ราชันเร้นลับ 798 : กลับมาเยือน
เขตเชอร์วู้ด ด้านนอกบริษัทโคอิมเมื่อก้าวลงจากรถม้าและเหลียวซ้ายแลขวา ไคลน์ได้รับความรู้สึกอันคุ้นเคยอีกครั้งอันที่จริง มันไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับละแวกนี้ ชายหนุ่มทราบว่าฝั่งตรงข้ามคือห้างสรรพสินค้าการ์ดเล่ย์ซึ่งชนชั้นกลางชื่นชอบ และทราบว่ามีร้านขายพายเดซีย์รสเด็ดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลครั้งหนึ่ง ไคลน์เคยทำลับๆ ล่อแถวนี้เพื่อคอยจับตามองโดรัค·เกเลอร์ จากนั้นก็สะกดรอยตามและหาเบาะแสชู้สาวของอีกฝ่าย!ถอนสายตากลับ ไคลน์พาริชาร์ดสันเดินไปยังทางเข้าบริษัทโคอิมซึ่งมีมาดามแมรี่และสาวใช้ส่วนตัวรออยู่ในอาณาจักรโลเอ็นที่ค่อนข้างหัวโบราณ สาวใช้ส่วนตัวของสุภาพสตรีต้องเป็นเพศเดียวกัน ไม่อย่างนั้นจะถูกนินทาเสียๆ หายๆ ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและชีวิตคู่ ดังนั้น สาวใช้ประจำตัวของแมรี่จึงต้องสามารถทำหน้าที่เลขาได้ดีในระดับหนึ่ง ต้องมีกิริยามารยาทสง่างาม มีหัวด้านการเงินและการตลาด มีทักษะเจรจาต่อรอง ต้องเลือกสตรีที่มีคุณสมบัติทั้งหมดในตัวคนเดียว ห้ามเป็นชายเด็ดขาดในทำนองเดียวกัน บุรุษรับใช้ส่วนตัวของผู้ชาย รวมถึงเลขานุการ ก็ต้องเป็นเพศเดียวกันอย่างไรก็ตาม มีคนมากมายที่ควบคุมแรงกระหายของตัวเองไม่ได้ เฉพาะในเบ็คลันด์ ทุกปีจะมีนายจ้างที่สร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรับใช้ และในหมู่เรื่องอื้อฉาวเหล่านี้ โดยมากแล้วเหยื่อจะเป็นสาวใช้ บ้างถูกหลอก บ้างถูกบังคับ และบ้างถูกล่อลวงให้มีความสัมพันธ์ลับๆ กับนายจ้างชาย จนกระทั่งเรื่องแดงขึ้น พวกเธอจะถูกไล่ออกอย่างไร้ความปรานี ต้องตกงานและเสียชื่อเสียง ไม่สามารถทำงานเป็นคนรับใช้ได้อีก ส่วนใหญ่กลายเป็นโสเภณีริมถนนในเวลาถัดมา“ทิวาสวัสดิ์ ดอน” มาดามแมรี่ทักทายด้วยรอยยิ้มไคลน์ทักทายกลับ“ทิวาสวัสดิ์ครับ มาดาม แถวนี้นับว่าคึกคักผิดคาด”คำโปรยเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการทักทายด้านสภาพอากาศหลังจากแมรี่ตอบกลับสองสามคำ เธอนำดอน·ดันเตสเข้าไปในบริษัทโคอิมพร้อมกับฉีกยิ้ม“อีกสักพักจะมีมืออาชีพมาคอยอธิบายสถานการณ์และพาคุณเดินชมรอบๆ … ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง คุณต้องขึ้นไปยังชั้นบน ดิฉันเตรียมบุฟเฟต์และเชิญเพื่อนสนิทมาจากหลากหลายวงการ”เพื่อนจากหลายวงการ… โอกาสในการขยายแวดวงทางสังคมของเรา… เธอจริงใจมาก! ไคลน์พยักหน้ารับ“ในฐานะคนต่างถิ่นที่เพิ่งเข้ามาในเบ็คลันด์ ผมชื่นชอบการพบปะผู้คน”“ผิดแล้ว คุณไม่เหมือนคนต่างถิ่นเลยสักนิด ตามความเห็นของดิฉัน คุณคือสุภาพบุรุษเบ็คลันด์ตัวจริงผู้มีการศึกษาดี” แมรีตอบกลับอย่างสุภาพระหว่างพูดคุย พวกเขาเดินผ่านประตู เข้าสู่โถงต้อนรับซึ่งมีแสงไฟสว่างไสว ด้านในมีบุรุษคนหนึ่งกำลังรออยู่ ภายนอกดูแข็งแรง แต่งกายด้วยชุดทางการ“นี่คือลุค·ซาเมอร์ เป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัท” แมรี่แนะนำอีกฝ่ายให้ดอน·ดันเตสอันที่จริง ผมรู้จักเขาอยู่แล้ว… ไคลน์มองหน้าลุค ผงกศีรษะและส่งรอยยิ้มจากมุมมองของชายหนุ่ม ลุค·ซาเมอร์เป็นคนสุขุม มีความเป็นมืออาชีพสูง หลงใหลเครื่องยนต์กลไก และเป็นสุภาพบุรุษมากในงานเลี้ยง ลุคไม่เคยดูหมิ่นนักสืบจนๆ ที่ยังไม่มีชื่อเสียง และไม่พยายามประจบประแจงข้าราชการของเทศบาลเบ็คลันด์ในเขตถนนมินส์“ทางนี้คือเพื่อนของดิฉัน ดอน·ดันเตส เขาสนใจแอนทราไซต์และถ่านหินคุณภาพสูง รบกวนช่วยเล่ารายละเอียดแทนฉันด้วย” แมรี่หันไปกล่าวกับลุคลุคที่ได้รับข้อมูลมาล่วงหน้า ก้าวเท้าออกมาและจ้องหน้าเศรษฐีจากอ่าวเดซีย์ เผยรอยยิ้มอ่อนโยน“มิสเตอร์ดันเตส ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของบริษัทโคอิม… พวกเราทำสัญญาระยะยาวกับเหมืองถ่านหินแอนทราไซต์หลายแห่ง… บริษัทโคอิมจะคอยส่งถ่านหินคุณภาพสูงและแอนทราไซต์เข้าไปในเขตเชอร์วู้ด ฮิลสตัน เขตเหนือ และเขตตะวันตก โดยคิดเป็นสามสิบเปอร์เซ็นต์ของความต้องการทั้งหมด นอกจากนั้น ทางเรากำลังจะได้รับคำสั่งซื้อจากกองทัพเรือ…”ไม่เคยเห็นลุคทำตัวแบบนี้มาก่อน… ไคลน์เดินตามอีกฝ่ายไปรอบๆ บริษัทโคอิมอย่างใจเย็น ฟังคำแนะนำและสถานการณ์ปัจจุบันในทุกแง่มุม ถามกลับเป็นครั้งคราว แต่มิได้เสนอความเห็นครึ่งชั่วโมงถัดมา พวกเขาขึ้นไปยังชั้นสอง เข้าไปในห้องประชุมขนาดใหญ่สถานที่ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า โต๊ะอาหารถูกวางใกล้กับผนัง จานอาหารวางเรียงรายแบบสุ่ม อาหารหลักของ ‘จานเย็น’ ประกอบด้วยแฮม เบคอน ไส้กรอก ขนมปัง สลัด เค้ก พุดดิ้ง และอาหารจานเย็นอื่นๆ นอกจากนั้นจะเป็นอาหารจานร้อนอีกเล็กน้อยเพียงเดินเข้าไป แมรี่กล่าวแนะนำสุภาพบุรุษสองคนด้านข้างให้ดอน·ดันเตสรู้จัก“ทางนี้คือไมค์·โยเซฟจากหนังสือพิมพ์เกาะกระแสรายวัน ส่วนทางนี้คืออลัน·คริสต์ ศัลยแพทย์มือฉมัง กรุงเบ็คลันด์ขาดเขาไม่ได้”ไคลน์ฟังคำแนะนำของแมรี่พลางมองไปยังทั้งสองด้วยรอยยิ้ม มุมปากกระตุกแผ่วเบาพวกเขาก็เป็นเพื่อนของผมเหมือนกัน! แถมยังสนิทกับทารกในครรภ์ภรรยาคุณหมออลัน… เดี๋ยวนะ ทำไมถึงฟังดูแหม่งๆ … ไคลน์รำพันเงียบ อดทนรอให้แมรี่แนะนำตัวดอน·ดันเตส จึงค่อยทักทายอลันและไมค์อย่างสุภาพเทียบกับที่ปีแล้ว ไมค์·โยเซฟเปลี่ยนไปไม่มาก คิ้วยังคงบางเฉียบ ผิวพรรณหยาบกร้าน ดวงตาสีฟ้าเจือเสน่ห์ ในส่วนของอลัน·คริสต์ โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนเย็นชาและไม่ชอบสุงสิง แต่ปัจจุบัน บรรยากาศดังกล่าวบรรเทาลงมาก คล้ายกับชีวิตกำลังดำเนินไปได้สวยในช่วงไม่กี่เดือนหลัง ไม่ว่าจะอารมณ์หรือความมั่นใจ ทั้งหมดกำลังอยู่ในจุดสูงสุดเมื่อได้ยินว่าดอน·ดันเตสเป็นเศรษฐีจากอ่าวเดซีย์ ไมค์หยิบนามบัตรออกมาแสดงและเผยรอยยิ้ม“คงไม่รังเกียจใช่ไหมถ้าผมจะขอแนะนำตัว? หากคุณต้องการโฆษณาสินค้า