‘ปีกแห่งความมืด’ จะเพิ่มความเร็วให้ผู้ใช้งานและบินได้ในระยะเวลาสั้นๆ นอกจากนั้นยังสามารถเปลี่ยนเป็นฝูงค้างคาวดูดเลือดมายาเพื่อโจมตีศัตรูอีกพลังหนึ่งคือ ‘จันทร์เต็มดวง’ จะเปลี่ยนให้บริเวณที่กำหนดอยู่ในสภาวะเดียวกับพระจันทร์เต็มดวง ช่วยส่งเสริมพลังพิเศษประเภทความตาย และยังช่วยทำให้ปริมาณพลังวิญญาณเพิ่มขึ้น… เอ็มลินบันทึกมาจากแหวนลิลิธ…อีกหนึ่งคือ ‘กรงเล็บกัดกร่อน’ จะทำให้เล็บงอกยาวและมีลวดลายซับซ้อน คมพอที่จะตัดผ่านเหล็ก มาพร้อมคุณสมบัติกัดกร่อนรุนแรง ถือเป็นของแสลงสำหรับเกล็ดและผิวหนังอีกหนึ่งคือ ‘เข้าใจสัตว์’ สามารถสื่อสาร ขี่สัตว์ และแบ่งปันความรู้สึกระหว่างกัน… หากใช้อย่างถูกวิธีจะมีประสิทธิภาพสูงมาก… ไม่เคยเห็นเอ็มลินใช้เลยสักครั้ง เสียของชะมัด…อีกหนึ่งคือ ‘ตรวนนรก’ เป็นคาถาในขอบเขตความมืด สามารถทำให้ความมืดหรือเงาดำควบแน่นเป็นโซ่ตรวนเพื่อพันธนาการศัตรูไม่มี ‘ประตูอัญเชิญ’ … คงบันทึกได้ยาก และด้วยนิสัยของเอ็มลิน หลังจากล้มเหลวสองสามครั้งก็คงยอมยกธงขาว… ขณะพลิกอ่านบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ ไคลน์ใช้พลังทำนายเพื่อวิเคราะห์พลังพิเศษใหม่ๆถอนสายตากลับ ชายหนุ่มกวักมือเรียกให้คทาเทพสมุทรบินมาหา ทำการบันทึก ‘อสนีบาต’ ลงไปสองสามหน้า – ด้วยเกรงว่าพลังการทำลายจะต่ำเกินไปจากนั้น ไคลน์ใช้เข็มกลัดสุริยันบันทึก ‘แสงศักดิ์สิทธิ์’ และ ‘ทำน้ำมนต์’ เพื่อให้พลังพิเศษในบันทึกการเดินทางของเลมาโน่มีความหลากหลายจัดการทั้งหมดเรียบร้อย ชายหนุ่มปิดสมุด หยิบเทียนไขจิตฝันร้ายหลังจากแก้ไขอาการหลายบุคลิกเสร็จในช่วยบ่าย ไคลน์ยังไม่คืนสมบัติวิเศษทันที เพราะในเมื่อเทียนไขมีพลังในขอบเขตเส้นทางผู้ชม ก็น่าจะช่วยให้ตนสำรวจทะเลจิตใต้สำนึกรวมในบันทึกการเดินทางของกรอซายได้ ไคลน์จึงมีแผนจะยืมเทียนไขให้ครบครึ่งวันตามเวลาเดิมแต่ผิดคาด มันค้นพบในภายหลังว่า เทียนไขจิตฝันร้ายไม่มีพลังปลอบประโลมหรือขจัดอารมณ์ด้านลบในจิตใจ ประโยชน์เพียงข้อเดียวก็คือ ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจเป้าหมาย จากนั้นค่อยขจัดอารมณ์ด้านลบหรือปลอบประโลมจิตใจด้วยวิธีของแต่ละคนฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจ คืนเทียนไขจิตฝันร้ายและบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ผ่านพิธีกรรมรับมอบ ส่งถึงมือเอ็มลินและฟอร์สตามลำดับกลับถึงโลกความจริง ชายหนุ่มอาบน้ำอย่างสบายใจ อ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารสักพักจึงเข้านอนท่ามกลางภวังค์เหม่อลอย ไคลน์ได้สติกะทันหัน พบว่ามีใครบางคนกำลังบุกรุกความฝันฉากตรงหน้าเริ่มแปรเปลี่ยน ด้านบนคือความมืดมิดอันไร้ก้นบึ้ง ประดับประดาด้วยเพชรสีขาวระยิบระยับ มอบความรู้สึกสุขสงบแก่จิตใจเสียงสวดมนต์ดังมาจากจุดห่างไกล บางเบาและเป็นระเบียบ ตรงเข้าสู่ก้นบึ้งจิตใจทันทีขณะเดียวกัน ก้อนเมฆเริ่มเคลื่อนตัว ดวงจันทร์สีแดงเข้มเผยโฉมออกมาครึ่งหนึ่ง มอบแสงสว่างอ่อนๆเมื่อประกอบทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ไคลน์รู้สึกราวกับตนได้มาเยือนอาณาจักรแห่งเทพธิดารัตติกาล ผ่อนคลายเป็นล้นพ้นภายในความฝันของตัวเองนี่มัน… ชายหนุ่มตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้วิเศษแห่งโบสถ์รัตติกาล จุดประสงค์คือการปลอบขวัญเศรษฐีดอน·ดันเตสภายในความฝัน รักษาบาดแผลทางใจที่อาจเกิดขึ้นในช่วงบ่ายขอบคุณ แต่ไม่จำเป็น! ฉันนอนไม่หลับ! ไคลน์ถอนหายใจอย่างจนปัญญา………………………………………………….
คอมเม้นต์