ราชันเร้นลับ 714 : ไดอารีหน้าใหม่
ด้านในห้องพักโรงแรมที่เงียบสงบ เครื่องรับโทรเลขไร้สายซึ่งเคยมืดมนกลับสู่ภาวะปรกติอย่างรวดเร็ว บรรยากาศมืดสลัวเมื่อครู่อันตรธานหายไปทันทีไคลน์วุ่นวายอยู่กับการประกอบพิธีกรรมสักพัก สังเวยสิ่งของเข้าไปในห้วงมิติเหนือสายหมอกสีเทา จนกระทั่งจัดการเสร็จ จึงมีเวลาครุ่นคิดหาคำตอบให้ตัวเองอาศัยเบาะแสที่กระจกวิเศษ ‘อาโรเดส’ มอบให้ ผนวกกับคำแนะนำของมิสเตอร์อะซิกและ ‘อสรพิษแห่งชะตา’ วิล·อัสติน ไคลน์เริ่มวางแผนการขั้นถัดไปมิใช่เพราะชายหนุ่มต้องการกลับไปพักผ่อนหย่อนใจที่เบ็คลันด์ แต่มหานครอันวุ่นวายและมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นบ่อยครั้งแห่งนี้ คือเมืองที่ไคลน์ใช้ชีวิตมายาวนานที่สุด นอกจากนั้น หากหวังขโมยสมุดบันทึกอันทีโกนัสจามหาวิหารนักบุญแซมมวล การอาศัยในกรุงเบ็คลันด์ย่อมง่ายต่อการประเมินโอกาสสำเร็จแต่หากพบว่าภารกิจดังกล่าวเป็นไปไม่ได้ ชายหนุ่มจะพิจารณาถึงการเลื่อนลำดับในเส้นทางใกล้เคียงแทน และหากยังอับจนหนทางอีก ก็ต้องลงมือด้วยตัวเลือกสุดท้าย มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาโฮนาซิสอา… การกลับกรุงเบ็คลันด์คราวนี้ เราไม่สามารถใช้ตัวของเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ได้อย่างเปิดเผย เว้นเสียแต่ต้องการล่อให้อินซ์·แซงวีลล์หรือราชวงศ์บางคนเผยตัวออกมา… แต่ถ้าจำเป็นต้องติดต่อกับโบสถ์จักรกลไอน้ำ ถึงตอนนั้นค่อยใช้ใบหน้าเชอร์ล็อก…ในช่วงแรก เราต้องกลายเป็นตัวตนใหม่ และต้องแตกต่างจากเกอร์มัน·สแปร์โรว์ให้มากที่สุด… ขากลับ เราไม่ควรตรงไปจากท่าเรือพริสต์ แต่ต้องอ้อมไปทางอ่าวเดซีย์ ยืนยันให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครสามารถสืบสาวต้นตอ… ไคลน์เค้นสมองใช้ความคิด แผนการเริ่มเป็นรูปเป็นร่างหลังจากกำหนดทิศทางอย่างคร่าว ชายหนุ่มเตรียมเจาะเลือดและส่งเข้าไปในห้วงมิติเหนือสายหมอก นี่คือเงื่อนไขเบื้องต้นของการสำรวจ ‘บันทึกการเดินทางของกรอซาย’ ด้วยร่างวิญญาณ แต่เมื่อพิจารณาว่า ช่วยบ่ายของวันนี้มีชุมนุมทาโรต์ จึงเอนหลังลงบนเตียง นอนหลับอย่างผ่อนคลาย…ขณะอนาคตกาลกำลังโลดโผนบนเกลียวคลื่น ‘พลเรือเอกดวงดาว’ แคทลียายืนอยู่ข้างหน้าต่าง มองออกไปยังทัศนียภาพมุมกว้างด้านนอก สลับกับจ้องมองดาดฟ้าหัวเรือเป็นระยะ ได้ยินเสียงดุด่าของนีน่าเป็นระยะ อีกฝ่ายกำลังตำหนิแฟรงก์·ลีที่สร้างเห็ด ‘โตไว’ รสเนื้อที่ชอบกินปลาขึ้นมาแคทลียาถอนหายใจแผ่วเบา ยกมือขึ้นดันแว่นตาหนาเตอะบนดั้งจมูกทันใดนั้น สัมผัสวิญญาณพลันถูกกระตุ้น เมื่อมองไปยังโต๊ะทำงาน หญิงสาวพบกระดาษสีเหลืองสองสามแผ่น“ไดอารีของจักรพรรดิ… ในที่สุดก็ส่งมา” แคทลียาหันหลังกลับด้วยท่าทางยินดี หยิบกระดาษสองสามแผ่นดังกล่าวขึ้นมาตรวจสอบเบื้องต้นจนกระทั่งบ่ายสามโมงตรง เมื่อจดจำสัญลักษณ์ทั้งหมดบนกระดาษได้ขึ้นใจ แสงสีแดงเข้มส่องสว่างท่วมท้นการมองเห็นของเธอท่ามกลางหลังคาโดมสูงตระหง่านที่เกื้อหนุนด้วยเสาหิน ‘เฮอร์มิท’ แคทลียามองเห็นแสงสีแดงเข้มหลายจุดกำลังสาดส่องลงบนเก้าอี้พนักสูง บรรจงก่อตัวเป็นรูปร่างมนุษย์หญิงสาวมิได้หันไปมอง เพียงสนใจแว่นตาของตัวเองที่ปรากฏขึ้นโดยไม่ได้เสก คล้ายกับรูปกายภายนอกถูกมิติแห่งนี้จำลองขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เว้นแม้กระทั่งเครื่องประดับจากนั้น ณ มุมสายตาแคทลียา มิสจัสติสลุกขึ้นยืนด้วยกิริยาสง่างาม ส่งเสียงทักทายบุคคลสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ฟูล~”ออเดรย์กำลังอารมณ์ดี เพราะเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากกลับถึงคฤหาสน์ของครอบครัว ในฐานะบุตรสาวที่น่ารัก เธอช่วยมารดาของตน คุณหญิงเคทลิน แก้ปัญหาอาการทางจิตที่เกิดจากอายุและสภาพร่างกาย ผลตอบรับยอดเยี่ยมเกินความคาดหมาย ช่วยให้ออเดรย์สามารถสรุปกฎการสวมบทบาทของ ‘นักจิตบำบัด’หนึ่งในนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาอาการทางจิตให้ผู้อื่น เธอสงสัยบางว่าบางที นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้โอสถมีชื่อว่า ‘นักจิตบำบัด’ แทนที่จะเป็น ‘จิตแพทย์’มิสจัสติสกำลังมีความสุข… ราวกับอารมณ์สามารถส่งผ่านถึงกัน ไคลน์พยักหน้าตอบสนองอย่างยิ้มแย้มระหว่างนั้น ชายหนุ่มพบว่า ‘แฮงแมน’ กำลังวิตกกังวล คล้ายกับลังเลในบางสิ่ง ยากจะตัดสินใจให้เด็ดขาดหืม… อาจเป็นไปได้ว่า มิสเตอร์แฮงแมนมีเงินพอที่จะซื้อสูตรโอสถและวัตถุดิบหลักของ ‘ผู้ขับขานสมุทร’ แต่นั่นจะเป็นการสูญเสียเงินก้อนใหญ่ในคราวเดียว จึงอยากผ่อนชำระมากกว่า? ‘เดอะฟูล’ ไคลน์ถอนสายตากลับและมองไปรอบๆรอจนกระทั่งมิสจัสติสทักทายเสร็จ ‘เฮอร์มิท’ แคทลียาหันหน้าไปทางสุดขอบโต๊ะทองแดงยาว“มิสเตอร์ฟูล ดิฉันรวบรวมไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ได้สามหน้า”มาแล้ว… ไดอารีสามหน้าที่ ‘ราชินีเงื่อนงำ’ คัดสรรด้วยตัวเอง จะอัดแน่นไปด้วยข้อมูลมากแค่ไหนกัน? แล้วเป็นเนื้อหาแบบใด? ยกตัวอย่างเช่น เบาะแสของไพ่เย้ยเทพเส้นทางนักทำนาย… นั่นอาจช่วยให้เราค้นพบหนทางใหม่… ไคลน์ที่รอคอยอย่างคาดหวัง กล่าวด้วยอากัปกิริยาสงบนิ่งและเป็นธรรมชาติ“ทำได้ดี คิดข้อเสนอเตรียมไว้เลย”“ค่ะ มิสเตอร์ฟูล” แคทลียาตอบรับอย่างนอบน้อม จากนั้นก็ขอสิทธิ์ในการเขียนไดอารีลงบนแผ่นกระดาษเมื่อเห็นกิริยาท่าทางของอีกฝ่าย ไคลน์หวนนึกถึงแคทลียาในความฝัน ภายในใจเกิดความสุขอย่างบอกไม่ถูก คล้ายกับอาจารย์ที่สามารถอบรมให้เด็กเกเรทำตัวอยู่ในกรอบนี่เป็นครั้งแรกที่มาดามเฮอร์มิทส่งไดอารีจักรพรรดิโรซายล์… พิจารณาจากฝีมือและพลังอำนาจของเธอ หากตั้งใจจะทำจริงๆ ก็คงรวบรวมไดอารีได้นานแล้ว… หมายความว่า หลังจากถูกมิสเตอร์ฟูลสั่งสอน มาดามเฮอร์มิทเริ่มอยากมีส่วนร่วมกับชุมนุมทาโรต์มากขึ้น? ‘จัสติส’ ออเดรย์สำรวจท่าทีของแคทลียาและนำไปเทียบกับการชุมนุมเมื่อสัปดาห์ก่อน สรุปผลลัพธ์ในใจขณะเดียวกัน เธอยังสังเกตเห็นว่า ‘แฮงแมน’ ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก คล้ายกำลังคาดหวังบางสิ่ง และไม่อยากสูญเสียบางอย่าง นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวเกิดความอยากรู้อยากเห็นโดยไม่ต้องรอนาน ไดอารีจำนวนสามหน้าถูกส่งมาถึงมือไคลน์‘เดอะซัน’ เดอร์ริคและคนที่เหลือพลันสำรวม ไม่มีใครรบกวนเดอะฟูล“9 กุมภาพันธ์ วันนี้เป็นวันเกิดของโบโนว่า… เขาเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรง แข็งแกร่ง ซื่อสัตย์ และจิตใจงดงาม นอกจากนั้นยังเป็นเด็กที่เคร่งครัดในคำสอนของศาสนา ทางศาสนจักรจึงชื่นชอบมาก”“ทุกคนร่วมแสดงความยินดีกับเราและกล่าวว่า โบโนว่าจะต้องกลายเป็น ‘ข้ารับใช้’ ของพระองค์ได้แน่ ดวงวิญญาณของเขาศักดิ์สิทธิ์จนน่าทึ่ง ชนิดที่สามารถมอบความศรัทธาอันแสนบริสุทธิ์”“เราควรจะยินดี… แต่ลึกๆ ในใจกลับหดหู่เพราะอยากให้เขาเป็นมนุษย์มากกว่านี้ มีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่านี้ และเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ มิใช่ผู้ศรัทธาในเทพอย่างไม่ลืมหูลืมตา”“อย่างไรก็ตาม เกือบทุกคนล้วนพูดเหมือนกันว่า โบโนว่ากำลังเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง ทั้งมาทิลด้า ชิเอล เหล่าขุนนางและรัฐมนตรี ทุกคนคิดแบบนี้กันหมด มีเพียงแบร์นาแดตที่คิดเหมือนเรา เธอเคยแอบคุยกับเราว่า มนุษย์ควรเห็นแก่ตัวมากกว่านี้ ตราบเท่าที่ไม่ทำร้ายใคร”“เมื่อหวนนึกถึงคำพูดของซาราธในวันที่โบโนว่าคลอดออกมา ผนวกกับลางสังหรณ์ของเราหลังจากกลายเป็นครึ่งเทพ นั่นยิ่งทำให้เรามั่นใจ…”“เทวทูตที่น่ารักงั้นหรือ… หึหึ… เทวทูตที่น่ารักสินะ”“เจ้านั่นหวาดระแวงเรา?”“แถมยังวางแผนจะควบคุมเรา?”“แกต้องคิดไม่ถึงแน่ว่าฉันเป็นคนทะเยอทะยานมากแค่ไหน… ในสายตาของฉัน ถึงจะเป็นเทพ แต่ฉันคนนี้ก็จะขึ้นไปแทนที่ให้ดู!”“11 กุมภาพันธ์ การติดต่อกับซาราธล้มเหลวอีกครั้ง”“ตั้งแต่เราขโมยสมุดบันทึกอันทีโกนัสนั่นมาได้ ผู้นำลัทธิเร้นลับคนนี้ก็เริ่มหายหน้าหายตา แทบไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกเลย เดาไม่ออกว่ากำลังแอบวางแผนอะไรอยู่ แน่นอน เจ้านั่นก็คงไม่คิดจะบอกเรา”“12 กุมภาพันธ์ เราสร้างสมบัติวิเศษที่เหมาะกับแบร์นาแดตขึ้นมาได้”“สิ่งนี้จะช่วยให้เธอรอดพ้นจากการจ้องมองของ ‘ปราชญ์เร้นลับ’ ขอเพียงไม่สวดวิงวอนถึงอีกฝ่ายด้วยตัวเองก็พอ… นอกจากนั้นยังช่วยให้บรรดา ‘นักบุญ’ สามารถเข้าสู่น่านน้ำอันตรายทางสุดขอบตะวันออกของทะเลโซเนีย พวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากเสียงเพรียกของ ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ อีกต่อไป… ซากสมรภูมิแห่งเทพในแถบนั้น ต้องซุกซ่อนความลับของดินแดนเทพทอดทิ้งเอาไว้แน่”“ฮะฮะ! เราแค่อยากสร้างของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกสาว แต่กลับลงเอยด้วยผลงานชิ้นโบแดงเสียได้… แบร์นาแดต พ่อของเธอคือ ‘ช่างฝีมือ’ ที่เก่งที่สุดในโลก!”ช่างฝีมือที่เก่งที่สุดในโลก? หมายความว่า ขณะเขียนไดอารีหน้านี้ จักรพรรดิคือลำดับ 2 ของเส้นทาง ‘นักปราชญ์’ … เทวทูตเดินดิน? ตราบใดที่เทพจักรกลไอน้ำยังมีชีวิตอยู่ ลำดับ 2 หมายถึงขีดกำจัดที่ ‘ช่างฝีมือที่เก่งที่สุดในโลก’ จะเอื้อมถึง… เข้าใจแล้วว่าทำไม ‘ราชินีเงื่อนงำ’ ถึงสามารถเข้าออกซากสมรภูมิแห่งเทพได้ตามใจชอบ… ที่แท้ก็มรดกจากบิดา… เฮ่อ… ลูกที่มีพ่อแม่คอยสนับสนุนช่างน่าอิจฉา… ไคลน์ถอนหายใจด้วยอารมณ์โหยหานอกจากนั้น ในบางถ้อยคำของไดอารีหน้าแรก ไคลน์สัมผัสถึงความหดหู่และไม่สบอารมณ์ของจักรพรรดิโรซายล์ อาศัยทักษะการตีความจากโลกเก่า ถอดความหมายของ ‘เนื้อหา’ ที่ซ่อนอยู่หลังจากกลายเป็นเทวทูต ดูเหมือนว่าจักรพรรดิจะถูกเทพจักรกลไอน้ำคอยควบคุมและจับตามอง ถึงขั้นล้างสมองโบโนว่า ลูกชายของโรซายล์ ให้กลายเป็นเด็กเคร่งศาสนาอย่างสุดโต่ง มอบสิทธิ์เข้าสู่ ‘ดินแดนแห่งความสัมบูรณ์’ และกลายเป็นเทวทูต…ทว่า นอกจากจะไม่ยอมสยบ โรซายล์กลับยิ่งเกิดความรู้สึกต่อต้าน…และในภายหลัง จักรพรรดิก็กลายเป็นศัตรูของโลกเพราะไม่ยอมจำนน? ไคลน์พยักหน้ากับตัวเองขณะเดียวกัน ชายหนุ่มพบเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับซาราธ เป็นที่น่าสงสัยว่า หลังจาก ‘ผู้ชี้นำปาฏิหาริย์’ รายนี้ครอบครองสมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส มันวางแผนมากมายเพื่อที่จะเลื่อนเป็นลำดับ 1 แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกลางคัน ส่งผลให้คลุ้มคลั่งและกลายเป็นสัตว์ประหลาดเสียสติ อย่างไรก็ตาม เหมือนกับที่ ‘กระจกวิเศษ’ อาโรเดสตักเตือน ซาราธอาจไม่ได้คลุ้มคลั่งจริง แต่แสร้งทำเป็นเช่นนั้นโดยหวังผลบางอย่างหลังจากอ่านหน้าแรกจบ ไคลน์พลิกไปยังหน้าถัดไปและพบว่าเนื้อหาไม่ปะติดปะต่อกัน เป็นเรื่องราวใหม่โดยสมบูรณ์“5 ตุลาคม สาวกของ ‘ดวงจันทร์บรรพกาล’ หลายคนถูกจับกุมโดยฝีมือองค์กร ‘ชายชุดดำ’ ที่เราก่อตั้ง ส่งผลให้พวกมันประกอบพิธีกรรมสังเวยล้มเหลว”“พฤติกรรมของพวกมันสร้างความประหลาดใจให้เราพอสมควร กำลังจะบอกว่า พลังพิเศษที่พวกมันได้รับนั้นมาจากพระจันทร์สีแดงโดยตรง?”“น่าแปลก… เอกสารทางวิชาการจำนวนมากล้วนยืนยันตรงกันว่า จันทร์แดงเป็นเพียงดาวเคราะห์ที่โคจรรอบโลก… ไม่สิ หลักวิทยาศาสตร์นำมาใช้กับศาสตร์เร้นลับได้ด้วยหรือ?”“จากพลังในปัจจุบันของเรา การไปเหยียบดวงจันทร์สีแดงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แค่ต้องใช้ความพยายามมากหน่อย… แต่เรายังไม่เห็นประโยชน์ที่จะทำแบบนั้น”“7 ตุลาคม ในที่สุดก็ตัดสินใจได้”“เราจะเปลี่ยนไปยังเส้นทาง ‘ผู้ส่องความลับ’ ที่ใกล้ชิดกัน… เหลือแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะเลื่อนเป็นลำดับ 1 ได้”“เราสงสัยมาตลอดว่า ‘ปราชญ์เร้นลับ’ อาจเป็นเพียง ‘เอกลักษณ์’ ของเส้นทางที่บังเอิญได้รับ ‘ชีวิต’ จากเหตุการณ์เหนือธรรมชาติบางอย่าง และนั่นหมายความว่า ลำดับ 1 ของเส้นทางผู้ส่องความลับยังว่างอยู่!”
คอมเม้นต์