ราชันเร้นลับ 675 : สานสัมพันธ์
แอนเดอร์สันที่กังวลว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์จะคืนคำ รีบคว้าธนบัตรห้าซูลพลางจินตนาการถึงภาพเนื้อวัวถูกเปลวไฟเลียจนส่งเสียงฉ่า รวมถึงเหล้ารสเลิศที่ไม่มียาระงับประสาทผสมหึหึ หมอนี่ดันเอาจริง… เราแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ตามบุคลิกของตัวละคร… เพียงต้องการให้เขาเข้าใจว่าการยืมเงินจากเราไม่ใช่เรื่องง่าย จะได้ไม่ยืมเงินก้อนโตและเชิดหนีไปยังทะเลหมอก แต่ต้องขวนขวายออกไปไถเงินโจรสลัดด้วยตัวเอง… ไคลน์รำพันเล็กน้อยตามความคิดของชายหนุ่ม หากสถานที่ใดมีโจรสลัดชุกชุม ลำดับ 5 อย่าง ‘นักล่า’ คงไม่มีทางอดตายหรือไร้ที่ซุกหัวนอน ต่อให้ไม่มีเงินสักเพนนีเดียวก็ตามไคลน์ส่ายหน้าเล็กน้อย ขณะเตรียมเดินออกจากท่าเรือ มันได้ยินเสียงตะโกนดังจากด้านหลัง“เกอร์มัน!”“…” ไคลน์ผงะเมื่อทราบว่าเป็นเสียงของแฟรงค์·ลี สติกลับมาจดจ่อสภาพแวดล้อมตรงหน้ารองกัปตันแห่งอนาคตกาล ‘ผู้เชี่ยวชาญพิษ’ เจ้าของค่าหัวเจ็ดพันปอนด์ กำลังยืนอยู่บนกราบเรือ พลางใช้สองมือป้องปากคล้ายเครื่องขยายเสียง“นายชอบอยู่แถวไหนบ้าง? แล้วจะเขียนจดหมายถึงนายยังไง? ฉันอยากแบ่งปันผลการทดลองล่าสุดให้ฟัง!”แต่ฉันไม่อยากฟัง… หมอนี่คงมีเพื่อนไม่มากนัก และมั่นใจได้เลย เราคือหนึ่งในคนที่เขาเข้าใจว่าเป็นเพื่อน แต่ความจริงแล้วทางนี้ไม่ได้คิดอะไรด้วย… เฮ่อ… ดูเหมือนความจงรักภักดีของพลเรือเอกดวงดาวจะเอนเอียงไปทางราชินีเงื่อนงำมากกว่า มิได้รู้สึกผูกพันกับชุมนุมทาโรต์สักเท่าไร… ถ้าเรายอมเปิดใจและตีสนิทลูกน้องข้างกายแคทลียา ไม่สิ ต้องเรียกว่าอีกหนึ่งแหล่งข่าว นั่นคงทำให้เธอตื่นตัวมากขึ้น เป็นการ ‘ตักเตือน’ ทางอ้อมผ่านเกอร์มัน·สแปร์โรว์… ขณะเดียวกัน มิสเตอร์ฟูลก็ต้องลงโทษซ้ำด้วยตัวเองอีกครั้ง วิธีนี้นับว่าสมเหตุสมผลและเป็นธรรมชาติ…ชายหนุ่มเขียนอธิบายขั้นตอนของพิธีกรรมอัญเชิญผู้ส่งสาร โดยไม่ลืมที่จะกำชับว่า ต้องใช้เหรียญทองปอนด์หนึ่งเหรียญเป็นวัตถุดิบในพิธีกรรมทุกครั้งฟุ่บ! ไคลน์สะบัดข้อมือ ปล่อยเศษกระดาษพุ่งใส่แฟรงค์·ลีประหนึ่งลูกดอก หล่นลงบนฝ่ามือของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ“ขอบใจมาก!” แฟรงค์·ลีชำเลืองอ่านข้อความบนกระดาษ โบกไม้โบกมือด้วยสีหน้ามีความสุขไคลน์ไม่มัวเสียเวลา หิ้วกระเป๋าเดินทางออกจากท่าเรือ มองหาโรงแรมเข้าพักระหว่างนี้ ตัวไคลน์ที่เคยคิดจะปฏิเสธข้อเสนอของแอนเดอร์สัน เรื่องที่ต้องการพักอยู่ในโรงแรมเดียวกัน เริ่มเปลี่ยนใจและเห็นด้วยกับอีกฝ่ายชายหนุ่มกังวลว่า หากความซวยบังเอิญเกิดขึ้นกับมนุษย์อับโชครายนี้ ลูกค้าทั่วไปและพนักงานโรงแรมจำนวนมากจะได้รับความเดือดร้อน จึงเปลี่ยนใจมาคอยจับตามองด้วยตัวเอง หากเกิดปัญหาจะได้ช่วยระงับอย่างทันท่วงทีหลังจากลงทะเบียนเข้าพัก แอนเดอร์สันรับกุญแจ เดินไปที่ห้องและเปิดประตูตุ้บ! นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุด ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เอนหลังประหนึ่งปลดเปลื้องภาระอันหนักอึ้งหลังจากพ้นเขตทะเลอันตราย ในที่สุดมันก็ได้รับชีวิตประจำมันของมนุษย์กลับคืน ไม่ต้องกังวลว่าจะตายในทุกลมหายใจ!