ราชันเร้นลับ 609 : แวะเยี่ยม
กุกกัก. กุกกัก.เครื่องรับโทรเลขพ่นกระดาษมายาออกมาท่ามกลางบรรยากาศคืนจันทร์แดงสลัว“เลียวนาร์ด·มิเชลเป็นโฮสต์ของเทวทูตจากตระกูลโซโรอาสเตอร์ ท่านผู้นั้นเคยดัดแปลงคำถามของข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง”เทวทูต? มีเทวทูตอยู่ในตัวเลียวนาร์ด? แถมยังเป็นเทวทูตของตระกูลโซโรอาสเตอร์จากยุคสมัยที่สี่…แม้ว่าไคลน์พร้อมรับฟังเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่มันก็อดตกตะลึงไม่ได้เมื่ออาโรเดสเปิดเผยความจริงส่วนหนึ่งกังวล ส่วนหนึ่งประหลาดใจเทวทูตหมายถึงตัวตนในลำดับ 1 หรือ 2 เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงเทพอย่างมาก มีพลังพิสดารยากหยั่งถึง สามารถแผ่อิทธิพลมายังผู้วิเศษลำดับต่ำบนเส้นทางเดียวกันได้ประมาณหนึ่ง เป็นตัวตนบนจุดสูงสุดของโลกอย่างแท้จริงในกรณีของโบสถ์หลัก ตัวตนระดับเทวทูตจะหมายถึงตำแหน่งสันตะปาปา สังฆราช หรือสิ่งมีชีวิตระดับตำนาน ไคลน์เชื่อว่า การมีบุคคลระดับดังกล่าวเป็นปรสิตในร่างกายย่อมไม่ใช่เรื่องดีในยุคสมัยที่สอง ยุคแห่งความมืด เทวทูตนั้นจะมีนามพิเศษเหมือนกับเทพ อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งเป็น ‘เทพรับใช้’ …แม้แต่ยังเราก็ยังมีความเชื่อมโยงกับเทวทูตทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่มากนัก ตนแรกคือ ‘ผู้เย้ยเทพ’ อามุนด์ ถัดมาเป็น ‘ราชินีแห่งภัยธรรมชาติ’ โคฮีเน็ม ถัดมาเป็นวิญญาณมารที่ต้องสงสัยว่าจะเป็น ‘เทวทูตสีชาด’ ถัดมาเป็น ‘ผู้กลืนหาง’ โอโรเลอุสจากคำบอกเล่าของเดอะซันน้อย ถัดมาเป็น ‘ผู้ชี้นำปาฏิหาริย์’ มิสเตอร์ซาราธ จากไดอารีโรซายล์ ถัดมาเป็นบุตรชายแห่งพระผู้สร้างต้นกำเนิด อาดัม ถัดมาเป็นมิสเตอร์เฮอร์มิสที่เรายังไม่ทราบว่าเป็นเทวทูตหรือไม่ และสุดท้ายคือวิล·อัสติน อสรพิษแห่งชะตา ทารกผู้ยังไม่เกิดจากครรภ์มารดา…นอกจากสองตนสุดท้าย ที่เหลือล้วนทำตัวลึกลับพิสดาร เพียงร่องรอยที่พวกมันเคยทิ้งไว้ก็มากพอจะทำให้คนคลุ้มคลั่ง…แล้วแบบนี้ สหายของเราจะไม่ถูกเทวทูตปรสิตเขมือบเอาในสักวันหรอกหรือ…แต่นั่นก็ช่วยอธิบายว่า เหตุใดเลียวนาร์ดถึงชอบคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกของโลกอยู่เสมอ เชื่อว่าตัวเองพิเศษกว่าใคร แถมยังยินดีช่วยเราปิดบังความลับ… ตระกูลโซโรอาสเตอร์ถือครองเส้นทาง ‘นักจารกรรม’ แก่นสำคัญคือการขโมยพลังพิเศษของผู้อื่น เลียวนาร์ดจึงมีสิทธิ์เข้าร่วมชุมนุมผู้สันโดษแห่งชะตาไปโดยปริยาย…ไม่แปลกใจว่าทำไมหมอนั่นถึงอาสาขอใช้งาน ‘เส้นเลือดหัวขโมย’ และคงเป็นเพราะได้รับคำแนะนำจากตัวตนเก่าแก่ เลียวนาร์ดจึงขโมยพลังสำคัญที่สุดจากเมกูสได้ชั่วคราว…หึหึ… ผู้สันโดษแห่งชะตาอะไรกัน ก็แค่กลุ่มหัวขโมยกับนักต้มตุ๋นมารวมตัวกันไม่ใช่รึไง…รวมหัวกันกำหนดเป้าหมายการปล้นโดยเปลี่ยนไปตามกระแสเวลาและชะตากรรม…สรุปโดยสั้น ปรสิตเฒ่าในร่างกายอดีตสหายรักของเราไม่น่าจะเป็นคนดีนัก คงต้องหาโอกาสตักเตือนสักหน่อย… แต่ปัญหาคือ สองคนนั้นอยู่ด้วยการตลอดเวลา การตักเตือนรังแต่จะทำให้เรื่องราวบานปลายในทางที่แย่ลง…สมองไคลน์ประมวลผลอย่างหนัก แต่สุดท้ายก็มิอาจคิดหาทางออก พบเพียงวิธีแก้ไขชั่วคราว ในระยะยาวต้องเขียนจดหมายถามมิสเตอร์อะซิกและวิล·อัสตินเพื่อขอคำปรึกษามันถึงขั้นเกิดความคิดขึ้นมาครู่หนึ่งว่า จะขอยืมมือ ‘ผู้เย้ยเทพ’ อามุนด์มาช่วยแก้ปัญหาให้เลียวนาร์ด อธิบายโดยย่อก็คือ ไคลน์คิดจะเปิดเผยข้อมูลของปรสิตในร่างนักกวีเกียจคร้านให้แก่อามุนด์ หวังให้บุตรแห่งพระผู้สร้างแท้จริง ‘เขมือบ’ เทวทูตตระกูลโซโรอาสเตอร์เข้าไปจากที่ไคลน์ทราบ ในยุคสมัยที่สี่ ตระกูลอามุนด์สนับสนุนอาณาจักรทูดอร์ ส่วนตระกูลโซโรอาสเตอร์สนับสนุนจักรวรรดิโซโลมอน พวกมันคือศัตรูคู่อาฆาต และตามกฎการอนุรักษ์พลังพิเศษภายในเส้นทางใกล้เคียง หากเป็นผู้วิเศษในเส้นทางเดียวกัน ยิ่งลำดับสูงมากเท่าไร ก็ยิ่งขัดแย้งต่อกันมากเท่านั้น เฉกเช่นการศึกยืดเยื้อระหว่าง ‘อสรพิษปรอท’อย่างไรก็ตาม วิธีข้างต้นมีเงื่อนไขซับซ้อนจนยากจะนำมาปฏิบัติจริง ไคลน์จึงตัดทิ้งไป เหตุผลข้อแรกคือ มันไม่ทราบว่าจะพบอามุนด์ได้ที่ไหน ข้อที่สอง มันกังวลว่าศึกระหว่างเทวทูตจะทำให้เลียวนาร์ดที่เป็นโฮสต์ถึงแก่ความตาย และข้อสุดท้าย การที่อามุนด์แข็งแกร่งขึ้นคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับตนสักเท่าไรเราไม่มีทางเลือกมากนัก… คงต้องให้เอ็มลินลองยื่นข้อเสนอไปก่อน จากนั้นก็ลองสังเกตอีกฝ่ายอย่างคร่าว หากมีรายละเอียดมากขึ้น อาจพบว่าควรกระทำสิ่งใดต่อไป…ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะหันไปกล่าวกลับเครื่องรับโทรเลขไร้สาย“ถึงคิวเจ้าถาม”กุกกัก. กุกกัก.