ราชันเร้นลับ 487 : ชุมนุมทาโรต์โตวันโตคืน
เมื่อถูกสายตาจำนวนมากจ้องมอง เอ็มลินชะงักคำพูดชั่วขณะ พลางสงสัยว่า เมื่อครู่ตนกล่าวในสิ่งไม่ควรออกไปอย่างนั้นหรือทำไมถึงจ้องกันด้วยสายตาแบบนั้น…เรามีเพื่อนเป็นผีดูดเลือดไม่ได้รึไง…ควรแก้ตัวดีไหม… ไม่สิ เป็นผีดูดเลือดแล้วมันผิดอะไร! เราคือผีดูดเลือด และภูมิใจในการเป็นผีดูดเลือด! เผ่าพันธุ์เรามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีชีวิตยืนยาว และเต็มไปด้วยมรดกตกทอดจากบรรพชน! ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดทรงเกียรติเท่ากับผีดูดเลือดอีกแล้ว!พวกเจ้าทุกคนก็มิได้วิเศษวิโสเช่นกัน! เพียงซื้อขายกันด้วยสิ่งของไม่เกินลำดับ 6!หลังจากครุ่นคิดสักพัก เอ็มลินเชิดคางขึ้นและกล่าวอย่างมั่นใจ“เข้าใจถูกแล้ว ข้าคือผีดูดเลือดแท้”ไม่มีใครถามสักหน่อย… มิสเตอร์มูนคงเข้าสังคมไม่เก่ง และไม่มั่นใจในตัวเอง ส่งผลให้มีพฤติกรรมโฉ่งฉ่างไปนิด…ออเดรย์วิเคราะห์อย่างใจเย็นผีดูดเลือดตัวจริง…ฟอร์สซักถามด้วยความใครรู้“มิสเตอร์มูน ผีดูดเลือดเลียนแบบบรรดาศักดิ์ขุนนางของมนุษย์ตามความแข็งแกร่งและอำนาจใช่ไหม ตัวอย่างเช่นดยุค ไวเคาต์ เอิร์ล และบารอน”“ผิดแล้ว ฝ่ายลอกเลียนแบบคือพวกมนุษย์ต่างหาก!” เอ็มลินเปลี่ยนท่านั่ง “ย้อนกลับไปในสมัยอดีตกาลก่อนยุคสมัยมหาภัยพิบัติ และก่อนยุคสมัยที่สองด้วยซ้ำ ผีดูดเลือดของพวกเราได้ใช้บรรดาศักดิ์เช่นนี้มานานแล้ว“เรียงจากผีดูดเลือดวัยเยาว์ กลุ่มนี้ยังควบคุมพลังของตัวเองได้ไม่ชำนาญ ผีดูดเลือดโตเต็มวัย เหมือนกับข้า หลังจากนั้นจะเป็นบรรดาศักดิ์ไล่ตั้งแต่บารอนไปจนถึงดยุค เหนือดยุคยังมีองค์ชายผีดูดเลือดและราชินีผีดูดเลือด ในสมัยนั้น มนุษย์ยังเป็นแค่ทาสของคนยักษ์ อยู่ภายใต้การปกครองของราชาคนยักษ์ เออร์เมียร์ แล้วจะไปมีบรรดาศักดิ์ขุนนางได้อย่างไร!”เมื่อสิ้นเสียง เดอร์ริคด้านข้างรีบโพล่งขึ้น“เมืองเงินพิสุทธิ์ของพวกเราไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นถูกบันทึกไว้! ผีดูดเลือดเพิ่งถูกจำแนกอย่างละเอียดเป็นครั้งแรกหลังจากศิลาเย้ยเทพแผ่นแรกปรากฏตัวขึ้นมา แต่ก่อนหน้านั้น ผีดูดเลือดจะถูกตีกรอบไว้อย่างกว้างๆ ตามลักษณะพฤติกรรม อาจมีบางส่วนถูกเรียกตามบรรดาศักดิ์ขุนนาง พบได้ในบางตระกูลหรือในผู้ปกครองเมืองใหญ่เท่านั้น โดยลำดับชั้นสูงสุดคือต้นตระกูลผีดูดเลือด ลิลิธ แต่ในช่วงหลังเริ่มมีการจำแนกตามลำดับและชื่อของโอสถ มิใช่บรรดาศักดิ์ขุนนาง”ได้ยินเช่นนั้น เอ็มลินเย้ยหยันกลับไป“ประวัติศาสตร์ของผีดูดเลือดถูกเขียนผ่านอายุขัยอันยาวนาน มิใช่เรื่องแต่งเติมส่งเดชของเมืองเล็กๆ นามว่าเงินพิสุทธิ์!”