ราชันเร้นลับ 531 : เล่นสมจริง
มีอะไรจะถามกัปตัน?เดนิสขมวดคิ้ว ทำได้เพียงจ้องมองแผ่นหลังเกอร์มัน·สแปร์โรว์ลับสายตาโดยยังไม่ทราบจุดประสงค์แท้จริงของอีกฝ่ายมันกำลังตามหาอะไร?เงินทอง? ชื่อเสียง?มีโอกาสมากมายในการนำศีรษะของ ‘เหล็กกล้า’ กับ ‘พุ่มหนามสีเลือด’ ติดตัวกลับมากขึ้นเงินรางวัลกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์ หรือต่อให้ถูกหักค่านายหน้าก็คงไม่ต่ำกว่าเจ็ดพันปอนด์ แต่ชายคนนั้นกลับไม่ทำ แถมยังมีส่วนแบ่งให้เราอย่างเท่าเทียม แตกต่างจากเมื่อครั้งทราบว่าเราคือ ‘เพลิงพิโรธ’ เจ้าของค่าหัวสามพันปอนด์…หากยืมคำพูดกัปตันมาใช้ สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์…ทำไมถึงยอมปล่อยมือจากเงินค่าหัวง่ายดายนัก? นอกเสียจากจะมีวิธีขึ้นเงินรางวัลทางอื่น ซึ่งอาจจะปลอดภัยกว่าและไม่ต้องเสียค่านายหน้า…หรือหมอนั่นมีเครือข่ายลับ?ต้องใช่แน่! เรื่องราวทั้งหมดจะลงตัวพอดี!ผนวกกับเหตุการณ์ครึ่งเทพลอบสังหารพลเรือโทวายุ คีลิงเกอร์ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า เกอร์มัน·สแปร์โรว์มีองค์กรใหญ่คอยหนุนหลัง!เดนิสเริ่มหวั่นวิตกเมื่อได้ข้อสรุปมันต้องการแสดงออกเป็นภาษากาย แต่ดันลืมว่าแขนซ้ายยังคงบาดเจ็บ จึงกัดฟันกรอดพลางเผยรอยยิ้มขื่นขมสิ่งนี้ยิ่งสร้างความหวาดระแวงแก่เดนิส มันไม่ต้องการให้กัปตันของตนพัวพันกับบุคคลอันตรายและเสียสติเดนิสถึงขั้นตั้งข้อสงสัยว่า จุดประสงค์แท้จริงของเกอร์มัน·สแปร์โรว์คือเงินค่าหัวจำนวนสองหมื่นหกพันปอนด์ของเอ็ดวิน่า·เอ็ดเวิร์ด!จริงอยู่ หากเป็นการดวลตัวต่อตัว หมอนั่นอาจยังเอาชนะกัปตันไม่ได้ แถมยังมีรองกัปตัน ผู้ช่วยกัปตัน ผู้ช่วยรองกัปตัน และสรั่งเรือคอยช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก แต่เบื้องหลังของเกอร์มัน·สแปร์โรว์คือองค์กรขนาดใหญ่!แม่เย็*! ถ้าเอ็งอยากทำร้ายกัปตัน ก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อนโว้ย!เดนิสสูดลมหายใจยาว พองหน้าอกขึ้นและทำสีหน้าราวกับเตรียมสละชีวิตมันใช้มือขวาจัดทรงผมพลางหายใจออก ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเสียงแผ่ว“อย่าวู่วาม… ลองดูไปก่อน บางทีเกอร์มันอาจแค่ต้องการถามกัปตันจริงๆ”มันมองไปรอบตัว และพบว่าพรมวิเศษกับผ้าคลุมเงายังคงอยู่ดี ไม่ได้ถูกนำไปด้วยหนอย… เจ้าเล่ห์นักนะ!