เสียงพิมพ์ของโทรเลขเบาบางลง กระดาษมายาสีขาวถูกพ่นออกมาอย่างไม่รุนแรงนัก“ไม่จำเป็นขอรับ นี่เป็นเพียงคำอธิบายที่เสริมจากคำถามของตัวข้าเอง มิได้ถูกถามจากท่านโดยตรง จึงไม่เข้าข่ายตามกฎ นายท่านผู้ยิ่งใหญ่ ข้าสัมผัสถึงตัวตนของวัตถุลึกลับด้านนอกห้อง แต่มิอาจมองเห็นได้ชัดเจน ช่วยบอกข้าได้หรือไม่ ว่าสิ่งนั้นคืออะไร”กระจกวิเศษช่างวิเศษสมชื่อ ประหนึ่งรู้เห็นทุกสรรพสิ่งบนโลก แต่ถ้าเป็นข้อมูลระดับสูง การมองเห็นคงถูกรบกวนจนพร่ามัว…ไคลน์ตอบใจเย็น“ลูกเต๋าความน่าจะเป็น”กุกกัก. อาโรเดสส่งข้อความใหม่ออกมาพร้อมกับกระดาษมายา“เป็นมันเองหรือ… นายท่านเชิญถามได้”ไคลน์ครุ่นคิด“เกี่ยวกับลูกเต๋าความน่าจะเป็น เจ้าต้องการเตือนข้าในเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่”มาถึงตรงนี้ เสียงกุกกักของเครื่องโทรเลขลดความดุดันลงจากตอนแรกมาก ปราศจากความเศร้าหมองหรืออึมครึม จังหวะพ่นกระดาษเป็นไปอย่างไม่รีบร้อน“มันเป็นพวกใจแคบและอาฆาตแค้น นายท่านต้องรีบส่งต่อลูกเต๋าให้คนอื่นโดยเร็วที่สุด! ลูกเต๋าดังกล่าวคือ ‘เอกลักษณ์’ ประจำ ‘กงล้อแห่งโชคชะตา’ หากนำไปมอบให้อสรพิษปรอทสักตน อีกฝ่ายจะเป็นมิตรกับท่านอย่างมาก หรือสรุปโดยสั้น สิ่งนี้ไม่เหมาะจะเป็นทาสของนายท่านสักเท่าไร ออร่าใกล้เหือดแห้งแล้ว ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์และถ่อมตนของท่าน อาโรเดส ขอตัวลาไปก่อน แล้วข้าจะหาโอกาสมารับใช้ใหม่ ท่านผู้ปกครองสูงสุดเหนือโลกวิญญาณ บ๊ายบาย~”เอกลักษณ์…!ลูกเต๋าความน่าจะเป็นคือเอกลักษณ์ของเส้นทางสัตว์ประหลาด… เป็นครั้งแรกที่เราเคยเห็น ‘เอกลักษณ์’ ด้วยตาตัวเอง นับว่าทรงพลังและอันตรายตรงตามข่าวลือ หากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป มันจะแผ่อิทธิพลไปทั่วโลก…หืม… อาโรเดสเรียกเส้นทางสัตว์ประหลาดว่า ‘กงล้อโชคชะตา’ หมายความว่าลำดับ 0 ของเส้นทางชื่อกงล้อโชคชะตา?ไคลน์จ้องเครื่องรับโทรเลขที่กลับเป็นปรกติ ทบทวนหลายสิ่งในหัวเป็นเวลานานชายหนุ่มมิได้ปรารถนาลูกเต๋าความน่าจะเป็นสักเท่าไร เพราะมันไม่มีประโยชน์กับเส้นทางนักทำนาย แถมยังมาพร้อมผลข้างเคียงร้ายแรง เกรงว่าสักวัน มันอาจชักชวน ‘ผู้กลืนหาง’ โอโรเลอุสให้มาเคาะประตูเยี่ยมห้อง“หากวางลูกเต๋าไว้ในมิติหมอก แม้จะตัดขาดจากโลกอื่นโดยสิ้นเชิง แต่มันอาจยึดครองมิติหมอกไปเป็นของตัวเองได้เช่นกัน