เดี๋ยวก่อน… สมาชิกในชุมนุมพูดถึงเมืองเงินพิสุทธิ์บ่อยครั้ง แต่มันอยู่ตรงไหนกันแน่? ทำไมเราถึงไม่เคยได้ยินเชื่อ…หลังจากพ่นลมหายใจ เอ็มลินเริ่มตระหนักว่าตนมองข้ามสิ่งสำคัญบางเรื่องไป“เมืองเงินพิสุทธิ์ของเรามิได้แต่งเรื่องขึ้นมาอย่างส่งเดช! แต่อ้างอิงจากหนังสือโบราณซึ่งถูกพิสูจน์ความถูกต้องแล้ว หรือไม่ก็เอกสารสำคัญจากซากอารยธรรมของเมืองอื่น”เดอร์ริคเน้นย้ำ สีหน้าเผยความขุ่นเคืองถ้าไม่มีใครห้ามศึก เกรงว่าคงได้เถียงกันจนกระทั่งชุมนุมทาโรต์หมดเวลาแน่… แม้ว่าเดอะซันจะเป็นเด็กหนุ่มซื่อตรง จริงใจ และยึดมั่นในคุณธรรม แต่ขณะเดียวกันก็หัวรั้นและไม่ยอมคน ในทางกลับกัน มิสเตอร์มูนเองก็ยึดถือกับประวัติศาสตร์ของผีดูดเลือดมาก…ออเดรย์ทำตัวเป็นผู้ชมอย่างสนอกสนใจทันใดนั้น อัลเจอร์แทรก“ผมทราบวิธีเพิ่มลำดับพลังให้ผีดูดเลือด”ความสนใจของเอ็มลินหันเหทันที“เอ่อ… มิสเตอร์แฮงแมน เจ้าต้องการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งใด ข้ายินดีเล่าประวัติศาสตร์ของผีดูดเลือดให้ฟังเป็นการแลกเปลี่ยน”อัลเจอร์เผยรอยยิ้ม“ไม่จำเป็น พวกเราทุกคนล้วนเป็นสมาชิกชุมนุมทาโรต์เหมือนกัน ข้อมูลเช่นนี้ไม่มีการคิดราคาให้เสียน้ำใจ”มิสเตอร์แฮงแมนช่างเป็นคนดีมีน้ำใจ…เอ็มลินเริ่มประเมินอุปนิสัยของอีกฝ่าย“ขอบคุณสำหรับความใจกว้าง”อัลเจอร์กล่าวหลังจากครุ่นคิดสองวินาที“ผีดูดเลือดสามารถเลื่อนลำดับได้โดยการดื่มโอสถเช่นเดียวกับมนุษย์ แต่โอสถต้องสอดคล้องกับพลังในปัจจุบัน ทางโบสถ์หลักเคยทดลองในเรื่องนี้และพบว่า การดื่มโอสถสามารถทำให้ผีดูดเลือดพัฒนาลำดับได้เหมือนกับการประทานจากอาวุโส แต่ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก”“แต่วัตถุดิบหลักโอสถเหล่านั้นมาจากการเข่นฆ่าพี่น้องของข้า!” เอ็มลินปฏิเสธเสียงแข็งแฮงแมนยิ้มรับ“ไม่เสมอไปสักหน่อย ตัวอย่างเช่น ผมมีเบาะแสของตะกอนบารอนผีดูดเลือด เขาล้มป่วยกะทันหันและไม่มีเวลามอบตะกอนพลังให้กับทายาท หากคุณนำไปใช้ จะเท่ากับเป็นการอนุรักษ์ให้พลังของผีดูดเลือดยังคงอยู่กับตระกูล