ราชันเร้นลับ 489 : ข้อเสนออันนำไปสู่ความวุ่นวาย
หลังจากการสนทนารอบใหม่เริ่มต้นขึ้น เดอะซันโพล่งถามกับทุกคน“ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราควรใช้สัญลักษณ์มือแบบใดเพื่อสรรเสริญท่าน?”สัญลักษณ์มือ? ไคลน์พลันผงะกับคำถามเหนือความคาดหมายจากเด็กหนุ่มมันไม่เคยแนะนำให้สมาชิกต้องวาดสัญลักษณ์จันทร์แดงเป็นวงกลมกึ่งกลางหน้าอกเหมือนกับโบสถ์รัตติกาล หรือการใช้กำปั้นขวาชกหน้าอกเหมือนกับโบสถ์วายุสลาตันเทพเก๊อย่างเราไม่ควรล้ำเส้น… มันรำพันเมื่อเห็นมิสเตอร์ฟูลทำเพียงอมยิ้มโดยไม่กล่าวสิ่งใด คล้ายกับกำลังรอให้สมาชิกช่วยกันเสนอแนะ ออเดรย์เริ่มเกิดแรงบันดาลใจมากมายพร้อมกับคำถามใหม่หญิงสาวมองไปรอบตัวด้วยสายตาเปล่งประกายวิบวับ“ทุกคนคะ ดิฉันคิดว่าพวกเราควรกำหนดสัญญาณอย่างลับๆ เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของชุมนุม จริงอยู่ ชุมนุมทาโรต์อาจยังมีสมาชิกไม่มาก จึงแทบไม่มีโอกาสได้พบกันในชีวิตจริง แต่สำหรับอนาคต สิ่งนี้คงต้องเกิดขึ้นสักครั้งสองครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ พวกเราจำเป็นต้องใช้ ‘สัญญาณลับ’ เพื่อจำแนกระหว่างมิตรและศัตรู”น่าสนใจ… นึกออกแล้ว ใช้ไอ้นั่นเป็นไง…!ไคลน์หวนนึกถึงสัญลักษณ์มือจากโลกเก่ามากมาย หนึ่งในนั้นคือการสอดมือใส่ร่องเสื้อขณะไคลน์กำลังจะบังคับให้เดอะเวิร์ลเสนอแนวคิด แฮงแมนชิงพูดตัดหน้า“มิสจัสติส ผมคิดว่าแนวคิดดังกล่าวยังมีข้อบกพร่อง เมื่อเทียบกับองค์กรลับอื่น เอกลักษณ์สำคัญของชุมนุมทาโรต์คือการไม่เคยพบหน้ากันในหมู่สมาชิกมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น… เอ่อ อาจจะฟังดูสุดโต่งไปสักนิด แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลย สมมติให้สมาชิกคนหนึ่งถูกจับไปสอบสวนด้วยวิธีพิเศษ การไม่มีสัญลักษณ์มือจะช่วยให้สมาชิกคนอื่นไม่เกิดความเดือดร้อนในภายหลัง นอกเสียจากฝ่ายศัตรูจะมีใครสามารถทะลวงผ่านพลังแทรกแซงของมิสเตอร์ฟูลได้ ซึ่งนั่นไม่มีทางเกิดขึ้นจริงอยู่แล้ว แต่หากพวกเราตกลงใช้สัญลักษณ์มือร่วมกันและข้อมูลดังกล่าวบังเอิญรั่วไหลออกไปสู่ภายนอก ถึงคราวนั้น สมาชิกจะถูกล่อลวงออกไปจัดการทีละคนเนื่องจากไม่ทันระวังตัว หรือคุณต้องการอวดโอ่การมีอยู่ของชุมนุมทาโรต์ให้บุคคลภายนอกได้รับทราบ?”