แต่หลังจากนอนเงียบๆ สักพัก แอนเดอร์สัน·ฮู้ดค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้น หยิบกระติกน้ำร้อนที่ผิวด้านนอกทำจากเหล็ก หงายแก้วและเทน้ำร้อนให้ตัวเองมันเชื่อว่า ถึงเวลาแล้วที่ตนจะลงไปดื่มด่ำความสุขในผับหลังจากดื่มจนอิ่มหนำและเติมเต็มกระเพาะอาหาร นั่นจะเป็นเวลารวบรวมเงินทุน!ยืนรอสักพักให้น้ำเย็นลง แอนเดอร์สันกระดกแก้วดื่มเสียงดังอึกอักทันใดนั้น มันไอแห้งอย่างรุนแรง ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นม่วงคล้ำแค่ก! แค่ก! แค่ก!แอนเดอร์สันเลื่อนแขนขึ้นมาบีบคอตัว ท่าทางคล้ายหายใจไม่ออกเพล้ง! แก้วหล่นจากมือ กระทบกับพื้นและแตกละเอียดแค่ก แค่ก… เสียงกระแอมของแอนเดอร์สันแผ่วลงทีละนิด ใบหน้าเริ่มมีรอยจ้ำทันใดนั้น เปลวเพลิงพลันปรากฏในดวงตา เส้นเลือดบนหลังมือยุบพองอย่างน่ากลัวราวกับมีชีวิตโครม!แอนเดอร์สันล้มลงไปบนพื้น ร่างกายชักกระตุกสองสามหน ก่อนจะแน่นิ่งไปทุกส่วน ไม่เว้นแม้กระทั่งการหายใจราวสิบวินาทีถัดมา แอนเดอร์สันรีบพลิกตัวขึ้นมานั่ง จับใบหน้าตัวเองด้วยอาการหวาดผวา“บัดซบ… เราเกือบตายเพราะสำลักน้ำ… ถ้ามันเกิดขึ้น เราจะเป็นนักล่าที่ตายได้น่าอนาถที่สุด! โชคยังดี… ก่อนจะออกทะเล เรายอมซื้อเจ้านี่มาในราคาแพง ในที่สุดก็มีประโยชน์จนได้”ขณะกล่าว แอนเดอร์สันหยิบสิ่งที่คล้ายตุ๊กตาฟางออกจากกระเป๋าลับในเสื้อกั๊ก ดวงตาทั้งสองข้างและจมูกของตุ๊กตา ถูกวาดด้วยหมึกอย่างไม่ประณีตผิวตุ๊กตาผุกร่อนไปพอสมควร ของเหลวสีเข้มค่อยๆ หยดออกจากลำตัวราวเจ็ดแปดวินาทีถัดมา ตุ๊กตาละลายอย่างสมบูรณ์ แปรสภาพกลายเป็นคราบของเหลวบนพื้น“ความซวยของเรายังไม่บรรเทาลง… อาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำ… ฟู่ว… เกอร์มัน·สแปร์โรว์เคยบอกคำพยากรณ์กับเราว่า สิ่งที่อันตรายที่สุดมักซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันแสนธรรมดา” แอนเดอร์สันเดินวนเวียนภายในห้อง หลีกเลี่ยงเศษแก้ว ด้วยเกรงว่าพวกมันอาจนำพาไปสู่ความตาย“ปล่อยไว้ไม่ได้ เราต้องหาทางรอด… ต้องรอดไปให้ได้!” แอนเดอร์สันเปิดประตู เดินออกไปอย่างระมัดระวังมันตรงดิ่งมายังห้องพักของไคลน์ งอนิ้วเคาะประตูผ่านไปไม่นาน ประตูไม้ที่ดูไม่ทนทานสักเท่าไร เปิดออกอย่างเงียบงัน ด้านหลังประตูมีเพียงเกอร์มัน·สแปร์โรว์ในสภาพถอดโค้ทแอนเดอร์สันยิ้มแห้งและกล่าว“ดีใจไหมที่ฉันมาหา?”โครม!ประตูปิดลงเสียงดัง“…” นักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดผงะเล็กน้อย ก่อนจะพึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เราคงต้องปรับปรุงวิธีการพูดกับคนอื่น”ก็อก ก็อก ก็อก!