ราชันเร้นลับ 717 : ‘เดอะเวิร์ล’ และจอมโจรวีรบุรุษ
ท่ามกลางวังโบราณที่เด่นตระหง่านเหนือสายหมอกสีเทา ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ไม่รีบเข้าเรื่อง ‘กัปตันคลั่ง’ คอร์เนอร์·วิกเตอร์ แต่มองไปทางเดอะซันน้อยด้านข้างและกล่าว“คุณยังอยู่ในหมู่บ้านยามบ่ายใช่ไหม”เดอร์ริคพยักหน้ารับอย่างเถรตรง“ถูกต้อง พวกเราใช้เวลาสร้างค่ายนานพอสมควร จากนั้นก็รวมกลุ่มกันจัดการสัตว์ประหลาดที่เหลืออยู่บนถนน ไล่ไปทีละเส้นอย่างใจเย็น พลางมองหาอาคารเก่าแก่เข้าไปสำรวจ แม้ว่าวิธีนี้ค่อนข้างเสียเวลา แต่ก็รับประกันความปลอดภัย”เด็กหนุ่มตอบอย่างละเอียด แถมยังเผยท่าทีทำนอง อนุญาตให้แฮงแมนถามเพิ่มเติมหากมีจุดใดไม่กระจ่าง‘จัสติส’ ออเดรย์ฟังอย่างตั้งใจ ก่อนจะยกมือ“พวกคุณอยู่ในหมู่บ้านยามบ่ายนานขนาดนี้… กินอะไรเป็นอาหาร? แถวนั้นมีหญ้าผิวดำด้วยหรือ”หญิงสาวเคยได้ยินเดอะซันน้อยเล่าให้ฟังเมื่อนานมาแล้ว เป็นเพราะรอบๆ เมืองเงินพิสุทธิ์มีหญ้าผิวดำเจริญเติบโต ชาวเมืองจึงสามารถเอาตัวรอดและรักษาอารยธรรมได้อย่างยาวนาน“พวกเราพกผงที่บดจากหน้าผิวดำไปด้วย… แต่แหล่งอาหารหลักยังคงเป็นซากศพของสัตว์ประหลาดที่ถูกฆ่า เมื่อตะกอนพลังถูกขับออกจากศพ ส่วนที่เหลือสามารถนำไปกินได้ถ้าใช้ไฟเผาจนสุก ถึงอย่างนั้น เนื้อสัตว์ประหลาดก็ยังหลงเหลือการกัดกร่อนอย่างเจือจาง หากกินเข้าไปในปริมาณมากอาจทำให้เกิดปัญหาทางจิต พวกเราจึงไม่ควรกินบ่อยนัก” ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคตั้งใจตอบคำถามของมิสจัสติสออเดรย์ลองจินตนาการถึงสัตว์ประหลาดในความมืดที่เดอะซันกล่าวถึง คิดตามจนกระทั่ง เธออดไม่ได้ที่จะถาม“นั่นไม่น่าขยะแขยงไปหน่อยหรือ”‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สที่ฉุกคิดบางสิ่งได้หลังจากฟังสนทนา จงใจไม่หันไปทาง ‘เดอะมูน’ เอ็มลิน เพียงตั้งคำถามกับเดอะซันอย่างอยากรู้อยากเห็น“คุณเคยบอกพวกเราว่า สัตว์ประหลาดในความมืดอย่างแวมไพร์มีผิวหนังพุพองน่ารังเกียจ แต่ทำไมหลังจากฆ่าแวมไพร์ พวกคุณถึงยังกล้ากินศพเหล่านั้น?”ได้ยินคำถามดังกล่าว แม้แต่เอ็มลินก็ยังตกตะลึงจนลืมพูดแก้ว่า ‘ผีดูดเลือด ไม่ใช่แวมไพร์!’ ใบหน้ากำลังเผยความอึดอัด ภายในใจรู้สึกสยดสยองสุดจะพรรณนาเดอร์ริคเงียบงันสักพัก“มีสัตว์ประหลาดหลายตัวที่น่ารังเกียจและน่าขยะแขยง หนึ่งในนั้นคือแวมไพร์ที่มิสเมจิกเชี่ยนกล่าวถึง… แต่พวกเราไม่มีทางเลือกอื่น ตราบใดที่ยังกินได้ก็ต้องกิน”เสียงของเด็กหนุ่มค่อยๆ แผ่วลง คล้ายกับกำลังหวนนึกถึงโศกนาฏกรรมที่คอยสาปแช่งชาวเมืองเงินพิสุทธิ์ความเงียบงันปกคลุมวังที่คล้ายกับถิ่นพำนักคนยักษ์ กระทั่ง ‘เดอะมูน’ เอ็มลินที่มักโต้แย้งเดอร์ริคก็ยังปิดปากสนิท หดแขนกลับมาข้างลำตัวไม่กี่วินาทีถัดมา เดอะเวิร์ลทำลายความเงียบ กล่าวด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น“กลับมาที่ทะเลกันดีกว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวหนึ่งควรค่าแก่การสนใจ เมื่อคืนหลังจากเกิดพายุ เรือของ ‘กัปตันคลั่ง’ คอร์เนอร์·วิกเตอร์นามว่า ‘กะโหลกตาเดียว’ ลอยมาเกยตื้นใกล้กับท่าเรือไซมีม เสากระโดงเรือหักหลายต้น มีรอยไหม้หลายจุด ลูกเรือทั้งหมดรวมถึงคอร์เนอร์·วิกเตอร์เสียชีวิต ไม่มีใครรอด”‘จัสติส’ ออเดรย์และคนที่เหลือย่อมไม่รู้จัก ‘กัปตันคลั่ง’ จึงไม่ได้ให้ความสนใจกับข่าวมากนัก เพียงสงสัยเล็กๆ ว่าเกิดโศกนาฏกรรมใดขึ้นบนเรืออย่างไรก็ตาม ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์คิดแตกต่างไปจากทุกคนมิสเตอร์เวิร์ลให้ความสนใจกับโศกนาฏกรรมของ ‘กัปตันคลั่ง’ … หมายความว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ! เข้าใจแล้วว่าทำไมท่านเจ้าคุณค็อตแมนถึงมีคำสั่งให้ ‘จิตแห่งจักรกล’ และกัปตันเรือทุกคนตามสืบสวน! อัลเจอร์กลอกตาเล็กน้อยพลางครุ่นคิด“ในบายัม โบสถ์วายุสลาตันสั่งให้เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องสืบสวนขยายผล ‘กัปตันคลั่ง’ คอร์เนอร์·วิกเตอร์อย่างจริงจัง”หืม… ฉันไม่ช่วยนายทำงานหรอกนะ… ไคลน์หัวเราะในลำคอ บังคับให้เดอะเวิร์ลซักถาม“แล้วโบสถ์วายุสลาตันมีเบาะแสใดบ้าง?”“ผมเองก็ไม่ทราบ ตอนนี้กำลังพยายามสืบ” ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์ส่ายหน้าอย่างสุขุมมันเชื่อว่าเดอะเวิร์ลคงเข้าใจความนัยแฝง นั่นก็คือ ตนยังไม่มีข้อมูลจริงๆ แต่จะช่วยสืบจากภายในเท่าที่ทำได้‘จัสติส’ ออเดรย์เริ่มตระหนักว่าข่าวเกี่ยวกับ ‘กัปตันคลั่ง’ ไม่ธรรมดา กล่าวด้วยน้ำเสียงหยั่งเชิง“มิสเตอร์เวิร์ล นี่มิใช่การวิวาทตามปรกติของโจรสลัดหรือคะ?”ไคลน์ที่เตรียมอธิบายพอเป็นพิธี ไม่อยากเปิดเผยในเชิงลึก พลันฉุกคิดบางสิ่งโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์และคดีค้าทาสอาจเกี่ยวพันกับราชวงศ์บางกลุ่ม รวมไปถึงนายทหารระดับสูง… โดยธรรมชาติแล้ว มิสจัสติสต้องเข้าข้างฝ่ายขุนนางและราชวงศ์ หากในอนาคต เราเริ่มเพ่งเล็งไอ้พวกที่สมควรตายเหล่านั้น เธออาจไม่ยอมช่วยเราทำงานหรือสืบข้อมูล กลายเป็นบ่อเกิดของความขัดแย้งภายในองค์กร…ดังนั้น ตอนนี้เราต้องปลูกฝังให้เธอเห็นว่าราชวงศ์และกองทัพมีคนไม่ดีแฝงตัวอยู่มาก ค่อยๆ เปลี่ยนทัศนคติและมุมมองทีละนิด ด้วยวิธีนี้ การเปิดเผยข้อมูลของเดอะเวิร์ลจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต… ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก บังคับให้เดอะเวิร์ลเปล่งเสียงแผ่วเบาแกมประชดประชัน“กัปตันคลั่งมีส่วนพัวพันกับการหายตัวไปของชาวอาณานิคมที่มิสเตอร์แฮงแมนเคยสอบสวน… นิกายแม่มดจะคอยล่อลวงหรือลักพาตัวคนมาส่งให้ ‘พลเรือโทโรคภัย’ เทรซี่ จากนั้นก็ใช้เรือโจรสลัดขนส่งเหยื่อไปยังสุดขอบทะเลตะวันออกของทวีปเหนือ และปิดงานโดย ‘กัปตันคลั่ง’ คอร์เนอร์·วิกเตอร์ มันมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักค้ามนุษย์และพ่อค้าทาสหลายคนในโลเอ็น… ย้อนกลับไปในตอนที่ผมแจ้งข่าวแก่มิสเตอร์แฮงแมนช่วงเดือนมกราคม มีคนเคยเห็นชายที่ชื่อบาลุนแอบนัดพบกับคนของ MI9 ที่ภักดีต่อราชวงศ์… นอกจากนั้น อดีตนักค้ามนุษย์ที่กว้างขวางที่สุดในกรุงเบ็คลันด์ คาพิน คนคุ้มกันของมันคือผู้วิเศษเส้นทาง ‘ผู้ตัดสิน’ … เมื่อนำปัจจัยทั้งหมดประกอบเข้าด้วยกัน คุณยังคิดว่าการตายของคอร์เนอร์·วิกเตอร์ เป็นการวิวาทระหว่างโจรสลัดอยู่อีกไหม? หึหึ ผมได้แต่นึกสงสัย คนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ มันต้องการทาสจำนวนมากไปทำอะไรกันแน่”ความเชื่อมโยงระหว่างเบาะแสต่างๆ กำลังแทรกซึมเข้าไปในสมองออเดรย์ อัลเจอร์ และคนที่เหลือ ส่งผลให้พวกเขาเริ่มมองเห็นภาพรวมเป็นรูปเป็นร่าง!ทั้งที่มิสเตอร์เวิร์ลออกทะเลไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกการสืบหาความจริงเบื้องหลังโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันและการตายขององค์ชายเอ็ดซัค! จากข้อมูลเบื้องต้น ค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าคนร้ายตัวจริงยังไม่ได้รับโทษ หลบซ่อนอยู่ภายในกลุ่มราชวงศ์โดยมีคนของกองทัพบางส่วนคอยสนับสนุน… ต่ำทรามมาก! คนพวกนี้ต้องถูกจับโยนลงนรก! หืม… ว่าแต่ทำไมมิสเตอร์เวิร์ลถึงทราบเรื่องที่คนคุ้มกันของคาพินมาจากเส้นทาง ‘ผู้ตัดสิน’ ? เคยสู้กันมาก่อน? ขณะความคิดหญิงสาวกำลังโลดแล่น เธอเริ่มพบความเชื่อมต่อคาพินถูกสังหารโดยจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด… ฝ่ายหลังย่อมทราบว่าองครักษ์ของคาพินอยู่บนเส้นทางใด…จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดคือข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูล…เนื่องจากมิสเตอร์เวิร์ลไม่เคยส่งไดอารี เราจึงสงสัยว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องมิสเตอร์ฟูลอย่างลับๆ …ในอีกความหมายหนึ่ง มิสเตอร์เวิร์ลคือจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดที่เป็นข้ารับใช้ของเดอะฟูล?