ราชันเร้นลับ 790 : บทสุดท้ายของไดอารี
อนุสาวรีย์บรรจุศพถูกสร้างขึ้น… ถอยหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว… ไคลน์จ้องไดอารีในมือด้วยความคิดเดือดพล่าน ข้อสันนิษฐานมากมายผุดขึ้นและหายไปตามความเห็นของมัน ไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ฉบับนี้คือเครื่องพิสูจน์ว่า สมมติฐานคราวก่อนของตนถูกต้อง : โรซายล์เลือกที่จะเปลี่ยนไปยังเส้นทาง ‘จักรพรรดิมืด’ ในช่วงบั้นปลายชีวิต เสี่ยงกลายเป็นเทพกึ่งเสียสติ เทพแท้จริงในลำดับ 0!อะไรคือแรงผลักดันที่ทำให้จักรพรรดิต้องทำถึงขนาดนี้? พิจารณาจากความปั่นป่วน แรงกระตุ้น และความบ้าคลั่งของไดอารีฉบับก่อนหน้า คุณไปเจออะไรเข้า? และเมื่อเทียบกับครั้งนั้น อารมณ์ในไดอารีหน้าปัจจุบันกำลังสุขุมและสงบนิ่งจนน่าเหลือเชื่อ แต่ขณะเดียวกันแฝงความรู้สึกที่รุนแรง… เดาไม่ออกเลย เกิดอะไรขึ้นกับจักรพรรดิในช่วงบั้นปลายกันแน่ บุคลิกถึงได้ต่างกันสุดขั้วเช่นนี้… เป็นอาการเสียสติที่เกิดจากสถานะของเทวทูต หรือมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตที่เป็น ‘หลักยึดเหนี่ยว’ ของเขา? อา… ถ้าเข้ายังอยู่ในสภาวะปรกติ น่าจะรอโอกาสที่เหมาะสมเพื่อกลืนกิน ‘ปราชญ์เร้นลับ’ ไม่ใช่หรือ? ไคลน์คิดหลายสิ่งในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็มิอาจหาหลักฐานมาสนับสนุนและในหน้านี้ของกระดาษ มีข้อความเขียนไว้เพียงสองบรรทัด ราวกับกำลังบอกว่า นี่คือไดอารีหน้าสุดท้ายในชีวิตจักรพรรดิโรซายล์มหาราช ตรงกับช่วงสิ้นปี ลากยาวไปถึงต้นปีใหม่ เป็นช่วงที่ถูกระบุว่าเขาตายในวังเมเปิ้ลขาว…ข้อความสุดท้ายของมหาจักรพรรดิ ผู้เป็นนักเดินทางข้ามโลก? ไคลน์ถอนหายใจเงียบ พลิกไปยังไดอารีอีกหน้าหนึ่งหน้านี้ไม่มีวันที่ระบุ แต่เมื่อเงยขึ้น มันเห็นอักษรภาษาฟุซัคโบราณเขียนไว้ว่า“ถัดจากเมื่อครู่”อักษรบรรทัดนี้ถูกเงียบอย่างสวยงามและมีสติมั่นคง แตกต่างจากลายมือของจักรพรรดิโรซายล์ที่ผ่านๆ มาอย่างชัดเจน เห็นแวบแรกก็ทราบได้ทันทีว่าถูกเขียนเพิ่มโดยคนอื่นคงเป็นการเขียนกำกับของราชินีเงื่อนงำ… เพื่อบ่งบอกว่า นี่คือจุดสิ้นสุดของไดอารีของจริง โดยถูกเขียนหลังจากจักรพรรดิระบุว่า ตนลงมือไปไกลจนไม่สามารถถอยหลังได้? แต่ทำไมถึงไม่มีวันที่กำกับ? ไคลน์ค่อนข้างประหลาดใจ แต่เมื่อก้มลงไปอ่านเนื้อหาด้านล่าง ดวงตาของมันพลันแข็งทื่อ“ฉันเชื่อว่า บนโลกใบนี้ ฉันไม่น่าจะเป็นนักเดินทางข้ามโลกเพียงคนเดียว”“ถ้ามีใครอ่านไดอารีของฉันออก โปรดจงจำไว้ว่า เลือกเส้นทางผู้วิเศษอย่างรอบคอบ”“เพราะเส้นทางที่เลือก จะเป็นการกำหนดมิตรและศัตรูในอนาคต”“ฉันไม่สามารถมอบคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงได้ เพราะไม่เคยโฉมหน้าที่แท้จริงของเทพทั้งเจ็ดมาก่อน ไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเหล่าเทพมาร สิ่งเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในศิลาเย้ยเทพแผ่นที่สองซึ่งองค์กรเก่าแก่ดังกล่าวครอบครอง แต่น่าเสียดาย ฉันทำได้แค่คาดเดาเนื้อในส่วนที่ถูกซ่อนไว้ ไม่สามารถยืนยันรายละเอียดได้ชัดเจน”“ในทำนองเดียวกัน ฉันก็ไม่เคยเห็นศิลาเย้ยเทพแผ่นที่หนึ่ง”“คำเตือนที่มีประโยชน์ก็คือ อย่าเลือกเส้นทางที่ลำดับ 0 ไม่ว่างเด็ดขาด และยังต้องคอยระวังลำดับ 0 และ 1 ในเส้นทางใกล้เคียง ฉันต้องเผชิญความสูญเสียมากมายเพราะเรื่องนี้”“และถ้าจะถามว่าลำดับ 0 คืออะไร ถ้าคุณยังไม่ทราบ พยายามหาไดอารีอื่นๆ ของฉันให้พบ”“ฮะฮะ! หน้านี้เปรียบได้กับเนื้อหาบทสุดท้ายของชีวิตฉัน หากทำสำเร็จ หลังจากนี้จะมีเทพแท้จริงถือกำเนิดขึ้น กลายเป็นเนื้อหาบทใหม่โดยสิ้นเชิง แต่ถ้าล้มเหลว มันคงก็ไม่มีอีกแล้ว… คุณคงทราบเหตุผลดี”“จงก้าวไปข้างหน้า สหายที่สามารถอ่านไดอารีของฉันเอ๋ย เพื่อสำรวจความลับที่พวกเราไขว่คว้าและความจริงเบื้องหลังมัน ฉันจะคอยเฝ้ามองคุณ… ถ้าฉันยังมีชีวิตอยู่ล่ะนะ”“และคำเตือนสุดท้าย จงจำไว้ว่า”“ระวังดวงจันทร์ให้ดี!”มีนักเดินทางข้ามโลกมากกว่าหนึ่งคน ไคลน์ไม่แปลกใจ เพราะตนทราบถึงการมีตัวตนของ ‘รุ่นพี่’ จักรพรรดิโรซายล์ได้จากไดอารีสิ่งที่ชายหนุ่มสงสัยก็คือ โรซายล์ไปพบรายละเอียดหรือข้อมูลใดเข้า จึงทราบว่ามีนักเดินทางข้ามโลกมากกว่าหนึ่งคน?ประเด็นนี้สำคัญมาก สำคัญอย่างยิ่งสำหรับไคลน์ ผู้กำลังหาทางกลับไปยังโลกเก่า!คล้ายกับสมการที่มีตัวแปรไม่ทราบค่าอยู่หลายตัว หากตัวอย่างไม่เพียงพอให้เปรียบเทียบ ไม่มีเงื่อนไขเพียงพอ ไม่ว่าจะพยายามถอดสมการสักเท่าไร ก็ไม่มีวันได้รับคำตอบที่ชัดเจน ต้องรอจนกว่าจะได้สูตรการคำนวณที่ถูกต้อง ผลลัพธ์จึงจะปรากฏอา… จักรพรรดิคงบันทึกการค้นพบเรื่องดังกล่าวไว้ในไดอารีฉบับก่อนๆ น่าเสียดาย เราไม่มีทางเดาได้เลยว่าเป็นช่วงไหน ไม่อย่างนั้นคงตีกรอบการรวบรวมให้แคบลง… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ หันไปครุ่นคิดประเด็นอื่นที่ถูกเขียนไว้ใน ‘บทสุดท้าย’สภานักสิทธิ์สนธยาปกปิดเนื้อหาบางส่วนของศิลาเย้ยเทพแผ่นที่สอง?