มันเคาะประตูห้องไคลน์อีกครั้งประตูเปิดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปากกระบอกปืนที่เล็งออกมา“ฮะฮะ! พอดีอยากถามว่า นายรู้จักผู้วิเศษที่สามารถเปลี่ยนแปลงดวงชะตาให้ฉันได้ไหม?” แอนเดอร์สันยกมือขึ้นครึ่งหนึ่ง บอกเป็นนัยให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์เอ่ยนามของนักพยากรณ์ที่แข็งแกร่งสายไปแล้วสหาย ตอนนี้ราชินีเงื่อนงำไปอยู่ไหนก็มิอาจทราบได้… เดี๋ยวก่อน… หล่อนไม่ได้ทิ้งวิธีติดต่อไว้ให้เรา? หืม… แต่แฟรงค์·ลีรู้พิธีกรรมอัญเชิญผู้ส่งสาร เท่ากับว่าพลเรือเอกดวงดาวก็ทราบเช่นกัน และคงหลุดไปถึงหูแบร์นาแดตได้ไม่ยาก… นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งวิธี หากกลับถึงเบ็คลันด์เมื่อไร เราสามารถติดต่อกับมาดามชารอนเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะราชินีเงื่อนงำอยู่ในแวดวงเดียวกับเธอ แม้จะเข้าร่วมชุมนุมไม่บ่อยครั้งก็ตาม… ไคลน์เผยสีหน้าสมเพชให้แอนเดอร์สันมันไม่ชอบหน้านักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดเลยสักนิด มักเย้ยหยันภายในใจเสมอ รวมถึงไปการแสดงสีหน้าไม่เป็นมิตรทุกรูปแบบ เพราะเหนือสิ่งอื่นใด แอนเดอร์สันคือตัวการที่ทำให้ ‘กระดุมข้อมือเมอร์ล็อก’ หล่นหายบนทิวลิปดำ อีกฝ่ายต้องรับผิดชอบครึ่งหนึ่ง แต่กระนั้น ไคลน์เพียงแค่คิด มิได้เกลียดชังอะไรขนาดนั้น หากแอนเดอร์สันต้องการความช่วยเหลือ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไป ก็ไม่คิดปฏิเสธอย่างใจไม้ไส้ระกำไคลน์ไตร่ตรองสักพัก“จะช่วยถามให้… ได้คำตอบพรุ่งนี้เช้า… แต่ฉันสงสัยว่า นายจะมีปัญญาหาเงินมาคืนจริงหรือ”“อีกเดี๋ยวฉันก็ลงไปที่ผับแล้ว! และเหนือสิ่งอื่นใด ฉันยังมีสมบัติมากมายซ่อนอยู่ในทะเลหมอก!” แอนเดอร์สันตอบโดยปราศจากความลังเลไคลน์พยักหน้า ปิดประตูพลางกล่าว“เจอกันพรุ่งนี้เช้า… จนกว่าจะถึงตอนนั้น ขอให้มีชีวิตรอดอย่างราบรื่น”โครม! กริ๊ก!ประตูห้องถูกปิดและลงกลอนอีกครั้ง“นั่นเป็นคำอวยพรหรือสาปแช่ง?” แอนเดอร์สันพึมพำด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราจะปลอดภัยในอีกสองชั่วโมงถัดไป”ภายในห้อง ไคลน์กลับไปยังโต๊ะอ่านหนังสือที่นั่นมีจดหมายฉบับหนึ่งในสภาพคลี่ออก และนกกระเรียนกระดาษที่ถูกแกะจนยับเยินสำหรับปัญหาของแอนเดอร์สัน ก่อนที่จะมอบคำตอบ ไคลน์มีคนให้ปรึกษาแล้วผู้ที่ตระหนักถึง ‘ลูกไม้’ ของ ‘อสรพิษโชคชะตา’ ได้ดีกว่าใคร ก็ย่อมต้องเป็น ‘อสรพิษโชคชะตา’ อีกตัวหนึ่ง!ชายหนุ่มมองหาที่ว่างบนตัวนกกระดาษเพื่อเขียน พลางไตร่ตรองประโยคคำถาม จากนั้นค่อยลงมือจับดินสอ“คำสาปแห่งความโชคร้ายที่เกิดจากจิตรกรรมฝาผนัง สามารถขจัดได้ด้วยวิธีใดบ้าง? โอสถลำดับ 4 ของเส้นทางนักทำนายมีชื่อว่าอะไร และจะหาวัตถุดิบหลักได้ที่ไหน?”