ราชันเร้นลับ 624 : คำเตือน
ภายในห้องน้ำที่มีทั้งเขตเปียกและแห้ง หมอกไอน้ำสีขาวกำลังระเหยรอบอ่างนอกจากส่วนศีรษะ ร่างกายทั้งหมดของไคลน์จมอยู่ในน้ำอุ่นโดยสมบูรณ์ ลำตัวพาดยาวเต็มอ่างด้วยสีหน้าแสนผ่อนคลาย สบายจนไม่อยากขยับแม้แต่ปลายนิ้วเท้าช่างเป็นค่ำคืนแสนวิเศษ ถ้าไม่มีซินเธียรอข้างนอกคงดีกว่านี้…แต่เราคงหลบหน้าเธอตลอดไปไม่ได้…ไคลน์ถอนหายใจ ครุ่นคิดหาข้ออ้างที่จะใช้ปฏิเสธการหลับนอนกับซินเธียจากอุปนิสัยของนายพลอมิรุส·รีเวลต์ ไคลน์เตรียมใช้ข้ออ้างว่างานยุ่ง หรือไม่ก็ ช่วงนี้พักผ่อนไม่เพียงพอ ช่วงนี้ไม่มีอารมณ์เพราะอาการบาดเจ็บ ช่วงนี้กำลังย่อยโอสถ จึงต้องใช้เวลาปรับสภาพอีกสักพัก หรือไม่ก็ เพิ่งค้นพบรสนิยมทางเพศที่แท้จริงของตัวเอง เริ่มมองว่าลิงบาบูนขนหยิกมีเสน่ห์น่าค้นหาส่วนเรื่องที่ว่า ข้ออ้างดังกล่าวจะทำให้ภาพลักษณ์นายพลเสื่อมเสียหรือไม่ และมากแค่ไหน ไคลน์ไม่แยแสสักเท่าไร ขอเพียงซินเธียไม่สงสัยว่าตนคือเป็นตัวปลอม มันพร้อมทำทุกวิถีทางหน้าที่ในการอธิบายความจริง หรือการหาข้ออ้างเพื่อกลบเกลื่อนว่า รสนิยมทางเพศได้กลับเป็นแบบเดิมแล้ว สิ่งนี้คือปัญหาของอมิรุสเองคนอื่นจะมองอมิรุสอย่างไร เกี่ยวอะไรกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์? แล้วคนอื่นจะมองเกอร์มัน·สแปร์โรว์อย่างไร เกี่ยวอะไรกับเชอร์ล็อก·โมเรียตี้?ไคลน์ลุกยืนด้วยสีหน้าผ่อนคลาย เดินออกจากเขตเปียก ดึงผ้าขนหนูมาเช็ดร่างกายหลังจากเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำที่ถูกแขวนเตรียมไว้บนราว มันถอนหายใจเงียบ คลายกลอนห้องน้ำด้วยบรรยากาศตึงเครียดประหนึ่งเตรียมเข้าห้องบอสใหญ่ภายในเกมแต่เมื่อได้เห็นทางเดินว่างเปล่า มีเพียงแสงเหลืองนวลจากโคมไฟผนังคอยขจัดบรรยากาศสลัว ไคลน์ถอนหายใจยาวด้วยสีหน้าโล่งอก ไม่ตึงเครียดเหมือนในตอนแรกยังกับกำลังจะเข้าไปสู้กับพลเรือโจรสลัด…ชายหนุ่มพึมพำ พลางตระหนักถึงปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน นั่นคือ มันไม่แน่ใจว่าทางไหนเป็นห้องนอนใหญ่ และทางไหนคือห้องทำงานเฮ่อ… ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง แต่อมิรุสก็ต้องแวะไปทักทายซินเธียก่อน ไม่อย่างนั้นเธอคงมองว่าเราผิดปรกติ…ไคลน์นึกทบทวนโครงสร้างของบ้าน เตรียมเปลี่ยนเป้าหมายไปยังห้องนอนใหญ่ทันใดนั้น ประตูห้องที่อยู่เยื้องฝั่งตรงข้ามพลันเปิดแง้ม ซินเธียในชุดนอนเดินออกมาเส้นผมสีทองทิ้งตัวลงตามแรงโน้มถ่วงในลักษณะไม่เรียบร้อย สองสามเส้นปรกหน้า บดบังดวงตาสีฟ้าและริมฝีปากแดงฉ่ำ ฉากตรงหน้าช่างเย้ายวนและสั่นคลอนหัวใจชายหนุ่มอย่างหนักหน่วงภาพของชุดนอนที่ผ่าคอลึกจนเห็นเนินอก และผิวพรรณขาวหิมะที่ถูกฉาบด้วยแสงไฟผนังสีเหลืองนวล กำลังปรากฏในสายตาไคลน์อย่างแจ่มจัดมันเกือบแหงนหน้ามองเพดานตามสัญชาตญาณ เพื่อมิให้หัวจิตหัวใจปั่นป่วนไปมากกว่าเดิมเย็นไว้… ใจเย็นก่อน… เราคืออมิรุส·รีเวลต์… เทียบกับสตรีแห่งโรคภัย เสน่ห์ของซินเธียยังด้อยกว่ามาก… เดี๋ยวก่อนสิ… ทำไมเราถึงต้องอ้างอิงจากแม่มด? พวกมันอาจเป็นชายมาก่อนก็ได้!