“พวกมันจงใจซ่อน หรือยังรวบรวมมาไม่ครบ… หรือแท้จริงแล้ว ศิลาเย้ยเทพแผ่นที่สองถูกแบ่งออกเป็นหลายส่วน อึกครึ่งหนึ่งตกอยู่ในมือขององค์กรอื่น?”“เส้นทางผู้วิเศษของเรา ได้รับอิทธิพลมาจากไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์… จากเนื้อหาของ ‘บทสุดท้าย’ ถ้าอ้างอิงจากกฎการอนุรักษ์พลังพิเศษ เราสามารถยืนยันได้ว่า เส้นทาง ‘นักทำนาย’ ยังไม่มีลำดับ 0 เพราะลำดับ 1 คือซาราธที่เสียสติ… หึหึ ในประเด็นนี้ เราสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า กฎของความไม่ลงรอย จะไม่มีลำดับ 0 อย่างแน่นอน หากยังลำดับ 1 ยังมีชีวิตอยู่”“บุคคลที่เราต้องระวังคือซาราธ มิสเตอร์ประตู ‘ผู้เย้ยเทพ’ อามุนด์ และพาลีส·โซโรอาสเตอร์ รวมถึงลำดับ 1 ตนอื่นๆ จากทั้งสามเส้นทางที่ใกล้เคียงกัน”“ให้ระวังดวงจันทร์… หมายความว่ายังไง?”“ดวงจันทร์บรรพกาล?”“แล้วทำไมไม่เขียนตรงๆ?”“ถ้าจำไม่ผิด จักรพรรดิเคยมีความคิดที่จะสำรวจดวงจันทร์สีแดง… หรือว่าลองทำดูแล้ว? ค้นพบอะไรเข้า? สำคัญจนถึงกับต้องบอกให้นักเดินทางข้ามโลกคนอื่นระวังตัว?”“หรือว่า… ดวงจันทร์สีแดงเกี่ยวกับเดินทางข้ามโลก?”“อา… สำเนียงการเขียนของจักรพรรดิช่วยบอกใบ้ว่า เขายังปิดบังข้อมูลบางอย่างเอาไว้ ปัจจุบันอาจยังไม่ร่วงหล่นโดยสมบูรณ์ กำลังคอยจับตามองเราจากที่ใดสักแห่ง… เรื่องนี้อาจจะถูกเขียนไว้ในไดอารีก่อนๆ เช่นกัน”หลังจากข้อสรุปและคำถามมากมายแล่นผ่านสมอง ไคลน์ค่อยๆ สะสางไปทีละหัวข้อจากนั้น ชายหนุ่มเสกไดอารีในมือให้หายไป หันไปทาง ‘เฮอร์มิท’ แคทลียา“คำถามคืออะไร”‘เฮอร์มิท’ แคทลียาดันแว่นเลนส์หนาที่ดั้งจมูก ก้มลงและกล่าวด้วยความเคารพ“เรียนมิสเตอร์ฟูล ดิฉันต้องการทราบว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จักรพรรดิโรซายล์จะยังมีชีวิตอยู่”ทันทีที่เธอกล่าวจบ สมาชิกชุมนุมทาโรต์คนอื่นๆ ซึ่งกำลังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง พลันตื่นจากภวังค์อย่างพร้อมหน้า รีบมองไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาวด้วยสายตาคาดหวังแม้ว่าเรื่องที่จักรพรรดิโรซายล์จะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ไม่ได้สำคัญกับพวกมันเลยก็ตาม แทบไม่กระทบกับการดำรงชีวิต แต่หัวข้อที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ย่อมกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นในส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ทุกคน!