ราชันเร้นลับ 722 : ค่ำคืนอันวุ่นวาย
เนื่องจาก ‘อสรพิษเหรียญเงิน’ โอเดลไม่ใช่โจรสลัด ข่าวลือรอบตัวมันจึงมีทั้งจริงและเท็จ ยากจะยืนยันว่าสิ่งใดถูกผิด ไคลน์ถอนสายตาจากบันได เดินตรงไปทางเคาน์เตอร์และหาที่นั่ง เคาะไม้กระดานพร้อมกับกล่าว“ซาร์ฮาร์หนึ่งแก้ว”เบียร์มอลต์ท้องถิ่น ราคาถูกกว่าเบียร์นันวีลล์ที่ต้องขนส่งมาจากทวีปเหนือ“สามเพนนี” บาร์เทนเดอร์หันมาตอบสนอง หยิบแก้วที่คว่ำอยู่ทุกคนในผับเริ่มส่งเสียงซุบซิบใต้แสงตะเกียงผนัง ถกเถียงว่าเหตุใด ‘อสรพิษเหรียญเงิน’ โอเดลถึงต้องซื้อตั๋วเรือมากถึงสิบใบ“เขาคงถูกตามล่าตัว… ตั๋วสิบใบสำหรับเรือสามลำก็เพื่อให้คนสะกดรอยสับสน!” สมาชิกอันธพาลคนหนึ่งที่มีรอยสักบนท่อนแขน ถกแขนเสื้อขึ้น แสดงความเห็นที่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวนักผจญภัยคนหนึ่งที่ดื่มแลงติร้อนแรงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน“นายยังรู้จักโอเดลไม่มากพอ หากแผนการของเขาถูกอ่านง่ายขนาดนี้ คงไม่ได้รับฉายาว่าอสรพิษเหรียญเงินแน่”“พนันได้เลย เขาต้องไม่ได้โดยสารไปกับเรือทั้งสามลำของตั๋วสิบใบนั่น… สิ่งเดียวที่สามารถยืนยันได้… ปลายทางคือท่าเรือพริสต์ไม่ผิดแน่”นักผจญภัยคนหนึ่งส่ายหน้าหลังจากได้ยิน“บางที ข่าวการไปท่าพริสต์ก็อาจเป็นกลลวง”สมาชิกแก๊งอันธพาลคนแรกผงะ กล่าวอย่างคลางแคลง“จากคำอธิบายของพวกนาย โอเดลก็อาจจะกำลังคิดในสิ่งที่พวกนายคิด ดังนั้น เขาจะไปท่าเรือพริสต์ตรงๆ ด้วยเรือสามลำกับตั๋วสิบใบนั่น”สองนักผจญภัยเตรียมเปิดปากโต้แย้ง แต่หลังจากครุ่นคิด พวกมันพบว่าคำพูดอีกฝ่ายค่อนข้างสมเหตุสมผล จึงทำเพียงเงียบงันฉากดังกล่าวทำให้สมาชิกแก๊งอันธพาลยิ้มกรุ้มกริ่ม ดื่มเหล้าที่เหลือรวดเดียวหมดแก้วไคลน์กำลังถือแก้วซาร์ฮาร์ จิบพลางนั่งฟังบทสนทนาอันแสนน่าเบื่อ รอให้บัตรปลอมและตั๋วผีมาส่ง“สี่สิบห้านาที… หวังว่าจะไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ขอให้ทุกสิ่งผ่านไปอย่างราบรื่น” ชายหนุ่มภาวนาพลางวาดสัญลักษณ์จันทร์แดงภายในใจเบียร์สีเหลืออ่อนลดลงอย่างเชื่องช้า ไคลน์บ้างมองไปยังนาฬิกาแขวนผนัง บ้างมองประตู หวังให้เวลาผ่านไปโดยเร็วผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง ประตูผับเปิดออกเสียงด้วยอึกทึก สายลมยามราตรีด้านนอกพัดผ่านเข้ามาไม่จริงน่า… มุมปากไคลน์กระตุกเล็กน้อย หันหน้าไปยังทิศทางต้นเสียงคนห้าคนปรากฏตัวที่ประตู นำโดยชายผมดำ ดวงตาสีน้ำตาล ใบหน้าชัดลึก เต็มไปด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของชาวโลเอ็น อายุราวสี่สิบตอนต้นสีหน้าเย็นชาและสง่างาม ส่งผลให้ทุกคนในผับปิดปากเงียบโดยไม่รู้ตัวบุรุษสามคนและสตรีหนึ่งคนด้านหลังล้วนสวมโค้ทกันฝน ถือปืนพกอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย คล้ายกับพร้อมยิงใส่ทุกสิ่งที่ผิดปรกติเราไม่รู้จัก… ไม่มีในใบค่าหัวหรือประกาศจับ… ไคลน์รำพัน ทำตัวเป็นเพียงผู้ชมวงนอกผู้บุกรุกทั้งห้าแยกย้ายไปตามกลุ่มนักดื่ม โน้มตัวเล็กน้อยเพื่อจ้องหน้า จากนั้นก็ถามทีละคน“ ‘อสรพิษเหรียญเงิน’ โอเดลอยู่ที่ไหน!”