ราชันเร้นลับ 662 : ออร่าที่ทรงพลัง
เมื่อเลื่อนดวงตาขึ้น ไคลน์เริ่มสำรวจเรือนร่างเจ้าของเสียงฝีเท้าเป็นสตรี สวมกางเกงสีเบจที่ดูกระฉับกระเฉง สวมรองเท้าบูตหนังยาวสีดำ แต่กระนั้นก็ยังสวมกระโปรงสีน้ำตาลอ่อนยาวถึงหัวเข่าทับ กระโปรงทำมุมลาดเอียงเล็กน้อย เผยให้เห็นถึงความโก้เก๋ที่ไม่อยู่ในกรอบการแต่งตัวลักษณะนี้ทำให้ไคลน์รู้สึกราวกับตนกำลังฝันถึงโลกเก่า เพราะไม่ว่าโลเอ็น อินทิส หรืออาณาจักรอื่นเช่นฟุซัค เฟเนพ็อต ลุนเบิร์ก มาซิน ไบลัมตะวันออกและตก หรือชาติอื่น ต่างก็ไม่มีลักษณะการแต่งกายเช่นนี้!ไคลน์เงยศีรษะเร็วขึ้น จนกระทั่งมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวผมสีเกาลัดปล่อยอิสระ คิ้วยาวโก่งเป็นทรงสมบูรณ์แบบ ดวงตาสีฟ้าลุ่มลึกราวกับมหาสมุทรกำลังควบแน่นอยู่ภายในใบหน้าของเธองดงามโดดเด่น อย่างไรก็ตาม นั่นยังมิใช่จุดที่สะดุดตาที่สุด หากแต่เป็นความน่าเกรงขามของบุคลิกและบรรยากาศรอบตัว ทั้งหมดดูเป็นธรรมชาติราวกับเคยดำรงตำแหน่งใหญ่โตมานาน นี่คือความประทับใจแรกของไคลน์ สัญชาตญาณกำลังบอกให้เบือนหน้าหนีรูปร่างสูง เกือบเท่า ‘โหมด’ ไคลน์·โมเร็ตติ… ชายหนุ่มเสริมในใจหลังจากย่อยโอสถผู้ไร้หน้าเสร็จสมบูรณ์ ไคลน์เพิ่มการตระหนักรู้ในรายละเอียดของแต่ละตัวตนที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะด้านบุคลิก ประสบการณ์ ความรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างคนรอบข้าง รูปลักษณ์ และขนาดร่างกาย ทำให้สามารถสับเปลี่ยนเป็นตัวตนใดก็ได้ในพริบตา ดังนั้น หากตระหนักรู้อย่างชัดเจนว่าตัวเองเป็นใคร ก็สามารถใช้คำว่า ‘โหมด’ มาเรียกแทนตัวตนดังกล่าวได้อย่างเต็มปากโดยไม่เคอะเขิน และเหนือสิ่งอื่นใด ทุกการเปลี่ยน ‘โหมด’ จะคงสภาพรูปลักษณ์ใหม่ไว้ถาวร ไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณเพื่อหล่อเลี้ยง หรือกล่าวได้ว่า ถึงตอนนี้ไคลน์จะสูญเสียพลังของผู้ไร้หน้า แต่มันจะยังอยู่ในร่างเกอร์มัน·สแปร์โรว์ต่อไปหากต้องการ มันยังสามารถทำให้โหมดไคลน์·โมเร็ตติสูงขึ้นได้ทุกเมื่อกึก กึก กึก หญิงสาวที่แผ่บรรยากาศกดดันเดินผ่านหน้าไคลน์ ดึงเก้าอี้และนั่งลง“เจอกันอีกแล้วนะ” หญิงสาวกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวลแต่ไร้อารมณ์ทั้งน้ำเสียงและวิธีการพูด ทำไมเราถึงได้คุ้นเคยนัก… ภาพหนึ่งวาบขึ้นในใจไคลน์ ช่วยให้มันทราบถึงต้นตอความคุ้นเคยอย่างเลือนรางฉากที่อีกฝ่ายค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ย้อนกลับมาฉายภายในใจอีกครั้ง จนกระทั่งภาพหยุดลงที่รองเท้าบูตหนังสีดำ!นี่มัน… เป็นเธอนี่เอง! ไคลน์พลันฉุกคิดถึงฉากที่คล้ายคลึงกันมันเคยลอบเข้าไปในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติด้วยร่างวิญญาณ และบังเอิญได้พบกับครึ่งเทพตนหนึ่งขณะพยายามขโมยไพ่จักรพรรดิมืด อีกฝ่ายกำลังนั่งบนชั้นบนสุดของบันไดระหว่างชั้นหนังสือ ขาทั้งสองข้างที่สวมรองเท้าบูตหนังสีดำห้อยลงมา ลอยอยู่กลางอากาศ!