ราชันเร้นลับ 776 : เตรียมตัวล่วงหน้า
เมื่อการดื่มชายามบ่ายถูกยกเลิก ไคลน์ตัดสินใจเดินทางไปยังวิหารนักบุญแซมมวลเพื่อสวดวิงวอน เพื่อแสดงความศรัทธาแน่นอน มันไม่ลืมหยุดดูนกพิราบขาวที่จัตุรัส ปล่อยให้อารมณ์ของตนผ่อนคลายและเงียบสงบเดินเข้าไปในวิหาร ผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนังท่ามกลางแสงแดดจากมุมสูง จนกระทั่งไคลน์มาถึงโถงสวดมนต์ที่มืดมิดสถานที่แห่งนี้มิได้หรูหราพร่างพราวเหมือนกับวิหารของโบสถ์อื่น แต่จะมีบรรยากาศนุ่มนวลและอ่อนโยน ช่วยให้ผู้คนรู้สึกสงบสุขจากก้นบึ้ง นอกจากนั้น แสงบริสุทธิ์ด้านบนที่ดูคล้ายหมู่ดาวระยิบระยับ ยังมอบความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์และท่วมท้นไคลน์ถอดหมวก ส่งให้บุรุษรับใช้ริชาร์ดสันพร้อมไม้ค้ำ จากนั้นก็เดินไปตามทางทันในนั้น สองบุคคลที่เก้าอี้แถวหน้าสุดยืนขึ้น หันหลังและเดินกลับออกมา คนหนึ่งเป็นบุรุษผมกระเซิง ดวงตาสีเขียวมรกต ทำตัวสบายๆ จนดูเหมือนขี้เกียจ ไม่ใช่ใครนอกจากเลียวนาร์ด·มิเชลแทบจะในเวลาเดียวกัน เลียวนาร์ด·มิเชลมองกลับมายังชายวัยกลางคนเจ้าของจอนสีขาวตรงขมับ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มลุ่มลึกดอน·ดันเตส… หัวใจของมันเริ่มเต้นแรง ร่างกายแข็งทื่อเล็กๆ จนยากจะสังเกตไคลน์จ้องเลียวนาร์ด ยิ้มพลางพยักหน้าอย่างเป็นมิตร แววตาผ่อนคลาย“…” เลียวนาร์ดฝืนยิ้ม พยักหน้ากลับอย่างไม่เต็มใจจากนั้น มันฉากหลบไปด้านข้าง เดินผ่านดอน·ดันเตสไปนั่นทำให้ไคลน์มองเห็นคนที่มาด้วยกันกับเลียวนาร์ด และยังเป็นคนรู้จักของตน – ดาลีย์·ซิโมเน่ในชุดคลุมสีดำทรงโบราณสตรีผู้นี้ยังคงทาขอบตาและแก้มด้วยสีฟ้า มอบความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ดาลีย์ใช้หางตาชำเลืองสุภาพบุรุษวัยกลางคนที่เพิ่งเดินผ่านตน ทันใดนั้น สีหน้าของเธอชะงักไปครู่หนึ่ง รีบถอนสายตากลับ เดินไปยังทางออกอย่างเงียบงันบ้าน่า… เราแค่เลียนแบบเอกลักษณ์ของดวงตาหัวหน้า… ทั้งที่ตาคนละสีกัน แต่มาดามดาลีย์กลับยังรู้สึกคุ้นเคย? สัญชาตญาณของผู้หญิงช่างน่ากลัว… ไคลน์พบความผิดปรกติสั้นๆ ที่เกิดกับดาลีย์ ภายในใจคาดเดาคลุมเครือเมื่อนานมาแล้ว จากสัญชาตญาณของผู้ชาย ไคลน์มองออกว่าดาลีย์ชอบหัวหน้า ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมแบกรับความเสี่ยง รีบแหกกฎเดินทางมายังทิงเก็นเพื่อบอกให้ไคลน์สอนดันน์·สมิทเกี่ยวกับเทคนิค ‘สวมบทบาท’สำหรับความรู้สึกของหัวหน้า ไคลน์ยังไม่มั่นใจ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ดันน์·สมิทในตอนนั้นแทบจะแยกความจริงกับความฝันไม่ออก อาการความจำเสื่อมกำเริบหนัก อาจหลงลืมอารมณ์ที่สำคัญที่สุดในส่วนลึกจิตใจทว่า หัวหน้าเองก็พูดถึงมาดามดาลีย์บ่อยครั้ง… ยกเธอเป็นตัวอย่างให้พวกเราคอยปฏิบัติตาม