“…” ออเดรย์มิอาจหาข้อโต้แย้ง “แต่ว่า…”“ไม่ต้องห่วง ผมเข้าใจความกังวลของคุณ และเชื่อว่าสมาชิกชุมนุมคงมีโอกาสได้พบกันในอนาคตจริง โดยปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ไม่ยาก เพียงแค่พวกเรานัดแนะ ‘สัญญาณชั่วคราว’ ใหม่ทุกครั้งในการชุมนุมทุกวันจันทร์”เมื่อทราบว่ามิสจัสติสกำลังจะทำเงินก้อนโตให้ตน อัลเจอร์อธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนออเดรย์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ“นั่นสินะคะ เมื่อมีการชุมนุมในทุกวันจันทร์ พวกเราสามารถทราบได้ว่า สมาชิกแต่ละคนมีโอกาสได้ร่วมงานกันในชีวิตจริงหรือไม่ เพื่อเป็นการแยกแยะมิตรศัตรู พวกอาจออกแบบ ‘สัญญาณชั่วคราว’ สำหรับยืนยันตัวตน และเมื่องานดังกล่าวจบลง ก็จะไม่มีการใช้สัญญาณนั้นอีก อา… ถ้าไม่มีการนัดแนะในสัปดาห์นั้นว่าจะได้ร่วมงานเดียวกัน แล้วเกิดมีคนแอบส่งสัญญาณลับ ให้สวดวิงวอนถึงมิสเตอร์ฟูลเพื่อยืนยันความถูกต้องเสียก่อน”“ก็ประมาณนั้น” อัลเจอร์ตอบพอเป็นพิธีขณะเดียวกัน เดอร์ริคกล่าวด้วยสีหน้าสำนึกผิด“ต้องขอโทษด้วย ผมเผลอถามออกไปด้วยความโง่เขลา มิสเตอร์ฟูลไม่เคยเอ่ยถึงสัญลักษณ์มือเพราะท่านไม่อยากให้สมาชิกเปิดเผยตัวตน ช่วยลืมเรื่องนี้ไปเถอะครับ”ทันใดนั้น เด็กหนุ่มหันไปมองหัวมุมโต๊ะทองแดงยาว“ความประสงค์ของท่านคือความประสงค์ของพวกเรา”แต่เราอุตส่าห์คิดสัญลักษณ์มือเท่ๆ ได้แล้ว..ไคลน์ทำได้เพียงหัวเราะในลำคอ“ตกลงตามนั้น”ชายหนุ่มมองไปยังสมาชิกคนอื่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“วันนี้พอแค่นี้”“สุดแล้วแต่ท่าน!” สมาชิกชุมนุมทาโรต์เกือบทุกคนยกเว้นเดอะมูน ลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพรียงและโค้งศีรษะคำนับเอ็มลินชะงักราวหนึ่งวินาที ก่อนจะรีบลุกพรวดอย่างลนลานและทำท่าทางเดียวกันทันใดนั้น แสงสีแดงเข้มได้ฉาบภาพการมองเห็นทั้งหมดของผีดูดเลือดหนุ่ม พร้อมกับความรู้สึกคล้ายจิตกำลังดำดิ่งเพียงพริบตา ทิวทัศน์รอบตัวเอ็มลินกลับเป็นปรกติอีกครั้ง มันมองเห็นตุ๊กตาหลากหลายขนาดภายในห้องนอนส่วนตัวฟู่ว…จิตใจอันตื่นตระหนกเริ่มสงบลง ตามด้วยการนึกทบทวนรายละเอียดของชุมนุมทาโรต์ครั้งแรกอย่างละเอียดนอกจากมิสเตอร์ฟูล สมาชิกคนอื่นดูไม่ค่อยทรงพลังสักเท่าไร… บางทีอาจเป็นเหมือนกับเรา ถูกเลือกด้วยเหตุผลบางประการ…ในกรณีของเรามีท่านบรรพชนหนุนหลัง แล้วของพวกเขามีใคร?ช่างน่าขัน ในตอนแรก เราดันนึกว่าเดอะซันเป็นครึ่งเทพผู้หลบหนีการไล่ล่าจากเทวทูตอย่างหวุดหวิด แต่ในความเป็นจริง เขากลับเป็นแค่ลำดับ 8 ผู้กำลังจะเลื่อนเป็นลำดับ 7!