“หมอนั่นทิ้งสมบัติของเราไว้ครบทุกชิ้นโดยไม่กลัวว่าจะหลบหนีเลยหรือ แอบดึงเส้นผมเตรียมไว้แล้วรึไง? ไม่ใช่แน่ ชายคนนั้นเสียสติ ถ้ามันต้องการกระจุกผมของเรา แค่เดินมากระชากไปจากหัวก็พอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องแอบทำตอนหลับ… จริงสิ เจ้านั่นมีองค์กรลับแข็งแกร่งหนุนหลัง บางทีตอนนี้ เราอาจกำลังถูกจับตามองโดยใครสักคน และรอให้เราหนีออกไปหากัปตัน จึงค่อยสะกดรอยตาม… การออกไปข้างนอกของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ต้องมีแผนชั่วแอบแฝงอยู่แน่!”จากประสบการณ์และสติปัญญา เดนิสเชื่อว่าสมมติฐานของตนไม่มีข้อบกพร่องมันเดินวนเวียนในห้องสักพัก ก่อนจะเอนหลังลงบนเก้าอี้นอนและนึกเหยียดหยัน“ฉันจะไม่ออกไปไหนเด็ดขาด! แล้วมาดูกันว่านายจะทำยังไงต่อ! อย่าได้ฝันว่าจะแตะต้องกัปตันของฉัน!”…บ่ายสามโมงสิบห้า เกาะไซมีมเกาะแห่งนี้ยังคงอยู่ในเขตหมู่เกาะรอสต์ แต่ห่างไกลจาก ‘เมืองแห่งการให้’ บายัม ราวห้าชั่วโมงด้วยเรือโดยสารระหว่างทาง ชายหนุ่มแวะซื้อเสื้อผ้าคนท้องถิ่นและกระเป๋าเดินทางสำหรับบรรจุชุดเพื่อเปลี่ยนกลับ สนนราคาทั้งหมดเพียงสิบสี่ซูล ไม่ถึงหนึ่งปอนด์ชุดทางการบนเกาะราคาถูกชะมัด…ในสภาพสวมกางเกงขาบาน แจ็คเก็ตสีน้ำตาลตัวหนา หมวกแก๊ปสีน้ำตาล รูปโฉมคล้ายคนท้องถิ่น ไคลน์ก้าวลงจากเรือโดยสาร และย่างกรายเข้าสู่ท่าเรือไซมีมโดยไม่ทำตัวประดักประเดิดสืบเนื่องจากใช้เวลาซื้อเสื้อผ้านานเกินไป มันจึงพลาดเรือรอบเก้าโมง และต้องรอขึ้นเรือรอบสิบโมงแทนเมื่อคิดถึงเรื่องเงินทอง ชายหนุ่มเริ่มนึกทบทวนสถานภาพทางการเงินในปัจจุบันหืม… การล่าโจรสลัดถือเป็นงานในฝันเลยทีเดียว ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว มีทั้งเรื่องเงินทอง ได้กำจัดคนชั่ว ได้ปกป้องคนอ่อนแอ และกลายเป็นผู้ผดุงคุณธรรมเต็มตัว”ไคลน์มองไปยังด้านข้างและพบน้ำทะเลสีเขียวมรกตสะอาดสดใส มองเห็นลงไปถึงทรายสีขาวด้านล่าง ผิวน้ำสะท้อนกับแสงอาทิตย์จนส่องประกายระยิบระยับไม่แปลกใจเลยว่าทำไม นักผจญภัยรุ่นแล้วรุ่นเล่าจึงออกแสวงหาโชคในทะเลโดยไม่เกรงกลัวภัยอันตราย… หากมีดวงสักนิด การได้เป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคือก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน…ได้ยินมาว่า แถบชนบทของโลเอ็นมีวิวทิวทัศน์งดงาม แต่ถ้าเราไม่มีโอกาสได้กลับไป ก็คงต้องเลือกอาศัยในสภาพแวดล้อมคลายคลึงกัน… อีกทั้ง เรายังมีหุ้นบริษัทจักรยานเบ็คลันด์อีกสิบเปอร์เซ็นต์ ตรงนั้นสามารถงอกเงยเป็นเงินได้ในอนาคต…ไคลน์ใคร่ครวญด้วยสีหน้ายินดีหลังจากคิดเรื่อยเปื่อย มันเริ่มวกกลับมายังประเด็นสำคัญ นั่นคือตะกอนพลังฝันร้ายซึ่งเพิ่งถูกปล่อยจากยุบพองหิวโหย ตนควรทำอย่างไรกับสิ่งนี้ นำไปขายคืนให้โบสถ์รัตติกาล หรือส่งให้ช่างฝีมือสร้างเป็นสมบัติวิเศษ?