ราชันเร้นลับ 734 : สหายเก่า
รู้จักเราด้วย? หมายความว่า มิสเตอร์ไอเซนการ์ดมักเอ่ยถึงเราในฐานะเพื่อนสนิทให้เขาฟัง? หรือเป็นเพราะว่า โบสถ์ปัญญาความรู้ทราบเรื่องที่เราเข้าไปพัวพันกับโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแล้ว? ไคลน์ยิ้ม พยักหน้าอย่างใจเย็น“ถูกต้อง ผมคือเชอร์ล็อก·โมเรียตี้”ชายเจ้าของดวงตาสีเทาอมฟ้าก้าวออกมาข้างหน้า ยิ้มอย่างอบอุ่น“มิสเตอร์สแตนธอนเป็นห่วงคุณมาก! กลัวว่าคุณอาจได้รับอุบัติเหตุ ตอนนี้เขาคงสบายใจได้แล้ว”ไคลน์ยื่นร่มให้อีกฝ่าย ถอดหมวกตามด้วยเสื้อโค้ท เดินเข้าไปด้านในตัวบ้าน ขณะเดียวกัน คล้ายกับไอเซนการ์ดสัมผัสบางอย่างได้ รีบวางหนังสือพิมพ์และกล้องยาสูบลง ลุกขึ้นจากเก้าอี้เอนหลังเพื่อชะโงกมองแขก“โอ้! เชอร์ล็อก… ในที่สุดคุณก็กลับมา… ไม่ได้พบกันนานแล้วสินะ สหายของผม” ไอเซนการ์ดเจ้าของใบหน้าเรียวและจอนสีขาว ยิ้มทักทายพร้อมกับก็อ้าแขนโผเข้ากอดอย่างอบอุ่นไคลน์ที่ไม่คุ้นเคยกับการทักทายเช่นนี้ในหมู่ผู้ชาย เผยสีหน้าไม่เต็มใจ ยิ้มและกล่าว“มิสเตอร์สแตนธอน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ศรัทธาในปัญญาควรกระทำ”นักบวชและบิชอปของเทพปัญญาความรู้มักหยิ่งผยอง ไม่ค่อยทักทายด้วยการกอดมากนักอันที่จริง หากไม่นับจักรวรรดิฟุซัคที่ป่าเถื่อน และอาณาจักรอินทิสที่ค่อนข้างอิสระ มารยาทเช่นนี้พบเห็นได้ยากในอาณาจักรอื่น มีเฉพาะในหมู่เพื่อนสนิทเท่านั้นไอเซนการ์ดถอยหลังสองก้าว หัวเราะในลำคอ“ผิดแล้วเชอร์ล็อก สำหรับสหายที่ฉลาดเป็นกรดแบบคุณ พวกเราจะแสดงความเคารพแบบนี้เสมอ… ในมุมมองของผม คุณคือหนึ่งในห้านักสืบที่เก่งที่สุดของกรุงเบ็คลันด์”พูดได้ดี! ไคลน์หัวเราะแห้ง ถามกลับอย่างขบขัน“แล้วคุณล่ะ? หนึ่งในสาม?”การถูกยกย่องด้านปัญญาโดยผู้วิเศษลำดับ 7 ของโบสถ์เทพปัญญาความรู้ ไม่ว่าใครได้ฟังก็ต้องมีความสุข“ผมหวังว่าคุณจะคิดแบบนั้น” ไอเซนการ์ดตอบอย่างอ่อนโยน ตามด้วยการเชื้อเชิญให้ไคลน์เข้าไปในห้องนั่งเล่น ชี้ไปทางบนโซฟาตัวไอเซนการ์ดนอนลงบนเก้าอี้เอนหลัง หยิบกล้องยาสูบ สูดลมเข้าไปเต็มปอดและพ่นออกอย่างช้าๆ“ผมดีใจที่คุณปลอดภัย สภาพร่างกายและจิตใจค่อนข้างดีดีทีเดียว… เป็นอย่างไรบ้าง อ่าวเดซีย์ทำให้มีความสุขไหม?”ไคลน์เตรียมคำตอบไว้แล้ว จึงยิ้มอย่างใจเย็น“อันที่จริง ผมไม่ได้เป็นอ่าวเดซีย์… เป้าหมายที่แท้จริงคือเมืองคอนสแตน ก่อนหน้านั้นผมบังเอิญเข้าไปพัวพันกับปัญหาบางอย่างในเบ็คลันด์ จึงต้องหาที่ซ่อนตัวสักพัก”เชอร์ล็อก·โมเรียตี้มาจากแคว้นเลียบทะเลและมีสำเนียงเป็นเอกลักษณ์ เมื่อประสบปัญหา การกลับไปซ่อนตัวที่บ้านเกิดคือเรื่องปรกติ – เมืองคอนสแตนคือเมืองหลวงของแคว้นเลียบทะเล“ผมทราบ” ไอเซนการ์ดตอบเสียงต่ำมันไม่ได้ถามว่าเชอร์ล็อกก่อปัญหาอะไร