ราชันเร้นลับ 574 : ลองดู
พลเรือโทธารน้ำแข็งนัดเจอเราที่กีรากัส?ไคลน์ผงะเล็กน้อย เกือบหลุดขมวดคิ้วสำหรับมัน ข้อเสนอนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะสิ่งที่มิอาจถามได้ในจดหมายเนื่องจากต้องอธิบายซับซ้อน สามารถนำมาถามต่อหน้าและได้รับคำตอบทันที การแลกเปลี่ยนข้อมูลคราวนี้อาจกระตุ้นให้ไคลน์เกิดแรงบันดาลใจใหม่ หรืออาจได้รับข้อมูลที่สำคัญสำหรับโอสถลำดับถัดไปการมีเพื่อนเพิ่มหนึ่งคน ย่อมหมายถึงการมีเครือข่ายข้อมูลเพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง…ไคลน์พึมพำ ตามด้วยการหยิบเหรียญทองออกมาดีดทำนายต่อหน้าเพลิงพิโรธ·เดนิสเหรียญทองระยิบระยับลอยไปในอากาศ ก่อนจะตกลงบนฝ่ามือโดยด้านตัวเลขหงายขึ้นผลลัพธ์ออกมาเป็น ‘ไม่’ หมายถึง การพบกับพลเรือโทธารน้ำแข็ง เอ็ดวิน่า·เอ็ดเวิร์ด ที่ท่าเรือกีรากัส จะไม่ทำให้ไคลน์เกิดอันตรายชายหนุ่มเงยหน้ามอง จ้องเดนิสค้างไว้สักพัก“ตกลง”“ในนามตัวแทนกัปตัน ฉันขอขอบคุณที่นายตอบรับคำเชิญชวน”เดนิสเริ่มหายใจทั่วท้อง คิ้วที่เคยตึงเครียดคลายปมลงไคลน์ชำเลืองนาฬิกาแขวนผนัง“ขอเข้าห้องน้ำก่อน”เข้าห้องน้ำก่อน… หมายความว่า นายจะออกไปข้างนอกและใช้บัตรประชาชนตัวเอง ซื้อตั๋วขึ้นเรือเผื่อฉันอีกหนึ่งใบ?เดนิสมองตามแผ่นหลัง พลางวิเคราะห์ความนัยที่แฝงมากับคำพูดอีกฝ่ายหลังจากยืนยันด้วยเทคนิคลูกตุ้มวิญญาณบนมิติสายหมอก ไคลน์กลับลงมาโลกจริง ยืนล้างมืออีกสักพัก และเปิดประตูออกมาพูดกับเดนิส“เราจะไปข้างนอกกัน”“ฉันก็ด้วย?” เดนิสชี้หน้าตัวเองไคลน์สวมโค้ท ผงกศีรษะยืนยัน“จำเป็นด้วยหรือ… นายก็แค่ไปหาไอร์แลนด์ และให้เขาช่วยหาตั๋วให้พวกเราสองใบก็พอ…”ไคลน์ชำเลืองเงียบ ไม่กล่าวสิ่งใด เพียงสวมหมวกทรงกึ่งสูงและเดินไปเปิดประตูห้องเดนิสยืนสั่นเทา คำพูดที่เตรียมไว้พลันถูกกลืนลงคือในทันที มันกำลังจะเสนออีกหนึ่งวิธี นั่นคือการปลอมบัตรประชาชน และให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์แปลงโฉมไปซื้อตั๋วเพลิงพิโรธรีบสวมผ้าพันคอ สวมหมวกแก๊ป และวิ่งตามหลังเกอร์มัน·สแปร์โรว์อย่างลนลาน…ผ่านไปราวยี่สิบนาที ไคลน์ชี้นิ้วไปยังสถานที่อันเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกตรงหน้า“ข้างในนั้น?”ทั้งสองกำลังยืนหน้าผับสาหร่ายทะเล สถานที่ซึ่งเดนิสเคยซื้อตั๋วผีล้มเหลวมาแล้วหนึ่งหน“ช…ใช่” เดนิสไม่คาดคิดว่าตนจะได้กลับมายังจุดเดิมอีก จึงออกอาการสับสนทางใบหน้าระหว่างทาง มันเล่าประสบการณ์ขณะออกมาซื้อตั๋วผีตามลำพังให้อีกฝ่ายฟัง เดนิสจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมเกอร์มัน·สแปร์โรว์ถึงยังต้องการแวะเข้าไปในผับหลังจากสมองประมวลผลได้สักพัก มันคาดเดาได้หนึ่งเหตุผล นั่นคือ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ต้องการย้อนกลับมาแก้แค้นให้ตน!