ราชันเร้นลับ 755 : โอเปอเรเตอร์
มีจดหมายส่งมา? วอลเตอร์บอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่บ้านไม่ใช่หรือ? ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในเบ็คลันด์ หากเกิดอะไรขึ้น การนั่งรถม้าเช่ามาบอกเองไม่เร็วกว่าส่งจดหมายรึไง? ด้วยรายได้ปัจจุบันและการมีที่ดินในแถบชนบท การเช่ารถม้าทำได้อยู่แล้ว… ไคลน์ผงกศีรษะเงียบงัน ราวกับไม่ได้สนใจคำตอบเมื่อครู่นักชายหนุ่มเดินอย่างไม่รีบร้อนไปทางเก้าอี้เอนหลัง นั่งลง หยิบหนังสือพิมพ์และเริ่มอ่านอย่างจริงจังริชาร์ดสันเห็นดังนั้นจึงไม่พูดอะไรมาก เดินถอยหลังออกจากห้อง ปิดประตูไม้ด้วยความเงียบเชียบรอจนกระทั่งเสียง ‘กริ๊ก’ ดังขึ้น ไคลน์ถอนสายตาจากหนังสือพิมพ์ มองไปทางประตูและครุ่นคิดเราค้นพบข้อดีอีกอย่างหนึ่งของริชาร์ดสันแล้ว… ชายคนนี้ชอบสังเกตสิ่งรอบตัว เป็นประโยชน์ต่อการรวบรวมข้อมูลสำคัญ… ในตอนที่บิชอปอีเล็คตร้าและสามีภรรยามัคท์มาเยือน ริชาร์ดสันเห็นก่อนใครจากบนระเบียง…แต่เขาไม่เหมือนกับผู้วิเศษเส้นทางผู้ชม มองเห็นเพียงผิวเผินของเหตุการณ์ ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด…ปัญหาของวอลเตอร์มีความน่าสงสัยเล็กๆ … หรือนี่จะเป็น ‘อนาคตที่น่าสนใจ’ ตามที่กระจกวิเศษอาโรเดสหมายถึง?แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เราควรทำนายตรวจสอบให้แน่ใจ จะไม่ได้ต้องเจ็บตัวกะทันหัน…คิดถึงตรงนี้ ไคลน์เข้าห้องน้ำภายในห้อง ถอยหลังสี่ก้าว ส่งตัวเองเข้าสู่ห้วงมิติเหนือสายหมอกสีเทา โดยทุกครั้งที่ปรากฏกายบนเก้าอี้ของเดอะฟูล แก่นแท้ของชายหนุ่มจะถูกแสดงเป็นภาพลักษณ์ของไคลน์·โมเร็ตติ ไม่ใช่เชอร์ล็อก·โมเรียตี้ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ หรือดอน·ดันเตสเนื่องจากยังขาดข้อมูล ไคลน์ทำได้เพียงทำนายถึงความปลอดภัยของตัวเอง เทคนิคทำนายฝันจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสม ชายหนุ่มปลดจี้ออกจากข้อมือซ้าย เขียนประโยคทำนายลงไป“ความผิดปรกติของวอลเตอร์จะนำพาอันตรายมาสู่เรา”มือซ้ายจับลูกตุ้ม หลับตาลง ไคลน์เข้าฌานพลางกระซิบข้อความบนกระดาษครบเจ็ดครั้ง มันลืมตาขึ้น มองไปยังโซ่เงิน เห็นจี้บุษราคัมกำลังหมุนทวนเข็มนาฬิกา ความเร็วและองศาการแกว่งอยู่ในระดับปรกติกล่าวอีกนัยหนึ่ง ความผิดปรกติของวอลเตอร์จะไม่นำพาอันตรายมาสู่ตนแต่นั่นบอกได้เพียงว่า เราจะไม่ได้รับอันตรายจากสาเหตุนี้… ยังมีความเป็นไปได้อีกทางหนึ่ง… ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา หากบุ่มบ่ามเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า จากไม่อันตรายจะกลายเป็นอันตราย… ไคลน์ตีความจากประสบการณ์อันยาวนานขณะชายหนุ่มสลัดเรื่องดังกล่าวออกจากหัว แสงจากดาวแดงตัวแทน ‘เฮอร์มิท’ พลันสว่างวาบ ยุบพองเล็กน้อยเธอเตรียมจ่ายค่า ‘ตาชั่งโชคชะตา’ หรือ? ไคลน์เผยสีหน้ายินดี รีบแผ่พลังวิญญาณเข้าไปหลังจากสัมผัส ชายหนุ่มต้องผิดหวัง เพราะ ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียาเพียงขอร้องให้มิสเตอร์ฟูลช่วยถ่ายทอดคำพูดของตนไปยังแฮงแมน ไม่ได้แจ้งเรื่องการชำระเงินค่าสินค้ากับเดอะเวิร์ลณ ‘วังวนนรก’ ที่อยู่ทางตอนเหนือของทะเลโซเนีย มีสัตว์ทะเลอ็อบนิสอาศัยอยู่? มิสเตอร์แฮงแมนไม่โชคดีไปหน่อยหรือ? อย่างน้อยก็ดีกว่าเรามาก ไม่ต้องเข้าไปเสี่ยงชีวิตในซากสมรภูมิแห่งเทพ… แต่ถึงอย่างนั้น สัตว์ทะเลอ็อบนิสก็ยังไม่ธรรมดาอยู่ดี ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แฮงแมนจะประกอบพิธีกรรมด้วยตัวเอง บางที อาจต้องขอความช่วยเหลือจากเทพสมุทร…สิ่งแลกเปลี่ยนที่มาดามเฮอร์มิทต้องการก็คือ ให้อีกฝ่ายช่วยตามหาทายาทสายเลือดแท้ของตระกูลอับราฮัม… หมายความว่า ราชินีเงื่อนงำพอจะทราบต้นกำเนิดของมิสเตอร์ประตู… จักรพรรดิเคยเล่าให้เธอฟัง? ไคลน์นึกทบทวนทำพูดของแคทลียาพลางส่งข้อความดังกล่าวเข้าไปดาวแดงตัวแทนแฮงแมนในเวลาเดียวกัน อัลเจอร์เพิ่งเสร็จจากการรายงานความคืบหน้า ผ่านการประเมินด้วยดี และกำลังกลับขึ้นมายังโทสะสีครามเมื่อเห็นสายหมอกสีเทาไร้ก้นบึ้งบดบังทัศนวิสัย และเมื่อได้ยินคำพูดของ ‘เฮอร์มิท’ มันเดินตรงไปยังห้องกัปตันด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในจังหวะก้าวเท้าเข้าห้อง ปิดประตู เดินมายังตู้เก็บเหล้า หยิบเครื่องดื่มของโปรดโจรสลัด ‘แลงติร้อนแรง’ ขึ้นมาหนึ่งขวด วางแก้วและเทลงไปครึ่งหนึ่งอัลเจอร์ยกแก้วจ่อริมฝีปาก กระดกราวกับของเหลวชนิดนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นเพียงน้ำเปล่าแก้วหนึ่งระหว่างนั้น ดวงตาของมันปิดลงเกือบครึ่ง คล้ายกับกำลังดำดิ่งในโลกส่วนตัวหลังจากดื่มแลงติร้อนแรงครึ่งแก้ว อัลเจอร์วางแก้วลง เช็ดปากและยิ้มทายาทของตระกูลอับราฮัม… อาจเป็นเรื่องยากในสายตาคนอื่น แต่กับเราแล้วง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก… สามารถถามจากมิสเมจิกเชี่ยนได้ทันที เพราะอาจารย์ของเธอมีสายเลือดดังกล่าว… หึหึ พลเรือเอกดวงดาวคงยังไม่รู้เรื่องนี้สินะ…ทว่า มันข่มอารมณ์อย่างรวดเร็ว เดินถอยหลังสองสามก้าว สลัดความคิดที่จะเอาเปรียบอีกฝ่าย ตอบสนองต่อคำขอร้องของ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาอย่างใจเย็นพลเรือเอกดวงดาวคงไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเราแค่คนเดียว เธอคงป่าวประกาศภารกิจนี้ในชุมนุมทาโรต์ครั้งหน้า… ยังมีอีกหลายคนที่ทราบว่าอาจารย์ของมิสเมจิกเชี่ยนเป็นคนของตระกูลอับราฮัม… เราควรเปิดเผยไปตามความจริง ไม่อย่างนั้นอาจเสียงานใหญ่เพียงเพราะความโลภเล็กๆ น้อยๆ … ในบางครั้ง