หากเป็นไปได้ เราอยากขายคืนให้โบสถ์รัตติกาลมากกว่า…ไคลน์·โมเร็ตติ ผู้เคยดื่มโอสถของเหยี่ยวราตรีไปแล้วสองขวด กำลังไตร่ตรองด้วยสีหน้าสำนึกผิดเล็กน้อยขณะเดียวกัน มันก็หวังให้เดอะซันพัฒนาไปเป็นลำดับ 7 โดยเร็ว จะได้เข้าถึงวิธีการถอดจิตกัดกร่อนออกจากตะกอนพลังโรซาโก้ไคลน์ยังไม่คิดเรื่องการปล่อยดวงวิญญาณ ‘นักบวชแสง’ ในถุงมือให้เป็นอิสระ เดอะซันน้อยเพิ่งได้สูตรโอสถลำดับ 7 จึงยังอีกนานกว่าจะย่อยหมดและพร้อมปรุงโอสถถัดไปขณะเดียวกัน พลังนักบวชแสงนับว่าชนะทางบรรดาเหยื่อของไคลน์ โดยเฉพาะกลุ่มโจรสลัดของพลเรือเอกโลหิต ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นสมาชิกโรงเรียนกุหลาบและอยู่บนเส้นทางมนุษย์กลายพันธุ์ประสิทธิภาพของนักบวชแสงถือว่าสูงกว่าเข็มกลัดสุริยันมาก แถมยังไม่มีผลข้างเคียงขณะปล่อยความคิดล่องลอย ไคลน์เดินมาถึงเขตหมู่บ้านของท่าเรือไซมีมชาวเมืองท้องถิ่นจะมีผิวสีแทน ผมสีดำธรรมชาติและหยักศกเพียงเล็กน้อย รอบกายมีกลิ่นเครื่องเทศเจือจางในสภาพแปลงโฉม ชายหนุ่มตระเวนถามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเรนนี่ รวมถึงหยั่งเชิงข่าวการตายของวินเทอร์ ก่อนจะหามุมปลอดคนเพื่อลูบหน้าปลอมตัวเป็นวินเทอร์ เตรียมสะสางเป้าหมายให้เรียบร้อยมันถือกระเป๋าเดินทางเดินไปรอบเมือง จนกระทั่งพบกับร้านขายไวน์ของเรนนี่สตรีเจ้าของเส้นผมสีลินินไม่เหมาะจะถูกเรียกว่าเด็กสาวอีกต่อไป เมื่อเทียบกับภาพในความทรงจำของวินเทอร์ เรนนี่โตขึ้นมากพอสมควรเธอกำลังใช้ไม้กวาดทำความสะอาดหน้าประตูร้านโดยไม่มีคนอื่นอยู่ใกล้ๆฟู่ว… ไคลน์สูดลมหายใจยาว และผ่อนออกมาอย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกตะขิดตะขวงในฐานะนักรบคีย์บอร์ด ชายหนุ่มรอบรู้ทุกเรื่องอย่างละนิด แถมยังเป็นความรู้ในเชิงทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ จึงทำได้แค่จินตนาการความรู้สึกวินเทอร์ในมุมมองของตัวเองมันหลับตาลงและเดินเข้าไปหาหญิงสาวเมื่อเรนนี่ได้ยินเสียงฝีเท้า เธอรีบยกศีรษะขึ้นและเห็นใบหน้าของผู้มาเยือนเต็มสองตาหญิงสาวอ้าปาก และกล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจเจือเย็นชา“ขายตะกอนพลัง ‘ผู้ไร้หน้า’ ได้ 3,825 ปอนด์ ค่าหัวโจรสลัดอีกราวสามพันปอนด์ แม้ว่าเราจะยังไม่ได้ถือเงินจำนวน 6,825 ปอนด์ทันที แต่ถ้าแฮงแมนไม่ปล่อยให้ความแตก เงินก้อนนี้ก็ไม่มีทางหนีไปไหน… เงินขอบคุณจากครอบครัวดอนน่า คลีฟส์ และดิเมอดอร์จำนวนสองร้อยห้าสิบห้าปอนด์ยังอยู่ครบ… ยังมีเงินสดจากศพ ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้อีกยี่สิบหกปอนด์ สิบเอ็ดซูล แปดเพนนี… นอกจากนี้ยังมีเหรียญทองสำรองไว้เป็นก้อนสุดท้ายอีกห้าปอนด์… ในช่วงไม่กี่วันก่อน เราใช้เงินไปไม่ถึงหนึ่งปอนด์ด้วยซ้ำ นับเป็นเรื่องน่ายินดีมาก… คำนวณเบ็ดเสร็จ เราจะมีเงินทั้งสิ้น 7,110 ปอนด์ และยังมีตะกอนพลังฝันร้ายกับถุงลมของเมอร์ล็อก สองสิ่งนี้ก็มีมูลค่าพอควร ไม่สิ เราลืมคิดไปหนึ่งเรื่อง จากเหตุการณ์เมื่อคืน นอกจากเราจะได้เงินส่วนแบ่งค่าหัวจำนวนสามพันปอนด์แล้ว ยังมีตะกอนพลังของซอมบี้ในถุงมือด้วย ราคาประมาณสามพันถึงห้าพันปอนด์ เรียกได้ว่าคืนเดียวทำเงินมากถึงเจ็ดพันปอนด์… ยังไม่นับรวมตะกอนพลังของสควอลและ ‘พุ่มหนามสีเลือด’ ซึ่งไม่ได้เก็บกลับมา… ถึงจะหักเงินค่าวัตถุดิบโอสถนักเชิดหุ่นอย่าง ‘ละอองวิญญาณอาฆาตโบราณ’ และ ‘ผลึกแก่นการ์กอยล์หกปีก’ ออกไป ทรัพย์สินของเราก็ยังมากพอจะซื้อบ้านหลังใหญ่ในบริเวณอ่าวเดซีย์ อาณานิคมทวีปใต้ หรือทางแถบชานเมืองโลเอ็น… ทำไมถึงกลับมาเร็วนัก?”ท่องเอาไว้… นายกำลังสวมบทบาท…ไคลน์ฉีกยิ้ม“ผมมาเพื่อบอกลาคุณ”ชายหนุ่มใช้ภาษาท้องถิ่น ปะปนกับสำเนียงชาวเมืองบายัมอันจืดชืดภาษาแถบหมู่เกาะรอสต์ล้วนดัดแปลงมาจากฟุซัคโบราณ มีเอกลักษณ์แตกต่างจากภาษารุ่นอื่นเล็กน้อย แต่ไม่ยากสำหรับไคลน์ผู้จบการศึกษาภาควิชาประวัติศาสตร์ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เชี่ยวชาญ“บอกลา?” เรนนี่ซักถามประหลาดใจไคลน์เบือนหน้าหนี มองไปทางด้านข้างและกล่าวด้วยมาดเงียบขรึม“ผมจะออกไปตามหาสมบัติ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้กลับมาเมื่อไร… ถึงตอนนั้น ผมจะกลับมาพร้อมเงินทองจำนวนมาก ซื้อดินแดนแถบเขตชานเมือง ปลูกต้นยาง ไร้องุ่น สร้างโรงสี มีห้องเก็บไวน์ มีร้านตีเหล็ก ปล่อยให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศ จากนั้นก็ซื้อทาสสักสองสามคน อุปถัมภ์คนรับใช้อีกสักคน ทำตัวเหมือนพวกขุนนางเหล่านั้น… ฮะฮะ! แต่ว่า… ผมยังขาดอยู่หนึ่งสิ่ง…”ไคลน์ฝืนเอาชนะอาการขนลุก และจ้องเข้าไปในดวงตาของเรนนี่“ผมยังขาดภรรยา ผู้จะมาเป็นนายหญิงใหญ่ในคฤหาสน์ของผม เรนนี่ ผมรักคุณ และปรารถนาจะแต่งงานกับคุณ แต่สำหรับวันนี้ ผมมิได้สารภาพเพื่อต้องการคำตอบ แต่กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้พูดออกไป”เรนนี่ยืนฟังอย่างเงียบงัน ก่อนจะแผดเสียงตวาดด้วยสีหน้าโมโห“วินเทอร์ นายมันไอ้ขี้ขลาด!”