ราชันเร้นลับ 785 : การค้นพบของทริสซี่
ณ มุมสวนของบ้านเลขที่ 100 ถนนเบิร์คลุน บ้านของพอร์ตแลน·โมมงต์มดและแมลงจำนวนมากที่มารวมตัวกันเริ่มกระจายตัวหนี ความรู้สึกหนาวเย็นและมืดมนเริ่มบรรเทาผู้วิเศษที่นี่น่าจะไม่มีประสบการณ์… เมื่อเห็นว่าบรรลุผล เฮเซลพยักหน้า หันหลังกลับทันที เดินไปตามทางเดินของสวนเธอไม่รีบกลับเข้าตัวอาคาร ยังคงเพลิดเพลินไปกับแสงจันทร์สีแดงเข้ม อากาศเย็นสบาย และกลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้ผ่านไปสักพัก เฮเซลหยุดการเดินชมจันทร์ ออกจากสวน เข้ามายังห้องโถงชั้นที่หนึ่งในเวลาเดียวกัน นอกจากแขกที่กำลังเล่นเท็กซัสโปเกอร์ สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีหลายคนเริ่มทยอยกลับ เฮเซลเดินไปหาแม่ของเธอ มาดามลีอานน่า จากนั้นก็พบว่าพ่อของเธอ ส.ส. มัคท์อยู่กับสุภาพบุรุษอีกสองสามคน กำลังเดินลงมาจากชั้นสองพลางสนทนาอย่างออกรส สีหน้าเป็นไปอย่างชื่นมื่น“พร้อมกลับบ้านหรือยัง? พรุ่งนี้เช้าคุณต้องไปเยี่ยมแขกคนสำคัญ” ลีอานน่าดึงลูกสาวเข้าไปใกล้ๆ เดินไปหาสามี ถามไถ่ด้วยรอยยิ้มส.ส. มัคท์พยักหน้าและกล่าว“ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ผมว่าจะชิมซิการ์ของพอร์ตแลนอีกสักมวน”ลีอานน่าจ้องไปทางวิลลิส ดอน·ดันเตส และคนที่เหลือด้านข้าง ซักถามโดยไม่มองหน้า“พวกคุณกำลังคุยอะไรกันอยู่หรือ? ฟังดูน่าสนใจ”มัคท์โน้มตัวไปด้านข้าง กล่าวพลางยิ้ม“ดอนเล่าว่า เขาเคยเจอภูตผีสมัยที่ยังอยู่ทวีปใต้… เขาและพวกพ้องตื่นขึ้นมากะทันหันกลางดึก อยากลืมตา แต่ก็ทำไม่ได้ ร่างกายหนักอึ้ง คล้ายกับมีใครบางคนกำลังนั่งทับ… พวกเขาใช้ความพยายามอย่างมาก จนในที่สุดก็หลุดพ้นจากสถานะดังกล่าว รีบลุกออกจากเตียง แต่กลับพบว่าอากาศในห้องเย็นเฉียบ… คุณอาจไม่ทราบ แต่อากาศในไบลัมตะวันออกและตะวันตกจะร้อนเกือบทั้งวัน… จากนั้น ดอนกับเพื่อนถือลูกซองแฝด คอยเฝ้ายามตลอดทั้งคืน และเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น พวกเขารีบออกจากหมู่บ้านเล็กๆ นั่นทันที”ฟังจบ ลีอานน่าหันไปมองดอน·ดันเตสด้วยความสนใจ“เรื่องจริงหรือ? โลกนี้ผีมีด้วยหรือ?”ไคลน์ยิ้มและส่ายหน้า“ผมเองก็ไม่แน่ใจ บางที อาจเป็นเพราะเพิ่งผ่านการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นมา สภาพจิตใจจึงอ่อนล้า เมื่อสุขภาพไม่แข็งแรง ปัญหาจึงปรากฏ”เรื่องราวเมื่อครู่คือประสบการณ์ตรงของแอนเดอร์สัน ขณะนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลหมอกสำรวจวิหารเก่าแก่ในป่าดงดิบ มันได้เจอกับภูตผี จากนั้นก็เป็นการเผ่นป่าราบของจริงภูตผี… เฮเซลมองออกไปทางสวน ยกมุมปากขึ้น ก่อนจะคืนกลับสภาพเดิมเธอไม่ได้กล่าวคำใด ยืนฟังพ่อและแม่บอกลาคนรู้จัก กลับบ้านพร้อมกับครอบครัวกลางดึกสงัด เฮเซลสวมชุดนอนและเดินไปที่ระเบียง หยุดยืนตรงช่องว่างผ้าม่าน มองออกไปยังฝาท่อระบายน้ำบนถนนเบิร์คลุนเหลียวซ้ายแลขวา ใบหน้าหญิงสาวค่อยๆ ซีดเซียว คล้ายกับหวนนึกถึงประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและหวาดผวาเฮเซลบังคับร่างกายให้มองออกไป สูดลมหายใจเข้าสองครั้ง ก่อนจะหันหลังกลับและเข้านอนระหว่างนี้ หญิงสาวกัดริมฝีปากล่าง พึมพำกับตัวเองแผ่วเบา“นั่นคงเป็นวิญญาณอาฆาต… ไม่ผิดแน่… เราต้องการยันต์หรือสมบัติวิเศษในขอบเขตสุริยัน”เมื่อสักครู่ ขณะเฮเซลกำลังมองฝาท่อระบายน้ำ ไคลน์เองก็มองเช่นกันผ่านมาแล้วหลายวัน เราไม่มีทางรู้เลยว่าแม่มดทริสซี่ฟื้นฟูร่างกายได้ถึงไหน ออกจากท่อระบายน้ำไปหรือยัง… โชคดีที่เฮเซลกลัวเรา จึงไม่กล้าเฉียดใกล้ท่อระบายน้ำในช่วงนี้… ไคลน์ชำเลืองโคมไฟถนนสีดำ พยักหน้ากับตัวเองชายหนุ่มเปิดกล่องบุหรี่โลหะ บังคับให้หุ่นเชิดวิญญาณอาฆาตปรากฏในกระจกเงาเต็มบานมันตัดสินใจแล้ว วันนี้จะส่งเซนอลไปที่ท่อระบายน้ำเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ยืนยันสภาพของทริสซี่ กังวลว่าอาจเกิดปัญหากับแม่มดนอกจากนั้น ทริสซี่อยู่ใกล้กับดอน·ดันเตสมากเกินไป ไคลน์ไม่ต้องการให้เธอแช่อยู่นานนัก ภาวนาให้หายไวๆ และรีบออกจากถนนเบิร์คลุน ไปทำงานของตัวเองอา… การให้ ‘พลเรือเอกโลหิต’ ปรากฏตัวไม่บ่อยครั้ง สอดคล้องกับคำโกหกของเราก่อนหน้านี้ นั่นคือ เราไม่ได้อาศัยในละแวกใกล้เคียง แต่ท่อระบายน้ำมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ จึงแวะเวียนมาสำรวจเป็นครั้งคราว… ไคลน์ครุ่นคิด พลางบังคับหุ่นเชิดที่สวมหมวกสามมุมใบเก่า กระโดดขึ้นไปบนผิวกระจกของโคมไฟถนน จากนั้นก็ทะลุผ่านฝาท่อระบายน้ำด้วยร่างวิญญาณอาฆาต เข้าไปยังทางแยกที่ทริสซี่ซ่อนตัวอยู่ยังไม่ทันจะถึงจุดหมาย ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลที่สามารถมองเห็นในที่มืด พบว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นหายดีและไปแล้ว? ไคลน์ใช้ความคิด บังคับให้หุ่นเชิดเดินหน้าต่อไป หยุดลงในจุดที่ทริสซี่เคยนั่งมันพบว่าบริเวณดังกล่าวสะอาดสะอ้าน ไม่ใช่แค่พื้นโคลนเปียกที่หายไป แม้แต่ตะไคร่น้ำตามผนังก็ยังไม่หลงเหลือไม่มีเศษอาหารด้วย… หลังจาก ‘เขา’ กลายเป็น ‘เธอ’ ก็เกิดรักความสะอาดขึ้นมาทันที? ไม่สิ อาจเป็นคนแบบนั้นแต่แรกแล้ว… ไคลน์บังคับให้วิญญาณอาฆาตถอนสายตากลับ ตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวอีกครั้ง เชื่อว่าทริสซี่ยังออกไปไม่ถึงหนึ่งวัน ไม่อย่างนั้นคงไม่สะอาดสะอ้านขนาดนี้ขณะกำลังใช้ความคิด เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังเข้ามาในโสตประสาทวิญญาณอาฆาตเซนอลที่อยู่ภายใต้การควบคุม หันหลังกลับไม่มอง และไม่ประหลาดใจนัก ชายหนุ่มเห็นทริสซี่ในเดรสสีดำหม่นหมองแม่มดคนนี้มีผมสีดำขลับ ทรงผมแตกต่างจากหญิงสาวในวัยเดียวกัน ค่อนข้างเรียบง่ายและธรรมดาเมื่อผนวกกับใบหน้าที่มีเลือดฝาด แต่ยังคงขาวนวล ทริสซี่ในปัจจุบันดูราวกับเป็นบุปผางามซึ่งกำลังเบ่งบานอย่างเงียบสงัดสมแล้วที่เป็นแม่มด… โชคดีที่เราถูกคั่นด้วยหุ่นเชิด ไม่อย่างนั้นคงเอาแต่จ้องหน้าอย่างมีความสุข… หึหึ… คนตายไม่มีวันถูกยั่วยวน! ไม่ว่าแม่มดจะมีเสน่ห์สักเพียงใด แต่ก็ไม่มีวันเปลี่ยนคนตายให้กลายเป็นซอมบี้และคลานขึ้นจากหลุมศพได้… ไคลน์รำพันเงียบ แต่ยังคงไม่ประมาท ส่งเสียงถามทริสซี่ที่กำลังชักใยแมงมุมล่องหน“ไปไหนมา?”ทริสซี่ขมวดคิ้วและตอบ“เรื่องท้องไส้ ใครเขาทำบนที่นอนของตัวเองกัน?”อึก… เราคิดว่าแม่มดไม่จำเป็นต้องเข้าห้องน้ำเสียอีก… ไคลน์รำพันติดตลก บังคับวิญญาณอาฆาตหัวเราะ“หมายถึงขี้กับเยี่ยว?”มันจงใจสั่งให้หุ่นเชิดพูดเช่นนั้น เพราะเป็นบุคลิกออกแบบไว้สำหรับโจรสลัดหยาบกร้านอย่างพลเรือเอกโลหิตทริสซี่ขมวดคิ้วฉงน ถามกลับ“แล้วยังจะเป็นอะไรได้อีก?”‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลไม่สานต่อบทสนทนา เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น“ฟื้นตัวได้เร็วดี”ทริสซี่ยิ้มบางๆ“ก็ไม่แย่ ฉันจะออกจากที่นี่พรุ่งนี้”เธอเว้นวรรค ดวงตาเรียวเล็กหรี่ลง“ว่ากันตามตรง บางครั้งฉันก็สงสัยว่า นายคือ ‘พลเรือเอกโลหิต’ จริงหรือ?”แน่นอน ตัวจริงเสียงจริง! เธอควรถามว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่… ไคลน์บังคับเซนอลถามกลับอย่างสนใจ“ทำไมถึงพูดแบบนั้น?”ทริสซี่จ้องหน้าวิญญาณอาฆาตและตอบ“กล่าวกันว่า พลเรือเอกโลหิตเป็นพวกหื่นกระหาย ไม่สนว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ขอแค่มีใบหน้าสะสวยก็พอ… แต่ขณะเผชิญหน้ากัน ฉันมองไม่เห็นความปรารถนาทางเพศในตัวนาย… ฉันเชื่อว่า ถ้าเป็นพลเรือเอกโลหิตตัวจริง การตกลงปากเปล่าของพวกเราเมื่อวันก่อน จะต้องแนบท้ายด้วยเงื่อนไขขอมีเพศสัมพันธ์แน่นอน”ไคลน์ใช้ความคิดสักพัก บังคับวิญญาณอาฆาตหัวเราะกับตัวเอง“ฉันกลัวว่า ขณะกำลังดื่มด่ำ ‘ความสุข’ ฉันจะเป็นฝ่ายถูกเธอควบคุมแทน”ทริสซี่เปลี่ยนสีหน้าทันที เพราะนั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่เธอยื่นข้อเสนอกับเซนอลสำหรับแม่มดสุขสม