ความซื่อสัตย์ก็เป็นตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด… อัลเจอร์หยุดเดิน ก้มศีรษะลงพลางเอ่ยพระนามเต็มของเดอะฟูลด้วยความเคารพ“เรียนท่านช่วยบอกกับมาดามเฮอร์มิทว่า เบาะแสเกี่ยวกับทายาทสายเลือดแท้ของตระกูลอับราฮัม สามารถถามเอาจากมิสเมจิกเชี่ยนได้โดยตรง”หลังจากสารภาพความจริงและบอกให้พลเรือเอกดวงดาวเปลี่ยนข้อเสนอ อัลเจอร์เริ่มเล่าถึงประสบการณ์ในคืนจันทราโลหิต ถามมิสเตอร์ฟูลว่า สิ่งนี้เกิดจากการที่หนังสือแห่งภัยธรรมชาติ ร้องประสานเสียงกับตะกอนพลัง ‘ผู้ขับขานสมุทร’ ของตนใช่ไหม และภายในวังปะการัง สตรีผู้ถือแก้วไวน์ทองคำคือ ‘ภัยธรรมชาติ’ โคฮีเน็ม ใช่หรือไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ? บางที ราชินีแห่งภัยธรรมชาติอาจตายไปแล้วจริง แต่ยังไม่สลายไปโดยสมบูรณ์… คงแบ่งตะกอนพลังออกเป็นหลายส่วน ส่วนแรกคือหนังสือภัยธรรมชาติ ส่วนที่สองอยู่ในซากโบราณสถานใต้ทะเล และอาจมีส่วนที่สามกับสี่ด้วย แต่เรายังไม่ทราบว่าอยู่ที่ใดบ้าง… ครุ่นคิดเรื่องของแฮงแมนเสร็จ ไคลน์มั่นใจทันทีว่าเอลฟ์ในความฝันของอีกฝ่ายคือ ‘ราชินีแห่งภัยธรรมชาติ’ โคฮีเน็ม!นี่ไม่ใช่สัญชาตญาณ แต่เป็นการอนุมานที่มีเหตุและผลรองรับในอดีต มันเคยครอบครองแก้วไวน์ทองคำที่ ‘ราชินีเอลฟ์’ โคฮีเน็มโปรดปราน และในความฝันของแฮงแมนก็มีภาชนะที่คล้ายคลึงกันอยู่‘ผู้ขับขานแห่งเอลฟ์’ เซียธาส มีข้อมูลเกี่ยวกับราชินีแห่งภัยธรรมชาติพอสมควร แถมยังเคารพเทวทูตตนนี้มาก แสดงให้เห็นว่า เธออาจจะเป็นหนึ่งใน ‘เอลฟ์บริวาร’ ของโคฮีเน็ม ตะกอนพลังที่เธอเหลือทิ้งไว้จึงร้องประสานเสียงกับ ‘หนังสือภัยธรรมชาติ’ ในคืนจันทราโลหิต…ถึงตรงนี้ ไคลน์เริ่มฉุกคิดบางสิ่งได้ นั่นก็คือ มันส่งแก้วไวน์ทองคำใบโปรดของโคฮีเน็มให้กับ ‘พลเรือโทธารน้ำแข็ง’ เอ็ดวิน่า และขอร้องให้อีกฝ่ายช่วยฝังภาชนะชิ้นนี้ลงไปในสุสานของเซียธาสหากราชินีแห่งภัยธรรมชาติยังไม่ร่วงหล่นโดยสมบูรณ์ การฝังแก้วไวน์ลงในหลุมศพเดียวกับเซียธาส จะทำให้ศพของ ‘เอลฟ์บริวาร’ เกิดกลายพันธุ์หรือไม่? ไคลน์คำนวณเวลาอย่างละเอียด แต่ก็ไม่มั่นใจว่าฝันทองคำแล่นถึงเกาะโซเนียแล้วหรือยังครุ่นคิดสักพัก ชายหนุ่มตอบแฮงแมนอย่างใจเย็น“ถูกต้อง”จากนั้น มัน ‘ส่ง’ คำพูดก่อนหน้าของแฮงแมน เข้าไปในดาวแดงที่เป็นตัวแทนของ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาจัดการทั้งหมดเสร็จ ไคลน์เสก ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์และบังคับให้สวดวิงวอน“เรียนมิสเตอร์ฟูล รบกวนช่วยบอกให้เดนิสถาม ‘พลเรือโทธารน้ำแข็ง’ เอ็ดวิน่าเกี่ยวกับความผิดปรกติศพของเซียธาสและแก้วไวน์ทองคำ”ฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจหลังจากเตรียมการเสร็จ โยนฉากดังกล่าวเข้าไปในจุดแสงสวดวิงวอนด้านข้างที่ทำเครื่องหมายไว้เป็นกรณีพิเศษ จากนั้นก็ส่งตัวเองกลับสู่โลกจริง เดินออกจากห้องน้ำหยุดยืนหน้ากระจกเงาเต็มบาน จ้องมองจอนสีขาวกับดวงตาสีน้ำเงินเข้มของตัวเองสักพักพลางยิ้มมุมปาก ตระหนักว่าตนได้เปลี่ยนสถานะจาก ‘เดอะฟูล’ กลับมาเป็นเศรษฐีลึกลับ ดอน·ดันเตส อีกครั้ง…บายัม ภายในป่าดงดิบขณะกำลังดื่มกินอย่างอิ่มหนำในฐานทัพของกองกำลังต่อต้าน เดนิสที่คุยโม้เสียงดังพลันตัวสั่นกะทันหัน เกือบสำลักเหล้าในปากแม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่มันได้รับการตอบสนองจากเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน หวาดกลัวเหนือคำบรรยายจนกระทั่งเริ่มมองเห็นร่างของคนผู้หนึ่ง เดนิสรีบฟังจับใจความประโยค ก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ทราบว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์ฝากฝังงานใหม่ให้ถามกัปตัน? ง่ายชะมัด… ฝันทองคำจะมารับเราในอีกไม่กี่วันข้างหน้า… หึหึ… เกอร์มัน·สแปร์โรว์ เมื่ออยู่ต่อหน้าเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ชายคนนั้นไม่กล้าทำตัวเสียสติ ตรงกันข้าม ท่าทีเป็นไปอย่างนอบน้อมและศรัทธา… เดนิสเริ่มผ่อนคลายขณะเดียวกัน บนอนาคตกาล ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียาที่ได้รับคำตอบจากเดอะฟูล กล่าวกับตัวเองด้วยน้ำเสียงประหลาดใจให้ถามมิสเมจิกเชี่ยนโดยตรง?นั่นสินะ ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นผู้วิเศษเส้นทาง ‘ผู้ฝึกหัด’ … มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลอับราฮัมงั้นหรือ?ไม่ผิดจากที่คิดไว้ สตรีผู้นี้ไม่ธรรมดา!แคทลียาใคร่ครวญ ตัดสินใจยังไม่มอบหมายงานใหม่ให้แฮงแมน เพราะเธอไม่แน่ใจว่ามิสเมจิกเชี่ยนจะยอมเปิดเผยข้อมูลของตระกูลอับราฮัมหรือไม่…วอลเตอร์กลับมายังบ้านที่เลข 160 ถนนเบิร์คลุนในช่วงบ่าย ท่าทียังคงปรกติเหมือนเคย ราวกับปัญหาของตนคลี่คลายอย่างง่ายดายไคลน์ไม่ถามซักไซ้ รู้สึกว่าความสัมพันธ์ในปัจจุบันยังไม่ถึงจุดที่พ่อบ้านจะยอมเล่าความจริง และปัญหาก็ไม่ได้เกิดต่อหน้าตน อีกฝ่ายมีสิทธิ์จะปกปิดเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับคาบเรียนมารยาทที่ทยอยจบลงไป เย็นวันถัดมา ก่อนที่ปรากฏการณ์จันทร์เต็มดวงจะเริ่มขึ้น ไคลน์พาริชาร์ดสันนั่งรถม้าเช่าหรูหรา แวะไปยังวิหารนักบุญแซมมวล เตรียมร่วมพิธีมิสซาจันทราชายหนุ่มไม่กังวลว่าตนจะไม่มีเงินพอบริจาค เพราะได้รับเงินจำนวนหนึ่งพันปอนด์จากมิสจัสติสแล้ว เงินสดในปัจจุบันจึงมีสูงถึง 2,186 ปอนด์ การต้องบริจาคสักสองสามร้อยปอนด์ ไม่ทำให้ชายหนุ่มลำบากใจขอแค่ไม่ขายขี้หน้าก็พอ… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ มองไปทางหอระฆังสมมาตรด้านนอก ลงจากรถม้า ผ่านจัตุรัสเข้าไปในวิหารนักบุญแซมมวล……………………………………………..
คอมเม้นต์