เธอมีพลังแบบไหน ใช้เวลากี่ปีเพื่อเลื่อนลำดับ หัวหน้าจดจำได้แม่นยำ ค่อนข้างขัดแย้งกับอาการความจำเสื่อม… อา… ทุกครั้งที่หัวหน้าเล่าเรื่องนี้ เขามักตัดพ้อเสมอว่า ตัวเองใช้เวลาถึงเก้าปีในการเลื่อนลำดับจากกวีเที่ยงคืนเป็นฝันร้าย… หรือว่า… นั่นจะเป็นปมด้อยที่ทำให้ไม่กล้าสู้หน้ามาดามดาลีย์? คงรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่า… ไคลน์หวนนึกถึงอดีต พาลทำเอาอารมณ์ดำดิ่งมันเริ่มพบว่า ตนมิได้รู้จักดันน์·สมิทดีพอ ไม่เคยมองเห็นว่ามีสิ่งใดซ่อนอยู่ในใจชายคนนั้นทั้งที่มาดามดาลีย์อายุน้อยกว่าหัวหน้าพอสมควร แต่เธอกลับไม่สนใจการแต่งงาน… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ ดึงสติกลับ มองหน้าเก้าอี้นั่ง ก้มศีรษะลงและหลับตาสวดวิงวอนด้านนอกโถงสวดมนต์ใหญ่ สภาพจิตใจของเลียวนาร์ดฟื้นฟูกลับเป็นปรกติ มันและดาลีย์เดินไปรวมตัวกับถุงมือแดงคนอื่นพวกมันยืนรอสักพัก จนกระทั่งโซสต์ ผู้ที่กลายเป็น ‘จอมอาคมวิญญาณ’ เรียบร้อยแล้ว เดินมาจากอีกด้านหนึ่ง มองไปรอบๆ และกล่าว“ภารกิจของเราในคราวนี้คือ สืบหาเบาะแสต่างๆ จากเหตุระเบิดในฐานใหญ่ของแก๊งโครงกระดูกดำ พยายามคนหาสมาชิกคนสำคัญของนิกายวิญญาณที่ซ่อนตัวอยู่ในกรุงเบ็คลันด์… มาดามดาลีย์เป็นผู้วิเศษบนเส้นทาง ‘ผู้เก็บซากศพ’ มีความเข้าใจลักษณะเฉพาะของนิกายวิญญาณอย่างลึกซึ้ง เป็นเหตุให้ท่านเจ้าคุณ นักบุญแอนโทนี ส่งเธอมาช่วยเรา”…ตกเย็น ไคลน์ที่บอกให้ริชาร์ดสันออกไป เดินถอยหลังสี่ก้าว ส่งตัวเองเข้าไปในมิติหมอก เสก ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ บังคับให้สวดวิงวอนท่ามกลางบรรยากาศพร่ามัว“ฝากบอกมิสเมจิกเชี่ยนว่า ช่วยจองห้องพักของโรงแรมในเขตตะวันออก ควรเลือกโรงแรมที่อยู่ห่างจากสถานที่จัดการชุมนุมของมิสเตอร์ X จัดการให้เสร็จก่อนวันศุกร์… นอกจากนั้น ส่งกำไลข้อมือและหิน รวมถึงหนังสือเวทมนตร์มาล่วงหน้า ผมต้องเตรียมการบางอย่าง… ในคืนวันศุกร์ คุณต้องบอกให้เพื่อนของคุณไม่เข้าร่วมชุมนุมลับของมิสเตอร์ X และอย่าลืมส่งรูปลักษณ์ของเพื่อนคุณในสภาพปลอมตัวมาให้ผม… ถ้ามีสิ่งใดเพิ่มเติม ผมจะแจ้งให้ทราบก่อนเวลา”ปฏิบัติการลอบสังหารมิสเตอร์ X กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกสองวัน ไคลน์จำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้าในหลายสิ่ง และดอน·ดันเตสไม่สามารถทำได้ทั้งหมด จึงต้องฝากให้มิสเมจิกเชี่ยนทำแทนแผนการเบื้องต้นก็คือ ใช้พลังผู้ไร้หน้าปลอมตัวเป็นเพื่อนของมิสเมจิกเชี่ยน เข้าร่วมชุมนุมลับของมิสเตอร์ X ด้วยรหัสผ่าน จากนั้นก็คอยประเมินสถานการณ์ ลงมืออย่างเหมาะสมจากประสบการณ์การต่อสู้และการใช้พลังเชิดหุ่นในระยะหลัง ไคลน์เริ่มพบว่า หนึ่งในกฎเหล็กของ ‘นักเชิดหุ่น’ คือการ ‘ซ่อนตัวอยู่หลังฉาก คอยชักใยอย่างลับๆ’เว้นเสียแต่จะไม่มีทางเลือก นักเชิดหุ่นไม่ควรปะทะกับศัตรูซึ่งหน้า!