“น…นายกำลังจะเอาคืนพวกที่โกงฉัน?”ถึงหมอนี่จะเสียสติ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อน บางครั้งก็ใจดีจนน่าเหลือเชื่อ ตัวอย่างเช่น การออกไปช่วยไอร์แลนด์และคนอื่นขณะเรือจอดเทียบท่าที่แบนชีไคลน์ชำเลืองเดนิสด้วยหางตา ไม่กล่าวคำใด เพียงย่างกรายเข้าไปในผับ“ม…ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้!” เดนิสเดินตามโดยพยายามโน้มน้าวหากไม่ใช่เพราะมันไม่ต้องการให้เรื่องราวลุกลามบานปลาย ป่านนี้ไอ้พวกระยำโกงที่ตั๋วผีทุกคน คงถูกเผาจนเกรียมและเอาซากขี้เถ้าโยนลงทะเลไปแล้ว!บรรยากาศภายในผับเนืองแน่นไปด้วยเสียงอึกทึกและดนตรีท้องถิ่น ชวนให้วิงเวียนโสตประสาทพอสมควรเดนิสกวาดสายตาอย่างตั้งใจ มองหากลุ่มคนเจ้าเล่ห์ที่หลอกขายตั๋วผี รวมไปถึงโจรสลัดชื่อดังอย่างเนตรสีฟ้า·มีธ ที่เป็นพวกเดียวกัน“นั่นคือเดอเนียร์” เดนิสเริ่มชี้ตัวพ่อค้าของเถื่อนเป็นคนแรกน่าเสียดาย ผับกำลังวุ่นวาย เราจึงไม่เห็นว่าเจ้าพวกนั้นอยู่ด้วยรึเปล่า… เดนิสรำพันเจ็บใจไคลน์เดินตาม มือขวาเลื่อนไปจับยุบพองหิวโหยที่มือซ้ายจากนั้น ชายหนุ่มหันไปมองเดนิสและกล่าวเสียงเรียบ“ถอดผ้าพันคอ”โทนเสียงคล้ายกับกำลังสั่งให้เดนิสไปซื้อเบียร์หือ…? เดนิสยืนผงะ คลางแคลงใจว่าตนอาจได้ยินคำสั่งผิดมุมปากไคลน์ยกขึ้นเล็กน้อย“ถอดผ้าพันคอ ฉันจะไม่พูดเป็นครั้งที่สาม”“ทำไม…” ถ้อยคำเดนิสพลันขาดห้วงเมื่อหันไปเห็นสายตาแสนอำมหิตมันบรรจงถอดผ้าพันคอด้วยท่าทีสับสนเจือความกังวล คนในผับอาจจดจำได้ว่า ตนคือเพลิงพิโรธเจ้าของค่าหัวห้าพันห้าร้อยปอนด์!ไคลน์ฉีกยิ้มกว้างขึ้น ออกคำสั่งเพิ่มเติม“ถอดหมวกด้วย แล้วเดินไปซื้อตั๋วผี”ในวินาทีนี้ เดนิสรู้สึกราวกับร่างกายถูกสายฟ้าสีเงินผ่าใส่อย่างจัง มันต้องการเผ่นหนีไปให้ไกลที่สุด“แต่พวกมันจะจำหน้าฉันได้…”สายตาอำมหิตของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ได้บีบให้เสียงเดนิสค่อย ๆ แผ่วเบาในเวลากัน เดนิสเริ่มเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่ายหมอนี่ต้องการให้เรา ผู้มีค่าหัวห้าพันห้าร้อยปอนด์ เป็นเหยื่อล่อโจรสลัดหิวเงิน! แม่เย็*! ทำไมเราดันไปคิดว่ามันเป็นเพื่อนที่ดี… ไม่สิ ทำไมเราถึงมองว่าคนแบบนี้เป็นเพื่อน! ไอ้ลูกกะหรี่! สารเลวเอ้ย!เดนิสเกรี้ยวกราดในใจแต่มันก็ไม่คัดค้าน เพราะทราบดีว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์เป็นคนเช่นไรชายเสียสติคนนี้คิดจะล่าแม้กระทั่งพลเรือเอกโจรสลัด!เดนิสเผยรอยยิ้มขื่นขม หมุนคอให้กระดูกลั่นเล็กน้อย ก่อนจะถอดหมวกและเดินตรงไปหาเดอเนียร์อย่างไม่รีบร้อนตลอดทาง ขี้เมาทั่วผับต่างแหวกช่องให้เดนิสเดินสะดวก ประหนึ่งโมเสสกำลังแหวกน้ำทะเลฉากตรงหน้าอาจทำให้เดนิสลนลาน แต่ขณะเดียวกันก็สร้างความพึงพอใจเหนือคำบรรยายโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่คงรู้สึกแบบนี้สินะ… ได้รับความยำเกรงจากผู้คน! …บัดซบ! ใครบางคนกำลังพูดชื่อเรา… บางคนกำลังกระซิบกระซาบคำว่าเพลิงพิโรธ!