ราชันเร้นลับ 780 : สกัด
วอลเตอร์เดินขึ้นมายังชั้นสาม งอนิ้วมือ เคาะประตูห้องนอนใหญ่“ใคร?” ดอน·ดันเตสกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแอเจือแหบพร่าวอลเตอร์บิดกลอน แง้มประตูเปิด“นายท่าน บิชอปอีเล็คตร้าแวะมาเยี่ยม… นานท่านจะลงไปที่ห้องนั่งเล่น หรือจะให้ผมเชิญเขามาที่ห้องนอนโดยตรง?”ตามปรกติแล้ว แขกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้องนอนใหญ่ นั่นเป็นเรื่องเสียมารยาท ยกเว้นการมาเยี่ยมตอนป่วยเงียบไปสักพัก ดอน·ดันเตสมอบคำตอบ“เชิญเขามาที่ห้องนอน”“ครับ นายท่าน” วอลเตอร์หันไปบอกริชาร์ดสัน ให้อีกฝ่ายกำชับสาวใช้เตรียมชา ส่วนตัวเองเดินลงไปข้างล่าง นำทางบิชอปอีเล็คตร้าแห่งโบสถ์รัตติกาลขึ้นมายังชั้นสามเพียงไม่นาน อีเล็คตร้าเข้ามาในห้อง เห็นดอน·ดันเตสนอนอยู่บนเตียงในสภาพซีดเซียว“ริชาร์ดสัน หาเก้าอี้ให้บิชอปนั่ง” ดอน·ดันเตสออกคำสั่งด้วยรอยยิ้มริชาร์ดสันเตรียมพร้อมอยู่แล้ว รีบนำเก้าอี้พนักสูงมาวางในตำแหน่งที่ไม่ไกลจากเตียงนอนมากหลังจากอีเล็คตร้าเดินเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว มันตรวจสอบใบหน้าของเศรษฐีใหม่ ถามอย่างกังวล“ดอน คุณรู้สึกยังไงบ้าง? เชิญคุณหมอเข้ามาตรวจหรือยัง?”สัมผัสวิญญาณของมันไม่แจ้งเตือนสิ่งใด จึงไม่ได้ทำมากกว่านั้น เพียงซักถามอย่างห่วงใยเกี่ยวกับสุขภาพของสาวกผู้เคร่งครัดดอน·ดันเตสกระแอมในลำคอ ยิ้มและตอบ“อันที่จริง ผมใกล้จะหายดีแล้ว คงไม่เกินพรุ่งนี้ก็มะรืนนี้ น่าจะได้แวะไปฟังคำเทศนาของคุณ”“ได้ยินแบบนั้นค่อยเบาใจ ผมกำลังชั่งใจอยู่ว่า ควรสวดวิงวอนให้เทพธิดาช่วยอวยพรคุณดีไหม” อีเล็คตร้าหัวเราะ ถอยหลังสองสามก้าว นั่งลงบนเก้าอี้ที่ริชาร์ดสันนำมาวางทันใดนั้น ดอน·ดันเตสชำเลืองไปทางมิสเตอร์บิชอป หัวเราะในลำคอ“อันที่จริง ผมสงสัยมานานแล้วว่า นักบวชของศาสนจักรเทพธิดา สามารถสมรสได้หรือไม่”อีเล็คตร้า ผู้ที่สองปีจะมีอายุครบสี่สิบ ถอนหายใจพลางหัวเราะ“อันที่จริง เรื่องนี้เคยเป็นปัญหาคาใจของพวกเรามานานแล้ว… ในการชุมนุมเพื่อชำระพระคัมภีร์หลายครั้งในสมัยโบราณ อาร์ชบิชอปมักมีปากเสียงกันอย่างดุเดือดในประเด็นดังกล่าว… ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่า ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ข้ารับใช้แห่งเทพธิดาต้องเปี่ยมด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง มิฉะนั้นจะถือเป็นการดูหมิ่นพระองค์ ขณะเดียวกัน อีกฝ่ายนำคำพูดจากพระคัมภีร์ ‘วิวรณ์แห่งรัตติกาล’ มาโต้แย้งว่า เทพธิดาส่งเสริมให้มนุษย์สมรสกัน ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ คณะนักบวชอย่างพวกเราจึงควรทำตัวเป็นแบบอย่าง มิใช่ต่อต้าน นั่นจึงจะถือเป็นการแสดงความเคารพต่อเทพธิดา… แต่ในยุคสมัยปัจจุบัน คำถามดังกล่าวได้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องตรงกันแล้ว