เห…? มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ…ไคลน์ทำหน้าประหลาดใจโดยไม่ปิดบังเรนนี่เค้นเสียงเย็นชา“สามปีก่อน… ผ่านมาแล้วสามปี! ตอนนั้นฉันพร้อมจะย้ายไปอยู่บายัมด้วยกันกับนาย แต่นายกลับไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลยสักครั้ง! นายมันไอ้ขี้ขลาดตัวพ่อ! ไอ้ไก่อ่อน! มาบอกอะไรเอาป่านนี้? ต้องการอะไร? นายกำลังจะออกทะเลและอาจไม่ได้กลับมาอีกแล้ว!”ยิ่งได้ปลดปล่อย หญิงสาวยิ่งเลือดขึ้นหน้า“นายได้พูดมันออกมา มีความสุขของนายคนเดียว โล่งใจอยู่คนเดียว แล้วฉันล่ะ? ฉันต้องทำตัวยังไงกับข่าวนี้? อยู่อย่างเป็นทุกข์จนกว่านายจะกลับมาหา? นายมันเห็นแก่ตัว!”เธอเริ่มหวดไม้กวาดใส่ ‘วินเทอร์’ เต็มแรงไคลน์ทราบดี หากเป็นวินเทอร์ตัวจริง มันจะพับเก็บแผนออกทะเล รีบกล่าวคำขอโทษและโผเข้ากอดหญิงสาวอย่างแนบแน่น แต่ชายหนุ่มทำแบบนั้นไม่ได้ จึงแสร้งถูกไล่ตีและวิ่งหนีเข้าไปยังตรอกด้านข้าง แต่บังเอิญหัวโขกเข้ากับกำแพงในมุมอับ จึงล้มก้มจ้ำเบ้าและสบถสาปแช่งในใจน่าอับอายเกินไปแล้ว!ขายหน้าฉิบหาย!เรนนี่เดินกลับไปทางร้านไวน์ในสภาพถือไม้กวาด โน้มตัวจับลูกบิดด้วยสีหน้าขื่นขมขณะความคิดกำลังสับสน หญิงสาวได้ยินเสียงประหลาด ก่อนจะหลับกลางอากาศและล้มฟุบลงกับพื้นหลังจากใช้ยันต์หลับใหล ไคลน์ปรากฏตัวออกมาเพื่อจัดระเบียบร่างกายเรนนี่ให้นั่งในท่าหลังพิงประตู ก่อนจะรีบเผ่นไปซ่อนตัวเพื่อรอดูผลลัพธ์ถัดมาไม่นาน เรนนี่ลืมตาขึ้นโดยไม่ทราบว่าตนหลับอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไรเธอยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิม ไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ราวกับครุ่นคิดถึงความฝันเมื่อครู่ทันใดนั้น หญิงสาวก้มหน้าซุกเข่า พลางสบถเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด“ไอ้กระจอกวินเทอร์! นายมันเห็นแก่ตัว!”ฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจยาวเมื่อสัมผัสถึงการย่อยของโอสถในปริมาณน้อย ก่อนจะรีบแปลงโฉมและหนีออกจากจุดดังกล่าวโดยเร็วมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพักแรมบนเกาะไซมีมหนึ่งคืน จึงค่อยเดินทางกลับบายัมด้วยเรือเที่ยวเก้าโมงเช้าวันพรุ่งนี้……………………
คอมเม้นต์