สิ่งที่เป็นปัญหาในตอนนี้ก็คือ ชุมนุมลับของมิสเตอร์ X เริ่มขึ้นตอนสองทุ่ม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว ดอน·ดันเตสยังไม่เข้านอน ยากจะเล็ดลอดสายตาของพ่อบ้านและคนรับใช้ แอบเดินทางไปยังเขตตะวันออก… จริงอยู่ เราสามารถสร้างหลักฐานปลอมว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ปัญหาคือ เราจะใช้ข้ออ้างใดในการออกมาข้างนอกคนเดียว? ถ้ามีผู้ไร้หน้าช่วยปลอมตัวเป็นดอน·ดันเตสก็คงดี… มิสจัสติสมีสร้อยที่ทำแบบนั้นได้ แต่เธอไม่ได้อยู่ในเบ็คลันด์… ไคลน์เอนหลังพิงเก้าอี้ เลื่อนมือขึ้นมาลูบหน้าผากมันถึงขั้นคิดจะประกอบพิธีกรรมอัญเชิญตัวเอง ตอบสนองเอง ปรากฏกายในร่างวิญญาณด้วยรูปลักษณ์ของจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด แต่นั่นจะทำให้สูญเสียความสามารถในการปลอมตัว มิอาจสวมรอยเป็นเพื่อนของฟอร์สและแฝงตัวเข้าร่วมการชุมนุมเว้นเสียแต่ว่า เพื่อนของมิสเมจิกเชี่ยนสมรู้ร่วมคิดกับเรา ยอมให้เราใช้ร่างวิญญาณ สิงร่างของเธอ… ฟังดูไม่ดีเท่าไร ประการแรก ความลับของชุมนุมทาโรต์จะรั่วไหล และประการที่สอง มิสเตอร์ X อาจมีวิธีตรวจจับวิญญาณอาฆาต… จริงอยู่ เราสามารถกีดขวางพลังตรวจจับได้ด้วยเหรียญทอง เทวทูตกระดาษ และกล่องบุหรี่โลหะ… ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะตัดสินใจใช้วิธีที่ตนชำนาญในโลกเก่าแกล้งป่วย!เริ่ม ‘ป่วย’ ตั้งแต่พรุ่งนี้ กินให้น้อยลงจากปรกติ เข้านอนก่อนสองทุ่ม… ด้วยวิธีดังกล่าว จะไม่มีพ่อบ้านหรือคนรับใช้กล้ามารบกวน… แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินและพวกเขาเคาะประตูห้อง เราควรทำยังไง? พลังภาพลวงตาของ ‘นักมายากล’ สามารถหลอกได้เพียงการมองเห็น ไม่ใช่ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถโต้ตอบ… จริงสิ… เราสามารถใช้ภาพลวงตากับกระจกเงา เปลี่ยนให้มันดูเหมือนดอน·ดันเตส จากนั้นก็ให้ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสคอยตอบคำถามแทนจากระยะไกล! คิดถึงตรงนี้ ไคลน์เริ่มร่าเริงต้องยอมรับว่า อาโรเดสมีประโยชน์มากในบางสถานการณ์… ไคลน์ถอนหายใจตื่นเต้น ส่งตัวเองกลับสู่โลกความจริง เดินไปที่โต๊ะอ่านหนังสือ หยิบกระดาษและปากกา วาดสัญลักษณ์และลวดลายที่เป็นตัวแทนของความลึกลับและการส่องความลับทันทีที่ตวัดเส้นสุดท้ายเสร็จ ไฟในห้องพลันหรี่ลง กระจกเงาบานใหญ่เปลี่ยนเป็นสีเข้มในตอนแรก ก่อนจะส่องแสงสีขาวนวล ปรากฏอักษรภาษาโลเอ็นเรียงกันทีละคำ“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และถ่อมตนของท่าน อาโรเดส ได้ยินเสียงอัญเชิญของท่าน… ข… ข้ามาสายรึเปล่า?”