ราชันเร้นลับ 770 : เป็นเด็กก็ต้องทำตัวให้เหมือนเด็ก
มิสเตอร์ X กำลังมองหาคนที่โชคร้ายอย่างผิดวิสัย? เหนือสายหมอกสีเทา ไคลน์ไตร่ตรองข้อมูลที่มิสเมจิกเชี่ยนมอบให้ พยายามวิเคราะห์หาประโยชน์จากมันหลังจากใคร่ครวญสักพัก ชายหนุ่มตัดสินใจมองจากมุมอื่น นั่นคือการนึกทบทวนว่ามีคนที่กำลังโชคร้ายอย่างผิดวิสัยอยู่ใกล้ตัวหรือไม่ และมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับมิสเตอร์ Xอา… แอนเดอร์สัน·ฮู้ด นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลหมอก ก็อาจเข้าข่าย… นายแพทย์อลัน·คริสต์ก็อีกหนึ่ง… หืม… พวกเขาล้วนได้รับผลกระทบจาก ‘อสรพิษแห่งชะตา’ … ‘เทวทูตโชคชะตา’ โอโรเลอุสคือหนึ่งในผู้ก่อตั้งกุหลาบไถ่บาป องค์กรที่คอยสนับสนุนและศรัทธาในพระผู้สร้างแท้จริง… ชุมนุมแสงเหนือเองก็เปรียบดังศาสนาของพระผู้สร้างแท้จริง… สมมติฐานมากมายผุดขึ้นในความคิดไคลน์ เกิดเป็นข้อสรุปอย่างรวดเร็ว‘เทวทูตโชคชะตา’ โอโรเลอุสกำลังตามล่า ‘อสรพิษปรอท’ วิล·อัสติน!มันสั่งให้คนของชุมนุมแสงเหนือช่วยตามหา ‘อสรพิษปรอท’ วิล·อัสติน!และนั่นหมายความว่า เบื้องหลังมิสเตอร์ X – สักแห่งภายในกรุงเบ็คลันด์ – มีราชาเทวทูตซ่อนอยู่!ในสถานการณ์แบบนี้ การลอบฆ่ามิสเตอร์ X เท่ากับรนหาความตาย… เข้าใจแล้วว่าทำไมมิสเตอร์ X ถึงไม่แยแสความน่ากลัวของเบ็คลันด์… หน่วยพิเศษในเมืองหลวงคงเข้าใจว่า เบื้องหลังของมิสเตอร์ X คงมีระดับไม่แข็งแกร่งไปกว่านักบุญ… อา… ในเอกสารทางการ ผู้นำสูงสุดของชุมนุมแสงเหนือเป็นเพียงระดับนักบุญจำนวนห้าตน… หากเป็นแบบนี้ พวกเขาจะลงมือด้วยข้อมูลที่ผิดพลาด… หลังจากไคลน์ไตร่ตรองอย่างละเอียด ความคิดแรกคือการปฏิเสธงานของมิสเมจิกเชี่ยน และตักเตือนอีกฝ่ายว่าอย่ายุ่งกับมิสเตอร์ Xหากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับ ‘อสรพิษปรอท’ วิล·อัสติน และเอกสารของเหยี่ยวราตรีเคยบันทึกความโชคร้ายของอลัน·คริสต์เอาไว้ ไคลน์คงบอกให้มิสเมจิกเชี่ยนรายงานเรื่องของ ‘เทวทูตโชคชะตา’ โอโรเลอุสและมิสเตอร์ X กับโบสถ์รัตติกาล!ชายหนุ่มสงบสติอารมณ์สักพัก เสก ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ บังคับให้สวดวิงวอนท่ามกลางหมอกสีเทา“…ผมขอยืนยันสถานการณ์ก่อน จะตอบกลับในวันพรุ่งนี้”ชายหนุ่มไม่ได้ตอบปฏิเสธทันที เพราะจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับ ‘อสรพิษปรอท’ วิล·อัสตินให้แน่ใจก่อน!จากนั้น มันกลับสู่โลกแห่งความจริง นำนกกระเรียนกระดาษที่เปราะบางออกจากกระเป๋าสตางค์อย่างระมัดระวัง ขยับเบาๆ เพื่อคลี่ออกไคลน์ไม่รีบร้อนเขียนเนื้อหา ก่อนอื่น มันนึกถึงคำถามที่ต้องการปรึกษา เขียนแบบร่างจนมั่นใจ ก่อนจะนำดินสอมาเหลาให้ปลายแหลมมากๆหลังจากเกร็งกล้ามเนื้อ ไคลน์ลงมือเขียน“สมาชิกของชุมนุมแสงเหนือกำลังมองหาคนที่โชคร้ายเป็นพิเศษ”“คุณรู้วิธีสร้างยันต์จาก ‘หนอนกาลเวลา’ หรือไม่?”