เราคิดว่า หลังจากกลายเป็น ‘นักจิตบำบัด’ เราจะมีภูมิต้านทานกับเรื่องทำนองนี้เสียอีก… เฮ่อ ทำไมถึงได้อยากรู้ขนาดนี้! ‘จัสติส’ ออเดรย์มองมิสเตอร์ฟูลด้วยดวงตาเปล่งประกาย รอให้อีกฝ่ายเฉลยคำตอบจากบรรดาสมาชิกทั้งหมด มีเพียง ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคที่เรียกได้เต็มปากว่าไม่สนใจ แต่มันก็เป็นหนึ่งในคนที่มองไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว เพียงเพราะทุกคนก็ทำนึกแล้วเชียว… คำถามของราชินีเงื่อนงำจะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของไดอารีที่เธอส่งมาเสมอ… ไคลน์มิได้ประหม่า เพียงหัวเราะในลำคออย่างเหนือชั้น“อาจจะ”คำตอบของมันคือ ‘อาจจะ’ แสดงให้เห็นว่า จักรพรรดิโรซายล์มีความหวังที่จะเอาตัวรอดจากความตาย ส่วนจะสำเร็จหรือไม่นั้น ไม่มีใครคาดเดาได้ และไม่ได้อยู่ในแก่นสารของคำถาม และเหนือสิ่งอื่นใด อาจไม่มีใครทราบคำตอบไปตลอดกาลอาจจะ… มิสเตอร์ฟูลหมายความว่า มีโอกาสที่จักรพรรดิโรซายล์จะยังมีชีวิตอยู่? ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาและคนที่เหลือ ต่างทำสีหน้าราวกับกำลังได้ยินความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก อารมณ์ตื่นเต้นเริ่มเผยในดวงตาแต่ละคนทว่า พวกมันเองก็ตระหนักถึงความนัยที่แฝงมากับคำตอบดังกล่าว เนื่องจากเนื้อหาของไดอารีไม่ค่อยปะติดปะต่อ และท่านยังอ่านไม่มากพอหลังจากเพิ่งลืมตาตื่นและฟื้นคืนพลัง มิสเตอร์ฟูลจึงไม่มั่นใจว่าจักรพรรดิโรซายล์ทำสำเร็จหรือไม่ จำเป็นต้องศึกษาจากเบาะแสและหลักฐานเพิ่มเติมในอนาคตแต่ไม่ว่าอย่างไร จักรพรรดิโรซายล์ได้เตรียมใจที่จะถูกลอบสังหารไว้แล้วขณะจัสติสและแฮงแมนกำลังเค้นสมอง ไคลน์เอนหลังพิงเก้าอี้ กล่าวเสียงเรียบ“เชิญ”‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สสลัดเรื่องของโรซายล์ออกจากหัวอย่างยากลำบาก มองไปยังสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว“เรียนมิสเตอร์ฟูล ดิฉันขอสนทนาส่วนตัวกับมิสเตอร์เวิร์ล ใช้เวลาไม่นาน”ยังต้องคุยอะไรกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์อีก? เรื่องขอมิสเตอร์ X ยังไม่จบหรือ? ไคลน์เกิดความฉงน