มีลูกเล่นใหม่ทุกครั้ง… ไคลน์ส่ายหน้าอย่างขบขัน“ไม่”“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านอดทนต่อข้าขนาดนี้ นายท่าน เชิญตั้งคำถาม” ข้อความบรรจงปรากฏขึ้นบนกระจกอย่างเป็นระเบียบไคลน์ครุ่นคิดสักพัก“เราวางแผนจะกำจัดมิสเตอร์ X แห่งชุมนุมแสงเหนือ เจ้ามีคำแนะนำไหม”ข้อความบนผิวกระจกค้างไว้สักพัก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นประโยคใหม่“ลงมือหลังวันพฤหัสจะดีที่สุด”สอดคล้องกับผลการทำนายของเรา… ดูเหมือนว่า ‘เทวทูตโชคชะตา’ โอโรเลอุส หรือไม่ก็นักบุญจากชุมนุมแสงเหนือ จะอยู่ช่วยเหลือมิสเตอร์ X ถึงแค่วันพฤหัสนี้… ไคลน์ยิ้มและกล่าวต่อ“อาโรเดส เรามีบางสิ่งต้องการให้เจ้าช่วย”“ป…เป็นเกียรติอย่างยิ่ง! ขอบพระคุณนายท่านที่มอบโอกาส!” ข้อความปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่ามันตื่นเต้นและมีความสุขมากเพียงใด “ขออนุญาตถามว่า เป็นงานแบบใดหรือ?”ไคลน์พยักหน้าและอธิบาย“ในคืนวันศุกร์ของสัปดาห์นี้ เราจะใช้ภาพลวงตาครอบงำกระจกเงา ทำให้มีรูปลักษณ์เหมือนกับตัวตนปัจจุบันทุกประการ… หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น เจ้าต้องคอยควบคุมกระจกเพื่อตอบคำถาม ไม่ปล่อยให้ใครพบความผิดปรกติของเรา… ทำได้ไหม?”อากาศรอบๆ กระจกเงาเต็มบานพลันเคลื่อนไหว เสียงที่แฝงความประสบสอพลอของดอน·ดันเตสดังขึ้น“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ตราบใดที่ท่านรับสั่ง ข้าจะทำอย่างสุดความสามารถ… แม้ว่าพลังนี้จะคงอยู่ได้ไม่นาน และค่อนข้างขัดต่ออุปนิสัยของข้า แต่ก็มากพอที่จะรับมือกับคนในบ้าน… หากนายท่านต้องการ ข้าสามารถเลียนแบบเสียงใดก็ได้!”มีพรสวรรค์หลากหลายกว่าที่คิด… การเป็นกระจกต้องเก่งขนาดนี้เลย? แต่ว่า ทำไมประโยคสุดท้ายถึงฟังดูแหม่งๆ? กล้ามเนื้อใบหน้าไคลน์กระตุกเล็กน้อย“ขณะสนทนากับพวกเขา จงหยุดพักการเล่นเกมถามตอบไปก่อน อย่าให้ใครพบความผิดปรกติได้”อาโรเดสแสดงข้อความใหม่ทันที“ข้าจะสวมบทบาทเป็นนายท่านอย่างสุดความสามารถ!”“ดีมาก” ไคลน์พยักหน้าแผ่วเบามันค่อนข้างกังวลว่า อาโรเดสจะถามพ่อบ้านวอลเตอร์และบุรุษรับใช้ริชาร์ดสันในทำนอง ‘หากได้พบกับสตรีที่เกินเอื้อม เจ้าเคยจินตนาการเรื่องลามกกับเธอหรือไม่?’ หรือ ‘เคยสนองความต้องการด้วยมือตัวเองในยามดึกๆ ดื่นๆ หรือไม่?’ชายหนุ่มค่อนข้างไว้ใจศีลธรรมของ ‘กระจกวิเศษ’ แต่ถ้าไม่เตือนล่วงหน้า เกรงว่าความฉิบหายคงได้มาเยือน ดูได้จากเดนิสที่เกือบสติแตกโดยไม่สานต่อบทสนทนา ไคลน์พูดกับกระจก“วันนี้พอแค่นี้ เราจะติดต่อเจ้าอีกครั้งในคืนวันศุกร์”“ขอรับ นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ข้ารับใช้ผู้ต่ำต้อยคนนี้อดใจรอไม่ไหวที่จะได้รับใช้นายท่านอีกครั้ง!” ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสเขียนข้อความ ก่อนจะวาดรูปโบกมืออำลา………………………………………………………..
คอมเม้นต์