ทางศาสนจักรจะไม่ห้าม แต่ก็มิได้ส่งเสริม ข้อกำหนดเดียวก็คือ ถ้านักบวชสมรส ห้ามนำครอบครัวย้ายมาอาศัยอยู่ในวิหารด้วยกัน”ดอน·ดันเตสพยักหน้าเชื่องช้า ยกมุมปากเล็กน้อย“บิชอป คุณมีภรรยาหรือยัง”บิชอปอีเล็คตร้า เจ้าของใบหน้าธรรมดาๆ แต่แฝงเสน่ห์เจือจาง ถอนหายใจแผ่วเบา กล่าวโดยพยายามเก็บซ่อนรอยยิ้ม“เมื่อสองปีก่อน ผมได้เข้าสู่ร่มเงาแห่งการสมรสโดยมีเทพธิดาเป็นสักขีพยาน และปีนี้กำลังจะมีทายาทสืบทอด… เดิมที ผมคิดจะเป็นโสดไปตลอดชีวิตเพื่อรับใช้พระองค์ แต่กลับกลายเป็นว่า…”ขณะกล่าว มันยิ้มให้กับตัวเอง ส่ายหน้าแผ่วเบาโดยไม่รอให้ดอน·ดันเตสซักไซ้ บิชอปอีเล็คตร้าย้อนถามกลับอย่างมีวาทศิลป์“ดูเหมือนว่าคุณเองก็โสด ลังเลเกี่ยวกับการแต่งงานอยู่หรือ?”มันสรุปเดาว่าดอน·ดันเตสคงคิดเช่นนั้น จึงตั้งคำถามต่อเนื่องกัน“คุณชอบสตรีแบบใด? บางที ผมอาจช่วยแนะนำให้คุณได้”ดอน·ดันเตสไอแห้ง ตอบด้วยรอยยิ้ม“ในอดีต เพื่อสั่งสมความมั่งคั่ง ผมเลือกจะนำพาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับอันตราย จึงไม่อยากแต่งงาน กังวลว่าจะทำให้ภรรยาไม่มีความสุข… หึหึ… ผมชื่นชอบสตรีหลากหลายประเภท ไม่มีความต้องการที่ตายตัว… ไม่ว่าจะเป็นสตรีที่แก่กว่า หากเธอสามารถมอบความอบอุ่นให้หัวใจ สามารถทำให้ผมสบายใจ…”ยังไม่ทันจะกล่าวจบ บุรุษรับใช้ริชาร์ดสันที่อยู่ข้างๆ พลันยืนแข็งทื่อ รีบเบือนหน้าหนีพลางก้มศีรษะอย่างกระอักกระอ่วน ใบหน้าแดงระเรื่อประหนึ่งกำลังร้อนผ่าวคล้ายกับดอน·ดันเตสไม่รู้ตัว ยังคงเล่าต่อไป“นอกจากนั้น ผมยังชอบสตรีที่อายุน้อยกว่า เปี่ยมไปด้วยความไร้เดียงสา ชีวิตชีวา คล้ายกับได้เห็นแสงแรกยามเช้าตรู่ เป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยพลังงาน…”รอยยิ้มบนใบหน้าบิชอปอีเล็คตร้าพลันแข็งทื่อ มันยกฝ่ามือขึ้น รวบเป็นกำปั้น เลื่อนมาไว้ตรงปากและกระแอมสองครั้งแต่ดอน·ดันเตสก็ยังไม่หยุด ส่ายหน้าเล็กน้อย ถอนหายใจและเล่าต่อ“ผมยังชอบสตรีที่เคยผ่านการสมรส… ด้วยสถานะของเธอ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เป็นสตรีที่ทำได้เพียงมองจากที่ไกลๆ พวกเธอมักเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ทุกอากัปกิริยาชวนให้หลงใหล ยากจะหักห้ามใจ มีหลายครั้งที่ผมฝันถึง…”พ่อบ้านวอลเตอร์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พลันสั่นสะท้าน คล้ายกับเผลอเดินหลงเข้ามาในความฝันของใครสักคน แต่ก็ไม่อยากกลับออกไป ไม่แน่ใจว่านี่เป็นความฝันที่ดีหรือร้ายดอน·ดันเตสเตรียมเล่าต่อ แต่ขณะกำลังอ้าปาก เสียงของมันกลับหยุดลงมันเปลี่ยนไปหัวเราะเบาๆ ในลำคอ“ที่กล่าวไปข้างต้นคือธรรมชาติของมนุษย์ พวกเราทุกคนล้วนถูกตีกรอบอิสระในเชิงกายภาพ… ท่ามกลางห้วงอารมณ์มากมาย เป็นเรื่องปรกติที่ส่วนลึกของจิตใจจะอยากทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม… ตราบที่สามารถยับยั้งชั่งใจไว้ได้ ไม่ทำทุกสิ่งตามความปรารถนาของตัวเอง และไม่หักห้ามตัวเองจนเป็นทุกข์ พวกเรายังสามารถเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี และเป็นผู้ชายที่ดี”“สมเหตุสมผล… ในยามโกรธ มนุษย์มักเกิดความคิดที่ผิดศีลธรรมเสมอ แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ทำให้มันเกิดขึ้นจริง” บิชอปอีเล็คตร้าสรุปประเด็นอย่างชาญฉลาด พ่อบ้านวอลเตอร์และบุรุษรับใช้ริชาร์ดสันเริ่มทำหน้าครุ่นคิดบิชอปไม่แช่อยู่นานนัก หลังจากดื่มชาดำมาร์ควิสที่สาวใช้ยกมาเสิร์ฟไปสองสามจิบ มันลุกขึ้นพลางกล่าวคำอำลา เดินทางออกจากคฤหาสน์ของดอน·ดันเตสท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบภายในห้องนอน หน้าต่างระเบียงค่อยๆ ถูกเปิดออก ไคลน์ที่เปลี่ยนรูปลักษณ์กลับเป็นดอน·ดันเตส กระโจนเข้ามาด้วยเสียงแผ่วเบาโชคดีที่กลับมาทัน… ถ้าปล่อยให้ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสพูดมากไปกว่านี้ เกรงว่าบิชอปอีเล็คตร้าจะขับไล่เราออกจากการเป็นผู้ศรัทธา… พรุ่งนี้อาจได้เห็นวอลเตอร์กับริชาร์ดสันผูกคอตายในห้อง และชาวบ้านในบล็อกนี้ทั้งหมดจะซุบซิบนินทาเกี่ยวกับความวิตถารของดอน·ดันเตส… ไคลน์ชำเลืองไปยัง ‘กระจกวิเศษ·ดอน’ บนเตียง ถอนหายใจแผ่วเบา – ประโยคสุดท้ายที่ดอน·ดันเตสกล่าวกับบิชอปอีเล็คตร้า ชายหนุ่มเป็นคนร่างคำตอบและให้อาโรเดสอ่านตามแน่นอน บทสรุปข้างต้นเป็นเพียงสิ่งที่ไคลน์จินตนาการในแง่ร้ายที่สุด แต่มันเชื่อว่าอาโรเดสจะไม่ปล่อยให้เรื่องราวดำเนินไปถึงจุดนั้น“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน นายท่านผู้ยิ่งใหญ่” ดอน·ดันเตสบนเตียงทำความเคารพและทักทาย “อาโรเดส ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และถ่อมตนของท่าน ท…ทำงานได้ดีหรือไม่ขอรับ”ได้ยินกระจกวิเศษถามอย่างตะกุกตะกัก ไคลน์ถอนหายใจอีกครั้ง“ไม่เลว… ปลอมตัวได้ดี… แต่ขณะสนทนา พยายามอย่าทำให้คนฟังอึดอัด”“ข…ข้าจะจำใส่ใจไว้!” ดอน·ดันเตสตัวปลอมเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว แทนที่ด้วยกระจกเงาบานเล็กบนหมอนบนผิวกระจก แสงสีเงินสว่างวาบพร้อมกับเรียงเป็นคำพูด“ขอบคุณสำหรับคำติชม ข้าจะคอยเดินตามรอยเท้าท่านเสมอ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสได้รับใช้นายท่านอีก~”หลังจากอีโมติคอนอำลาถูกวาดเสร็จ ผิวกระจกเงากลับคืนสภาพปรกติไคลน์ขยับเข้าไปใกล้ เก็บกระจกเงา จากนั้นก็เข้าห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ถอยหลังสี่ก้าว ส่งตัวเองเข้ามิติเหนือสายหมอกชายหนุ่มต้องการ ‘ต้อนแกะ’ ก่อนที่วิญญาณมิสเตอร์ X จะสลายไป…ภายในโลกหนังสือ บนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะไคลน์มองร่างของมิสเตอร์ X บนพื้น สำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายที่ประกอบกันจากเศษเนื้อ เปรียบเทียบกับภาพบุคคลเป้าหมายในความทรงจำที่มิสเมจิกเชี่ยนส่งมาให้ไม่ผิดตัว… หวังว่าจะได้พลัง ‘ท่องเที่ยว’ และ ‘บันทึก’ … หากสุ่มได้หนึ่งในสองพลังข้างต้น ภารกิจคราวนี้จะถือว่าคุ้มค่า… แต่ถ้าไม่ คงต้องบอกให้มิสเมจิกเชี่ยนเพิ่มค่าตอบแทน… การล่าลำดับ 5 กับการเผชิญหน้าครึ่งเทพ สองสิ่งนี้มีระดับความยากแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง… ไคลน์ครุ่นคิด เหยียดฝ่ามือไปด้านหน้า กางนิ้วทั้งห้าออก เล็งไปทางศพซึ่งร่างวิญญาณยังสลายไม่สมบูรณ์ยุบพองหิวโหยกลับคืนสภาพดั้งเดิม รูปลักษณ์คล้ายผิวหนังมนุษย์แผ่นบาง ดวงตาสองข้างปรากฏขึ้นกึ่งกลางฝ่ามือ รูม่านตาสีแดงสด ประหนึ่งชุ่มโชกไปด้วยเลือดท่ามกลางสายลมหนาว ร่างวิญญาณของมิสเตอร์ X ที่ใกล้สลายไปเต็มที รวมถึงประกายพลังพิเศษที่ดูคล้ายกับทางช้างเผือก เริ่มถูกดูดกลืนเข้ามาในยุบพองหิวโหย ผสานกับนิ้วมือที่ยังว่างอยู่ยุบพองหิวโหยแปรเปลี่ยนเป็นสีใสในตอนต้น ประหนึ่งเป็นภาพสะท้อนของโลกวิญญาณ จากนั้นก็กลับเป็นปรกติไคลน์หลับตาลงและเพ่งประสาทสัมผัส คิ้วที่ชนกันค่อยๆ คลายตัวออก รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าคราวนี้มันค่อนข้างโชคดี ได้รับหนึ่งในพลังที่ต้องการที่สุดประตูนักท่องเที่ยว!หรือในชื่ออื่นๆ คือประตูเคลื่อนย้ายมิติ เทเลพอร์ต หรือท่องเที่ยว – พลังชนิดนี้จะอนุญาตให้ผู้ที่เดินทางผ่านโลกวิญญาณสามารถตระหนักถึงโลกภายนอก ช่วยให้ระบุพิกัดปลายทางได้แม่นยำ ผู้วิเศษที่มีลำดับต่างกันจะ ‘ท่องเที่ยว’ ได้ในระยะทางต่างกัน เพราะร่างกายสามารถทนต่อโลกวิญญาณได้ไม่เท่ากันหากเป็นลำดับ 9 หรือ 8 ขอบเขตการเดินทางคงไม่เกินเบ็คลันด์… ในลำดับปัจจุบันของเรา ยังไม่แน่ใจว่าจะเดินทางไปยังเกาะโบราณที่มิสเตอร์แฮงแมนระบุพิกัดมาให้ได้ไหม แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็แค่แบ่งเป็นสองเที่ยว สามเที่ยว… ไคลน์ครุ่นคิดพลางยิ้มชายหนุ่มเพิ่งค้นพบว่า ‘นักท่องเที่ยว’ จะทรงพลังมากในการดวลตัวต่อตัว เพราะอรรถประโยชน์ของ ‘พลังท่องเที่ยว’ ในระยะสั้นนั้นเทียบได้กับ ‘กระโจนไฟ’ สามารถหายตัววิบวับรอบเป้าหมายได้ตลอดเวลา ไม่จำกัดระยะทาง เป็นเรื่องยากมากที่จะโจมตีให้โดนนอกจากนั้น ผนวกกับพลังอันหลากหลายของ ‘นักบันทึก’ หากพบความผิดปรกติแม้เพียงเล็กน้อย นักท่องเที่ยวสามารถทิ้งระยะห่างจากศัตรูได้ในพริบตา ไคลน์เชื่อว่า แม้จะใช้ ‘พายุสายฟ้า’ และ ‘ทอร์นาโด’ ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะกำจัด ‘นักท่องเที่ยว’ ในคราวเดียวเป็นอย่างที่คิด ‘นักเชิดหุ่น’ ควรชักใยอยู่หลังฉาก… ไคลน์ถอนหายใจ ก้มมองศพของมิสเตอร์ X อีกครั้งยุบพองหิวโหยยังได้รับพลังอีกหนึ่งชนิด นั่นคือ ‘เปิดประตู’ ของ ‘ผู้ฝึกหัด’ ลักษณะคล้ายกับพลัง ‘ท่องเที่ยว’ แต่ลดระดับลงมาก แทบไม่มีประโยชน์สำหรับไคลน์ชำเลืองสายตาเล็กน้อย กระจกตาของไคลน์พลันสะท้อนกับแหวนทับทิมที่มิสเตอร์ X สวมอยู่………………………………………….
คอมเม้นต์