พยักหน้ารับแผ่วเบา“ตกลง”จากนั้น ชายหนุ่มปิดกั้นประสาทสัมผัสของสมาชิกคนอื่น บังคับให้เดอะเวิร์ลยิ้มและถาม“ยังมีอะไรอีกหรือ”ฟอร์สนึกทบทวนสองสามวินาที ตอบกลับไป“คือว่า… ศีรษะของมิสเตอร์ X นำมาซึ่งรางวัลตอบแทนมากมาย สำหรับเรื่องนี้ หากพิจารณาถึงระดับความยากของภารกิจ ฉันคิดว่าตัวเองจ่ายคุณน้อยเกินไป จึงอยากจะเพิ่มเงินสดให้อีกจำนวนหนึ่ง… คุณอยากได้เท่าไร?”เยี่ยม! เป็นฝ่ายริเริ่มชดใช้ให้เอง… แม้ว่าในบางครั้ง มิสเมจิกเชี่ยนจะค่อนข้างโลภ เห็นแก่เงินเล็กๆ น้อยๆ เสมอ แต่ก็ถือว่าเป็นคนจริงใจและซื่อสัตย์ อา… การซื้อขายย่อมต้องทำกำไรสินะ ไม่ใช่ความโลภ… ไคลน์ที่เกิดความสุขอย่างคาดไม่ถึง ชมเชยสองสามคำในใจ บังคับให้เดอะเวิร์ลพูด“เท่าไรก็ได้”‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สลังเลสักพัก ก่อนจะตอบ“ห้าพันปอนด์”รางวัลที่อาจารย์มอบให้นั้นมีมูลค่ารวมหนึ่งหมื่นปอนด์ เธอจึงคิดจะแบ่งให้มิสเตอร์เวิร์ลครึ่งหนึ่ง และเนื่องจากสูตรโอสถ วัตถุดิบหลัก และลูกแก้วคือสิ่งที่เธอต้องใช้ ดังนั้น สิ่งที่แปลงเป็นเงินสดได้ก็คือโฉนดที่ดินทั้งสองฉบับนั่นคือเหตุผลที่ฟอร์สสามารถใจกว้าง โดยขณะเดียวกัน เธอเชื่อว่าภารกิจลอบสังหารมิสเตอร์ X มีระดับความยากมากกว่าที่ตนประเมินไว้ในตอนแรก ราคาที่อีกฝ่ายเรียกร้องจึงยังน้อยเกินไป และนอกจากนั้น เธอเริ่มหวาดกลัวเกอร์มัน·สแปร์โรว์มากขึ้นทีละนิด ไม่กล้าทำให้นักผจญภัยเสียสติ นักล่าค่าหัวที่น่าพรั่นพรึงคนนี้ต้องขุ่นเคืองใจตระกูลอับราฮัมจ่ายหนักเหมือนกันแฮะ… ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลหัวเราะในลำคอ“ถ้าคุณสามารถแปลงเป็นเหรียญทองปอนด์ได้ ผมยินดีลดราคาให้ ขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญทองที่รวบรวมได้”“ฉันจะพยายาม” แม้ว่าฟอร์สจะไม่เข้าใจว่า เหตุใดเกอร์มัน·สแปร์โรว์ถึงยึดติดกับเหรียญทองนัก พูดเหมือนกับที่เคยกำชับ ‘เฮอร์มิท’ ก่อนหน้านี้ทุกประการ แต่เธอก็ไม่กล้าถามออกไปหญิงสาวเว้นวรรค จากนั้นก็ถามประเด็นอื่น“มิสเตอร์เวิร์ล คุณคิดจะยืมบันทึกการเดินทางของเลมาโน่ตอนไหน? ฉันจะได้วางแผนในช่วงก่อนหน้าและหลังจากนั้นถูก หาโอกาสปล่อยให้สมาชิกคนอื่นเช่า ทำเงินและรวบรวมพลังพิเศษไปพร้อมกัน”“>ปล่อยให้เช่า? เช่าสมบัติวิเศษ? ไคลน์ตกตะลึงเมื่อได้ยิน คาดไม่ถึงว่า ‘เมจิกเชี่ยน’ จะมีหัวการค้าขนาดนี้!…………………………………………………
คอมเม้นต์