ตอนนั้นยังเป็นเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ หลังจากถูกไล่ล่าโดยสุนัขปีศาจและตะโกนโหวกเหวกขอความช่วยเหลือ ระหว่างทางได้พบเถาวัลย์สีเขียวที่ถักสานกลายเป็นถนน บีบบังคับให้รถม้าของตนต้องแล่นขึ้นไปในอากาศ โดยที่ด้านนอกหน้าต่าง ไคลน์เห็นเปลญวนซึ่งถักจากเถาวัลย์และรองเท้าบูตหนังสีดำ!เป็นเธอนี่เอง! ทำไมถึงอยู่ในโลกความฝันเดียวกับเรา… ตัวจริงก็อยู่ไม่ไกล? แล้วก็… แล้วก็… เธอพูดออกมาว่า ‘พบกันอีกแล้วนะ’ ทั้งที่ตอนนี้เราคือเกอร์มัน·สแปร์โรว์! สมองไคลน์ประมวลผลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตอบหน้านิ่ง“พวกเราไม่เคยพบกันมาก่อน”ครึ่งเทพแล้วยังไง? ตราบใดที่ไม่ใช่ระดับเทวทูต ถ้าเป็นบนโลกความฝันแห่งนี้ เราสามารถใช้คทาเทพสมุทรสู้กับครึ่งเทพสักสองคนก็ยังไหว! ไคลน์พยายามปลุกใจเงียบๆสตรีขนคิ้วยาวนั่งลงฝั่งตรงข้าม เชิดคางขึ้นเล็กน้อย จ้องหน้าไคลน์สองวินาที“แน่หรือ… มิสเตอร์จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด”เปรี้ยง! จิตใจไคลน์ราวกับถูกอสนีบาตฟาดผ่า จากนั้นก็ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ยุ่งเหยิงและผสมปนเป มิอาจรวบรวมสมาธิกลับมาธ…เธอรู้จักจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด?สามารถระบุได้ว่า… เราคือวิญญาณที่ขโมยไพ่เย้ยเทพออกจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ?เรื่องแบบนี้… มันเป็นไปได้ยังไง!เดี๋ยวก่อน… เธอเรียกเราว่าจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด หากเปลี่ยนเป็น ‘เชอร์ล็อก·โมเรียตี้’ เราคงตกตะลึงยิ่งกว่านี้และมิอาจเก็บซ่อนสีหน้าที่แท้จริงได้ความคิดมากมายแล่นผ่าน ไคลน์ควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้าตามสัญชาตญาณ กล่าวอย่างเยือกเย็น“ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”หญิงสาวผู้มิได้แต่งกายตามสมัยนิยม ไม่ทวนคำซ้ำ ไม่อธิบายเพิ่มเติม เพียงกล่าวเสียงเรียบ“บัตรประชาชนของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ที่คุณใช้… ฉันเป็นคนหามาเอง”หนังศีรษะไคลน์พลันเย็นวาบ รู้สึกราวกับตนมิอาจปิดบังความลับใดต่อหน้าสตรีผู้นี้ได้ตัวตนปลอมของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ ถูกนำมาจากเครือข่ายข้อมูลมาดามชารอน… สตรีครึ่งเทพผู้นี้คือหนึ่งในเครือข่ายดังกล่าว?