ราชันเร้นลับ 708 : ลูกโม่ราคาเก้าพันปอนด์
ลางมรณะ? การยิงทุกนัดคือลางร้ายของศัตรู? ชื่อน่าสนใจ… ไคลน์ควบคุมอารมณ์บนใบหน้า ไม่แสดงความอยากได้หรือตื่นเต้นออกมาจนเกินพอดี เพียงขยับเข้าไปใกล้ เหยียดแขนหยิบลูกโม่เหล็กดำที่มีลำกล้องยาวกว่าปรกติเล็กน้อยชายหนุ่มกังวลว่า หากแสดงความต้องการอย่างออกนอกหน้า ยุกฟ่าจะเพิ่มราคาขาย นี่คือหลักการพื้นฐานของการซื้อขายสินค้าในโลกใต้ดิน อย่างไรก็ตาม หลังจากคำนึงถึงชื่อเสียงเกอร์มัน·สแปร์โรว์ รวมถึงเรื่องที่แอนเดอร์สัน นักล่าอันดับหนึ่งแห่งทะเลหมอกช่วยเป็นพยาน ถึงยุกฟ่าจะเป็นนักผจญภัยทรงพลังลำดับ 5 แต่ปัจจุบันก็ถอนตัวออกจากความวุ่นวายทางโลกแล้ว เป็นเพียงคนที่อยากจะมีชีวิตสงบสุขในช่วงบั้นปลาย ไม่กล้าบิดพลิ้วการซื้อขาย ด้วยเกรงว่านักผจญภัยเสียสติจะแอบลอบเข้ามาจู่โจมในคฤหาสน์ยามค่ำคืนแต่กระนั้น ไคลน์ยังคงเก๊กมาดขรึมต่อไป เพื่อรักษาภาพลักษณ์เย็นชาของตนเมื่อเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์สนใจ ‘ลางมรณะ’ ยุกฟ่าเริ่มอธิบาย“ความสามารถทั้งหมดของมันมีเพื่อจุดประสงค์เดียว… เอาชีวิตศัตรู… ปืนกระบอกนี้สามารถใช้งานได้สามรูปแบบ…”“รูปแบบแรก ‘โจมตีจุดอ่อน’ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเงื่อนไขใด เพียงถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปและเหนี่ยวไก นายจะมองเห็นจุดอ่อนของเป้าหมายในเชิงศาสตร์เร้นลับทันที บริเวณดังกล่าวคือตำแหน่งที่ศัตรูอ่อนแอเป็นพิเศษ นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มความแม่นยำให้สอดคล้องกับการเล็ง ผสมผสานเป็นการโจมตีที่รุนแรงกว่าปรกติ…”“รูปแบบที่สอง ‘โจมตีหนักหน่วง’ นายต้องง้างนกก่อนจึงจะใช้รูปแบบนี้ได้ ลักษณะเด่นก็คือ ไม่ว่าจะยิงโดนจุดใดของเป้าหมาย กระสุนจะรุนแรงเทียบเท่าการยิงใส่จุดอ่อนเสมอ และหากยิงโดนจุดอ่อนของจริงเข้า ถ้าศัตรูมีพลังป้องกันต่ำ นายสามารถปลิดชีพอีกฝ่ายได้ในนัดเดียว แต่ถ้าศัตรูมีพลังป้องกันค่อนข้างสูง นายจะปลิดชีพมันได้ภายในสามนัด… แน่นอน แม้แต่ผู้วิเศษ ‘การ์เดี้ยน’ ก็ไม่มีข้อยกเว้น… อย่างไรก็ตาม ทั้งสามนัดต้องไม่ทิ้งห่างกันนานเกินไป ไม่ควรเกิดห้าวินาที”“รูปแบบที่สาม ‘โจมตีล้างบาง’ หากเลือกใช้คู่กับ ‘โจมตีจุดอ่อน’ นายต้องถ่ายพลังวิญญาณมากกว่าปรกติถึงสองเท่า ความสามารถนี้จะช่วยให้ยิงกระสุนธรรมดาออกไปในลักษณะปืนลูกซอง