“เลือดจากสายสะดือของคุณถือเป็นเลือดของสัตว์ในตำนานไหม? ถ้าเป็น ผมต้องการหนึ่งหยด ราคาเท่าไร?”เดิมที ไคลน์อยากถามวิล·อัสตินว่า เหตุใดอีกฝ่ายถึงยังครองสติไว้ได้ เพราะเอกสารหลายฉบับจากโบสถ์หลักระบุตรงกันว่า โลกนี้ไม่มีการบูชา ‘อสรพิษแห่งชะตา’ อย่างกว้างขวาง แต่สุดท้าย ชายหนุ่มหักห้ามใจตัวเอง เพราะกลัวว่าวิล·อัสติน – ทารกน้อยในครรภ์มารดา จะตอบกลับมาว่า “แล้วเจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าข้ายังไม่เสียสติ?”หากเป็นเช่นนั้นจริง ไคลน์ไม่มีทางรู้เลยว่าอีกฝ่ายพูดจริงหรือล้อเล่นอา… แม้จะไม่มีองค์กรใดนับถือ ‘อสรพิษแห่งชะตา’ อย่างจริงจัง แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่นับถือ ‘เทพแห่งโชคลาภ’ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน… บางที เทพเหล่านี้อาจเป็นร่างอวตารของวิล·อัสตินหรือโอโรเลอุส… ไคลน์พึมพำเงียบ อาศัยพลังตัวตลกเพื่อพับกระดาษกลับไปเป็นนกกระเรียน สอดไว้ใต้หมอนจัดการทั้งหมดเสร็จ มันมีเวลาคำนวณว่าตนเหลือเงินสดอยู่เท่าไร17,046 ปอนด์ ห้าเหรียญทอง สามซูล แปดเพนนี… หากเรามีทรัพย์สินจำพวกบ้าน คฤหาสน์ และหุ้นของบริษัทสักแห่ง เราจะกลายเป็นมหาเศรษฐีของกรุงเบ็คลันด์ได้ไม่ยาก… แน่นอน ยังห่างไกลกับอภิมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของเมืองหลวงอยู่หลายขุม แต่ละคนมีทรัพย์สินรวมกันหลักล้านปอนด์ขึ้นไป… ไคลน์ที่กำลังดีใจกับความร่ำรวย ฉุกคิดได้ว่าตนยังเป็นหนี้อยู่ และยังต้องลงทุนอีกมาก เพื่อจะทำให้ตัวละครปัจจุบันมีความสมจริงมันจิบน้ำหนึ่งอึก นอนลงบนเตียง คลุมตัวด้วยผ้านวมผืนเบาแต่อบอุ่น ค่อยๆ หมดสติและหลับไปท่ามกลางภวังค์ความฝัน ไคลน์ตื่นขึ้น รอบตัวคือทุ่งกว้างอันรกร้างชายหนุ่มเดินเข้าไปในยอดหอคอยแหลมสีดำที่ตั้งอยู่กึ่งกลางทุ่งกว้าง ผ่านโครงสร้างอาคารที่ซับซ้อนและพิสดารจนกระทั่งถึงส่วนลึกของหอคอย และเฉกเช่นทุกครั้ง ภายในห้องเต็มไปด้วยไพ่ทาโรต์วางกระจัดกระจายทว่า บนพื้นยกสูงใจกลางกองไพ่ทาโรต์ คราวนี้กลับไม่มีข้อความสีเงินปรากฏวิล·อัสตินไม่ได้ตอบเรา… แล้วดึงเข้าสู่ความฝันทำไม? ขณะไคลน์ผุดคำถาม มันเหลือบไปเห็นรถเข็นทารกสีดำค่อยๆ ขยับออกจากเงามืด ด้านในคือภาพอันเลือนรางของทารกที่ถูกห่อด้วยเส้นไหมสีเงิน!“…มิสเตอร์อสรพิษแห่งชะตา?” ไคลน์ถามอย่างสุภาพและระมัดระวังทารกเปล่งเสียงกระจ่างใส“ทำไมเจ้าถึงมั่นใจว่าเป็นมิสเตอร์?”