เป็นเพราะเขาแอบส่งไดอารีอย่างลับๆ อยู่แล้ว จึงไม่เคยส่งให้พวกเราเห็น? ถ้าอย่างนั้น พฤติกรรมบางอย่างในช่วงก่อน ทำไปเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่ตัวเองเป็นข้ารับใช้? หรือจะเป็นทดสอบของมิสเตอร์ฟูล? แต่ภาพลักษณ์มิสเตอร์เวิร์ลไม่ค่อยสอดคล้องกับจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดสักเท่าไร รายหลังดูเหมือนฮีโร่มากกว่า… ออเดรย์รู้สึกว่าตนค้นพบบางอย่างเข้า เริ่มอยากรู้จักตัวตนของเดอะเวิร์ลมให้มากกว่านี้ อยากรู้ว่าแท้จริงแล้ว จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดเป็นคนอย่างไร‘แฮงแมน’ อัลเจอร์และ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาพลันตระหนักถึงสาเหตุที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์ลอบจู่โจม ‘พลเรือโทโรคภัย’ เทรซี่ข้ารับใช้ผู้นี้กำลังตามสืบความจริงเบื้องหลังโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์!ในอีกความหมายหนึ่ง มิสเตอร์ฟูลกำลังสนใจความจริงเบื้องหลัง!เมื่อได้ยินเดอะเวิร์ลเอ่ยถึงคาพิน ‘เมจิกเชี่ยน’ ฟอร์สและ ‘เดอะมูน’ เอ็มลินที่อาศัยอยู่ในเบ็คลันด์ เริ่มสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากล ตำนานจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง กลายเป็นตัวเอกในนิยายหลายเรื่อง แม้แต่ฟอร์สเองก็ยังอยากเขียนถึงความรักระหว่างจอมโจรวีรบุรุษและบุตรสาวตระกูลขุนนางในที่สุด พวกมันเข้าใจถึงสาเหตุที่เดอะเวิร์ลรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นในกรุงเบ็คลันด์ ที่แท้ชายคนนี้ก็คอยสืบสวนเรื่องราวอย่างใกล้ชิดมาตลอดดูเหมือนว่า ความวุ่นวายในกรุงเบ็คลันด์ยังไม่จบลง ในอนาคตอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีก… เราอยากไปจากที่นี่ใจแทบขาด แต่ซิลคงไม่ยอม และเราก็จนปัญญาจะอธิบาย…เอ็มลินมิได้แตกตื่น ตามความคิดของมัน หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้นอีกครั้ง ผีดูดเลือดที่แข็งแกร่งสักตนของตระกูลคงสามารถปกป้องคุ้มครองทุกคนได้บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบราวสองวินาที ‘แฮงแมน’ อัลเจอร์กล่าวเสียงขรึม“ผมจะลองตรวจสอบเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ”มันมีลางสังหรณ์ว่า เบื้องหลังการตายของกัปตันคลั่งคือพายุลูกใหญ่ที่กำลังก่อตัว ภายในใจอัลเจอร์จึงค่อนข้างหวาดกลัวที่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยง แต่ขณะเดียวกัน มันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ใหญ่ระดับทวีป‘เฮอร์มิท’ แคทลียาที่ฟังอย่างเงียบงันสักพัก พยักหน้าและกล่าว“ดิฉันก็จะช่วยรวบรวมข้อมูลอีกแรง… มีเบาะแสเพิ่มเติมไหม”ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก บังคับให้เดอะเวิร์ลเล่าความจริง“ในคืนวันที่กัปตันคลั่งเสียชีวิต บนเรือลำนั้นต้องสงสัยว่าจะมีผู้วิเศษลำดับสูงของเส้นทางจักรพรรดิมืดอยู่ด้วย แต่บุคคลดังกล่าวหนีไปได้ก่อนที่แยนน์·ค็อตแมนจะถึงจุดเกิดเหตุ”ครึ่งเทพเส้นทางจักรพรรดิมืด… อัลเจอร์และแคทลียาพึมพำออกมาพร้อมกัน ครุ่นคิดว่าพวกตนควรเริ่มจากตรงไหน‘จัสติส’ ออเดรย์และคนที่เหลือต่างตกตะลึงกับพัฒนาการของชุมนุมทาโรต์ ตอนนี้มีทั้งการพูดเรื่องครึ่งเทพ ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ครึ่งเทพโดยตรง แต่ในทางกลับกัน ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคไม่เข้าใจอะไรเลยเมื่อเรื่องราวของกัปตันคลั่งยุติ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาชำเลืองไปทางเดอะเวิร์ล“ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสนใจในทะเล เมื่อราวหนึ่งสัปดาห์ก่อน ‘นักผจญภัยเสียสติ’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ลงมือสังหารผู้ช่วยกัปตันเรือของ ‘ราชาอมตะ’ อาการิธ… เหยื่อเป็นเจ้าของฉายา ‘จอมเชือด’ มีนามว่าจิลเซียส ผู้วิเศษลำดับ 5”“สุดยอด…” ฟอร์สที่อยู่เพียงลำดับ 8 กล่าวยกย่องโดยไม่ปิดบัง เธอทราบดีว่าการที่เหยื่อเป็นลำดับ 5 หมายถึงสิ่งใด“อา… สมกับนักผจญภัยที่ชอบสร้างตำนาน” ออเดรย์เสริม‘เดอะมูน’ เอ็มลินพะงาบปาก แต่สุดท้ายก็เลือกจะปิดสนิท ตระหนักว่าตนยังห่างไกลจากระดับนั้น‘แฮงแมน’ อัลเจอร์กล่าว“ด้วยเหตุนี้ เกอร์มัน·สแปร์โรว์จึงถูกบรรดาองค์กรใหญ่ตามสืบข่าว”กำลังจะบอกว่า… โบสถ์วายุสลาตันเองก็สั่งให้นายตามสืบเรื่องของฉันด้วย? ไคลน์เข้าใจความนัยแฝง บังคับให้เดอะเวิร์ลหัวเราะในลำคอ“ผมกำลังอยากรู้พอดีว่ามีที่ไหนรับซื้อเบาะแสบ้าง… ทางนี้มีข้อมูลของเกอร์มัน·สแปร์โรว์พอสมควร”หืม… มิสเตอร์เวิร์ลกำลังหมายถึง เขาอนุญาตให้เรานำข้อมูลที่ดูเหมือนจะสำคัญ แต่ความจริงแล้วกลวง ไปรายงานต่อโบสถ์วายุสลาตันเพื่อสร้างความไว้วางใจ? แฮงแมนพยักหน้ารับช่วงเวลาสนทนาอิสระยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลานาน จนกระทั่ง ‘เดอะซัน’ เดอร์ริคเรียนศัพท์เฮอร์มิสโบราณของสัปดาห์นี้จบ การชุมนุมจึงจบลงโดยสมบูรณ์หลังจากจัสติสและคนที่เหลือกลับไป ไคลน์หันกลับมาจ้อง ‘การเดินทางของกรอซาย’ บนโต๊ะทองแดงยาว
คอมเม้นต์