ไม่เพียงเท่านั้น มาดามชารอนยังเคยกล่าวว่า ใครบางคนในชุมนุมลับของเธอกำลังสืบสวนหาตัวจริงของจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด โดยรับปากว่าจะให้ค่าตอบแทนที่สูงมาก เลือกวัตถุดิบวิเศษใดก็ได้ที่ต่ำกว่าครึ่งเทพ…จากคำอธิบายของมาดามชารอน ผู้ว่าจ้างสูงราว 1.7 เมตร รูปร่างสมส่วนค่อนไปทางแข็งแรง ผมยาวสีเกาลัด ชอบสวมรองเท้าบูตหนัง ให้ตายสิ… หล่อนก็อยู่ตรงหน้าไม่ใช่รึไง… เราเคยสงสัยว่าคนที่ชารอนกล่าวถึง น่าจะเป็นครึ่งเทพที่พบเราในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เพราะรู้ว่าเราเป็นคนขโมยไพ่จักรพรรดิมืดไป…ความคิดมากมายแล่นผ่าน ไคลน์หมดคำจะกล่าวเป็นเวลานาน ทำอะไรไม่ได้นอกจากเงียบสตรีคางแหลมมิได้วกกลับเข้าสู่ประเด็นเก่า ที่ว่าใครเป็นเจ้าของตัวตนเกอร์มัน·สแปร์โรว์ เพียงมองออกไปยังแสงแดดพลบค่ำด้านนอกและกล่าว“ขณะที่คุณอยู่บนเกาะรอสต์ เรือ ‘จักรพรรดิมืด’ ของนาสต์·โซโลมอนเองก็ปรากฏตัวแถวนั้นเหมือนกัน… คงเข้าใจสิ่งที่ฉันหมายถึงใช่ไหม คุณจอมโจร”ไม่เพียงอีกฝ่ายจะเปิดโปงตัวตน แต่ยังแสดงหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ได้ยินเช่นนั้น ไคลน์ทำได้เพียงยกมุมปากและตอบกลับ“กฎการดึงดูดของพลังพิเศษน่ะ”สีหน้าของสตรีฝั่งตรงข้ามผ่อนคลายลงทันที คล้ายกับกำลังยิ้มเล็กๆ“นายคือจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืดจริงด้วย”ไม่ได้มั่นใจอยู่แล้วหรอกหรือ… แต่เมื่อครู่ เธอเพิ่งแจกแจงเบาะแสอย่างละเอียดยิบพร้อมกับแสดงสีหน้ามั่นใจเสียเต็มประดา… แล้วทำไมถึงได้มั่นใจจากคำตอบล่าสุด? ยังมีหลักฐานอื่นที่ไม่ได้แสดงให้ดู? ไคลน์หงุดหงิดเล็กน้อย เจือความสับสนสตรีผู้คล้ายกับอยู่ในอำนาจมานาน ไม่กล่าวสิ่งใดมากนัก เพียงมองไปทางชั้นหนังสือ“คุณทราบว่าแผ่นคั่นหนังสือคือไพ่จักรพรรดิมืด เพราะอ่านพบจากไดอารีของเขาใช่ไหม”ไดอารี… สตรีผู้นี้ทราบว่าบันทึกของโรซายล์คือไดอารี… ไคลน์พลันผงะ ยังไม่ตอบคำถาม“ที่คุณไม่หยิบสมุดบันทึกเล่มนั้นออกมา เพราะสัมผัสได้ถึงบางอย่าง?” สตรีลึกลับถามอีกครั้งนี่มัน… ไคลน์พลันฉุกคิดบางสิ่ง เลือกจะไม่ตอบคำถาม เพราะไม่ต้องการตกเป็นเบี้ยล่างในการสนทนาและปล่อยให้หล่อนจูงจมูกอยู่ฝ่ายเดียวชายหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าเข้มของสตรีตรงหน้า ซักถามอย่างเปิดเผย“คุณคือบุคคลลึกลับที่คอยจับตามองบนอนาคตกาลใช่ไหม”หญิงงามผู้มีบรรยากาศสูงสง่าจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ตอบกลับอย่างใจเย็น“ถูกต้อง กระทั่งแคทลียาก็ยังไม่ทราบฉันอยู่บนอนาคตกาล แต่คุณกลับตรวจพบ… สัญชาตญาณของตัวตลกหรือ?”หลังจากสำรวจมาสักพัก ผนวกกับข้อมูลในอดีต เธอสามารถยืนยันได้ว่าเราคือผู้ไร้หน้า… นักมายากล… พิจารณาจากวิธีการพูดเมื่อครู่ เธอคงคุ้นเคยกับพลเรือเอกดวงดาวเป็นอย่างดี… เป็นสมาชิกระดับสูงของนิกายมอสส์ หรือ ‘ราชินีเงื่อนงำ’ คนนั้นกัน? ไคลน์พยักหน้าและกล่าวต่อ“ถูกต้อง”หญิงสาวเชิดคางอีกครั้ง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย“ตัวตลกธรรมดาไม่มีทางหยั่งถึงได้แน่ ต่อให้เป็นลำดับ 5 