วางดินสอลง ไคลน์ตรวจทานเนื้อหาอย่างละเอียดสองสามหน ก่อนจะพับนกกระเรียนกระดาษกลับไปตามรอยเดิมอย่างระมัดระวัง สอดไว้ในกระเป๋าสตางค์จัดการทั้งหมดเสร็จ ชายหนุ่มเขียนจดหมายถึงมิสเตอร์อะซิกในจดหมาย ไคลน์เกริ่นก่อนว่า ตนอาศัยความช่วยเหลือจากพลเรือเอกดวงดาว เดินทางไปยังเขตอันตราย ณ สุดขอบทะเลฝั่งตะวันออก ประกอบพิธีกรรมจนเสร็จและรีบหันหัวเรือกลับ ระหว่างนั้นยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่ถูกพลเรือเอกขุมนรก ลูเธอร์ไวล์โจมตีอย่างไร้เหตุผลจนเกือบได้รับความสูญเสียใหญ่หลวงเล่าถึงหัวข้อนี้ ชายหนุ่มเปิดเผยทุกสิ่ง อธิบายลักษณะของแหวนที่สงสัยว่าจะเป็นมรดกจากเทพมรณาโบราณ และซักถามอย่างเป็นกันเองว่า มิสเตอร์อะซิกมีความทรงจำเกี่ยวกับแหวนหรือไม่ บางทีอาจต้องถือไว้ในมือและตรวจสอบ จึงจะได้รับความทรงจำเดิมกลับมากล่าวจบ ไคลน์เอ่ยถึงแผนการสร้าง ‘เทพมรณาเทียม’ ของนิกายวิญญาณ และถามลูกพี่ของตนอย่างสงสัยว่า เรื่องดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ หรือเคยมีบันทึกใดเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้บ้างจากนั้นก็รำพันว่า ตนยังไม่ทราบชื่อของโอสถลำดับถัดไปบนเส้นทางตัวเอง และไม่ทราบด้วยว่าจะหาข้อมูลได้จากไหน นอกจากนั้น ไคลน์ยังเล่าถึงสิ่งที่ต้องพึงระวังบนน่านน้ำอันตราย เป็นข้อมูลที่ได้รับจากประสบการณ์ตรงขณะเดินทางการที่ชายหนุ่มแบ่งปันข้อมูลให้มิสเตอร์อะซิกทราบ เพราะกังวลว่าอีกฝ่ายจะใจร้อน รีบรุดหน้าไปที่นั่นเพื่อสัมผัสกับออร่าเทพมรณาโบราณโดยตรง โดยมิได้ตระหนักถึงอันตราย“…กล่าวกันว่า ทะเลดังกล่าวเต็มไปด้วยเสียงเพรียกของพระผู้สร้างแท้จริง ยิ่งลำดับสูงก็ยิ่งได้ยินชัดเจนขึ้น เผชิญความเสี่ยงมากขึ้น จนถึงขั้นเสียสติหรือคลุ้มคลั่ง เริ่มอันตรายตั้งแต่ลำดับ 4 เป็นต้นไป… แต่ก็มีครึ่งเทพบางคนค้นพบวิธีเดินทางอย่างอิสระ” ไคลน์เขียนย่อหน้าสุดท้ายของจดหมายพับกระดาษเสร็จ ชายหนุ่มหยิบนกหวีดทองแดงของอะซิก เป่าเรียกผู้ส่งสารโครงกระดูกตัวใหญ่ศีรษะของผู้ส่งสารโผล่จากพื้นห้อง เงยหน้ามองไคลน์อย่างอ่อนน้อม หงายฝ่ามือรอรับไม่เลว… ไคลน์ชมเชยพลางส่งจดหมายถัดมา ชายหนุ่มอาบน้ำแปรงฟัน ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างสบายใจผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ มันตื่นขึ้นในความฝัน พบกับดินแดนอันรกร้างและยอดหอคอยสีดำปลายแหลมหลังจากเดินมายังส่วนลึกสุดด้วยความคุ้นเคย ไคลน์มองเห็นคำตอบของวิล·อัสตินท่ามกลางกองไพ่ทาโรต์กระจัดกระจาย“ขอเตือนด้วยความหวังดี : นกกระเรียนกระดาษกำลังจะฉีกขาด!”“สำหรับคำสาปแห่งโชคร้ายจากจิตรกรรมฝาผนัง ริคคาร์ดสามารถขจัดมันได้”“ในส่วนของสูตรโอสถลำดับสูงเส้นทางนักทำนาย เจ้าสามารถหาได้จากซาราธที่กำลังเสียสติ หรือไม่ก็ยอดหลักของเทือกเขาโฮนาซิส แต่ถ้าเจ้าเป็นข้ารับใช้ของรัตติกาล ให้ถือเสียว่าข้าไม่ได้พูด”“ลำดับ 4 แห่งเส้นทางนักทำนายมีชื่อว่า ‘จอมเวทพิสดาร’”……………………………………
คอมเม้นต์