ราชันเร้นลับ 774 : เบาะแส
เธอยังไม่ตาย? หนีออกมาได้? แถมยังคิดจะแก้แค้นให้องค์ชายเอ็ดซัค? ในวินาทีที่เห็นทริสซี่ ไคลน์ซึ่งยืนหลังผ้าม่านบนห้องนอนใหญ่ แทบมิอาจรักษาความเยือกเย็นแม้ว่าบทสนทนาก่อนหน้าของวอลเตอร์จะทำให้ไคลน์พอจะเดาได้รางๆ แต่เมื่อความจริงปรากฏ ชายหนุ่มก็ยากจะทำใจยอมรับไม่ต้องอาศัยพลังทำนายฝัน ไคลน์ก็ยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันได้ชัดเจน หนึ่งในนั้นคือการได้นั่งสนทนากับทริสซี่ ย้อนกลับไปในช่วงเวลาดังกล่าว เธออยากหลุดพ้นจากพันธนาการขององค์ชายเอ็ดซัคใจแทบขาด ไม่อยากให้ตัวเองต้องถูกชักใยโดยบุคคลในเงามืด ชีวิตประจำในตอนนั้นมีเพียงความเจ็บปวดแต่กลับกลายเป็นว่า แม่มดซึ่งเคยเป็นผู้ชาย ยอมขายวิญญาณให้เทพมาร เพื่อแก้แค้นให้องค์ชายเอ็ดซัค? นี่มันนิยายรักโรแมนติกเกรดบีรึไง! มุมปากไคลน์พลันกระตุก ขณะเดียวกันก็ ‘เห็น’ พ่อบ้านวอลเตอร์โยนถุงอาหารให้ทริสซี่ หลังจากแอบ ‘ฟัง’ ทั้งคู่คุยกันสักพัก ชายหนุ่มหันหลังและบังคับให้เซนอลลอยกลับตามทางเดิมทันใดนั้น จากมุมมองของไคลน์ ร่างของบุคคลหนึ่งปรากฏตัวภายในบ้านส.ส. มัคท์ เดินเลียบเงาตามถนน ตรงมาทางท่อระบายน้ำด้วยความเร็วสูง ไม่ใช่ใครนอกจากเฮเซล ผู้ครอบครองสมบัติวิเศษเส้นทาง ‘นักจารกรรม’ถ้าเป็นแบบนี้ วอลเตอร์ถูกพบตัวแน่… นี่ไม่ใช่ท่อระบายน้ำแล้ว แต่เป็นตลาดสดที่คึกคัก! ไคลน์ก้มมอง เลื่อนมือขวาขึ้นมาปิดหน้าขณะเข้าใกล้ฝาท่อ เฮเซลเหลียวซ้ายแลขวาสองสามวินาที ก่อนจะขยับฝาท่อระบายน้ำ กระโดดลงไปและปิดอย่างใจเย็น กระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีการติดขัดแม้แต่น้อยเมื่อเท้าสัมผัสกับพื้นที่ค่อยข้างลื่น เธอเดินไปตามพื้นเหล็กซึ่งมีน้ำเน่าไหลผ่านอย่างเอื่อยเฉื่อย ก้าวเดินแน่วแน่ประหนึ่งมีเป้าหมายในใจชัดเจนทันใดนั้น แผ่นหลังหญิงสาวพลันเย็นวาบ เส้นขนทั่วร่างลุกตั้งชันเพียงพริบตา เฮเซลรู้สึกราวกับกำลังแหวกว่ายท่ามกลางลำธารอันเย็นเยียบ ความหนาวเหน็บแผ่ปกคลุมร่างกายอย่างรวดเร็วฉากตรงหน้าทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดผวา เพราะเธอกำลังเดินไปในทิศทางอื่น ปลายทางคือกำแพงเหล็ก ซึ่งนั่นขัดแย้งกับความต้องการ!ความกลัวเข้าครอบงำจิตใจอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งเฮเซลสามารถขจัดความเฉื่อยชาของสมอง รีบถ่ายเทพลังวิญญาณทั้งหมดเข้าไปในสร้อยคอสร้อยคอเส้นดังกล่าวประกอบด้วยอัญมณีสีเขียวมรกตและโปร่งใสจำนวนเจ็ดเม็ด เรียงชิดติดกันอย่างเป็นระเบียบ รอบๆ อัญมณียังมีเพชรเม็ดเล็กรายล้อม ท่ามกลางความมืดมิด สร้อยคอดังกล่าวสามารถเรืองแสงอย่างเจือจางทันใดนั้น