โจมตีศัตรูหลายเป้าหมายในเวลาเดียวกัน หรือไม่ก็เพื่อให้ศัตรูได้รับบาดแผลหลายแห่ง เพิ่มความเสียหายภาพรวม… หากใช้คู่กับ ‘โจมตีหนักหน่วง’ นายต้องถ่ายพลังวิญญาณเพิ่มเข้าไปจากปรกติอีกสองเท่า นั่นไม่ใช่ภาระเล็กน้อยอีกต่อไป”“เหนือสิ่งอื่นใด ปืนกระบอกนี้สามารถใช้ร่วมกับกระสุนพิเศษชนิดต่างๆ สำหรับจัดการศัตรูต่างประเภทกัน”ฟังดูเหมือนพลังของลำดับ 5 ‘ยมทูต’ แห่งเส้นทางนักล่า… ไคลน์มองไปทางแอนเดอร์สันด้านข้าง ถามหลังจากครุ่นคิด“ถ้าเป้าหมายเป็นมังกรที่ผิวกายแข็งแกร่งเทียบเท่าครึ่งเทพลำดับ 4… ต้อง ‘โจมตีหนักหน่วง’ กี่ครั้งถึงจะฆ่ามันได้?”ยุกฟ่าผงะไปครู่หนึ่ง ส่ายหน้าอย่างเหม่อลอย“ฉันไม่เคยเจอมังกร”ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงมังกรระดับครึ่งเทพ!เกอร์มัน·สแปร์โรว์คิดจะใช้ปืนกระบอกนี้ฆ่ามังกร? แถมยังเป็นมังกรครึ่งเทพ? หมอนี่เสียสติไปแล้วหรือ? ทันใดนั้น ยุกฟ่าเริ่มสัมผัสได้ว่า นักผจญภัยในยุคปัจจุบัน แตกต่างจากยุคที่มันเคยโลดแล่นโดยสิ้นเชิง การฆ่ามังกรไม่เคยมีอยู่ในหัวเลยสักครั้ง!แอนเดอร์สันพลันสำลักน้ำลาย ก่อนจะกระแอมแห้งและกล่าว“นั่นขึ้นอยู่กับดวง… เชื่อฉันเถอะ ดวงสำคัญมาก! ถ้านายเจอมังกรที่ถูกคนอื่นทำร้ายจนบาดเจ็บเจียนตาย แค่นัดเดียวก็เพียงพอ แต่ถ้าไม่ใช่ ฉันขอแนะนำให้นายรีบเผ่น ชีวิตของตัวเองสำคัญกว่ามาก… แต่สมมติว่า ถ้ามีมังกรระดับครึ่งเทพยืนให้นายยิงโดยไม่ป้องกัน รูปแบบ ‘โจมตีหนักหน่วง’ ประมาณห้านัดก็คงเพียงพอที่จะปลิดชีวิตมัน”ยุกฟ่ามองไปทางแอนเดอร์สัน ก่อนจะมองกลับมาที่เกอร์มัน·สแปร์โรว์ สุดท้าย มันตัดสินใจไม่สานต่อหัวข้อสนทนาเดิม เปลี่ยนไปคุยประเด็นใหม่“แอนเดอร์สันคงอธิบายผลข้างเคียงของลางมรณะให้ฟังแล้ว… หลังจากการใช้งานแต่ละครั้ง นายจะได้รับจุดอ่อนที่ตัวเองไม่เคยมีมาก่อน หรือไม่ก็ทวีคูณจุดอ่อนเดิม ผลข้างเคียงดังกล่าวจะคงอยู่นานหกชั่วโมง… เคยมีครั้งหนึ่ง ขณะที่ฉันได้รับจุดอ่อนเป็นความกลัวต่อสุนัข หลังจากทีมของเราเพิ่งจัดการกับโจรสลัดโด่งดังคนหนึ่ง ในวินาทีที่เห็นลูกสุนัขแรกคลอดเดินเข้ามา แข้งขาของฉันพลันอ่อนระทวย รีบคุกเข่าลงด้วยน้ำตานองหน้า ร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าสมเพช… ในยามที่นายพกมันไว้กับตัว ผลข้างเคียงจะไม่รุนแรงมากนัก มีเพียงกระหายน้ำบ่อยกว่าปรกติ แค่ดื่มน้ำให้มากและเข้าห้องน้ำบ่อยๆ ก็พอ”ทำไมเราถึงรู้สึกว่า… ผลข้างเคียงที่ดูเหมือนจะไม่อันตราย ในอนาคตอาจนำพาความฉิบหายให้เราสักวัน… แต่ว่ากันตามตรง นี่เป็นผลข้างเคียงที่ยอมรับได้… ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก“เสนอราคามา”“เก้าพันปอนด์ แอนเดอร์สันน่าจะเกริ่นให้ฟังไปบ้างแล้ว ฉันลดให้ได้แค่นี้” ยุกฟ่ามองไปที่ปืนลูกโม่ ‘ลางมรณะ’ ในมือเกอร์มัน·สแปร์โรว์ “ราคานี้นับว่าถูกมาก ถ้าไม่ใช่เพราะฉันกังวลว่าจะตกเป็นเป้าของกลุ่มผู้วิเศษจนอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน คงป่าวประกาศขายอย่างครึกโครมไปแล้ว… ฉันเชื่อว่ามีคนที่พร้อมซื้อมันในราคาหนึ่งหมื่นสองพันปอนด์”ที่พูดมาก็ไม่ผิด… สมบัติวิเศษระดับนี้ ตราบเท่าที่ผลข้างเคียงไม่รุนแรงเกินไปและผู้ซื้อพึงพอใจ ราคาของมันสามารถดีดขึ้นไปอีกพอสมควร… อาจสูงถึงหนึ่งหมื่นถึงหนึ่งหมื่นสองพันปอนด์เลยทีเดียว… ไคลน์อยากต่อราคา แต่ตัวเลขที่อีกฝ่ายเสนอให้นับว่าค่อนข้างต่ำ การต่อรองจึงถือเป็นเรื่องน่าละอาย“ขอเช็กของก่อน ถ้าไม่มีปัญหาจะจ่ายให้ทันที”แน่นอน ไคลน์ไม่คิดจะทดสอบยิงปืน เพราะนั่นจะทำให้ได้รับจุดอ่อนโดยไม่จำเป็น วิธี ‘เช็กของ’ สามารถทำได้โดยการถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปตรวจสอบ รวมถึงใช้พลังทำนายเพื่อจับโกหกของอีกฝ่าย ไคลน์ลงมือทำทุกสิ่งที่จำเป็นอย่างเยือกเย็น ไม่แยแสสายตาของยุกฟ่าและแอนเดอร์สันไว้ค่อยยืนยันขั้นสุดท้ายบนมิติหมอก… แต่เท่าที่ดู ยุกฟ่าไม่น่าจะโกหกเรา เขาคงกลัวการแก้แค้นจากนักผจญภัยเสียสติ… เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีเหตุผลให้เขาต้องเล่นตุกติก ยุกฟ่ามีชีวิตปัจจุบันที่มั่นคงและสงบสุขแล้ว… ไคลน์วางลางมรณะลงบนโต๊ะ ยกกระเป๋าเดินทาง หยิบเงินเก้าพันปอนด์ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมาวางยุกฟ่ารับเงินและเริ่มนับอย่างรวดเร็ว ยืนยันความถูกต้องของธนบัตรและจำนวนเงินเบื้องต้น“สมแล้วที่เป็นนักผจญภัยผู้กำลังโด่งดังสุดขีด… หาได้ยากที่จะมีใครสามารถควักเงินสดรวดเดียวเก้าพันปอนด์ กระทั่งเศรษฐีบางคนยังไม่พกเงินสดติดตัวขนาดนี้” หลังจากเก็บปึกธนบัตร ยุกฟ่ากล่าวชื่นชมจะบอกอะไรให้ ฉันเพิ่งซื้อกุญแจด้วยเงินสดห้าพันปอนด์มาหมาดๆ … ไคลน์จ้องธนบัตรเก้าพันปอนด์ที่ยุกฟ่าเก็บในลิ้นชัก ภายในเริ่มห่อเหี่ยวเราออกทะเลมานานจนเก็บเงินได้ก่อนใหญ่ แต่สุดท้ายก็ใช้หมดภายในเวลาอันสั้น… ตอนนี้เหลือเงินสดแค่ 2,683 ปอนด์กับอีกหกเหรียญทอง ซื้อไม่ได้แม้กระทั่งคฤหาสน์เกรดปานกลาง… ไคลน์ถอนหายใจด้วยอารมณ์ยากอธิบาย นำลูกโม่ธรรมดาออกจากซองปืนใต้รักแร้ เทกระสุนใส่มือ ยัดใส่ลางมรณะทีละนัดแอนเดอร์สันที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ส่ายหน้าและถาม“ยุกฟ่า นายเปลี่ยนไปนะ เมื่อค่อยเคยนั่งตรวจสอบธนบัตรแท้ทีละใบ… ถ้านายคิดว่ามันเสียเวลา ฉันยินดีช่วย!”“อย่าดีกว่า ฉันกลัวว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์จะยิงนาย” ยุกฟ่าย่อมตระหนักถึงพรสวรรค์ในการยั่วยุของนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดมันสามารถจินตนาการภาพอีกฝ่ายค่อยๆ ตรวจสอบธนบัตรภายใต้แสงสว่าง ด้วยท่าทางยียวน ทีละใบสองใบ!พูดได้ดี! ไคลน์เห็นด้วยในใจ พลางนำปืนลูกโม่ที่มีปากกระบอกยาวกว่าปรกติ ยัดลงในซองปืนใต้รักแร้สำหรับปืนกระบอกเดิม ชายหนุ่มเก็บใส่กระเป๋าเดินทาง“ขอบคุณที่อุดหนุน ฉันจะได้เลิกกังวลกับเรื่องนี้เสียที” ยุกฟ่ายิ้มและชี้ไปทางประตู “เดี๋ยวจะให้บุรุษรับใช้ไปส่ง”แอนเดอร์สันโพล่งขึ้น“ยุกฟ่า นายไม่คิดจะเลี้ยงข้าวเย็นพวกเราจริงหรือ?”“ไว้นายแต่งงานมีลูก ฉันจะเชิญมาเลี้ยงอาหารมื้อที่หรูหราที่สุด” ยุกฟ่ายิ้มอย่างไม่แยแสคำยั่วยุของอีกฝ่ายออกจากคฤหาสน์ แอนเดอร์สันชำเลืองเกอร์มัน·สแปร์โรว์ด้วยหางตา เงยหน้าขึ้นฟ้า จ้องมองพระอาทิตย์ที่ใกล้ตกดิน ส่งเสียงหัวเราะในลำคอ“ในตอนแรกที่ฉันรู้จักยุกฟ่า เจ้านั่นเป็นเพียงหมอที่เก่งในการปลูกพืชประหลาดๆ บนเรือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน… ฉันคิดว่าเขาคงอายุไม่ยืน แต่ผิดคาด หมอนั่นดวงดีเหลือเชื่อ สามารถไต่เต้าจนกระทั่งได้เป็น ‘ดรูอิด’ ”ทำไมประโยคชมเชยของนายถึงฟังดูเหมือน… กำลังดูแคลน… ไคลน์รำพันในใจก่อนจะตอบ“เห็นด้วย เขาโชคดีมาก… ถ้าต้องเป็นพวกพ้องของนาย ต้องใช้ดวงมหาศาลเพื่อเอาชีวิตรอดในแต่ละวัน”แอนเดอร์สันเอียงคอด้วยสีหน้าประหลาดใจ หลังจากยืนยันท่าทีของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ มันตอบโต้“นายยั่วยุคนอื่นเป็นด้วยหรือ? ติดไปจากฉันรึไง?”