ราชันเร้นลับ 582 : ยั่วยุ
เทรซี่เห็นสายฟ้าสีเงินสองเส้นภายในดวงตาเขียวมรกตของเอลเลน จากนั้น แสงสีเงินได้ปกคลุมทัศนวิสัยของเธอคางโค้งเรียวของหญิงสาวเชิดขึ้นกะทันหัน ท่าทีคล้ายกับเตรียมกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทว่า ร่างกายเทรซี่พลันชะงัก ก่อนจะแตกเป็นกระจายเป็นเสี่ยง ๆ โดยมีกระจกเงาเต็มบานภายในห้องถูกทำลายไปพร้อมกัน เศษเล็กเศษน้อยหล่นโปรยปรายเต็มพื้นกระจกตัวแทน!เทรซี่ในเชิ้ตขาว กางเกงสีน้ำตาลอ่อน รองเท้าหนังสีดำ ปรากฏตัวอีกครั้งจากด้านข้างกระจกเงาที่ถูกทำลาย แต่ยังไม่ทันได้พักหายใจ เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังแว่วข้างหู เอลเลนผมแดงในเดรสกระโปรงยาว กำลังบึ่งตะลุยเข้าใส่ประหนึ่งรถม้าศึก ถุงมือข้างซ้ายแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวซีดจางไคลน์สลับเป็นพลังซอมบี้ มัดกล้ามเนื้อทั่วร่างเริ่มปูดขึ้น มาพร้อมกับพละกำลังมหาศาลชายแขนเสื้อสั่นกระเพื่อมตามแนวกล้ามเนื้อ หมัดขวาถูกกำแน่น ตามด้วยการประเคนใส่ พลเรือโทแห่งโรคภัย เทรซี่ ราวกับทุบด้วยค้อนยักษ์เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!ชายหนุ่มยังคงอยู่ในรูปลักษณ์เอลเลน แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนสัตว์ป่าดุร้ายและเกรี้ยวกราด หมัดแล้วหมัดเล่า อีกทั้งยังมีท่วงท่าเตะ เทรซี่ทำได้เพียงตั้งรับเต็มกลืน มองไม่เห็นช่องว่างในการใช้พลังพิเศษตอบโต้หากไม่ใช่แม่มดทุกข์ระทมซึ่งมีลำดับ 9 เป็นนักลอบสังหาร ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้และหลบหนีเป็นทุนเดิม คงยากที่จะทนรับการโหมกระหน่ำประหนึ่งพายุบุแคมของไคลน์เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!กำปั้นไคลน์อัดแน่นไปด้วยออร่าน้ำแข็ง ทุกการปะทะจะทำให้ร่างกายเทรซี่สั่นระริกอย่างเหน็บหนาว ผิวพรรณบางส่วนของหญิงสาวเริ่มมีชั้นน้ำแข็งฉาบเกาะพลังควบคุมน้ำแข็งของซอมบี้!ได้เห็นเลือดตัวเองเริ่มจับตัวเป็นก้อน เทรซี่ไม่ลังเลอีกต่อไป ตัดสินใจปลอดปล่อยพลังทั้งหมดเพื่อตอบโต้ปากที่ซีดลงเล็กน้อยของเธอเผยอออก เสียงกรีดร้องที่มองไม่เห็นพุ่งออกมาเมื่อสิ้นเสียงกรีดร้อง ออร่ามายาสีฟ้าเข้มข้นเริ่มแผ่ออกจากร่างกายหญิงสาว จากนั้นก็ก่อตัวเป็นชั้นน้ำแข็งทับซ้อนกันผ่านไปราวหนึ่งถึงสองวินาที เธอและไคลน์ตกอยู่ท่ามกลางโลกน้ำแข็ง รายล้อมไปด้วยก้อนน้ำแข็งแผ่นใหญ่และหนา ตามอวัยวะมีปุยน้ำแข็งเกาะหลายจุด ทั้งสองอาจดูเหมือนยืนใกล้กันมาก