ไคลน์ลืมตา จ้องสำรวจอีกฝ่ายหัวจรดเท้าเพียงพริบตา มันตระหนักถึงความฮึกเหิมจากส่วนลึกของจิตใจ เพียงแต่ว่า อวัยวะเบื้องล่างกลับไม่ยอมลุกซู่ชูชันอำนาจของพันธสัญญา… ว่ากันตามตรง นายพลอมิรุสไม่มีความจำเป็นต้องลำบากทำแบบนี้ เราสามารถควบคุมอารมณ์และอวัยวะของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ… ฉากที่วาบหวิวกว่านี้ก็เคยเห็นมาเยอะแล้ว…จะว่าไป… ท่าทีซินเธียแตกต่างจากข้อมูลในเอกสารของบิลต์พอสมควร เธอไม่ได้เพิ่งมาเป็นภรรยารองของอมิรุสแค่ปีสองปี และใช่ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันนานสักหน่อย รวมถึง อมิรุสก็มิได้บกพร่องเรื่องบนเตียง แล้วเหตุใดเธอถึงต้องรุกหนักอย่างผิดธรรมชาติเช่นนี้?หรือเป็นเพราะตระหนักว่าตำแหน่งภรรยารองเริ่มสั่นคลอน อาจถูกแทนที่ด้วยหญิงอื่น?นับตั้งกลายเป็นผู้ไร้หน้า ไคลน์จะเตือนสติตัวเองไว้เสมอว่า ทุกคนล้วนสวมหน้ากากเข้าหากันเพื่อปกปิดสันดานแท้จริงซินเธียก้มหน้าลง เริ่มสูญเสียความมั่นใจเมื่อถูกอมิรุสเพ่งจ้องปานจะกลืนกิน ใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อคล้ายกำลังเขินอาย แต่ยังหลงเหลือความภาคภูมิใจไว้บางส่วนจากนั้น เธอได้ยินคำสั่งเสียงขรึม“ชงกาแฟให้ฉันสักแก้ว และนำมาส่งที่ห้องอ่านหนังสือ คืนนี้มียังงานให้ต้องสะสางอีกมาก เธอนอนก่อนได้เลย ไม่ต้องรอฉัน”ซินเธียเงยหน้ามองด้วยสายตาว่างเปล่า ใบหน้ายังคงแดงชมพูด้วยเลือดฝาดเธอตามบทสนทนาไม่ทันไปหลายวินาทีไคลน์สูดลมหายใจยาว เดินเข้าไปสวมกอดและจุมพิตหน้าผากอย่างอ่อนโยน“ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ฉันจะชดเชยให้แน่”นี่คือคำตอบตามข้อมูลในเอกสารที่บิลต์เตรียมไว้ให้ เพียงแต่ไคลน์ดัดแปลงเล็กน้อยด้วยความสัตย์จริง หากไม่เคยทราบล่วงหน้ามาก่อน ไคลน์คิดว่าอมิรุสต้องทำหน้าเคร่งขรึมและเอาจริงเอาจังใส่ภรรยารองตลอดเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่งยามอยู่บนเตียงแต่ในความเป็นจริง ครึ่งเทพรายนี้มีมุมอ่อนโยนและรอยยิ้มอบอุ่น เพียงแต่ไม่ถนัดการหยอดคำหวานเรื่องนี้ช่วยสอนไคลน์ว่า อย่าตัดสินคนจากภายนอก ถ้ายังไม่ได้เห็นมุมลับของคนคนนั้นสัจธรรมดังกล่าวคือสิ่งที่ผู้ไร้หน้าต้องพึงระวัง ไม่อย่างนั้นอาจถูกคนใกล้ตัวพบพิรุธเอาได้ง่าย สรุปโดยสั้น การศึกษาข้อมูลของเป้าหมายให้ดีคือสิ่งสำคัญ หลักการคล้ายกับ ‘ห้ามแสดงกลโดยไม่เตรียมตัว’ ของนักมายากลซินเธียเผยสีหน้าผิดหวังชัดเจน แต่ไม่นานก็รวบรวมสติกลับมายิ้ม“ตกลงค่ะ ท่านนายพล ชุดนอนอยู่ในห้องนะคะ เสื้อคลุมอาบน้ำคงไม่เหมาะแก่การทำงานสักเท่าไร”ตรงตามข้อมูล… เป็นคนเอาใจใส่ดีมาก…ไคลน์ยืนจ้องซินเธียที่หันหลังไปสั่นกระดิ่งเรียกสาวใช้ และถือโอกาสดังกล่าวถอดเสื้อคลุมอาบน้ำออก สวมชุดนอนสีแดงเลือดหมูแทนซินเธียเปิดประตูห้องอ่านหนังสือ เดินไปเก็บกวาดโต๊ะทำงานที่ไม่เป็นระเบียบ ตามด้วยการเดินไปรอรับกาแฟที่สาวใช้ชง จึงค่อยส่งให้ไคลน์กับมือตัวเองจากนั้น ไคลน์นั่งลง อ่านเอกสารทางการทหารด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ประหนึ่งว่าตนต้องสะสางกิจการสำคัญของกองทัพภายในคืนนี้แต่ในความเป็นจริง มันอ่านแปลนของเรือรบหุ้มเกราะไม่เข้าใจเลยสักนิด คล้ายกับเป็นพวกไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้เกี่ยวกับความรู้ด้านดังกล่าว มันพอจะเข้าใจอยู่ไม่กี่เรื่อง จำพวกเรือบรรทุกเครื่องบิน ปืนต่อต้านอากาศยาน ปืนใหญ่ประจำเรือรบ และปืนกลหนักรอบลำเรือจากมุมสายตา เมื่อได้เห็นซินเธียเดินออกจากห้องและปิดประตูอย่างมีมารยาท ไคลน์คลายความกดดันทั้งหมดลง เชื่อว่าบททดสอบในค่ำคืนนี้จบลงโดยสมบูรณ์ณ ห้องนอนใหญ่ ซินเธียเม้มปากอย่างเจ็บใจ หยิบสร้อยคอจากใต้หมอน และกำนอแรดสีดำขนาดเท่าหนึ่งข้อนิ้วไว้ในมือหญิงสาวยืนตัวตรง สวดวิงวอนเสียงแผ่ว“ข้าแต่พระมารดาพฤกษาแห่งแรงกระหาย… ได้โปรดอำนวยพรให้ข้าเปี่ยมด้วยเสน่หาน่าดึงดูดยิ่งกว่านี้… ได้โปรดดลบันดาลให้นายพลอมิรุสปรารถนาในตัวข้า ต้องการเสพสมข้า ต้องการมีบุตรกับข้า”…ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเชียบภายในห้องอ่านหนังสือ ไคลน์ก้มมองเอกสารตรงหน้าด้วยแววตาลุ่มลึก อาศัยข้อมูลจากบิลต์ มันเลือกหยิบแผ่นที่มีความสำคัญไม่มากขึ้นมาเซ็นชื่อเป็นลายมือที่เหมือนกับอมิรุส·รีเวลต์ทุกประการ สิ่งนี้เกิดจากพลังผู้ไร้หน้าที่สามารถจดจำรายละเอียดได้แม่นยำ และพลังตัวตลกที่ควบคุมความนิ่งของมือได้ดังใจในส่วนของเอกสารซับซ้อนที่ยากเกินความเข้าใจ ไคลน์เขียนบันทึกช่วยจำลงไปว่า :“รอดูไปก่อน”ชายหนุ่มทำตัว ‘ยุ่ง’ จนถึงรุ่งสาง พลางเลื่อนมือขึ้นมาปิดปากหาวไม่ได้การ… เราต้องหลับพักผ่อนบ้าง… พรุ่งนี้ยังมีบททดสอบอีกมาก… ต้องรักษาพลังงาน…ไคลน์ใคร่ครวญ ล้มเลิกความคิดที่จะกลับไปหลับพักผ่อนในห้องนอนใหญ่มันยกมือขวาขึ้นพร้อมกับหลับตา ใช้ปลายนิ้วชี้และโป้งกดลงไปบนเปลือกตาฝั่งละข้าง จากนั้นก็กระตุกเลื่อนลง ส่งผลให้ตำแหน่งของดวงตาขยับลงมาอยู่บนโหนกแก้มถัดมา ในจุดเดิมที่เคยมีดวงตา ไคลน์สร้างดวงตาปลอมที่สมจริงขึ้นมาแทนตั้งแต่ได้เป็นผู้ไร้หน้า เราก็ยิ่งเหมือนสัตว์ประหลาดเข้าไปทุกที… ถ้าสมัยเรียนมีเทคนิคแอบงีบแบบนี้บ้างก็คงดีไม่น้อย…ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยปิดดวงตาจริงลง เปิดตาปลอม แสร้งทำเป็นอ่านเอกสารในท่าหลับพลังตัวตลกช่วยรักษาสมดุลร่างกายให้ไม่กระดุกกระดิก แน่นิ่งประหนึ่งรูปปั้นหินก็มิปานผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ ไคลน์ได้สติอีกครั้งภายในความฝันตัวเอง และตระหนักอย่างแจ่มชัดว่า มันถูกใครบางคนบุกรุกความฝันขณะนอนหลับ!