สามารถติดต่อผมได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็น ‘เกาะกระแสรายวัน’ หรือ ‘หนังสือพิมพ์ทัสซอค’ คุณจะได้รับราคาพิเศษ”กล่าวจบ ไมค์กะพริบตาเป็นนัยว่าติดตลกนายก็แค่นักข่าวที่ชอบพกบัตรประจำตัวปลอมหลายๆ ใบ… ว่าแต่ ทำไมนายถึงไม่แนะนำเกี่ยวกับการลดราคาโฆษณาหนังสือพิมพ์ให้นักสืบเชอร์ล็อก·โมเรียตี้บ้าง? ไม่ดูถูกนักสืบชื่อดังไปหน่อยหรือ? ไคลน์รำพันสองสามคำ แลกเปลี่ยนนามบัตรกับอีกฝ่าย“ผมต้องได้ใช้บริการแน่”ถัดมา ชายหนุ่มหันไปหาอลัน ยื่นนามบัตรอีกใบหนึ่งให้“ผมเพิ่งป่วยและหายขาด เข้าใจความสำคัญของแพทย์เป็นอย่างดี”“ผมเป็นศัลยแพทย์ ขอให้คุณไม่ต้องพบกับผมบ่อยนัก” แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่อลันก็ยอมแลกนามบัตรผิดแล้ว ไม่เพียงผมจะอยากเจอคุณ แต่ยังจะเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของลูกคุณด้วย… ไคลน์พึมพำ ตามด้วยการชักนำบทสนทนาเข้าสู่หัวข้อทางการแพทย์ คุยกับอลันและไมค์อย่างออกรสมันเคยกังวลเกี่ยวกับวิธีที่จะเข้าใกล้อลันเพื่อติดต่อกับทารกในครรภ์อย่างแนบเนียน เพราะปัจจุบัน นกกระเรียนกระดาษใกล้ขาดเต็มที อาจใช้งานไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ และเป็นเรื่องยากที่จะให้เชอร์ล็อก·โมเรียตี้ปรากฏตัวอย่างเปิดเผยในกรุงเบ็คลันด์ ไม่ต้องพูดถึงการเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดแต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว ด้วยการแนะนำของมาดามแมรี่ เราสามารถตีสนิทอลันได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเมื่อเวลานั้นมาถึง เราจะได้รับเชิญอย่างแน่นอน… หึหึ ไม่แน่ว่า เราอาจได้เป็นบิดาอุปถัมภ์ของอสรพิษปรอท… เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเราทุกคนล้วนเป็นสาวกของเทพธิดา… หืม… แบบนี้ทารกในครรภ์จะโกรธไหม? คงต้องระมัดระวังคำพูด หากอลันไม่เป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนก่อน เราจะไม่เปิดประเด็นด้วยตัวเองเด็ดขาด… ไคลน์ครุ่นคิดอย่างมีความสุขชายหนุ่มยังมีความเป็นมืออาชีพ สามารถยับยั้งชั่งใจไม่ให้ตีสนิทอีกฝ่ายมากเกินไปในการพบกันครั้งแรก เพียงพูดคุยตามประสาและเดินตามแมรี่ไปรู้จักคนอื่นๆระหว่างนี้ ไคลน์ไม่ลืมที่จะกินอาหารและเครื่องดื่ม ปรับตัวให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมหลังจากเดินวนครอบรอบ แมรี่ชะงักฝีเท้าและหันมากล่าว“ทุกคนที่นี่เป็นเพื่อนของฉัน”หมายความว่า เธอจะไม่ชวนคนไม่รู้จัก… และยังหมายความว่า เราเป็นเพื่อนของเธอ? ไคลน์พยักหน้ารับอ่อนโยน“ในฐานะสุภาพบุรุษ บางทีผมไม่ควรถามออกไป แต่ในฐานะนักธุรกิจ ผมต้องการทราบว่าใครกำลังพยายามแย่งชิงหุ้นเพื่อควบคุมบริษัทโคอิมแทนคุณ?”