ดีกว่าปล่อยให้ตกอยู่ในมือมนุษย์อย่างสูญเปล่า”ตะกอนพลังดังกล่าวเป็นสมบัติของโจรสลัดชื่อดังซึ่งอัลเจอร์ได้ฟังรายละเอียดมาอีกทอดหนึ่ง เป็นเพราะอีกฝ่ายยังไม่ทราบลำดับของวัตถุดิบ จึงไม่กล้าค้าขายอย่างส่งเดช และยังไม่มีช่างมือคนใดรับไปประเมินราคาหรือสร้างเป็นสมบัติวิเศษการดื่มโอสถจะทำให้พลังของผีดูดเลือดไหลเวียนอยู่ในตระกูล… สมเหตุสมผลมาก…เอ็มลินพบว่าคำพูดของแฮงแมนไม่มีข้อบกพร่องในเชิงตรรกะ จึงซักถามอย่างสนใจ“ราคาเท่าไร”อัลเจอร์ยังคงยิ้ม“ระหว่างสี่พันถึงห้าพันปอนด์ ผมไม่ทราบราคาชัดเจน ต้องสอบถามคนขายให้แน่ใจอีกครั้ง”ในความเป็นจริง มันยังไม่เคยสอบถามราคาจากโจรสลัดชื่อดังคนนั้น แต่ขอเพียงไม่กดราคากันเกินไป บรรดาโจรสลัดก็ไม่เข้มงวดเรื่องการ ‘ปล่อยของ’ มากนัก เพราะสมบัติของพวกมันเกือบทุกชิ้นจะ ‘ไม่มีต้นทุน’“ห้าพันปอนด์…” เอ็มลินทวนคำด้วยเงินก้อนใหญ่เช่นนี้ เราสามารถนำไปซื้อตุ๊กตาตัวเด็ดซึ่งหมายตามานาน แถมยังเหลือพอจะซื้อเสื้อผ้าตกแต่งอีกหลายชุด!ความคิดแวบแรกในหัวเอ็มลินคือการคัดค้าน แต่เมื่อใจเย็นลงและเริ่มตระหนักว่าบรรพชนผีดูดเลือดฝากความหวังไว้กับตน มันจำเป็นต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบเพื่อเกียรติยศของตระกูลผีดูดเลือดอัลเจอร์ไม่กดดัน“ผมเข้าใจหัวอก การตัดสินใจในคราวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จงกลับไปคิดทบทวนเมื่อมีเวลา”“ตกลง” เอ็มลินถอนหายใจมิสเตอร์แฮงแมนนี่ช่าง… ออเดรย์พึมพำ ก่อนจะหันไปทางเดอะมูนและสมาชิกคนอื่น“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย ท่านใดมีเบาะแสของผลต้นคนชราและโลหิตของมังกรกระจกบ้าง?”“ข้ามี” เอ็มลินตอบโดยไม่ลังเลหลังจากค้าขายกับนักสืบคนหนึ่ง มันก็พยายามเข้าร่วมชุมนุมลับของแวมไพร์มาตลอด หากคอยจับตามองการหมุนเวียนของวัตถุดิบหลักในตลาดมืดไว้ให้ดี ข้อมูลเหล่านี้จะกลายเป็นช่องทางทำเงินก้อนโตโดยไม่รอให้มิสจัสติสซักถามรุ่มร่าม“ผลของต้นคนชราอยู่ระหว่างหกร้อยถึงเจ็ดร้อยปอนด์ และโลหิตมังกรกระจกมีราคาไม่เกินหนึ่งร้อยปอนด์ ข้าจำตัวเลขแน่ชัดไม่ได้”มันเกริ่นด้วยราคาต้นทุน ตามด้วย“แต่เจ้าต้องจ่ายให้ข้าเพิ่มอีกห้าสิ— ไม่ใช่ ต้องเพิ่มให้ข้าอีกหนึ่งร้อยปอนด์ เจ้าคงเข้าใจใช่ไหมว่าข้าต้องเสียเวลาและเสี่ยงชีวิต!”