นักดื่มลังเลที่จะตอบ ทันใดนั้น ปากกระบอกปืนสีดำด้านเริ่มเล็งไปทางพวกมัน ด้ามจับทำมาจากงาขาว บางกระบอกก็เป็นไม้มะเกลือ ส่องแสงงดงามภายใต้แสงไฟ“ข…เขาขึ้นไปบนชั้นสอง!” นักดื่มที่ถูกถามรีบชี้ไปทางบันไดตามสัญชาตญาณมีคนกำลังตามล่าโอเดลจริงๆ … เรื่องนี้จะเกี่ยวกับราชินีเงื่อนงำไหม? หรือเป็นปัญหาส่วนตัวของโอเดล? หรือเป็นเพราะชายลึกลับที่สวมเสื้อคลุมหัวและเคี้ยวลูกอม? ไคลน์จิบเบียร์เพิ่ม เฝ้ามองผู้บุกรุกทั้งสี่เดินขึ้นไปบนชั้นสอง ด้านล่างเหลือทิ้งไว้หนึ่งคน คอยสืบข้อมูลเพียงไม่นาน รายหลังได้ยินเรื่องราวที่โอเดลซื้อตั๋วจากเดอเนียร์ จึงเดินตรงไปทางนักธุรกิจผิวดำร่างผอมบาง ซักถามเสียงต่ำ“ตอบมาตามความจริง… โอเดลซื้อตั๋วไปที่ไหน ขึ้นเรือลำไหน และรอบกี่โมง”เดอเนียร์ไม่คิดช่วยปกปิดเพียงเพราะรู้จักกัน ฝืนยิ้มและตอบ“เขาไม่ได้ระบุชัดเจน บอกแค่ว่าต้องการตั๋วสิบใบจากเรือสามลำที่แตกต่างกัน ปลายทางคือท่าเรือพริสต์ เที่ยววันพรุ่งนี้”“พูดจริงรึเปล่า?” คนเค้นข้อมูลเป็นชายอายุราวยี่สิบที่มีบุคลิกค่อนข้างก้าวร้าวเดอเนียร์ตอบเสียงแผ่ว“ถามทุกคนที่นี่ก็ได้ พวกเขาได้ยินกันหมด”“แม่เย็*!” ชายคนดังกล่าวผลักเดอเนียร์ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว จากนั้นก็เดินไปทางขี้เหล้าคนอื่นเดอเนียร์เสียหลักล้มลง ท้ายทอยกระแทกกับขอบโต๊ะกลมตัวเล็ก แต่ทันใดนั้น หัวไหล่ของมันสัมผัสกับฝ่ามือใครบางคน ร่างกายเริ่มกลับมาทรงตัวได้อีกครั้งเดอเนียร์หันหลังไปมอง พบแขกคนที่รอซื้อตั๋วผีและบัตรประจำตัวปลอม“ขอบคุณมาก หมอนั่นเป็นพวกไฮยีน่าของกองทัพ!” เดอเนียร์ขอบคุณเป็นอันดับแรก จากนั้นก็กัดฟันกรอดเป็นเพราะไม่อยากให้ ‘อุบัติเหตุ’ เกิดขึ้นกับคนขายตั๋วผี ไคลน์จึงตัดสินใจยืนมือเข้าช่วย และต้องไม่ลืมว่า ตนจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้วห้าปอนด์แน่นอน ชายหนุ่มยังมีนิสัยลึกๆ ชอบช่วยเหลือผู้อ่อนแอไฮยีน่าของกองทัพ? หากเป็นในบายัม คำเรียกแบบนี้มักใช้กับหน่วย MI9… ‘อสรพิษเหรียญเงิน’ โอเดลทำอะไรลงไปกันแน่? ไคลน์พึมพำ ตัดความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับราชินีเงื่อนงำเพราะสำหรับอาณาจักรโลเอ็น การทำเช่นนั้นไม่เกิดประโยชน์อันใดขณะความคิดมากมายแล่นผ่าน สมาชิก MI9 ที่ขึ้นไปข้างบนรีบกรูลงจากบันได ตรงไปทางประตูหน้าและกล่าวกับพวกพ้อง“มันกระโดดออกจากหน้าต่างไปนานแล้ว!”