เกรงว่าชุมนุมทาโรต์คงได้กลายเป็นวงพนันลูกเต๋ากันพอดี…”ไคลน์ไม่มีทางทราบเลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้างหากตนเก็บลูกเต๋าความน่าจะเป็นไว้ภายในมิติหมอกมันตัดสินใจใช่วิธีข่มขู่ต่อไป จนกว่าจะส่งมอบให้ใครบางคนบนเกาะโอลาวีอย่างราบรื่น ส่วนเรื่องที่ว่า สมาชิกระดับสูงของโรงเรียนชีวิตจะมีวิธีการผนึกหรือไม่ หรือปัญหาปลีกย่อยอย่างใครจะเป็นคนจ่ายค่าจ้าง ไคลน์ไม่ครุ่นคิดให้ปวดหัว เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ของรางวัลหลักในภารกิจนี้คือการซื้อใจวิล·อัสติน และตนก็ได้รับมันมาแล้ว…กรุงเบ็คลันด์ วิหารฤดูเก็บเกี่ยวขณะกำลังถือเข็มกลัดพิสดาร เอ็มลิน·ไวท์พึมพำภายในใจมิสเตอร์เวิร์ลจู้จี้ชะมัด ภารกิจมีเพียงตามหาเหยี่ยวราตรีที่ชื่อเลียวนาร์ด·มิเชลบนถนนพินสเตอร์ในเขตเหนือเองไม่ใช่หรือ… ทำไมถึงต้องเอาแต่เน้นย้ำว่าอีกฝ่ายมีความลับ เป็นตัวอันตราย และมีสิทธิ์ดึงเราเข้าไปอยู่ในความฝัน…เขากำลังดูถูกฝีมือเรา!เอ็มลินลุกยืน สวมทักซิโด้สีดำและเชิ้ตขาว สายตาจ้องออกไปนอกหน้าต่างหึหึ… อีกฝ่ายมีความลับแล้วมันยังไง ตัวข้าก็มีความลับเหมือนกัน! ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตอนนี้ท่านลอร์ดนีบาสคงกำลังจับตามองเราอยู่ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ท่านต้องลงมือช่วยเหลือแน่…อา… ความฝันสินะ…เอ็มลินครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบขวดโลหะออกมาจ้อง ด้านในบรรจุของเหลวสีเงินอันเต็มไปด้วยพลังวิญญาณมันเก็บขวดบรรจุยากลับเข้าไป หยิบหมวกผ้าไหมทรงสูงเดินออกจากโถงสวดมนต์ กล่าวคำอำลากับบิชอปยูทรอฟสกี้ และเดินทางออกจากวิหารฤดูเก็บเกี่ยวแม้เพิ่งจะช่วงเช้า แต่ท้องฟ้าของกรุงเบ็คลันด์กลับมีบรรยากาศมืดครึ้ม ละอองน้ำแผ่นบางอัดแน่นเต็มอากาศรอบตัวเอ็มลินหรี่ตาลง สวมหมวก พูดกับตัวเอง“ดวงอาทิตย์ร้อนแรงชะมัด”ผีดูดเลือดหนุ่มโบกรถม้าตรงไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน จากที่นี่ หากต้องการไปยังเขตเหนือ ตั๋วเฟิร์สคลาสจะมีราคาเพียงหกเพนนีเท่านั้นถูกกว่านั่งรถม้าไปตรง ๆ มาก!