แต่ความจริงแล้ว ต้องพังอุปสรรคมากมายกว่าจะเข้าถึงตัวอีกฝ่ายเทรซี่เผยรอยยิ้มสดใส เพลิงทมิฬเริ่มลุกโชนอย่างเงียบงันจากภายในสู่ภายนอกทั้งสองต่างรีบทำลายน้ำแข็งรอบตัว แต่ในส่วนของพลเรือโทโรคภัย เธอได้รับโอกาสให้ทำการตอบโต้แต่ทันใดนั้น เทรซี่เห็นเอลเลน หญิงสาวที่มักอยู่ในสภาพอ่อนแอและโลเล ทำหน้าสงบนิ่งเจือความเย็นชาพร้อมกับดีดนิ้วก้านไม้ขีดไฟปริศนาไหนเริ่มเผาไหม้ เพลิงสีแดงส้มลุกโชนโชติช่วง คลอกร่างหญิงสาวผมสีแดงยาวด้านในโดยสมบูรณ์รูม่านตาเทรซี่พลันหดเกร็ง สัมผัสวิญญาณเริ่มตระหนักถึงลางร้าย!ด้านหลังเพลิงทมิฬที่กำลังลุกโชนเงียบเชียบ ไคลน์ซึ่งยังคงอยู่ในร่างเอลเลนกระโจนออกมาด้วยความคล่องแคล่ว พร้อมกับเหยียดแขนสองข้างกางออก โอบกอดร่างกายเทรซี่ สตรีแห่งโรคภัย เอาไว้แนบแน่นโดยไม่ปล่อยให้ขยับตัวขณะเดียวกัน ชายหนุ่มอ้าปากเลียนเสียง“ปัง!”กระสุนอัดอากาศซึ่งทรงพลังยิ่งกว่าลูกโม่ดัดแปลง เทียบเท่าได้กับไรเฟิลรุ่นล่าสุดในยุคปัจจุบัน ถูกยิงออกจากปากหัวกระสุนแหวกอากาศ พุ่งเจาะใส่ท้ายทอยของเป้าหมายอย่างแม่นยำโผละ!กระสุนทะลวงกะโหลกลึกเข้าไปในเนื้อสมอง ทว่า ร่างมายาของสตรีแห่งโรคภัยพลันหดตัวลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นไม้เท้าสีดำชำรุดหนึ่งด้ามไม้กายาสิทธิ์ตัวแทน!เทรซี่ปรากฏตัวอีกครั้งในทิศทางตรงกันข้าม กระดุมเสื้อแถวล่างเริ่มหลุดลุ่ย เผยให้เห็นผิวพรรณขาวเนียนราวกับหิมะขาวอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดึงดูดสายตาไคลน์มิใช่เรือนร่าง หากแต่เป็นเลือดสดที่กำลังเปื้อนฝ่ามืออีกฝ่ายขณะไคลน์ใช้แขนรัดเทรซี่ มันถูกกรงเล็บของเธอข่วนเข้าทีเผลอบริเวณต้นขา!โดยไม่รีรอ เทรซี่ขยับปากอย่างรวดเร็ว สร้างเพลิงมายาสีดำลุกโชนบนฝ่ามือ แผดเผาเลือดเหล่านั้นจนมอดไหม้มนต์ดำ คำสาปของแม่มด!ร่างกายไคลน์พลันสั่นเทาจนมิอาจยับยั้ง จากภายในสู่ภายนอก จากหัวจรดเท้า เพลิงทมิฬแผดเผาอวัยวะทุกส่วนอย่างไร้ความปรานี อย่างไรก็ตาม ผ่านไปสักพัก ร่างกายชายหนุ่มเริ่มหดตัวลงเหลือเพียงเศษกระดาษมอดไหม้ขณะไคลน์โผล่ออกจากอีกมุมหนึ่งของห้อง สัญชาตญาณเริ่มสัมผัสได้ว่า รอบห้องกัปตันเต็มไปด้วยใยแมงมุมล่องหน เส้นที่แข็งพยายามรัดรึงไคลน์ให้แน่นิ่ง ส่วนเส้นที่อ่อนนุ่มพยายามเล้าโลมจุดสำคัญบนร่างกาย ส่งผลให้หัวใจไคลน์ ผู้มีประสบการณ์ด้านต่อสู้โชกโชน กำลังเต้นระรัวราวกับกลองศึก ใบหูร้อนฉ่า อวัยวะบางส่วนเริ่มชาและไร้ความรู้สึก เลือดลมไหลเวียนลงไปกองที่ร่างกายส่วนล่างเมื่อเทียบกับมาดามเชอรอนในทิงเก็น พลังใยแมงมุมของเทรซี่น่ากลัวว่านับสิบเท่า!ไคลน์ไม่ประมาท รีบดีดนิ้วมือเมื่อสิ้นเสียง ‘เป๊าะ’ ใยแมงมุมรอบตัวถูกแผดเผาจนดำเกรียม เพลิงแดงส้มขยายตัวลุกลามจากใยเส้นหนึ่งไปยังอีกเส้นหนึ่ง จนกระทั่งย้อนกลับไปหาตัวหาพลเรือโทแห่งโรคภัย เทรซี่ ประหนึ่งน้ำป่าหลากไหลเหตุการณ์ในทิงเก็นช่วยให้ไคลน์ทราบว่า :ใยแมงมุมของแม่มดแพ้ทางไฟ!เพียงพริบตา จุดกึ่งกลางห้องกัปตันสว่างไสวไปด้วยเพลิงแดงส้มรูปร่างใยแมงมุม เทรซี่เผยสีหน้าตกตะลึง ร่างกายของเธอเริ่มถูกทะเลเพลิงลุกท่วม“ฮึ่ม!” หญิงสาวพ่นลมหายใจ ออร่าสีน้ำเงินเข้มข้นแผ่ออกจากลำตัวอีกครั้ง แต่หนนี้เป็นการแช่แข็งตัวเองด้วยผลึกน้ำแข็งก้อนใหญ่เพลิงแดงส้มจากใยแมงมุมระโยงระยางพยายามคลอกโลงศพน้ำแข็ง แต่ก็ทำได้เพียงละลายผิวชั้นนอก และเริ่มเสื่อมฤทธิ์ลงเมื่อเวลาผ่านไปไคลน์ไม่กล้าหยิบกำไลข้อมือเลี่ยมเพชรขึ้นมาใช้งานส่งเดช เนื่องจากยังไม่ทราบว่า สิ่งนั้นมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้างการหยิบสมบัติวิเศษขึ้นมาใช้งานมั่วซั่ว นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ ยังถือเป็นอันตรายอย่างมากชายหนุ่มเหยียดตัวตรง กางแขนออก ถุงมือข้างซ้ายแปรเปลี่ยนเป็นสีของดวงอาทิตย์นักบวชแสง!ในวินาทีนี้ เทรซี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในโลงศพน้ำแข็งเริ่มสังเกตเห็นว่า เอลเลนที่เธอรู้จักดีกว่าใคร กำลังฉาบไปด้วยออร่าศักดิ์สิทธิ์จนผิดวิสัย ดวงตาเผยความดุดันเกรี้ยวกราดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มาดอันสง่างามโดยปราศจากความอ่อนแอในอดีต ประหนึ่งดอกไม้งามที่เบ่งบานใต้แสงตะวัน ประหนึ่งบุปผาแห่งสนามรบนองเลือดเทรซี่ส่งเสียงเจือความแหบพร่า“แกเป็นใคร ทำไมถึงไม่แสดงหน้าจริงออกมา!”ในสภาพสวมกระโปรงเช่นนี้ ใครจะกล้าใช้ใบหน้าตัวเอง อยู่ในร่างเอลเลนก็นับว่าเหมาะสมดีแล้ว… ไคลน์เหยียดหยันถัดมา ชายหนุ่มสรรเสริญดวงอาทิตย์เสาลำแสงต้นหนึ่ง สาดลงมาจากอากาศว่างเปล่าเบื้องบน มาพร้อมกับเพลิงสีทองร้อนแรงที่คลอกใส่โลงศพน้ำแข็งของเทรซี่โดยสมบูรณ์โลงศพน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วจนเห็นชัดด้วยตาเปล่า ก่อนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ท่ามกลางเสาลำแสงสุกสว่างใบหน้าเทรซี่เริ่มอิดโรย หญิงสาวกลิ้งตัวหลบอย่างคล่องแคล่วเพื่อหนีจาก ‘ทะลวงจิต’ ของนักสืบสวนซึ่งไคลน์สลับมาใช้ ส่งผลให้ความเจ็บปวดอันควรจะเกิดขึ้น หายไปพร้อมกับเสาลำแสงจากฟากฟ้าแสงศักดิ์สิทธิ์จะสร้างความเสียหายมหาศาลกับสิ่งมีชีวิตประเภทวิญญาณและอันเดด จึงเป็นเพียงการโจมตีธรรมดาสำหรับแม่มดลำดับ 5ปัง! ปัง! ปัง!