เด็กไม่รู้จักมารยาทคือเด็กยังไม่โต!อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์รอบเมืองเงินพิสุทธิ์ค่อนข้างประหลาดและไม่เคยผ่านหูเรามาก่อน คงต้องหาโอกาสซักถามลอร์ดนีบาส… ไม่สิ… ต้องลองถามหยั่งเชิงจากท่านคาซีมีดูก่อน รวมถึงพ่อแม่ของเรา เผื่อว่าพวกเขาจะมีข้อมูลของเมืองเงินพิสุทธิ์ฮึ่ม… หนังสือประวัติศาสตร์ของเมืองเงินพิสุทธิ์กล้าดียังไงถึงได้บันทึกเรื่องเท็จของผีดูดเลือดอันยิ่งใหญ่ลงไป!มิสจัสติสเป็นคนเบ็คลันด์ และยังร่ำรวยจนน่าทึ่ง อาจเป็นบุตรสาวของนายธนาคารใหญ่หรือไม่ก็ขุนนางใหญ่ แต่บางที เธออาจเป็นเจ้าของธนาคารหรือขุนนางใหญ่เสียเอง…มิสเมจิกเชี่ยนมองเราด้วยสายตาแตกต่างจากคนอื่น เธอคงยกย่องในความสง่างามของผีดูดเลือดกระมัง ค่อนข้างพูดน้อยและไม่เปิดเผยข้อมูลของตัวเองมากนัก เรียกว่ามีบุคลิกเงียบขรึมมิสเตอร์แฮงแมนเป็นผู้ใหญ่ใจดี ประสบการณ์ชีวิตโชกโชน และเป็นคนน่านับถือ ยินดีตอบคำถามของสมาชิกใหม่โดยไม่แสดงท่าทางรังเกียจ แถมยังช่วยมอบข้อมูลเป็นประโยชน์ได้มาก คงโดดเด่นกว่าใครในหมู่สมาชิกทุกคน แม้แต่เดอะซันกับเดอะเวิร์ลก็ยังมาขอคำปรึกษาเดอะเวิร์ลเป็นคนน่ารังเกียจ เสียงของเขาคล้ายกับมีเสมหะติดอยู่ในลำคอตลอดเวลาโดยไม่ยอมบ้วนทิ้งสักที เราเกลียดคนประเภทนี้เข้าไส้! มั่นใจได้เลยว่าเลือดต้องไม่อร่อยแน่.. อุปนิสัยค่อนข้างเงียบ และเก็บซ่อนอารมณ์เก่งมาก ขณะเดียวกันก็สามารถหาตะกอนพลังลำดับ 6 มาขายสมาชิกได้เรื่อยๆ แถมยังสัญญาณว่าจะนำตะกอนพลังของนักจิตบำบัดมาขายให้ในอีกสองเดือน…หามาจากไหนกัน… ค่อนข้างเจ๋งทีเดียว…หลังจากรายละเอียดจำนวนมากแล่นผ่านหัวสมอง เอ็มลินตระหนักว่าชุมนุมทาโรต์ค่อนข้างธรรมดา แต่ก็ไม่ธรรมดาขนาดนั้น และเหนือสิ่งอื่นใด มิสเตอร์ฟูลมิได้แทรกแซงการแลกเปลี่ยนของสมาชิกมากนักท่านสนใจใน ‘ไดอารีจักรพรรดิโรซายล์’ เป็นพิเศษ… ขณะเดียวกันก็คอยอำนวยความสะดวกระดับน่าอัศจรรย์ให้กับสมาชิกเสมอ…ครุ่นคิดมาถึงจุดนี้ เอ็มลินเกิดความภูมิใจเล็กน้อยกับการได้รับโค้ดเนม ‘เดอะมูน’หลังจากกวาดสายตามองไปรอบห้องอันเต็มไปด้วยตุ๊กตาหนึ่งหน ผีดูดเลือดหนุ่มเริ่มตระหนักถึงปัญหาใหม่ของตัวเองมรดกตกทอดจากผีดูดเลือดอาวุโสมีราคา 4,000 ถึง 5,000 ปอนด์… ทางลัดในการได้เป็นบารอน… ทำไมถึงตัดสินใจยากแบบนี้…แม้เอ็มลินจะยังตัดสินใจไม่ได้ แต่มันกลับรู้สึกว่าบรรยากาศภายในห้องเริ่มอึมครึมลงเล็กน้อย คล้ายกับหนี้ก้อนโตกำลังแผ่ปกคลุมทุกซอกมุม…ณ วังโบราณเหนือสายหมอกสีเทาไคลน์กำลังนวดคลึงขมับด้วยนิ้วโป้งและนิ้วกลางของมือข้างขวาอย่างอ่อนโยนท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน ชายหนุ่มเสกให้เข็มกลัดขนาดเล็กลอยออกจากกองขยะมาตกลงบนโต๊ะทองแดงยาวตรงหน้า เข็มกลัดมีขนาดประมาณดวงตามนุษย์ มองผิวเผินจะเห็นสัญลักษณ์ ‘โชคชะตา’ และ ‘การปกปิด’ เขียนไว้ ไม่ใช่สิ่งใดนอกจากทรัพย์สินติดตัวมากับศพลาเนวุสด้านหลังมีข้อความเขียนไว้ว่า ‘สามารถเข้าร่วมได้ถ้ามีสิ่งนี้’ เป็นภาษาเฮอร์มิส รวมถึงมีข้อมูลของการชุมนุมถูกระบุไว้อย่างคร่าว เช่น ‘4 มกราคม 1350 สองทุ่มตรง ณ ลำธารหุบเขาบาบูร์’คำถามของไคลน์ในตอนนี้คือ ตนควรเสี่ยงแวะไปยังลำธารหุบเขาบาบูร์ภายในคืนวันพรุ่งนี้หรือไม่ว่ากันตามตรง มันไม่อยากพัวพันกับเรื่องนี้สักเท่าไร เพราะถึงแม้จะเลื่อนลำดับเป็นผู้ไร้หน้าและปลอมตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่การไปเยือนต่างถิ่นก็ยังนับว่าเสี่ยงอันตรายมากอยู่ดี มันแทบไม่มีข้อมูลใดเกี่ยวกับชุมนุมลับดังกล่าวเลยนักมายากลไม่ควรแสดงโดยไม่เตรียมตัว…ชายหนุ่มพึมพำพลางหยิบเหรียญทองออกมาถือไว้ระหว่างสองนิ้วจากนั้น มือข้างหนึ่งเอื้อมหยิบเข็มกลัดพร้อมกับท่องประโยค :“การไปเยือนชุมนุมลับ ณ ลำธารหุบเขาบาบูร์ในคืนวันพรุ่งนี้ถือเป็นเรื่องอันตราย”หลังจากท่องจนครบเจ็ดหน ชายหนุ่มดีดเหรียญขึ้นฟ้าเหรียญทองม้วนตัวในอากาศหลายตลบ ก่อนจะตกลงบนฝ่ามือในลักษณะตั้งตรงอย่างผิดธรรมชาติสิ่งนี้หมายถึง ผลการทำนายล้มเหลว“กะแล้วเชียว…” ไคลน์ไม่ประหลาดใจปัญหาดังกล่าวมิได้เกิดขึ้นเพราะตนมีข้อมูลไม่มากพอ เพียงแต่ผลการทำนายไม่ถูกส่งกลับมาจากโลกดาราชายหนุ่มนั่งเงียบงัน พลางควงเหรียญเล่นไปรอบมือขวาอย่างชำนาญลงเอยด้วย ไคลน์ตัดสินใจไม่เสี่ยงเข้าร่วมแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยผ่านไปเช่นกัน…สองทุ่มวันพรุ่งนี้สินะ… หึหึ…ชายหนุ่มเผยยิ้มมุมปาก ตามด้วยการส่งตัวเองกลับสู่โลกความจริง4 มกราคม 10:35 น.