ราชันเร้นลับ 764 : สอบปากคำครั้งแรก
ราชันเร้นลับ 764 : สอบปากคำครั้งแรก
โดย
Ink Stone_Fantasy
ขณะได้ยินเสียงวิงวอนมายา ไคลน์กำลังนั่งบนรถม้า อยู่ระหว่างทางกลับไปยังถนนเบิร์คลุนจากโบสถ์นักบุญแซมมวลผู้หญิง… ไม่เร่งด่วน… ฟังจบ ชายหนุ่มทำได้เพียงประเมินเบื้องต้น มิอาจตอบสนองได้ทันทีมองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นโคมไฟสลัวบนถนน ไคลน์ถอนสายตากลับ ยกถ้วยชากระเบื้องเคลือบเลี่ยมทองขึ้น จิบหนึ่งคำริชาร์ดสันด้านข้างเห็นเช่นนั้น รวบรวมความกล้าและพูดออกมา“นายท่าน ผมตัดสินใจได้แล้ว… นายท่านพูดถูก ทุกคนล้วนไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนทั้งนั้น จึงค่อยเติบโตขึ้นและสั่งสมประสบการณ์ในภายหลัง… ขอบคุณที่มอบโอกาสให้ผมได้เติบโต”หลังจากยืนยันว่าโกดอปุสและแก๊งเสียชีวิต ในที่สุดมันก็เลิกกังวล หันมาคิดถึงเส้นทางอาชีพอย่างจริงจังสำหรับบุรุษรับใช้ การเปลี่ยนนายจ้างอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาสั้นๆ ถือเป็นมลทินติดตัว หากลาออกจากดอน·ดันเตส ริชาร์ดสันมองว่าคงไม่มีใครอยากจ้างตนไปเป็นบุรุษรับใช้อีกสำหรับมัน นี่คือความเสียหายใหญ่หลวง!เพราะนอกจากบุรุษรับใช้ส่วนตัวจะมีรายได้ขั้นต่ำยี่สิบห้าปอนด์ต่อปี ดีกว่าตำแหน่งอื่นทั้งหมดที่ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร เทียบเท่าได้กับสาวใช้ส่วนตัวของนายหญิง บุรุษรับใช้และสาวใช้ส่วนตัว ยังเป็นตำแหน่งที่มีโอกาสไต่เต้าไปเป็นพ่อบ้านแม่บ้านมากที่สุด!การได้ติดตามรับใช้เจ้านายชายและหญิงอย่างใกล้ชิด จะช่วยพัฒนาทักษะให้พวกเขาในหลายด้าน ทั้งการเป็นปากเสียงแทนเจ้านาย คอยช่วยงานจิปาถะ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเรียนรู้งานของพ่อบ้านทีละนิด และถ้ากลายเป็นคนที่นายจ้างไว้ใจเมื่อ ขอเพียงรอคอยโอกาสอย่างใจเย็น บุรุษรับใช้สามารถเลื่อนขึ้นไปเป็นผู้จัดการคฤหาสน์ ผู้ช่วยพ่อบ้าน และรองพ่อบ้านได้ไม่ยาก จนกระทั่งได้รับตำแหน่งพ่อบ้านในท้ายที่สุดริชาร์ดสันปรารถนาชีวิตอันสงบสุขก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นคนรับใช้ไปตลอด เฉกเช่นทุกคน เป้าหมายของริชาร์ดสันคือความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ถูกเลื่อนขั้นและเพิ่มค่าแรง ปลายทางสุดท้ายคือการได้เป็นพ่อบ้านของตระกูลที่ร่ำรวยสักแห่ง“เข้าใจก็ดีแล้ว ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป” ไคลน์ตอบด้วยรอยยิ้ม เป็นนัยอนุญาตให้ริชาร์ดสันอยู่ต่อกลับถึงบ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน ชายหนุ่มบอกแม่บ้านทาเนญ่าให้สั่งพ่อครัวเตรียมของกินเล่นตอนห้าทุ่มครึ่ง จากนั้นก็เดินจากชั้นหนึ่งขึ้นไปยังชั้นสาม ถอดเสื้อคลุม เข้าห้องน้ำปัจจุบัน แม่บ้านได้เตรียมน้ำอุ่นอุณหภูมิพอเหมาะไว้ในอ่างอาบน้ำล่วงหน้าห้านาทีไคลน์ไม่รีบอาบ ส่งตัวเองเข้าสู่มิติหมอกเทาไปก่อน ระบุว่าใครเป็นคนสวดวิงวอนมิสเตอร์ X… นักท่องเที่ยว… มิสเมจิกเชี่ยนทำได้ไม่เลว… เธอพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง… ไคลน์รำพันสองสามคำหลังจากครุ่นคิดสักพัก ชายหนุ่มเสก ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ บังคับให้หุ่นเชิดดังกล่าวแสร้งสวดวิงวอนในมิติสายหมอก“…ผมต้องการข้อมูลด้านวันเวลา สถานที่ และรายละเอียดเพิ่มเติม ถึงตอนนั้นค่อยตัดสินใจเรื่องการลงมือ”ความคิดไคลน์ไม่ซับซ้อน มันกำลังเล็งที่จะช่วงชิงพลัง ‘นักท่องเที่ยว’ มาเป็นของตน อย่างไรก็ตาม ดอน·ดันเตสไม่สามารถออกจากถนนเบิร์คลุนหรือหมกตัวอยู่ในห้องได้นานนัก หากมิสเมจิกเชี่ยนสามารถหาข้อมูลโดยละเอียดและน่าเชื่อถือ การลงมือลอบสังหารก็จะลุล่วงไปด้วยดี แต่ถ้าปล่อยให้เดอะเวิร์ลออกไปหาข้อมูลด้วยตัวเอง แผนการคงสำเร็จได้ยาก แถมยังกระทบกับเป้าหมายหลัก‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สตอบกลับอย่างรวดเร็ว“…ฉันจะพยายามรวบรวมให้เร็วที่สุด”เนื่องจากการชุมนุมของมิสเตอร์ X มิได้ระบุว่าจะจัดขึ้นเมื่อไรและที่ใดในครั้งถัดไป ดังนั้น เธอทำได้เพียงรอคอยอย่างอดทนสะสางปัญหาเสร็จ ไคลน์กลับสู่โลกความจริง ถอดเสื้อผ้าออก นอนแช่ในอ่างน้ำเมื่อน้ำอุ่นโอบกอดร่างกาย ชายหนุ่มหลับตาลงด้วยความรู้สึกผ่อนคลายสุดขีด พบว่าความเหนื่อยล้าทางร่างกายและใจได้ถูกชำระล้างในช่วงหลายวันมานี้ มันแวะเวียนไปยังวิหารนักบุญแซมมวลอย่างต่อเนื่องเพื่อฟังสวดพระคัมภีร์ ‘วิวรณ์แห่งรัตติกาล’ จากบิชอปอีเล็คตร้า นอกจากนั้นยังจดจำรูปลักษณ์ของ ‘ผู้คุม’ ภายในได้เพิ่มอีกสองคน ทว่า เนื่องจากยังไม่พบคนซ้ำเดิม ไคลน์จึงไม่สามารถระบุตารางการเข้าเวรของผู้คุมแต่ละคนได้ถ้าทำมากกว่านี้ เราเดือดร้อนแน่… ไคลน์ลืมตาขึ้น มองไปยังกลุ่มหมอกบนเพดานห้องน้ำ ถอนหายใจเงียบ“การสอบปากคำครั้งแรกคงเกิดขึ้นเร็วๆ นี้”บุคคลที่เข้าออกบริเวณส่วนในของวิหารนักบุญแซมมวลบ่อยครั้ง มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกเหยี่ยวราตรีสืบสวน และเมื่อต้นกำเนิดของดอน·ดันเตสไม่ชัดเจน คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกสอบปากคำหากไม่มีการสืบสวน สำหรับเหยี่ยวราตรี นี่จะถือเป็นความบกพร่องอย่างร้ายแรง… ไคลน์ค่อยๆ ถอนหายใจ…ในห้องใต้ดินของวิหารนักบุญแซมมวล เลียวนาร์ดเดินอย่างเชื่องช้าออกจากห้องที่เงียบสงัดดวงตาสีเขียวของมันดูคล้ายกับกำลังอัดแน่นไปด้วยของเหลวลึกลับสีดำ ภายในนั้นยังมีฟองอากาศมายาและระลอกคลื่นจำนวนมาก สลับกันปรากฏขึ้นและหายไป“ไม่เลวนี่… คุณได้เป็น ‘นักปลอบวิญญาณ’ ค่อนข้างเร็วทีเดียว อีกไม่นานก็คงไล่ตามฉันทัน” ดาลีย์·ซิโมเน่ที่ยืนริมโถงทางเดิน กล่าวแสดงความยินดีด้วยถ้อยคำคล้ายกำลังจิกกัดตัวเองเธอยังคงสวมเสื้อคลุมสีดำทรงโบราณแบบมีผ้าคลุมหัว ขอบตาและแก้มทาด้วยสีฟ้า งดงามอย่างเป็นเอกลักษณ์เมื่อเลียวนาร์ดหันไปเห็นสตรีที่ตนรู้จักดี มันพบว่าบรรยากาศรอบตัวอีกฝ่ายเยือกเย็นกว่าสมัยก่อนเล็กน้อย คล้ายกับมีเงาดำจำนวนนับไม่ถ้วนซุกซ่อนรอบตัว ชั้นแล้วชั้นเล่า ลุ่มลึกและเย็นเยียบ“ไม่จริงเลยสักนิด ผมยังห่างจากคุณมาก พิจารณาจากสภาพปัจจุบัน คุณคงพร้อมจะเลื่อนลำดับเป็น ‘ผู้เฝ้าประตู’ แล้ว” ต่อหน้าดาลีย์ เลียวนาร์ดไม่ทำตัวเป็นกันเองเกินไปนัก กล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ เพราะหากเผลอพูดติดตลก ฝ่ายที่ต้องอับอายจนหน้าแดงคงเป็นตน ไม่ใช่เธอ‘ผู้เฝ้าประตู’ หมายถึงลำดับ 5 ของเส้นทาง ‘มรณา’“พร้อมตั้งแต่สองเดือนก่อนแล้ว” ดาลีย์เล่าโดยไม่ปิดบัง สีหน้าบิดเบี้ยวเล็กๆเลียวนาร์ดเริ่มเข้าใจสาเหตุ พยักหน้าเล็กน้อยและถาม“ยังสะสมคะแนนผลงานไม่พอ?”ทันใดนั้น ดาลีย์เม้มปากตอบ“ใช่… มันเหมือนกับการนอนแก้ผ้าบนเตียง ทุกอย่างพร้อมแล้ว แต่ดันพบว่าถุงยางอนามัยในบ้านหมดเกลี้ยง และยังเป็นเวลากลางดึกสงัด ร้านค้าในบริเวณใกล้เคียงปิดไปหมดแล้ว!”