ก็ตาม”เธอค้นพบความผิดปรกติอีกครั้ง… ดูเหมือนว่า… จะรู้จักเส้นทางนักทำนายเป็นอย่างดี… ที่เธอพูดมาก็ไม่ผิด เราได้รับความช่วยเหลือจากพลังของมิติหมอก ทำให้มองเห็นนิมิตลางสังหรณ์แม้จะไม่ใช่ภัยคุกคาม… ไคลน์ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูด ชิงกล่าว“แอนเดอร์สัน·ฮู้ดได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านในโถงจิตรกรรม เป็นคุณใช่ไหม”“คุณหมายถึงนักล่าผู้โชคร้าย?” สตรีฝั่งตรงข้ามถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด“ใช่” ไคลน์พยักหน้า“เป็นฉันเอง” สตรีฝั่งตรงข้ามเว้นวรรค “ฝากคำพยากรณ์ไปเตือนนักล่าคนนั้นด้วยว่า อันตรายที่ร้ายแรงที่สุดมักซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวันแสนธรรมดา”หมายความว่ายังไง… ไคลน์ยังคงไม่มีความคิดที่จะอธิบายนิมิตลางสังหรณ์ของตน ครุ่นคิดสักพักก่อนถามในเรื่องใหม่“คุณทำให้ผมปรากฏตัวในความฝันของนักบุญมืดใช่ไหม”สตรีฝั่งตรงข้ามรวบผมสีเกาลัด น้ำเสียงอ่อนนุ่มแต่ไร้อารมณ์“เดาได้ไม่ยากกระมัง… จากความฝันดังกล่าว ฉันสามารถยืนยันได้ว่า คุณคือคนที่นำสมบัติของงูทะเลคาเวทูว่ากลับไป… เฉกเช่นคราวก่อน คุณปรากฏตัวด้วยร่างวิญญาณ ชิงสมบัติต่อหน้าแยนน์·ค็อตแมนและหายตัวไปในพริบตา… จริงสิ ตอนนั้นคุณพกไพ่จักรพรรดิมืดมาด้วย”ไคลน์ไม่ตอบ เพียงหันไปถาม“คุณคือราชินีเงื่อนงำใช่ไหม”“หลายคนเรียกแบบนั้น” หญิงสาวตอบหน้านิ่งเป็นเธอจริงๆ ด้วย… สตรีผู้มีค่าหัวหกแสนห้าหมื่นปอนด์ และนั่นเฉพาะโลเอ็น! ไคลน์ถอนหายใจเงียบพลางกล่าว“มาดาม คุณมีธุระอะไรกับผม”ด้วยดวงตาสีฟ้า ราชินีเงื่อนงำจ้องชายหนุ่มสองสามวินาที ตามด้วยกล่าว“อยากให้ช่วยแบ่งปันวิธีถอดรหัสข้อความที่โรซายล์มหาราชประดิษฐ์ขึ้น แลกกับอะไรก็ได้ ฉันคิดว่าสามารถหาได้เกือบทุกสิ่งที่คุณต้องการ”ไคลน์ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิเสธ เพียงยิ้มและกล่าว“รวมถึงสูตรโอสถของลำดับสูงด้วยหรือ”ราชินีเงื่อนงำเพ่งมองชายหนุ่มด้วยอารมณ์ยับยั้ง แต่ก็ไม่สั่นคลอน“ชะตากรรมของคุณอยู่บนยอดเขาโฮนาซิส”นี่มัน… ไคลน์ตะลึงจนพูดไม่ออกชายหนุ่มเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ระหว่างนั้น ราชินีเงื่อนงำลุกขึ้น“ในอนาคต หากคุณต้องการความช่วยเหลือหรือเบาะแสของไพ่เย้ยเทพ ถึงตอนนั้นค่อยตอบคำถามของฉัน”หญิงสาวหันหลังกลับ เดินเข้าไปในหอสมุดที่กว้างใหญ่และสะอาดสะอ้าน หนึ่งก้าว สองก้าว ร่างกายเล็กลงทีละนิดจนกระทั่งลับสายตาหอสมุดทั้งหลังเริ่มพังครืน หลังจากสติเลือนรางไปพักหนึ่ง ไคลน์พบว่าตัวเองกำลังอยู่ท่ามกลางห้องโถงที่เต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังแอนเดอร์สันจ้องชายหนุ่มด้วยสีหน้าตกตะลึง ก่อนจะโพล่ง“นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”………………………………….
คอมเม้นต์