ผู้วิเศษหื่นกระหายคือเหยื่อตามธรรมชาติไคลน์ตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อ สั่งให้หุ่นเชิดกล่าว“พรุ่งนี้เธอจะไปพบเป้าหมายใช่ไหม? อย่าลืมว่า หัวหน้าองครักษ์หลวงรู้จักเธอ เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน”เพราะท้ายที่สุด เธอถูกพวกมันชักนำด้วยความบังเอิญ ให้เข้ามาพัวพันกับองค์ชายเอ็ดซัค… ไคลน์เปล่งเสียงในใจทริสซี่ก้มหน้าลง มองปลายนิ้วเท้าตัวเอง ยิ้มขื่นขม“มั่นใจได้เลย แผนการของฉันสมบูรณ์แบบ”ขณะกล่าว เธอหันหน้าไปทางด้านข้าง ชี้ไปยังส่วนลึกของท่อระบายน้ำ กล่าวอย่างเป็นกันเอง“จากตรงนี้ ทางแยกที่หกจากซ้ายมือเป็นทางลับ มีร่องรอยบ่งบอกว่ามนุษย์ผ่านเข้าออกบ่อยครั้ง… หึหึ… ฉันพบมันจากการเดินสำรวจรอบๆ ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา… ถ้าเดาไม่ผิด คงเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม? และนั่นคือเหตุผลที่นายลงมาที่นี่?”ทางลับ? ไคลน์ไม่รับไม่เถียง ปล่อยให้ ‘วิญญาณอาฆาต’ เซนอลหัวเราะ“แล้วเจออะไรไหม?”ทริสซี่ส่ายหน้า“ไม่มีอะไรเลย บางที ผู้วิเศษสักเส้นทางอาจสามารถมองเห็นเบาะแส”เป็นสัญชาตญาณของ ‘นักจารกรรม’ หรือสมบัติวิเศษบนร่างกายเฮเซล? ไคลน์ไม่คิดแช่นาน บังคับให้เซนอลวางมือบนหน้าอก ยิ้มและคำนับ“ในเมื่อเธอหายดีแล้ว ฉันก็เบาใจ”กล่าวจบ มันหายตัวไปต่อหน้าอีกฝ่ายทริสซี่จ้องมองความว่างเปล่า ไม่พบสิ่งใด จนกระทั่งใยแมงมุมล่องหนของเธอสัมผัสโดยเพียงสายลม หญิงสาวถอนสายตากลับ ตระหนักว่าพลเรือเอกโลหิตจากไปแล้วจริงๆขณะเดียวกัน ไคลน์นำหุ่นเชิดวิญญาณอาฆาตกลับมายังฝาท่อระบายน้ำ ไม่คิดสำรวจในจุดที่ทริสซี่เล่าให้ฟังมีสามเหตุผลสำหรับการตัดสินใจเช่นนี้ หนึ่ง ตรงนั้นไกลกว่าหนึ่งร้อยเมตร สอง มันเชื่อว่าตนจะไม่พบอะไร เพราะท้ายที่สุด มันไม่ใช่ผู้วิเศษเส้นทางนักจารกรรม ไม่มีสมบัติวิเศษที่สอดคล้อง และสาม ทริสซี่ยังคงอยู่แถวนั้น…เช้าวันพฤหัสบดี ฟอร์สตื่นขึ้นตามธรรมชาติ ล้างหน้าเสร็จสรรพ หยิบขนมปังปิ้งหนึ่งชิ้น เปิดประตูและหยิบของออกจากกล่องจดหมายเธอเดินมายังโต๊ะดื่มกาแฟพร้อมกับถ้วยกาแฟ พลิกอ่านสิ่งที่อยู่ในมือด้วยท่าทีผ่อนคลาย พบคำตอบที่รอคอยมาหลายวันทั้งหนังสือพิมพ์ ใบแจ้งหนี้ และจดหมายฉบับอื่นๆ ถูกทิ้งลงบนโต๊ะทันที ฟอร์สรีบแกะซองจดหมายในมือ“อาจารย์มาถึงเบ็คลันด์แล้วหรือ…” หลังจากกวาดตาอ่านอย่างว่องไว ฟอร์สพึมพำด้วยเสียงประหลาดใจขณะเดียวกัน เธอเหลือบไปเห็นขนมปังปิ้งที่เคยคาบ ร่วงหล่นลงบนพื้นห้อง……………………………………………..
คอมเม้นต์