แมรี่เงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบ“บารอนซินดราสและผองเพื่อน… พวกเขาต้องการนำบริษัทโคอิมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ทำกำไรสูงเสียดฟ้าโดยไม่สนใจว่าบริษัทจะพัฒนาไปในทิศทางใด”บารอนซินดราส หนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดของโลเอ็น… ในฐานะนายธนาคารและเจ้าของโรงงาน ชายคนนี้บริจาคเงินทุนให้พรรคอนุรักษนิยมจนได้เป็นขุนนาง… ยังบอกไม่ได้ว่าอยู่ขั้วอำนาจไหน แม้จะได้รับบรรดาศักดิ์จากพรรคอนุรักษนิยม แต่กลับเห็นอกเห็นใจกลุ่มนักธุรกิจ จึงมีความโน้มเอียงไปยังพรรคหัวก้าวหน้า… ไคลน์ใช้ความคิดสักพัก ก่อนจะยิ้มและถาม“ทำไมคุณถึงไม่ให้มิสเตอร์ฮอลล์ช่วย? บิดาของเขาเป็นถึงขุนนางใหญ่และนายธนาคารชื่อดัง น่าจะให้ความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ”แมรี่ยิ้มแห้ง“มิสเตอร์ฮอลล์ไม่ต้องการพัวพันกับเรื่องนี้ ด้วยกังวลว่า ในฐานะตำแหน่งเลขาธิการใหญ่แห่งคณะกรรมการมลพิษทางอากาศแห่งชาติ ตนไม่ควรมีส่วนร่วมในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแอนทราไซต์และถ่านหินคุณภาพสูง”สุภาพบุรุษที่ทะเยอทะยานจะเป็นนักการเมืองโดยแท้จริง… แต่อีกมุมหนึ่ง เขาอาจจะไม่อยากเป็นศัตรูกับบารอนซินดราส… หึหึ หากเรามีโอกาสได้เลือกพ่อบ้านใหม่ คงจะเลือกคนที่สามารถสานสัมพันธ์กับบารอนซินดราสได้… ด้วยความร่ำรวยขนาดนี้ หากเขาอยากได้หุ้นจนเพิ่มราคาเป็นเท่าตัว เกรงว่าเราคงจนปัญญาจะประมูลแข่ง… หรือไม่แน่ว่า เขาอาจทุ่มเงินเพื่อทำลายชีวิตเราในภายหลัง… ไคลน์ไม่สานต่อบทสนทนาเดิม เพียงหันไปพูด“ผมจะไม่ตัดสินใจจนกว่าจะได้รับรายงาน”เมื่อเห็นดอน·ดันเตสไม่ขวัญผวาหลังจากฟังความจริง แมรี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเจือความซาบซึ้ง“ในยุคสมัยปัจจุบัน บุรุษกล้าหาญหาได้ยากยิ่ง และคุณคือหนึ่งในนั้น”ไคลน์ทำเพียงยิ้ม ไม่ได้สัญญาอะไรออกไป รอจนกระทั่งบุฟเฟต์จบลง จึงนั่งรถม้าสี่ล้อหรูหรากลับไปยังเขตเหนือขณะมองออกไปนอกหน้าต่างพลางครุ่นคิด จู่ๆ ไคลน์ก็หันไปหาบุรุษรับใช้ริชาร์ดสัน“ผมเปลี่ยนใจแล้ว แวะวิหารนักบุญแซมมวลให้หน่อย”ในครั้งก่อน มีความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปรกติเกิดขึ้นและสงบลงทันที และเนื่องจากยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด ไคลน์จึงลังเลว่าตนควรหาโอกาสติดต่อกับผู้คุมประตูยานิสหรือไม่ชายหนุ่มจับสังเกตได้ว่า ในช่วงบ่ายของทุกวัน ผู้คุมด้านในอย่างน้อยหนึ่งคนจะออกมาสวดวิงวอนถึงเทพธิดาในโถงหลักจะหาโอกาสติดต่อยังไง… ในสถานที่แบบนี้ การกระซิบก็กลายเป็นเสียงดังได้… และนั่นจะยิ่งทำให้คนรอบข้างผิดสังเกต… ไคลน์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเฝ้าสังเกตไปก่อน จึงค่อยคิดหาวิธีลงมือในภายหลังรถม้ายังคงไม่เปลี่ยนเส้นทาง มุ่งหน้าไปยังถนนเบิร์คลุน แต่ไม่ได้หยุดที่หน้าคฤหาสน์ ยังคงตรงไปเรื่อยๆไคลน์ในรถม้าหลับตาลง พยายามข่มความกระวนกระวายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน………………………………………………
คอมเม้นต์