เทรซี่ม้วนตัว โยกหลบกระสุนอากาศจากชายหนุ่มอย่างคล่องแคล่ว พรมกลางห้องถูกเจาะพรุนไปด้วยรอยกระสุนล่องหนขณะกำลังกลิ้งหลบ เทรซี่ได้หายตัวไปจากการมองเห็นของไคลน์อย่างสมบูรณ์พลังล่องหนของแม่มด…ไคลน์งอตัวมาด้านหน้า เพ่งจิตจดจ่อกับสถานการณ์ปัจจุบัน หวังอาศัยนิมิตลางสังหรณ์ของตัวตลกช่วยรับมือตอบโต้และค้นหาอย่างไรก็ตาม ผ่านไปหลายอึดใจ ชายหนุ่มกลับไม่พบสิ่งใดเลย จนกระทั่งหน้าผากร้อนรุ่ม ปอดเดือดพล่านราวกับถูกไฟแผดเผา คอเจ็บและคัน ฝืนกลั้นไอไว้สุดความสามารถจะปล่อยให้ยืดเยื้อกว่านี้ไม่ได้…ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก ทันใดนั้น มันผุดแนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจ จึงฉีกยิ้มกว้างพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงของผู้ชาย“เอลเลนบอกความลับทั้งหมดของเธอกับฉัน รวมถึงความลับทั้งหมดของตัวเองด้วย”ยังไม่ทันสิ้นเชิง สัมผัสวิญญาณของไคลน์จับความผิดปรกติบางอย่างได้ ณ มุมหนึ่งของห้องกัปตัน เกิดความผันผวนทางอารมณ์ในปริมาณเข้มข้น เป็นความเกลียดชังและเดือดดาลจนยากจะเก็บซ่อนไคลน์บิดตัวครึ่งวงกลมและมองตรงเข้าไปทันใดนั้น ถุงมือข้างซ้ายมีเกล็ดสีทองปกคลุม ดวงตาชายหนุ่มกลายเป็นสีทองสว่าง รูม่านตาขยายเป็นทรงรีแนวตั้งท่ามกลางความเงียบสงัด ร่างกายของเทรซี่หลุดจากภาวะล่องหน สีหน้าหญิงสาวบ่งบอกถึงความเจ็บปวดเส้นผมสีดำขลับยืดยาวอย่างมิอาจควบคุม และขยายไปรอบตัวโดยไม่มีจุดหมาย‘โรคประสาท’ ของ ‘นักจิตบำบัด!’ระหว่างที่เทรซี่ถูกยั่วยุจนอารมณ์ไม่คงที่ การถูกกระตุ้นซ้ำด้วยพลังดังกล่าว ส่งผลให้สติยิ่งกระเจิดกระเจิงจนยากควบคุมไคลน์ไม่ปล่อยโอกาสหลุดมือ รีบดีดนิ้วกระสุนล่องหนพุ่งแหวกอากาศ ตรงไปทางเทรซี่ผู้มีใบหน้างดงามแม้กำลังเจ็บปวดแต่ทันใดนั้น เส้นผมสีดำหนาพลันเหวี่ยงมาปัดเบี่ยงวิถีกระสุน ส่งผลให้ความเสียหายถูกย้ายไปยังหัวไหล่แทนใบหน้า เชิ้ตขาวฉีกขาดในทันที เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นเป็นฝอยกระจาย“อึ่ก!”เทรซี่แผดเสียงเจ็บปวด พร้อมกันนั้น เพลิงทมิฬพรั่งพรูออกจากร่างกายราวกับไม่มีวันหมด ปกคลุมทุกอวัยวะโดยสมบูรณ์ถัดมา ออร่าสีน้ำเงินแผ่ออกมาพร้อมกับก่อตัวเป็นผลึกน้ำแข็ง สร้างโลงศพแข็งแกร่งปกคลุมเพลิงทมิฬไว้อีกชั้นยังไม่จบแค่นั้น ผมสีดำของเธอทวีความยาวจนสามารถม้วนพันรอบร่างกาย ห่อทับโลงศพน้ำแข็งเป็นชั้นนอกสุด มองผิวเผินจะเหมือนกับรังไหมที่สร้างจากเส้นผมมนุษย์ปัง! ปัง! ปัง!