เพียงยิ้ม“เอาเป็นว่า ยินดีต้อนรับกลับสู่เบ็คลันด์ หากคุณต้องการความช่วยเหลือ มาหาผมได้ทุกเมื่อ”ไคลน์ไม่มากพิธี รีบเข้าประเด็น“ที่ผมมาหาคุณในวันนี้ ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้พบกันนาน แต่อีกส่วนหนึ่ง ผมอยากให้คุณช่วยขายหุ้นของบริษัทเบ็คลันด์จักรยานในนามของผม… เอกสารถูกเตรียมพร้อมหมดแล้ว คุณไม่ต้องจัดการอะไร”เพื่อที่จะสวมรอยเป็นเศรษฐีลึกลับและใช้หนี้หนึ่งหมื่นเหรียญทองของมิสผู้ส่งสาร ไคลน์ไม่เพียงจะเทขายสิ่งของไม่จำเป็นทั้งหมด แต่ยังรวมถึงการสละหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ในบริษัทเบ็คลันด์จักรยาน เพราะเหนือสิ่งอื่นใด เชอร์ล็อก·โมเรียตี้คือบุคคลที่ไม่สามารถปรากฏตัวได้อีกพักใหญ่“จะขายจริงหรือ” ไอเซนการ์ดคลำกล้องยาสูบ “ถึงผมจะไม่เคยเป็นนักธุรกิจ แต่ก็พอจะเดาออกว่าตลาดจักรยานยังเติบโตได้อีกมากในอนาคต แนวโน้มทางธุรกิจเหมือนกับพระอาทิตย์กำลังขึ้น ห่างไกลจากจุดสูงสุด ถ้าขายตอนนี้ คุณจะทิ้งกำไรไปมหาศาล”“ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้ซื้อย่อมยินดีจ่ายในราคาสูงกว่าปรกติ” ไคลน์หัวเราะในลำคอ “ผมเชื่อว่ามีคนมากมายมองเห็นคุณค่าและโอกาสทางธุรกิจของจักรยาน และในเมื่อฟามี่กับเลพเพิร์ดไม่คิดจะขายหุ้นในส่วนของตัวเอง หุ้นของผมจึงสามารถขายได้แพงกว่าราคาจริงราวสองถึงสามเท่า… ไอเซนการ์ด ราคาของหุ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจุบันเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงแนวโน้มในอนาคต”กุญแจสำคัญคือการโน้มน้าวให้นักลงทุนเชื่อว่า หุ้นจักรยานมีอนาคตที่สดใสมากๆ รออยู่! และอันที่จริง ศักยภาพของหุ้นจักรยานมีมากมายเพียงใด เราคงไม่ต้องอธิบายให้เปลืองน้ำลาย คนที่มีหัวทางธุรกิจน่าจะมองออกกันหมด ปัญหาเดียวในตอนนี้คืออุตสาหกรรมยางธรรมชาติ… ไคลน์เสริมในใจ“ราคาของหุ้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจุบันเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงแนวโน้มในอนาคต…” ไอเซนการ์ดทวนคำพูดไคลน์ด้วยเสียงแผ่ว ก่อนจะกล่าวคำชมจากใจ “เชอร์ล็อก คุณน่าจะไปได้ดีกับโลกของธุรกิจ… แต่ที่นั่นก็เต็มไปด้วยอันตรายเช่นกัน”“กฎเหล็กของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคือต้องกล้าเสี่ยง… ตอนนี้ผมถึงต้องการเงินสดก้อนใหญ่” ไคลน์ยิ้มตอบไอเซนการ์ดหยิบกล้องยาสูบ สูดเข้าไปอย่างพึงพอใจ“ตกลง… ผมจะบอกให้นักกฎหมายและนักบัญชีเฉพาะทางช่วยคำนวณมูลค่าปัจจุบันของบริษัทเบ็คลันด์จักรยาน จากนั้นก็ประเมินผลกำไรคร่าวๆ และขายหุ้นของคุณในราคาสิบเปอร์เซ็นต์จากตัวเลขนั้น ค่าดำเนินการของผมและภาษีจะถูกหักออกจากเงินที่ได้รับ… จริงสิ แล้วผมจะติดต่อคุณได้ทางไหน? ดูเหมือนว่าสัญญาเช่าบ้านบนถนนมินส์ของคุณจะหมดอายุไปนานแล้ว”แน่นอน ไคลน์ยังไม่เปิดเผยตัวตนใหม่“คุณสามารถลงข่าวเกี่ยวกับการขายหุ้นในหนังสือพิมพ์ชื่อดังจำพวกทัสซอค หรือเบ็คลันด์รายวัน ป่าวประกาศให้ผู้คนรับรู้เป็นวงกว้าง เพิ่มการแข่งขันเพื่อกระตุ้นให้มูลค่าสูงขึ้น… จนกระทั่งหุ้นถูกขาย คุณก็ลงประกาศแจ้งว่า หลังจากนี้จะไม่รับข้อเสนอใดๆ อีก… ถ้าผมเห็นประกาศก็จะแวะมาหาคุณเอง”ไอเซนการ์ดคุ้นเคยกับการลงโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อสื่อสารไปถึงคนไกล จึงทำเพียงพยักหน้า“ไม่มีปัญหา ตกลงตามนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนของผมจะถูกหักออกจากยอดขายสุทธิ”เมื่อบรรจุจุดประสงค์หลัก ไคลน์ลุกขึ้นยืน เหยียดแขนออกไป“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ มิสเตอร์ไอเซนการ์ด… ผมขอตัวก่อน ไว้มีโอกาสค่อยคุยกันใหม่”ไอเซนการ์ดไม่รั้งไว้ เดินไปส่งถึงหน้าประตูไคลน์เปลี่ยนถนนหลายเส้นก่อนจะโบกรถม้าเช่า นั่งเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเบ็คลันด์ท่ามกลางสายฝนบางเบา จนกระทั่งรถม้าแล่นมาถึงผับวีรบุรุษสำหรับค่ำคืนนี้ ชายหนุ่มจะกลับมาเปิด ‘เครือข่ายข้อมูล’ ที่เคยเป็นของเชอร์ล็อก·โมเรียตี้!เดินเข้าไปในผับที่วุ่นวายและเสียงดัง ไคลน์ไม่ตรงไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มและถามข้อมูล เพียงวนรอบเวทีมวยและเดินออกจากผับ รอให้มาดามชารอนปรากฏตัวทันใดนั้น ประตูห้องบิลเลียดเปิดดังแอ๊ด เอียนในเสื้อคลุมตัวเก่าเดินออกมาพร้อมหนังสือพิมพ์ดวงตาสีแดงสดกวาดมองไปรอบๆ จนกระทั่งพบบุคคลที่คุ้นเคย เด็กหนุ่มอ้าปากค้างเล็กน้อย แต่มิได้เอ่ยชื่ออีกฝ่าย เพียงกล่าวด้วยความประหลาดใจ“สายัณห์สวัสดิ์ มิสเตอร์ ให้ผมช่วยอะไรไหม”“ตอนนี้ยังไม่จำเป็น ผมแค่แวะมาหาเพื่อนเก่า” ไคลน์ยิ้มอย่างยินดีขณะกล่าว ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่า หนังสือพิมพ์ที่เอียนกำลังถือคือ ‘ข่าวทางทะเล’ ด้านบนสุดพาดด้วยหัวข้อข่าวที่สะดุดตา“ข่าวช็อก! นักผจญภัยเสียสติกลายเป็นอาชญากรที่ทางการหมายหัว!”นักผจญภัยเสียสติ… ไคลน์เชื่อโดยสัญชาตญาณว่า นั่นคงหมายถึงตนเอียนสังเกตเห็นสายตาอีกฝ่าย จึงยกหนังสือพิมพ์ขึ้นด้วยท่าทางยิ้มแย้ม“นี่เป็นข่าวใหม่ทางทะเลที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ตอนนี้ใบค่าหัวถูกแจกจ่ายไปตามสถานที่ต่างๆ แล้ว… ‘นักผจญภัยเสียสติ’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์วางกลอุบายบางเพื่อนำภัยอันตรายมาสู่ ‘เมืองแห่งการให้’ นอกจากนั้นได้รับการยืนยันแล้วว่า เขาเป็นคนขององค์กรลับชั่วร้าย ในเหตุการณ์ดังกล่าว เมืองบายัมถูกปกป้องไว้โดยกองกำลังของโบสถ์วายุสลาตันและกองทัพ แต่ ‘พลเรือเอกโลหิต’ เซนอลที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมเหตุการณ์ หายตัวไปอย่างลึกลับ สันนิษฐานเบื้องต้นว่าถูกฆ่าโดยเกอร์มัน·สแปร์โรว์… ลองเดาดูสิว่าตอนนี้เกอร์มัน·สแปร์โรว์มีค่าหัวเท่าไร?