อัญมณีก้อนหนึ่งสว่างขึ้น แสงสีมรกตสะท้อนให้เห็นใบหน้าอันงดงามแต่หม่นหมองของหญิงสาวเฮเซลยืนพิงกำแพงในสภาพหยุดนิ่ง เท้าทั้งสองข้างก้าวไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้าในลักษณะแยกออกจากกัน ก่อนจะค่อยๆ หมดกลับทีละข้างในวินาทีนี้ ความเย็นเยียบที่เฮเซลเคยเผชิญ อันตรธานหายไปครู่หนึ่งหญิงสาวถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปกระตุ้นอัญมณีมรกตอีกครั้งโดยปราศจากความลังเล มือขวายกขึ้น ชี้เข้าหาลำตัวและบิดเต็มข้อมือเต็มแรงเพียงพริบตา สัญลักษณ์และลวดลายพิสดารจำนวนมากผุดขึ้นภายในใจ พลังวิญญาณและเส้นเสียงของหญิงสาวเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเธอทำการขโมยพลังพิเศษ ‘เสียงหวีดร้องของวิญญาณอาฆาต’ !ขณะเฮเซลเตรียมอ้าปากแผดเสียง หญิงสาวเริ่มตระหนักว่าฝ่ามือของตนสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง แขนสองข้างถูกเลื่อนขึ้นมาปิดปากโดยขัดต่อเจตนารมณ์ร่างกายเสียงแผดร้องของวิญญาณอาฆาตกลายเป็นเพียงเสียงอู้อี้ ฝ่าเท้าหญิงสาวเริ่มขยับแผ่วเบา เดินเดินเลียบผนังท่อระบายน้ำจนกระทั่งถึงทางแยก ก่อนจะนั่งยองลงท่ามกลางความมืดมิดหญิงสาวพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่ก็เปล่าประโยชน์ ลำพังจะถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปในสร้อยก็ยังทำไม่ได้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเฮเซลเริ่มเบิกกว้าง อัดแน่นไปด้วยความหวาดกลัวและไม่เต็มใจ หยดน้ำตาสีใสเริ่มหลั่งจากขอบตา ค่อยๆ อาบลงบนสองแก้มในเวลาเดียวกัน วอลเตอร์กำลังเดินไปยังทางแยกอื่นในท่อระบายน้ำ เพียงไม่นานก็ถึงบันไดของฝาท่อที่เคยลงมา ปีนขึ้นอย่างชำนาญรอจนกระทั่งวอลเตอร์ลอบเข้าไปในบ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุนของดอน·ดันเตสเสร็จ ไคลน์ค่อยๆ คืนอิสรภาพให้ร่างกายเฮเซล ความเย็นเยียบที่น่าพรั่นพรึงเมื่อครู่ไม่หลงเหลืออีกต่อไปอันดับแรก เธอรีบยกสองมือขึ้นด้วยความประหลาดใจ เปิดเนตรมองกลางคืน กวาดสายตาไปรอบตัวด้วยอาการผวาเล็กๆ คล้ายกับในความมืดมิดเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายที่กำลังซ่อนตัวเฮเซลใช้มือขวาลูบคลำสร้อยคอบนเนินอก บรรจงยืนขึ้นอย่างระมัดระวัง เดินกลับไปที่ทางเข้าหญิงสาวมิได้เผ่นหนีอย่างแตกตื่น แต่มีสติมั่นคง คอยระวังการโจมตีที่คาดไม่ถึงจากส่วนลึกของความมืดรอบตัวในที่สุด เธอกลับมาถึงถนนเบิร์คลุน มองเห็นโคมไฟเหล็กรมดำบนถนนกำลังแผ่แสงเหลืองนวล เผยให้เห็นพื้นถนนที่ยังมีคราบน้ำฝนเฮเซลสับเท้าวิ่งอย่างเร่งรีบ ตรงกลับบ้านของตัวเอง