ไคลน์ยืนหน้าโต๊ะไม้มะฮอกกานีพร้อมกับหยิบธนบัตรปึกหนึ่งขึ้นมาถือ ประกอบด้วย ธนบัตรสิบปอนด์ห้าใบ และธนบัตรห้าปอนด์สิบใบ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นหนึ่งร้อยปอนด์พอดิบพอดีนี่คือค่าตอบแทนเบาะแสของบาลุนจากมิสเตอร์แฮงแมนผ่านพิธีกรรมสังเวยธนบัตรจำนวนสิบห้าใบทำให้กระเป๋าสตางค์ของไคลน์ดูอวบอ้วนทันที การควักเงินจ่ายค่าบัตรโดยสารเรือเดินสมุทรจึงไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจอีกต่อไปมือขวานำกระเป๋าสตางค์เก็บในเสื้อ จากนั้นก็หยิบถุงมือหนังมนุษย์บนโต๊ะขึ้นมาสวมในมือซ้ายหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของยุบพองหิวโหยคือ ขณะไม่ถูกใช้งาน มันสามารถพรางตัวได้อย่างอิสระ และแทบไม่มีโอกาสถูกตรวจพบได้โดยพลังพิเศษปรกติ หมายความว่าไคลน์สามารถสลับไปมาระหว่างรูปลักษณ์แต่ละชนิดได้ตามใจชอบ เช่น รูปลักษณ์เดิม (หนังมนุษย์) รูปลักษณ์หลากสี (ตามสีของวิญญาณภายในถุงมือ) และรูปลักษณ์ขณะพรางตัวปัจจุบัน ไคลน์เลือกให้มันพรางตัวอยู่ในร่างของถุงมือหนังสีดำเพื่อให้เข้าไม่ถูกสงสัย ชายหนุ่มได้เตรียมถุงมือสีดำธรรมดาไว้สวมคู่กันอีกข้างถัดมา ไคลน์ผนึกขวดพิษชีวภาพไว้ในกล่องบุหรี่โลหะและกำแพงวิญญาณ จากนั้นก็ซ่อนไว้ในช่องล่างสุดของกระเป๋าเดินทางเฉกเช่นเข็มกลัดสุริยัน สิ่งนี้จะมอบความร้อนทางใจขณะพกพา ไคลน์จึงไม่มีทางเลือกนอกจากผนึกด้วยกล่องบุหรี่โลหะกับกำแพงวิญญาณ และซ่อนไว้ในช่องล่างสุดของกระเป๋ากระสุนชำระล้างเก้านัด กระสุนปราบมารสิบห้านัด และกระสุนปัดเป่าสามนัด…ไคลน์หยิบปืนพกกับกล่องกระสุนวางบนโต๊ะ และบรรจงบรรจุให้เต็มโม่กริ๊ก! ชายหนุ่มตบโม่กลับพร้อมกับสอดปืนไว้ในซองรักแร้ฝั่งซ้ายจากนั้น มันสวมโค้ทขนสัตว์สีดำกับหมวกทรงกึ่งสูง หยิบกระเป๋าเดินทางกับไม้ค้ำ และเดินออกจากห้องพักของโรงแรมนอกจากดวงตาดำล้วนและสิ่งของใช้การไม่ได้ชนิดอื่นบนมิติสายหมอก ไคลน์ในปัจจุบันพร้อมรบเต็มอัตราศึกหลังจากโดยสารรถม้า ชายหนุ่มเดินทางมาถึงจุดขายบัตรโดยสารในเขตกุหลาบขาวประจำท่าเรือพริสต์บริษัทขายบัตรเดินทางอยู่ภายในอาคารทรงโบราณสามชั้น ลักษณะค่อนข้างเก่า หน้าประตูมีป้ายเตือนเขียนกำกับไว้ไคลน์เดินเข้าไปใกล้เพื่ออ่าน“ระเบียบปฏิบัติมีดังนี้ : 1. รักษากฎอย่างเข้มงวด ต้องต่อแถวเพื่อซื้อบัตรเท่านั้น 2. ห้ามปัสสาวะอุจจาระเรี่ยราด รวมถึงห้ามถ่มน้ำลายส่งเดช 3. หากมีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น ให้ไปตามคนคุมภายในห้องรับรอง 4. ห้ามเปิดฝากระป๋องปลาหมาป่าโดยเด็ดขาด! ไม่ว่าจะอยู่ในห้องใดก็ตาม!”ปลาหมาป่ากระป๋อง? อะไรอีกล่ะนั่น?ไคลน์ขมวดคิ้ว……………………
คอมเม้นต์