ไม่ใช่เพราะชื่อรึไง? ใครจะสนรายละเอียดกันเล่า! ไคลน์รำพัน แต่เนื่องจากอีกฝ่ายมีท่าทีผ่อนคลาย ตัวมันจึงไม่ได้ตึงเครียด“ถ้าอย่างนั้น จะให้ผมเรียกคุณว่าอะไร”ทารกวิล·อัสตินนิ่งไปสักพัก กล่าวอย่างเขินอาย“ข้ายังไม่ได้คิดไว้… ก็อย่างที่เจ้าทราบ… ไม่สิ เจ้ายังไม่ทราบ ทุกครั้งที่เริ่มต้นใหม่ ข้าจะทำให้ตัวเองแตกต่างจากเดิมเสมอ เพื่อคงสภาพจิตใจเอาไว้… เป็นเด็กก็ต้องทำตัวเหมือนเด็ก”ฟังจบ ไคลน์เริ่มใจเต้น“นี่คือวิธีที่เส้นทาง ‘สัตว์ประหลาด’ ใช้สำหรับครองสติและต่อสู้กับความบ้าคลั่ง?”วิล·อัสตินซึ่งนอนอยู่ในรถเข็นสีดำ ตอบกลับอย่างรวดเร็ว“ถูกต้อง ทุกครั้งที่เริ่มต้นใหม่ ความบ้าคลั่งจะถูกลบล้างออกไปพร้อมกัน ทว่า ข้ายังต้องการผู้ศรัทธาในปริมาณพอสมควร ไม่อย่างนั้นจะมิอาจรักษาสถานภาพของลำดับ 1 ได้นานนัก… หึหึ เมื่อเทียบกับคราวก่อน เจ้ามีความรู้มากขึ้นเรื่อยๆ”หืม… นอกเหนือจากการสร้าง ‘หลักยึดเหนี่ยว’ ยังมีวิธีอื่นที่ครึ่งเทพสามารถใช้ต่อต้านอาการเสียสติ… ทว่า การ ‘เริ่มต้นใหม่’ ถือเป็นพลังพิเศษเฉพาะตัวของ ‘อสรพิษปรอท’ ลำดับ 1 แห่งเส้นทางสัตว์ประหลาด ผู้วิเศษคนอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้… มิสเตอร์อะซิกต้องสูญเสียความทรงจำและคอยฟื้นฟูกลับคืนมาใหม่ หรือนั่นก็เป็นวิธีขัดความบ้าคลั่งอีกหนึ่งแนวทาง? ไคลน์พยักหน้าครุ่นคิด“ผมสงสัยว่า โอโรเลอุสกำลังสั่งให้คนของชุมนุมแสงเหนือตามล่าคุณ”วิล·อัสตินพ่นลมหายใจ“ข้ากับเจ้านั่นเล่นซ่อนหากันมานาน และมันก็ไม่ถนัดเรื่องแบบนี้… ข้ามั่นใจว่าเจ้านั่นไม่เคยมีวัยเด็ก ทุกครั้งที่เริ่มเต้นใหม่ โอโรเลอุสจะเติบโตขึ้นเคียงข้างพระผู้สร้างแท้จริง ขาดประสบการณ์และสภาพจิตใจของแต่ละช่วงอายุ นั่นทำให้มันขาดสติในบางครั้ง แต่แน่นอน เจ้านั่นไม่แยแส… ข้าบอกให้ริคคาร์ดใช้ ‘ลูกเต๋าความน่าจะเป็น’ เพื่อทิ้งกลิ่นอายไว้ในบางจุด สิ่งนี้จะทำให้ประสาทสัมผัสของโอโรเลอุสสับสน อีกไม่นานมันก็จะออกจากเบ็คลันด์”กล่าวอีกนัยหนึ่ง เรายังมีโอกาสลอบสังหารมิสเตอร์ X… อา… เมื่อถึงตอนนั้น ไว้ค่อยทำนายยืนยันอันตรายบนมิติสายหมอก… ไคลน์ไม่สานต่อบทสนทนาเดิม เปลี่ยนไปถามเรื่องอื่น“คุณรู้วิธีสร้างยันต์จาก ‘หนอนกาลเวลา’ ไหม?”วิล·อัสตินในรถเข็นเด็กไม่ตอบทันที ย้อนถามเชิงโวหาร“เจ้าได้รับหนอนกาลเวลามาจากพาลีส·โซโรอาสเตอร์?”“คุณรู้ได้ยังไง?” ไคลน์ผงะสองสามวินาทีก่อนจะถามกลับชายหนุ่มมิได้ตกตะลึงในเรื่องที่วิล·อัสตินทราบว่า ‘หนอนกาลเวลา’ เกิดจากผู้วิเศษลำดับใด เพราะท้ายที่สุดแล้ว มีครึ่งเทพของเส้นทาง ‘นักจารกรรม’ ไม่มากนักที่สามารถสร้างร่างอวตารได้ด้วยหนอนกาลเวลา แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ทำไมอสรพิษปรอทถึงไม่เดาว่าเป็น ‘ผู้เย้ยเทพ’ อามุนด์? เพราะรายหลังก็สามารถทิ้งหนอนกาลเวลาได้เช่นกัน!