กระสุนอากาศของไคลน์ทำได้เพียงทะลวงผ่านชั้นผมสีดำ และชะงักค้างที่โลงศพน้ำแข็งชายหนุ่มหยุดพฤติกรรม และเปลี่ยนถุงมือข้างซ้ายให้กลายเป็นสีดวงอาทิตย์อย่างไรก็ตาม อาการคันคอรุนแรงจนมิอาจฝืนทนอีกต่อไป ไคลน์ส่งเสียงไอกระแอมจนไม่สามารถปลดปล่อยการโจมตีเมื่อเทรซี่ในรังไหมสีดำเล็งเห็นโอกาส หญิงสาวรีบตะโกนด้วยเสียงแหลมสูง“ศัตรูบุก! ศัตรูบุก!”ได้ยินเช่นนั้น ไคลน์ชะงักงันหนึ่งวินาที ภาพความทรงจำในกรุงเบ็คลันด์หวนกลับมาฉายอีกหน เป็นเหตุการณ์ขณะชายหนุ่มหลงทางไปเจอสุนัขปีศาจโดยบังเอิญ เมื่อตระหนักว่ามิอาจเอาชนะอีกฝ่ายได้ จึงตัดสินใจตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างน่าสมเพช พลางเผ่นหนีหนีจนกระทั่งพ้นจากอันตรายการตะโกนว่า ‘ศัตรูบุก’ ของเทรซี่เมื่อครู่แทบไม่ต่างอะไรกันเลยจริงอยู่ บนกาฬมรณะอาจมีผู้วิเศษทรงพลังไม่ถึงหลักสิบคน แต่ไคลน์ก็มั่นใจว่าคงน้อยกว่านั้นไม่มาก และส่วนใหญ่มีลำดับค่อนข้างสูงกะแล้วเชียว… การฆ่าพลเรือโจรสลัดในพริบตาไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะวางแผนลอบสังหารได้สมบูรณ์แบบแล้ว…ไคลน์ไอกระแอมอีกสองหน ก่อนจะดีดนิ้วมือโดยปราศจากความลังเล คราวนี้มิใช่การโจมตี แต่เป้าหมายคือหน้าต่างภายในห้องกัปตันสายตาสุดท้ายของชายหนุ่มเหลือบเห็นกำไลข้อมือเลี่ยมเพชร แต่ไคลน์ก็ไม่กล้าหยิบมันไม่ไว้วางใจผลข้างเคียงของสมบัติวิเศษปริศนา เพราะนั่นอาจทำให้การหลบหนีล่าช้าลงและผิดแผน ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ มันกังวลว่าเทรซี่อาจอาศัยวิธีพิเศษในการระบุตำแหน่งสมบัติวิเศษของเธอ และนั่นจะทำให้ไคลน์ถูกพลิกแผ่นดินตามล่าห้ามโลภเด็ดขาด!ไคลน์เบือนหน้าหนี ปล่อยร่างกายกระแทกกระจกหน้าต่าง และร่อนลงบนดาดฟ้าเรือโจรสลัดสองคนกรูเข้ามาล้อมหน้าหลัง พร้อมกับแทงดาบยาวเข้าใส่ฉึก! ฉึก!คมดาบทะลวงผ่านแผ่นกระดาษไคลน์โผล่ออกจากความว่างเปล่าด้านหลังโจรสลัดคนหนึ่ง ยกมือซ้ายขึ้น โดยกึ่งกลางฝ่ามือปริแตกเป็นรูปปากสัตว์ขณะยุบพองหิวโหยกำลังเขมือบอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ไคลน์ยกศพเหยื่อขึ้นและเดินไปทางกราบเรือฝั่งหนึ่ง ท่ามกลางเสียงปืนดังหลายนัดและเสียงฝีเท้าของกลุ่มโจรสลัด ชายหนุ่มกระโดดลงไปในทะเลอันมืดมิดยามค่ำคืน……………………
คอมเม้นต์