คนกลุ่มดังกล่าวเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป บรรยากาศภายในผับค่อยๆ กลับสู่ปรกติ มีเพียงประตูที่ยังคงสั่นคลอนเบาๆ เป็นหลักฐานถึงความไม่สงบสุขในที่สุด ไคลน์ได้รับบัตรประจำตัวปลอมและตั๋วโดยสารเรือตามที่ต้องการ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกสิ่งใดทำให้ผิดแผนหลังจากจ่ายเงินที่เหลือสิบห้าปอนด์ ชายหนุ่มเดินออกจากผับและหาเช่าพักโรงแรมใหม่จอห์น·ยอร์ด ชื่อมักง่ายชะมัด… ก่อนจะกลับกรุงเบ็คลันด์ คงต้องหาตัวตนที่ดูน่าเชื่อถือกว่านี้… ไคลน์กวาดสายตาอ่านเอกสารยืนยันตัวตน เก็บใส่กระเป๋าเดินทางชายหนุ่มอาบน้ำ ผ่อนคลายตัวเอง เตรียมเดินทางออกจากบายัมในวันพรุ่งนี้ จัดการงานสุดท้ายบนท้องทะเลทันใดนั้น ไคลน์ได้ยินเสียงเคาะประตูใครกัน? ไคลน์รีบถอดชุดอาบน้ำ สวมเสื้อผ้าและตรงไปทางประตูด้านนอกคือตำรวจแต่งเต็มยศกลุ่มหนึ่ง คนหนึ่งหน้าเหมือนชาวโลเอ็น ส่วนที่เหลือถ้าไม่ใช่เลือดผสมก็เป็นชนพื้นเมือง“มีอะไร?” ไคลน์ถามฉงน“รบกวนแสดงบัตรประจำตัวด้วย” ตำรวจชนพื้นเมืองกล่าวอย่างสุภาพ เพราะบุรุษตรงหน้าดูคล้ายชาวโลเอ็นโชคดีที่เราเพิ่งจัดการเสร็จหมาดๆ ไม่อย่างนั้นคืนนี้คงเสียเวลาไปกับสถานีตำรวจ หรือไม่ก็ต้องเผ่นหนีทันที เปลี่ยนใบหน้าและเริ่มต้นทุกสิ่งใหม่อีกครั้ง… ไคลน์พึมพำพลางเดินกลับเข้าไปในห้อง หยิบบัตรประจำตัวตำรวจชาวโลเอ็นกวาดสายตาสุ่มๆ และถาม“มิสเตอร์ยอร์ด พักอยู่คนเดียวหรือ”“ถูกต้อง ทุกคนในโรงแรมเป็นพยานได้” ไคลน์ตอบสุขุมตำรวจชาวโลเอ็นยิ้มรับ“คุณเคยเจอชายคนนี้ไหม”มันหันไปบอกให้ตำรวจข้างๆ หยิบภาพถ่าย ชายในภาพมีรูปร่างผอมบางผิดปรกติ แก่ชรา ผมขาวรุงรัง แต่นอกจากนั้นก็ไม่มีจุดเด่นให้สะดุดตา“ไม่เคย” ไคลน์ส่ายหน้า“เขาชอบกินลูกอมมาก” ตำรวจโลเอ็นเสริม“ลูกอม…” ไคลน์พลันนึกถึงชายลึกลับสวมเสื้อคลุมหัวที่มาพร้อมกับ ‘อสรพิษเหรียญเงิน’ โอเดล อีกฝ่ายล้วงลูกอมหลากสีออกมากินถี่มากครุ่นคิดสักพัก ไคลน์ตอบโดยไม่ปิดบัง“อาจจะเคยเห็น… ในตอนที่อยู่ในผับสาหร่ายทะเล ผมเห็นชายที่ชอบกินลูกอมเดินตาม ‘อสรพิษเหรียญเงิน’ โอเดลตำรวจโลเอ็นไม่เก็บซ่อนสีหน้าผิดหวัง เพียงกล่าวคำตอบคุณและจบการซักถามเบื้องต้นรอจนกระทั่งอีกฝ่ายไปเคาะห้องอื่น ไคลน์ปิดประตูไม้ กลับมายังเก้าอี้เอนหลังไม่เพียงโอเดลจะเข้าไปพัวพันกับ MI9 แต่ถึงกับทำให้สภาเมืองต้องส่งคนมาสืบแบบปูพรมค้นหา… แบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว… ชายหนุ่มพึมพำ ตัดสินใจเข้ามิติหมอก วางแผนสำรวจจุดแสงของผู้สวดวิงวอนรอบคทาเทพสมุทร เน้นสืบข่าวจากเหล่าสาวกในบายัม ด้วยกังวลว่าตนอาจตกอยู่ในวังวนแห่งความยุ่งเหยิงหากรับมือกับสถานการณ์ไม่ถูกต้องเข้าไปในห้องน้ำ ส่งตัวเองเข้าสู่มิติเหนือสายหมอกสีเทา