แต่หลังจากออกตัวไปได้ไม่กี่ก้าว หญิงสาวชะงักฝีเท้าและเหลียวหลังมอง รีบกลับไปปิดฝ่าท่อที่ลืมไว้เพราะความกระวนกระวายจัดการทั้งหมดเสร็จ เธอเดินเลียบเงามืดริมถนน กลับเข้าไปในสวนของบ้าน ปีนท่อน้ำและท่อแก๊ส กระโดดขึ้นไปบนระเบียงห้องนอนตัวเองถึงตรงนี้ เธอเริ่มใจเย็นและมีสติ ดวงตาหรี่ลง มองไปรอบบ้านด้วยร่างกายที่ยังคงสั่นเทาเล็กๆหญิงสาวยกแขนซ้าย เตรียมเช็ดหน้าด้วยเสื้อ แต่ก็ต้องชะงักมือกลางคัน เปลี่ยนไปหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อแทน…เฮเซลรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามหลักการพื้นฐาน เธอไม่ใช่มือใหม่โดยสมบูรณ์… ภายในท่อระบายน้ำ เซนอลที่สวมหมวกสามมุมและแจ็คเก็ตสีแดงเข้มค่อยๆ ปรากฏกาย พึมพำกับตัวเองเงียบงันถัดมาไม่กี่วินาที ภายใต้ความควบคุมของไคลน์ พลเรือเอกโลหิตล่องหนอีกครั้ง ลอยเข้าไปในทางแยกที่มีทริสซี่ซ่อนตัวอยู่เมื่อวิญญาณอาฆาตขยับเข้าใกล้ ทริสซี่ในเดรสสีดำเงยหน้าขึ้น เผยรอยยิ้มอ่อนแอเจอความดื้อรั้น“ไม่ได้มีเจตนาร้ายสินะ… ผู้หญิงคนนั้นนับว่ายังมีโชค”เธอตระหนักถึงเฮเซล รวมถึงการมีอยู่ของวิญญาณอาฆาต!ร่างของเซนอลปรากฏกายจากความว่างเปล่า หัวเราในลำคอและกล่าว“บางที การฆ่าหล่อนอาจทำให้เธอต้องเผชิญความวุ่นวายมากกว่าเดิม”ว่ากันตามตรง ไคลน์อยากรายงานเรื่องของทริสซี่ให้ถึงโบสถ์ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายเคยก่อกรรมทำชั่วไว้มากแค่ไหน รู้เรื่องที่เธอเคยกระตุ้นให้เกิดโศกนาฏกรรมบนเรืออัลฟาฟ่า รู้เรื่องที่เธอช่วงชิงอายุขัยของผู้บริสุทธิ์ ทำให้คนเหล่านั้นต้องจากไปก่อนวัยอันควร ทว่า หลังจากพบว่าทริสซี่กำลังสืบสวนปริศนาการตายขององค์ชายเอ็ดซัค ไคลน์ผุดแนวคิดใหม่ นั่นคือการร่วมมือกับแม่มดคนนี้ สืบสวนคดีพิศวงของราชวงศ์ในบางประเด็นปริศนาการตายขององค์ชายเอ็ดซัค เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับความจริงเบื้องหลังโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์!การแกะรอยคดีนี้จะเต็มไปด้วยอันตราย หากดึงให้ใครเข้ามาเกี่ยวข้อง เราจะรู้สึกผิดอย่างมาก กังวลว่าพวกเขาจะได้รับอันตราย ในกรณีเลวร้าย อาจถึงขั้นเสียชีวิต.. แต่ถ้าให้ทริสซี่รับหน้าทีนี้ เราจะไม่เกิดภาระทางใจดังกล่าว… ปัญหาก็คือ เธออาจสืบสวนปริศนาการตายขององค์ชายเอ็ดซัคเพียงเพื่อนำไปต่อยอดกับแผนการชั่วของตัวเอง เราต้องคอยระวังเอาไว้ ห้ามถูกหลอกใช้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเกิดความฉิบหายตามมา… ไคลน์ครุ่นคิด ขณะเดียวกันก็สั่งให้เซนอลลอยไปด้านหน้าสองก้าวทริสซี่จ้องชายวัยกลางคน