อุปมาได้น่าทึ่งมาก… เลียวนาร์ดตอบสนองไม่ถูก ทำได้แค่ยิ้มและพูด“คุณควรรับคดีมาทำบ้างนะ”โดยไม่เปิดช่องให้ดาลีย์ มันชี้ไปยังอีกฝั่งของทางเดิน“หัวหน้าโซสต์กำลังรอผมเข้าไปรายงานผลการเลื่อนลำดับ”ดาลีย์ไม่กล่าวคำใด เฝ้ามองอีกฝ่ายเดินจากไปรอจนแผ่นหลังของชายหนุ่มหายไปจากมุมเสา สีหน้าหญิงสาวพลันเหม่อลอย กระซิบกระซาบกับตัวเอง“หัวหน้าโซสต์…”ภายในห้องที่เลียวนาร์ดและหน่วยถุงมือแดงใช้เป็นห้องทำงานชั่วคราว เมื่อโซสต์ผู้เพิ่งเลื่อนลำดับเป็น ‘จอมอาคมวิญญาณ’ เห็นลูกน้องมาดเกียจคร้านเดินเข้ามา มันโยนแฟ้มเอกสารไปหาอีกฝ่าย“เยี่ยม… คุณเลื่อนลำดับสำเร็จ เดี๋ยวผมจะแสดงความยินดีในภายหลัง ตอนนี้ไปตรวจสอบความฝันของเป้าหมายก่อน”แม้จะเป็นเวลากลางดึก แต่สำหรับเหยี่ยวราตรีซึ่งมีแกนหลักเป็น ‘ผู้ไร้หลับ’ นั่นไม่ต่างอะไรกับกลางวัน ตรงกันข้าม พวกมันมีแต่จะยิ่งแข็งแกร่ง“ไม่ใช่งานของเหยี่ยวราตรีท้องถิ่นรึไง?” เลียวนาร์ดรับแฟ้มเอกสาร ถามโดยไม่มองหน้า“ช่วงนี้พวกเขากำลังงานยุ่ง คนไม่พอ ก็เลยขอความช่วยเหลือมาถึงเรา” โซสต์อธิบายกระชับเลียวนาร์ดไม่ถามอะไรอีก ลดศีรษะลง พลิกอ่านเอกสารสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาของมันคือภาพถ่ายหนึ่ง ไม่ใช่ใครนอกจากสุภาพบุรุษคนที่มันเคยให้ความสนใจ!ดอน·ดันเตส… รูม่านตาเลียวนาร์ดหดลงกะทันหันมันรู้จักชายคนนี้ ทราบว่าอีกฝ่ายคือสัตว์ประหลาดที่รอดชีวิตมาจากยุคสมัยที่สี่ อย่างน้อยก็ระดับนักบุญหรือมากกว่า!เขารู้ความลับของเรา รู้จักตัวจริงของตาแก่… เลียวนาร์ดยกมือขึ้นตามสัญชาตญาณ บีบนวดขมับตัวเอง“หัวหน้าโซสต์ ผมเพิ่งเลื่อนลำดับ พลังวิญญาณยังไม่ค่อยเสถียร”“จริงด้วย…” โซสต์ตระหนักว่าตนทำพลาด จึงหันไปทางถุงมือแดงอีกคนด้านข้าง “อัลเบิร์ต คุณไปแทน”ชายที่ชื่ออัลเบิร์ตมีอายุราวสามสิบ ผมสีเหลือง ผิวซีดเล็กน้อย ร่างกายดูคล้ายกับไม่แข็งแกร่งเลียวนาร์ดถอนหายใจโล่งอก ยื่นเอกสารในมือให้อีกฝ่ายทันใดนั้น หัวใจของมันเริ่มเต้นแรงพร้อมกับคำถาม : อัลเบิร์ตจะไม่เป็นอันตรายเอาหรือ หากเข้าไปสำรวจความฝันของสัตว์ประหลาดอายุยืนนั่น?เลียวนาร์ดเริ่มนึกเสียใจ คิดว่าตนควรทำงานนี้ด้วยตัวเองมากกว่า เพราะอย่างน้อยก็ทราบถึงอันตราย และมีวิธีลงมืออย่างนุ่มนวลโดยไม่ให้อีกฝ่ายขุ่นเคืองไม่สิ… ดอน·ดันเตสคงไม่กล้าทำอะไรอัลเบิร์ต… หากเขาตอบสนองด้วยวิธีรุนแรงเกินไปจนเกิดความผิดปรกติขึ้นกับอัลเบิร์ต เมื่อถึงตอนนั้น ทุกคนจะทราบทันทีว่าเขาคือตัวปัญหา… ด้วยความแข็งแกร่งของโบสถ์และหน่วยพิเศษในกรุงเบ็คลันด์ เขาไม่สามารถรอดออกไปจากมหานครแห่งนี้อย่างมีชีวิต… เลียวนาร์ดสงบจิตใจ เชื่อว่าดอน·ดันเตสจะใช้วิธีที่นุ่มนวลเพื่อหลีกเลี่ยงการสอบปากคำในฝันมันดึงเก้าอี้ออก นั่งลงข้างๆ อัลเบิร์ต ท่าทางคล้ายกับกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อย่างไม่แยแส แต่ในความเป็นจริง มันกำลังจับตามองความผิดปรกติที่อาจเกิดขึ้นกับอัลเบิร์ตได้ทุกเมื่อ…บ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุน ภายในห้องนอนใหญ่ไคลน์ตื่นขึ้นในความฝัน ตระหนักว่ามี ‘คนนอก’ บุกรุกเข้ามาสอบปากคำ? เหยี่ยวราตรี? ชายหนุ่มพึมพำ มองไปรอบตัว พบว่าตนกำลังอยู่ในห้องกึ่งเปิดโล่งถัดมาหนึ่งอึดใจ ชายหนุ่มได้ยินเสียงเคาะประตู“เข้ามา…” ไคลน์พยายามอย่างหนักเพื่อดัดเสียงให้ฟังดูเหมือนล่องลอยลูกบิดถูกหมุน บานประตูเปิดออก สุภาพบุรุษในเสื้อกันลมสีดำ ผมสีเหลือง หุ่นผอมบางเดินเข้ามาในห้อง ไม่ใช่ใครนอกจากถุงมือแดง อัลเบิร์ต“ผมคือผู้กำกับการประจำกรมตำรวจเบ็คลันด์” อัลเบิร์ตแสดงหนังสือรับรอง นั่งลงฝั่งตรงข้ามไคลน์“มีเรื่องอะไรหรือ คุณตำรวจ?” ไคลน์ตีเนียนมันทราบว่า หากถูกบุกรุกความฝันด้วยพลังของฝันร้าย ตนต้องทำตัวให้ปรกติเข้าไว้อัลเบิร์ตเสกกระดาษขึ้นมาปึกหนึ่ง กล่าวเสียงต่ำ“ดอน·ดันเตส เพศชาย โสด มาจากแคว้นเดซีย์…”มันอ่านข้อมูลที่รวบรวมมาได้อย่างคร่าวๆ ตามด้วยการตั้งคำถาม“ทั้งหมดเป็นความจริงหรือไม่?”“จริงบางส่วน เท็จบางส่วน” ไคลน์ในความฝันตอบอย่าง ‘ซื่อตรง’ส่วนจริงมีแค่สองเรื่อง… ‘เพศชาย’ และ ‘โสด’ … มันหัวเราะในใจเมื่อพบความผิดปรกติอย่างรวดเร็ว อัลเบิร์ตผุดความสุขเล็กๆ พลางซักถามขณะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย“เรื่องใดที่เป็นเท็จ”ไคลน์ที่เตรียมคำตอบไว้พร้อมแล้ว แสร้งทำเป็นนึกทบทวน“ความร่ำรวยของผมมิได้มาจากเหมืองแร่ แต่เกิดจากการผจญภัยในทวีปใต้”ชายหนุ่มนำคำบอกเล่าของแอนเดอร์สันเกี่ยวกับสถานการณ์ของไบลัมตะวันตก มาผสมผสานกับวิธีที่ชาวบ้านธรรมดาจะอาศัยอยู่ในเขตซึ่งมีการปะทะกันระหว่างกองทัพโลเอ็นและอินทิสอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐีคนหนึ่งที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ด้วยฝีปาก ประสบการณ์ และความชำนาญรายละเอียดมิได้ถูกเล่าอย่างลงลึก จุดประสงค์มีเพียงการโน้มน้าวให้เหยี่ยวราตรีทราบว่า ดอน·ดันเตสเป็นคนธรรมดาที่รักในการผจญภัยไม่ใช่ผู้วิเศษแต่อย่างใด เป็นคนประเภทที่พบเห็นได้ง่ายในโลเอ็น……………………………………………..
คอมเม้นต์