ไคลน์โบกมือเสกคทากระดูกที่มีจุดแสงรายล้อมออกจากกองขยะนั่งไล่หาสักพัก ชายหนุ่มยังคงทราบเพียงว่า การสอบปากคำของตำรวจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เป้าหมายคือโอเดลและชายลึกลับ แต่ไม่รู้มากไปกว่านี้ครุ่นคิดเล็กน้อย ไคลน์หันไปจ้องจุดแสงหนึ่งที่ตนทำสัญลักษณ์ไว้เป็นพิเศษจุดแสงดังกล่าวเป็นของตำรวจเลือดผสมนามว่าบราญ่า อีกฝ่ายเรียกตัวเองว่า ‘สาวกเทพสมุทร’ แต่จำใจต้องสวมหน้ากาก ‘สาวกเทพวายุสลาตัน’ เพื่อไต่เต้าตำแหน่งใหญ่ในกรมตำรวจปัจจุบัน มันมียศสูงถึงระดับผู้กำกับการ!ถัดมา ไคลน์ส่งเจตจำนงของเทพสมุทรเข้าไปในจุดแสงบราญ่า ผู้กำลังแจกจ่ายงานให้ลูกน้องที่สถานีตำรวจ พลันเหงื่อแตกกะทันหัน รีบขอตัวเข้าห้องน้ำ สวดวิงวอนเสียงต่ำ“ข้ารับใช้แห่งท้องทะเลและโลกวิญญาณ ท่านมหาคาเวทูว่า สาวกของท่านขอรายงาน… บุคคลสำคัญที่กำลังตามหาในคืนนี้เป็นชายชรารูปร่างผอมบาง ผมสีขาวโพลนและรุงรัง แต่ยังดกหนา ชายคนนั้นไม่ชอบอากาศหนาว มักสวมโค้ทตัวหนาแม้จะอยู่ในบายัม เขาชื่นชอบของหวาน ราวกับเป็นเครื่องยนต์ไอน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยลูกอม… เบื้องบนสั่งมาว่า จงหาตัวให้พบ แต่ห้ามทำร้ายโดยเด็ดขาด”ไคลน์ตัดขาดจากบราญ่า กลับมาใช้ความคิด เคาะขอบโต๊ะทองแดงยาวด้วยปลายนิ้วเทียบกับรูปถ่าย รายละเอียดเชิงข้อมูลมอบความรู้สึกคุ้นเคยให้เราได้มากกว่า… คล้ายกับว่าเราเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน…สำหรับนักทำนาย ความคุ้นเคยหมายถึงเบาะแส ไคลน์จึงเริ่มเขียนประโยคทำนายชายหนุ่มอ่านประโยคทำนายเงียบเชียบ เอนหลังพิงพนักสูงของเก้าอี้ อาศัยการเข้าฌานช่วยให้หลับลึกท่ามกลางโลกความฝันสีเทา ไคลน์พบว่าตัวเองย้อนกลับมายังกรุงเบ็คลันด์ บ้านเลขที่ 15 ถนนมินส์ที่เคยเช่าอยู่ตรงหน้าคือเอียน เจ้าของดวงตาสีแดงสดใส เด็กหนุ่มแก่แดดกำลังเงยหน้าพูด“ทูรานี่·ฟอน·ฮัลโมซีน สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ถัดจากจักรพรรดิโรซายล์ เขาเป็นนักคณิตศาสตร์ ผู้ชำนาญกลไก และบิดาแห่งเครื่องหาผลต่างรุ่นที่สอง”ทันใดนั้น ไคลน์ทราบทันทีว่า MI9 กำลังตามหาใคร!พวกมันเคยไล่ล่าพิมพ์เขียวของเครื่องหาผลต่างรุ่นที่สามอย่างเอาเป็นเอาตาย และต้นเหตุของการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างกองทัพโลเอ็นและหน่วยสายลับจากอินทิสก็คือ สุดยอดนักวิทยาศาสตร์ที่ทำให้ผู้คนมากมายต้องรับเคราะห์!MI9 กำลังตามล่าตัวนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่หายตัวไปอย่างลึกลับตลอดหลายปี!เข้าใจแล้วว่าทำไมสายข่าวของพลเรือเอกโลหิตอย่างเฒ่าควินน์ ถึงมีสถานีวิทยุที่ก้าวหน้ากว่ากรุงเบ็คลันด์! เมื่อจับต้นชนปลายสำเร็จ ไคลน์เผยสีหน้าตกตะลึง
คอมเม้นต์