กล่าวจบ แอนเดอร์สันไม่รอคำตอบ จัดระเบียบเสื้อผ้า ถอดหมวก กล่าวด้วยรอยยิ้ม“เอาล่ะ นายก็ได้สมบัติวิเศษที่ต้องการแล้ว ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวออกไปทำตามความฝันบ้าง”“อย่าลืมทำภารกิจให้ครึ่งเทพ” เพียงคำพูดเดียวของไคลน์ สีหน้าแอนเดอร์สันพลันดำมืด“ไม่ต้องห่วง… ลึกๆ ในใจฉันมีแรงกระตุ้นประหลาด ผลักดันให้ตัวเองรีบจบภารกิจนั่นโดยเร็ว… เอาล่ะ พวกเราคงไม่จำเป็นต้องบอกลากันกระมัง สักวันอาจได้พบกันอีก” แอนเดอร์สันหัวเราะแห้ง โบกมือข้างที่ถือหมวก เดินเลี้ยวเข้าไปในถนนอีกเส้นยืนมองนักล่าอันดับหนึ่งเดินจากไป ไคลน์สูดลมหายใจอย่างไม่รีบร้อน ยกกระเป๋าเดินทางของตน ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามพลบค่ำ ชายหนุ่มเดินไปตามถนนใต้ร่มเงาของต้นปาล์ม มุ่งหน้าเข้าสู่บายัม…ณ เมืองบายัมไคลน์เข้าพักในโรงแรมธรรมดาแห่งหนึ่งและเริ่มวางแผนอนาคตเราเป็นอิสระแล้ว… สามารถทดสอบพลังของ ‘นักเชิดหุ่น’ และตั้งกฎการสวมบทบาทของโอสถได้ทันที… สำหรับตัวเราในปัจจุบัน นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด…นั่นสินะ นักเชิดหุ่นควรให้ความสนใจกับ ‘หุ่นเชิด’ แต่เรายังไม่ได้สร้างหุ่นเชิดอย่างจริงๆ จังๆ สักที คงต้องเริ่มจากจุดนี้ก่อน…นอกจากนั้น เราควรรีบจัดการให้เสร็จก่อนกลับถึงเบ็คลันด์ เพราะการหาผู้วิเศษที่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนใหญ่มักซ่อนตัวในเงามืด ยากจะพบเบาะแส และถึงจะหาจนพบในที่สุด แต่เกือบทั้งหมดล้วนพัวพันกับโบสถ์หลักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ต้องคอยระมัดระวังและรอบคอบพอสมควร ไม่ใช่สถานที่เหมาะแก่การสร้างหุ่นเชิดสักเท่าไร… ในทะเลสะดวกกว่ามาก แค่ไปเยือนผับดังๆ สักแห่ง ลงมือทดสอบกับโจรสลัดที่เคยกระทำเรื่องชั่วช้า…เมื่อตัดสินใจได้ ไคลน์ลุกขึ้นยืน เดินออกจากห้องพัก ทำตัวตามสบายคล้ายกับเตรียมถอนเงินจากธนาคาร ตรงไปยังจุดหมายที่อยู่ไม่ห่างออกไป – ผับสาหร่ายทะเล – จุดนัดพบอันโด่งดังที่มีโจรสลัดคนดังแวะเวียนมาเที่ยวบ่อยครั้งผ่านไปไม่นาน มันหยุดยืนหน้าประตูผับ จัดระเบียบเสื้อผ้าจนเสร็จ ชายหนุ่มผลักเปิดประตูไม้บานใหญ่ดวงตาทุกคู่พลันหันมาจ้องหน้าไคลน์ทันที ก่อนจะรีบถอนสายตากลับประหนึ่งไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น แต่เพียงไม่นาน ใครบางคนส่งเสียงโหวกเหวก“เกอร์มัน·สแปร์โรว์!”เพียงพริบตา ผู้คนจำนวนมากในผับต่างวิ่งกรูออกไปทางประตูหลังอย่างไม่คิดชีวิต ชั้นหนึ่งของผับแปรสภาพเป็นห้องร้างโดยที่ไคลน์ยังไม่ทันได้ทำอะไร
คอมเม้นต์