“เท่าไร?”“ห้าหมื่นปอนด์! มากยิ่งกว่าพลเรือเอกโลหิตเสียอีก เกือบจะเท่าพลเรือเอกขุมนรกอยู่แล้ว!”ห้าหมื่นปอนด์ หัวใจไคลน์หล่นไปอยู่ตาตุ่มชายหนุ่มพยายามข่มใจให้สุขุม ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“น่าเสียดาย มีแค่ไม่กี่คนที่แข็งแกร่งพอจะรับค่าหัวของหมอนั่น”ไคลน์ชี้ไปทางประตูผับ“ผมขอตัวก่อน ไว้มีเวลาว่างจะแวะมาหาใหม่”“ตกลง” เอียนไม่ซักไซ้ พลางถามโดยไม่หันไปมอง “มิสเตอร์ไวท์จากโบสถ์ฤดูเก็บเกี่ยวเป็นเพื่อนของคุณใช่ไหม”สหายเอ็มลินยอมออกจากบ้านแล้วหรือ? เพื่อหาเบาะแสของสาวกดวงจันทร์บรรพกาล? ไคลน์พยักหน้า“ใช่แล้ว”กล่าวจบ ชายหนุ่มเดินเบียดเสียดฝูงชน ผลักประตูและก้าวออกจากผับวีรบุรุษเมื่อขึ้นรถม้า ไคลน์มองออกไปนอกหน้าต่าง รอให้ชารอนปรากฏตัวแน่นอน ชายหนุ่มไม่มีหลักประกันว่าอีกฝ่ายจะยังอยู่ที่นี่ ผ่านมาแล้วหลายเดือน สตรีคนดังกล่าวและมาริคอาจเปลี่ยนแหล่งกบดานตามนิสัยเดิมเวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน จนกระทั่งสัมผัสวิญญาณถูกกระตุ้น ไคลน์มองไปทางหน้าต่างข้างๆ และเห็นภาพหนึ่งบนกระจกที่กำลังสะท้อนทิวทัศน์ในยามราตรี – ร่างของสาวงามสวมหมวกอ่อนสีดำใบเล็ก สวมเดรสโกธิกหรูหราซับซ้อนหันไปมองฝั่งตรงข้าม ไคลน์เห็นชารอนกำลังนั่งบนเก้าอี้ เส้นผมสีทองอ่อน ดวงตาสีฟ้า ผิวพรรณขาวซีดไม่ต่างจากเมื่อก่อน“สายัณห์สวัสดิ์” ไคลน์ไม่จำเป็นต้องสวมบทบาทเป็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์ จึงกล่าวทักทายด้วยอุปนิสัยส่วนตัวชารอนลุกขึ้น จับชายกระโปรงและโค้งศีรษะเล็กน้อยเมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายคงได้อ่าน ‘ข่าวทางทะเล’ แล้ว ชายหนุ่มกระแอมในลำคอเพื่อแก้เขินหนึ่งครั้ง“ผมฆ่าเซนอลแล้ว”“อา…” ชารอนพยักหน้าเชิงรับรู้ไคลน์ยิ้มและเล่าต่อ“ถ้ามาริคต้องการตะกอนพลังของวิญญาณอาฆาต บอกให้เขาเก็บเงินรอได้เลย ถ้าผมพบตัวแทนเมื่อไรจะขายเซนอลให้”ชารอนมิได้ถามว่า ‘ตัวแทน’ หมายถึงอะไร เพียงตอบเสียงเรียบ“หลังจากอ่านข่าว เขากำลังรอให้คุณกลับมา”“เยี่ยมเลย” ไคลน์ยิ้มเล็กๆ ก่อนจะล้วงคอเสื้อและหยิบสร้อยเงินออกมา “สมบัติวิเศษนำโชคของเซนอล คุณน่าจะรู้จักมันใช่ไหม”ชารอน ‘อืม’ ในลำคอ รอให้ไคลน์พูดต่อ“ผมอยากขายทั้งขวดพิษชีวภาพและสร้อยเส้นนี้… มีใครในแวดวงของคุณสนใจไหม?” ไคลน์ถามอย่างคาดหวัง……………………………………………
คอมเม้นต์