วิล·อัสตินยิ้มและพูด“พาลีส·โซโรอาสเตอร์ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก จำต้องเป็นปรสิตอยู่ในร่างอดีตเพื่อนร่วมงานของเจ้า อา… จริงสิ อดีตเพื่อนร่วมงานของเจ้ากำลังตามสอบสวนเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ เขาเคยบุกมาที่บ้านของข้ากลางดึก… ข้าสังเกตเห็นความปรกติบางอย่างในตัวเจ้านั่น จึงมอบโชคร้ายระยะสั้นให้เป็นบทเรียน ให้เขาต้องเผชิญหน้ากับครึ่งเทพตนอื่นที่ซ่อนตัวอยู่ในกรุงเบ็คลันด์… และเมื่อตกอยู่ในอันตราย พาลีส·โซโรอาสเตอร์ก็ต้องออกมาช่วยแน่นอน… ฮะฮะ! แต่อันที่จริง ไม่สำคัญว่าพาลีสจะออกโรงหรือไม่ ข้าแค่แกล้งเล่นเท่านั้น หากตกอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเมื่อไร ข้าจะมอบโชคดีให้กับอดีตเพื่อนร่วมงานของเจ้าอย่างทันท่วงที”เลียวนาร์ดกำลังตามสืบสวนเชอร์ล็อก·โมเรียตี้? คุณปู่ในร่างเลียวนาร์ดมีชื่อว่า พาลีส·โซโรอาสเตอร์… ไคลน์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเลียวนาร์ดถึงต้องสอบสวนเชอร์ล็อกวิล·อัสตินเล่าต่อ“สำหรับเจ้า การสร้างยันต์จากหนอนกาลเวลาไม่ใช่ที่เรื่องยากเกินไป สามารถทำได้โดยการสวดวิงวอนถึง ‘ความพิเศษ’ ในตัว วัสดุหลักคือปรอทและเงินบริสุทธิ์ จากนั้นก็เขียนสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องลงไป”ง่ายๆ แบบนี้เลย? แค่สวดวิงวอนถึงเดอะฟูล? นั่นสินะ เห็นได้ชัดว่ามิติลึกลับเหนือสายหมอกสีเทามักดึงดูดเส้นทาง ‘นักจารกรรม’ ให้เข้ามาใกล้เราเสมอ… ไคลน์ตื่นเต้นเมื่อเริ่มเข้าใจบางสิ่งอย่างคลุมเครือขณะเดียวกัน วิล·อัสตินยิ้มและพูดเสริม“แต่จะเป็นสัญลักษณ์อะไรนั้น… ข้าเองก็ไม่ทราบ”“…” หักมุมอะไรขนาดนี้… ใบหน้าไคลน์กระตุกเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าวิล·อัสตินหยุดพูด ชายหนุ่มยิ้ม“ยังมีอีกหนึ่งคำถาม เลือดจากสายสะดือของคุณ…”ยังไม่ทันกล่าวจบ วิล·อัสตินอ้าปากกว้าง แหกปากร้องออกมาเสียงดัง“อุแว๊~”มันร้องงอแงเหมือนกับเด็กทารกตัวจริง“…” จะคุยกันดีๆ ไม่ได้หรือ? ไคลน์ถึงกับปวดหัวหากไม่มีการยืนยันในตอนแรก ชายหนุ่มคงเกิดคำถามว่า ทารกตรงหน้าคือผู้วิเศษลำดับ 1 จริงหรือ? เป็นผู้นำสูงสุดขององค์กรลับเก่าแก่อย่างโรงเรียนชีวิตแน่ใช่ไหม?“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว… ผมแค่อยากรู้ว่า เลือดของคุณถูกนับให้เป็นเลือดของสัตว์ในตำนานหรือไม่?” ไคลน์กล่าวพลางยกมือครึ่งหนึ่งวิล·อัสตินหยุดร้องไห้ ตอบด้วยรอยยิ้ม“แน่นอน แต่ข้าจะแอบเปลี่ยนสายสะดือล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นทุกคนในห้องคลอดจะตายกันหมด”มันเว้นวรรคเล็กน้อย“หากเจ้าตอบแทนด้วยสิ่งที่เหมาะสม แค่หนึ่งหยดข้ามอบให้ได้… เอาล่ะ ไว้พบกันใหม่!”วิล·อัสตินกล่าวจบ ไคลน์พลันตระหนักถึงการสั่นไหวของหอคอย ฉากความฝันแตกสลายอย่างรวดเร็วเพียงไม่นาน มันลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง………………………………………………..
คอมเม้นต์