เมื่อตระหนักว่ามีคนรู้ความจริง เดนิสก้าวเดินด้วยท่าทีประหม่า สองมือลดต่ำลง เตรียมต่อสู้ในทุกสถานการณ์“เพลิงพิโรธ·เดนิส!”เนตรสีฟ้า·มีธ โพล่งขึ้นจากกลุ่มฝูงชนทันใดนั้น ลูกน้องของมันหันมามองตาม ก่อนจะตะโกนอย่างตื่นเต้น“ไม่ผิดแน่! บอส เจ้านั่นคือเพลิงพิโรธค่าหัวห้าพันห้าร้อยปอนด์! เล่นมันเลยไหม?”มีธหรี่ดวงตาสีฟ้าลง พลางใช้มือซ้ายตบใส่ท้ายทอยลูกน้องหนึ่งฉาดใหญ่“เจ้าโง่! ถ้าเพลิงพิโรธมันโง่เหมือนแก ป่านนี้คงได้ตายเป็นร้อยรอบแล้ว! มันไม่มีทางปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนโดยไม่เตรียมรับมือการโจมตีได้แน่นอน… หรือจะมีบุคคลแข็งแกร่งคอยคุ้มกัน?”มีธรีบมองไปรอบตัวอย่างลนลานข้อสงสัยอันดับหนึ่งก็คือ พลเรือโทธารน้ำแข็ง ได้ลอบเข้ามาในบายัมเรียบร้อยแล้ว!ขณะกำลังกวาดสายตา มีธบังเอิญเหลือบเห็นสุภาพบุรุษหนุ่มที่กำลังยืนใกล้ทางเข้าผับ สวมเสื้อโค้ทกระดุมสองแถวสีดำ หมวกทรงกึ่งสูง ผมดำสนิท ดวงตาสีน้ำตาล ใบหน้าผอมเพรียวและมีสัดส่วนคมชัดไม่ต้องมีคำอธิบายใดเพิ่มเติม ลำพังสัมผัสวิญญาณอันเฉียบแหลมของมัน สามารถระบุได้ทันทีว่านี่คือสัตว์ประหลาดอันน่าสะพรึง!ในอดีต ความเฉียบคมของสัมผัสวิญญาณเคยนำพาหายนะให้มีธบ่อยครั้ง แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยให้มันรอดพ้นจากอันตรายได้เสมอ“รีบหนี!” มันลดเสียงลงพลางออกคำสั่ง จากนั้นก็เดินนำลูกน้อง แหวกผ่านกลุ่มขี้เมาไปทางหลังร้าน สภาพเหมือนกับเดนิสเมื่อช่วงเย็นทุกประการเดนิสเดินเข้าใกล้เดอเนียร์ด้วยอาการประหม่า ตามด้วยการซื้อตั๋วเรือโดยสารเที่ยวกีรากัสจำนวนสองที่นั่ง จากชายผู้กำลังยืนสั่นเทาเดนิสหันหลังกลับ เดินผ่านหน้าเกอร์มัน·สแปร์โรว์และตรงออกประตูผับ โดยไม่มีใครกล้าโจมตีเข้ามาแม้แต่คนเดียวไหนบอกว่าเป็นจุดรวมตัวของบรรดาโจรสลัดชื่อดังและมีค่าหัว… ดูเหมือนกับดักจะได้ผลดีเกินคาด… ยิ่งเหยื่อทำตัวผิดปรกติมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความลับซ่อนอยู่มากเท่านั้น… บางครั้ง ความผิดปรกติก็สามารถนำมาใช้เขียนเสือให้วัวกลัว..เฮ่อ… น่าเสียดายฉิบ… ไคลน์กดปีกหมวก เดินตามเดนิสออกไปอย่างเงียบงันที่ด้านนอก เดนิสกำลังยืนรอริมโคมไฟถนน เมื่อเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์กลับออกมา มันฉีกยิ้มกว้างพลางหายใจโล่งคอ“ฉันสวมผ้าพันคอได้รึยัง? ฮะฮะ! สนุกชะมัด ไอ้พวกขี้ขลาดนั่น”“อือ” ไคลน์ไม่หยุดรอ รีบเร่งความเร็วให้พ้นจากถนนเส้นเดิม“…!” รูม่านตาเดนิสพลันหดเกร็ง