ใครกัน… เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย…. ทำไมถึงถูกบุกรุกความฝัน…ไม่สิ… ตอนนี้เราคือนายพลอมิรุส·รีเวลต์…ไคลน์รีบเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายในความฝันให้เหมือนกับครึ่งเทพแห่งกองทัพเรือขณะเดียวกัน มันสัมผัสว่าจิตใต้สำนึกของตนเริ่มเจือจางลง คล้ายกับพยายามเก็บซ่อนบางสิ่งจากคนแปลกหน้าหนนี้ไม่เหมือนกับความฝันทั่วไป สติของเรากระจ่างชัด ตระหนักถึงร่างกายบนโลกภายนอกได้ทุกส่วน แต่ไม่สามารถออกจากความฝัน…ไคลน์ทดสอบกระทำบางสิ่ง แต่ไม่สำเร็จมันรู้สึกตัวว่ากำลังฝัน แถมยังขยับร่างกายนอกความฝันได้ตามปรกติ ยืนยันได้ว่าฝ่ามือของตนยังอยู่บนโต๊ะทำงาน แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด ก็มิอาจฝืนตื่นจากความฝันนี้ได้จากนั้น ดวงตาชายหนุ่มเริ่มพร่ามัวและเต็มไปด้วยหมอกควันสีขาว คนผู้หนึ่งปรากฏตัวในสภาพไม่ชัดเจนไคลน์หรี่ตาลง รีบส่งพลังวิญญาณออกนอกความฝัน บังคับฝ่ามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ สัมผัสกับยันต์กฎหมายที่เก้าขณะเดียวกัน บุคคลปริศนาส่งเสียง“ห้ามยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของออสเท่นเด็ดขาด นี่คือคำเตือน”ต้องแน่แค่ไหนถึงกล้าเตือนครึ่งเทพ…พวกมันกำลังวางแผนอะไรไว้…ไคลน์ครุ่นคิด พลางถ่ายพลังวิญญาณเข้าไปในยันต์กฎหมายที่เก้า ส่งผลให้บรรยากาศอันน่าเกรงขามของอมิรุสแผ่ออกจากร่างกายในปริมาณเข้มข้นมันเปล่งเสียงถามออกไป“คุณเป็นใคร ฝ่ายไหนเป็นคนส่งมา”บุคคลปริศนาพลันผงะ สีหน้าเผยความประหวั่นราวเสี้ยววินาที ก่อนจะฉีกยิ้ม“โฮ่… สมกับเป็น ‘นักสานกฎหมาย’ อมิรุส… สามารถคงสติได้ในความฝันตัวเอง”ผิดแล้วสหาย อมิรุสอาจเป็นนักสานกฎหมายที่เก่งกาจ แต่คงมิอาจรักษาสติในความฝันได้แน่ นายต้องพูดว่า สมกับเป็น ‘ท่านฟูล’ จึงจะถูก…ไคลน์รำพัน เอ่ยปากถามเสียงขรึม“ตอบคำถามมา”ร่างพร่ามัวหัวเราะในลำคอ“คุณไม่จำเป็นต้องทราบว่าผมเป็นใคร ในฐานะครึ่งเทพ คุณคงทราบดีว่าทุกสิ่งดำเนินไปตามลิขิตฟ้า ไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม อย่าได้ฝ่าฝืนกฎแห่งชะตากรรมเด็ดขาด มันคือกระแสเวลาอันเชี่ยวกราก หากริอ่านเอาตัวเข้าไปขวาง จุดจบเดียวคือการได้เป็นเครื่องสังเวยของประวัติศาสตร์”ชะตากรรม… กระแสแห่งเวลา… เครื่องสังเวยในประวัติศาสตร์…ฟังถึงตรงนี้ ไคลน์ผุดหนึ่งคำในหัวสภานักสิทธิ์สนธยา!แต่มันมิได้กล่าวคำใดออกไป เพราะอีกไม่กี่วันข้างหน้า นายพลอมิรุสจะกลับไปเป็นตัวจริงเมื่อบุคคลร่างเลือนรางเห็น ‘นักสานกฎหมาย’ อมิรุสเงียบงันไปพักใหญ่ มันไม่กล่าวสิ่งใดต่อ เพียงหายตัวไปพร้อมกับหมอกควันสีขาวโพลน ปล่อยไคลน์เป็นอิสระจากความฝัน……………………
คอมเม้นต์