สี่สิบนาทีถัดมา เอ็มลิน·ไวท์เดินทางมาถึงจุดมุ่งหมายของตน หยุดยืนด้านหน้าบ้านเลขที่ 7 ถนนพินสเตอร์เอ็มลินสั่นกระดิ่งอย่างนุ่มนวล ตามด้วยการยืนรอนานกว่านาทีด้วยท่าทีใจเย็นขณะเตรียมเขียนโน้ตสอดไว้ใต้ประตูเพื่อแจ้งเวลาแวะเข้ามาหาครั้งถัดไป เอ็มลินได้ยิงเสียงฝีเท้าที่ไม่กระตือรือร้นดังจากด้านในไม่ใช่คนรับใช้…ผีดูดเลือดหนุ่มพยักหน้า นำยาวิเศษที่เตรียมไว้ออกมาเปิดผาดื่มจากนั้น ประตูบ้านเปิดออก มันเห็นชายผมดำเจ้าของดวงตาสีเขียว อีกฝ่ายกำลังสวมเชิ้ตขาว กางเกงขายาวสีดำ ชายเสื้อปล่อยออกนอกกางเกงอย่างไม่เป็นระเบียบ พลิ้วไหวไปตามแรงลมเล็กน้อย บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความสง่างามและอิสระแม้จะเป็นสาวกของรัตติกาล แต่ก็ต้องยอมรับว่าชายคนนี้มีรูปโฉมทัดเทียมกับผีดูดเลือดอย่างพวกเรา…เอ็มลินถอดหมวก เชิดคาง“อรุณสวัสดิ์ คุณคือมิสเตอร์เลียวนาร์ด·มิเชลใช่ไหม”เลียวนาร์ดขมวดคิ้ว เพ่งสำรวจบุรุษรูปงามเจ้าของดวงตาสีแดงก่ำตรงหน้าสักพัก ก่อนจะยกมือปิดปากหาวราวกับไม่ใส่ใจ“แล้วคุณคือ?”“เรียก ‘ผู้มาเยือน’ ก็พอ ผมมีบางสิ่งต้องการรบกวนคุณ” เอ็มลินไม่คิดเปิดเผยตัวตน รอยยิ้มมุมปากแฝงความภาคภูมิใจบุคลิกเช่นนี้ทำให้เลียวนาร์ดเกิดความคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด เพราะอีกฝ่ายเหมือนกับตัวมันในอดีตเป็นอันมาก เด็กหนุ่มที่เคยคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกของโลก เข้าใจว่าตนคือคนพิเศษที่เกิดมาเพื่อพลิกหน้าประวัติศาสตร์มันกระแอมในลำคอ“ผมเป็นแค่พลเมืองทั่วไป ไม่รับงาน หากต้องการจ้างใครสักคน เชิญสำนักงานนักสืบเอกชน”เอ็มลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม“มีเพียงคุณเท่านั้นที่ช่วยผมได้”มันกวาดตาไปรอบตัว พูดต่อด้วยเสียงเบาลง“ผมต้องการซื้อสมบัติวิเศษที่สามารถขโมยพลังพิเศษของผู้อื่น”เลียวนาร์ดเริ่มจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ซักถามด้วยน้ำเสียงแฝงความเคร่งขรึม“คุณเป็นใครกันแน่”เอ็มลินยังคงรักษาเชิง ไม่มอบคำตอบในทันที เพียงมองไปรอบตัวอีกหนและส่งเสียงกระซิบ“ฝีมือไม่เลว… สามารถดึงผมคนนี้เข้าสู่โลกความฝันโดยแทบไม่รู้ตัว”มันไม่รีบหนีออกจากความฝัน เพียงจ้องใบหน้าขึงขังของเลียวนาร์ดกลับ มือล้วงหยิบเข็มกลัดขนาดเล็กของเดอะเวิร์ลออกมาแสดงได้เห็นสิ่งดังกล่าว สีหน้าเลียวนาร์ดผ่อนคลายลงหลายระดับ ทำเพียงยืนครุ่นคิดบางสิ่งอย่างใจเย็นอีกสักพักท่ามกลางความเงียบงัน เอ็มลิน·ไวท์มองเห็นทัศนวิสัยรอบตัวแตกละเอียดคล้ายเศษกระจก เกิดเป็นเสียงคล้ายกับใครบางคนทำแก้วใบใหญ่แตกเลียวนาร์ดกล่าวพลางชี้เข้าไปในบ้าน“เชิญด้านใน”……………………
คอมเม้นต์