หัวเราะแผ่วเบา“ถ้าคิดจะทำอะไรก็รีบทำ… มิสเตอร์เซนอล”ขณะเดียวกัน ในการมองเห็นของหุ่นเชิด ไคลน์พบ ‘ด้าย’ จำนวนนับไม่ถ้วนรอบตัวทริสซี่ กึ่งกลางคือสตรีสวมเดรสสีดำเข้ม ฉากตรงหน้าดูคล้ายกับแมงมุมอ่อนแอที่กำลังหลบอยู่ในใย ทำให้ใครก็ตามที่ได้เห็น อยากเข้าใกล้ด้วยความรู้สึกสงสาร“รู้จักฉันด้วยหรือ” หุ่นเชิดชะงักฝีเท้าทริสซี่ตอบด้วยน้ำเสียงล่องลอย“ครั้งหนึ่ง ฉันเคยมีช่วงเวลาที่น่าประทับใจในทะเล”แต่ตอนนั้น เธอยังเป็นผู้ชาย… ไคลน์รำพัน ก่อนจะยิ้ม“ทำไมเธอถึงพยายามสืบสวนการตายขององค์ชายเอ็ดซัค? ไม่ใช่ว่าเขาฆ่าตัวตายหรอกหรือ”ทริสซี่เงยศีรษะขึ้นทันที ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความโกรธ“การฆ่าตัวตายมีหลายรูปแบบ… บางคนสมัครใจ บางคนถูกบังคับ”บ้าน่า… เธอเสียใจกับการตายขององค์ชายเอ็ดซัค? คนสวย ลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองเคยเป็นผู้ชายมาก่อน? ไหนจะความเจ็บปวดที่เคยเล่าให้เราฟัง? หรือนี่จะอาการสต็อกโฮล์มซินโดรม ภาวะที่ตัวประกันเห็นใจคนร้ายหลังจากใช้เวลาอยู่ด้วยกันสักพัก? เมื่ออีกฝ่ายทำดี ความดีดังกล่าวจะน่าหลงใหลกว่าปรกตินับสิบเท่า… อา… เราไม่ใช่ ‘ผู้ชม’ ไม่สามารถระบุได้ว่าสีหน้าปัจจุบันเป็นการเสแสร้งหรือไม่… ไคลน์บังคับให้เซนอลหัวเราะ“เธอก็เลยคิดว่าองค์ชายเอ็ดซัคถูกบังคับให้ฆ่าตัวตาย? การตามล่าวิลเลี่ยม·ไซเคสก็เพื่อสืบสวนเรื่องนี้?”ความโกรธบนใบหน้าทริสซี่เริ่มจางหาย แทนที่ด้วยรอยยิ้มเจือขื่นขม“ถูกต้อง… เจ้านั่นเป็นคนบังคับให้เอ็ดซัคฆ่าตัวตายด้วยกระสุนที่สามารถลบล้างพลังวิญญาณ… ทว่า มันเองก็รับคำสั่งมาอีกทอดหนึ่ง… หึหึ เจ้านั่นยอมเปิดเผยเรื่องทั้งหมดขณะมีความสุขครั้งสุดท้ายในชีวิต… ช่างน่าสมเพช มันยังไม่มีโอกาสได้ทำอะไรฉันด้วยซ้ำ… นอกจากนั้น ฉันยังนำรูปถ่ายสมัยก่อนมาให้วิลเลี่ยมดู… ช่วยให้มันได้ตายเจ็บปวดและสิ้นหวังสุดขีด”เดาไม่ออกเลยว่าจิตใจวิลเลี่ยม·ไซเคสจะแตกสลายขนาดไหน… ทริสซี่ยังคงบิดเบี้ยวไม่เปลี่ยน… แม่มดสุขสมช่างมีเสน่ห์ดึงดูด ทุกการกระทำสามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามคล้อยตาม… แต่เราสามารถบอกได้ว่า ทริสซี่ไม่ได้ใช้พลังดังกล่าวพร่ำเพรื่อ จะดึงออกมาใช้เฉพาะช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด… เธอเลื่อนลำดับแล้ว? หรือเป็นเพราะความรัก? ไคลน์รำพันเงียบ บังคับให้เซนอลตั้งคำถาม“แล้วคนที่บงการเป็นใคร?”ขณะเอ่ยประโยคดังกล่าว ไคลน์ไม่คาดหวังคำตอบสักเท่าไร แต่ทริสซี่กลับหัวเราะแผ่วเบาพลางตอบกลับมา“ไวเคาต์สตาร์ฟอร์ด… หัวหน้าองค์รักหลวงของราชวงศ์”……………………………………………..
คอมเม้นต์