มันรีบเดินตามหลังพลางซักถามอย่างฉงน“ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้”ไคลน์กล่าวโดยไม่หันหลังกลับมามอง“จะรอให้ทูตพิพากษาชวนไปดื่มชาหรือ”ขณะพูด ไคลน์หยิบกระดาษรูปคนออกมาสะบัดและเผาทิ้งประโยคดังกล่าวทำให้เดนิสตาสว่าง จริงอยู่ บรรดาโจรสลัดอาจขี้ขลาดไม่กล้าโจมตีบุ่มบ่าม แต่ถ้าเป็นการแจ้งข่าวให้ทางการทราบ พวกมันทำแน่นอน! เพราะถ้าเดนิสถูกจับ คนแจ้งเบาะแสก็จะได้รับส่วนแบ่งคนทั้งสองวิ่งสลับเดินจนมาถึงตรอกเปลี่ยวแห่งหนึ่ง เมื่อเดนิสเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์หยุดพัก มันอาศัยจังหวะดังกล่าวรีบสวมผ้าพันคอและหมวกแก๊ป“แล้วเราจะไปไหนต่อ” เดนิสถามพลางหายใจหอบไคลน์ชำเลืองด้วยหางตา“ตามหาไอร์แลนด์”ได้ยินเช่นนั้น มุมปากเดนิสสั่นกระตุกเล็กน้อย คล้ายกับต้องการขว้างไฟบอลใส่อีกฝ่ายสักก้อน“ซื้อตั๋วไปดีลินุส” ไคลน์อธิบายพลางเดินออกจากตรอกดีลินุสคือชื่อของเกาะแรกทางตอนใต้ของหมู่เกาะรอสต์“จริงด้วย… บนเกาะดีลินุสก็มีเรือไปกีรากัส! ตอนนี้ความสนใจของทุกฝ่ายกำลังมุ่งไปยังเส้นทางบายัม-กีรากัสโดยตรง… ส่วนพวกเราก็แอบไปขึ้นเรือที่เกาะดีลินุสเพื่ออ้อมไปยังกีรากัส!”เดนิสรีบเดินตามด้วยสีหน้าเบิกบาน…อังคารช่วงเช้า ไคลน์ลงมือแปลงโฉมใบหน้าเดนิสด้วยตัวเอง จนอีกฝ่ายมีลักษณะคล้ายกับลูกครึ่งที่สวมแว่นตากรอบทองจริงอยู่ ชายหนุ่มอาจใช้พลังผู้ไร้หน้ากับเดนิสไม่ได้ แต่เท่านี้ก็ดีกว่าที่เดนิสแต่งเองนับสิบเท่าคนทั้งสองขึ้นเรืออย่างราบรื่น เข้าสู่การเดินทางอันยาวนานกว่าสิบชั่วโมง โดยมีจุดหมายเป็นท่าเรือทางตอนใต้ของเกาะดีลินุสปู๊น!เรือเดินสมุทรแล่นออกจากท่า เข้าสู่เขตทะเลแสงแดดอบอุ่น เมฆก้อนบาง ท้องฟ้าสีครามท่ามกลางสายลมเย็นสบาย เรือพลังงานผสมกำลังแล่นไปบนคลื่นลูกเล็กอย่างราบรื่นภายในห้องพัก ไคลน์กำลังนั่งศึกษาเนื้อหาของหนังสือแห่งความลับ เตรียมนำประเด็นสำคัญไปปรึกษาพลเรือโทธารน้ำแข็ง ส่วนเดนิสเอาแต่เดินวนเวียนในห้อง สมองครุ่นคิดถึงคำโอ้อวดที่จะเล่าให้พวกพ้องบนฝันทองคำฟังทันใดนั้น ทั้งสองหันหน้าพร้อมกัน เพราะท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างเกิดมืดลงกะทันหัน ประหนึ่งเมฆก้อนใหญ่เคลื่อนตัวมาบดบังดวงอาทิตย์เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ไคลน์ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่า เรือโบราณสีดำลำใหญ่ที่มีความยาวกว่าร้อยเมตร แล่นเข้ามาในระยะสายตาของตนตั้งแต่เมื่อไรใบเรือถูกกางและยกสูง กราบเรือเต็มไปด้วยปืนใหญ่รูปทรงน่าเกรงขามหลายกระบอกแต่มันไม่เข้าใกล้ เรือปริศนาเพียงหันหัวแล่นไปยังทิศทางอื่น ถึงกระนั้นก็ยังทำให้บรรยากาศโดยรอบมัวหมองราวกับมีบางสิ่งบดบังดวงอาทิตย์ไว้เดนิสเผยสีหน้าหวาดกลัวเจือความรังเกียจ พลางพึมพำชื่อเรือด้วยเสียงล่องลอย“จักรพรรดิมืด…”……………………
คอมเม้นต์