เอ็มลินได้เรียนรู้โมเดลธุรกิจนี้มาจากนักสืบเชอร์ล็อก·โมเรียตี้ เมื่อลองคิดภาพตาม มันพบว่าการค้าขายอย่างซื่อตรงจะเกิดประสิทธิภาพมากกว่า เพราะฝ่ายผู้ซื้อย่อมเข้าใจอยู่แล้วว่า การเป็นคนกลางต้องมีค่าใช้จ่ายไม่มากก็น้อย“ตกลง!” ออเดรย์ตอบรับทันทีโดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบเธอย่อมทราบ การซื้อขายเช่นนี้สามารถต่อรองได้เล็กน้อย แต่หญิงสาวกลัวว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจหากเธอจุกจิกมากเกินไปสำหรับเรา สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการเลื่อนเป็นลำดับ 7 โดยเร็ว… จักรพรรดิโรซายล์เคยกล่าวไว้ว่า หากปัญหาใดสามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน สิ่งนั้นยังไม่ถือว่าเป็นปัญหา!ออเดรย์ครุ่นคิดอย่างอารมณ์ดีหลังจากงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ หญิงสาวได้รับสิทธิ์ให้บริหารทรัพย์สินส่วนตัวมูลค่ารวมมากถึงสี่หมื่นปอนด์ เพียงแต่ต้องจ้านักบัญชีและนักบริหารจากบิดามาช่วยจัดการพร้อมกันนั้น เธอยังได้รับของกำนัลมูลค่าไม่ต่ำกว่าสองหมื่นในรูปแบบของเครื่องประดับ อัญมณี ม้าพ่อพันธุ์ หมาล่าเนื้อ ภาพวาดราคาแพง และอีกมาก โดยส่วนใหญ่มาจากมารดา พี่ชายทั้งสองคน และสมาชิกตระกูลฮอลล์อันมั่งคั่งแต่ในด้านของเงินสด เธอกลับได้รับเพียงไม่ถึงห้าพันปอนด์ความดีความชอบในโศกนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์ถูกตอบแทนในรูปแบบอำนาจทางการเมืองของเอิร์ลฮอลล์แทน ออเดรย์เป็นผู้เรียกร้องสิ่งนี้ด้วยตัวเอง เพราะเธอไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน แต่แน่นอน หญิงสาวย่อมมีข้อแลกเปลี่ยน โดยนายธนาคารใหญ่แห่งอาณาจักรโลเอ็นจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับของบุตรสาวทั้งหมดอย่างไรก็ตาม ออเดรย์ไม่เปิดเผยความทะเยอทะยานในการเลื่อนเป็นลำดับ 7 เพราะเชื่อว่าบิดาคงไม่สบายใจหากรู้เข้าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จึงต้องควักเงินส่วนตัวเราจะสะสางหนี้ของกายลินให้เสร็จภายในสิ้นเดือน และจัดการหนี้ของข้ารับใช้มิสเตอร์ฟูลอีกสองพันปอนด์ในเดือนถัดไป…เราไม่จำเป็นต้องรัดเข็มขัดอีกแล้ว…ยิ่งคิดคำนวณ ออเดรย์ก็ยิ่งมีความสุขรวยมาก… เอ็มลินอึ้งไปสักพักจนกระทั่งดึงสติตัวเองกลับมา“แล้วพวกเราจะแลกเปลี่ยนกันด้วยวิธีใด”ออเดรย์อธิบายด้วยรอยยิ้ม“สังเวยสิ่งของให้มิสเตอร์ฟูล”หญิงสาวหันไปขออนุญาตเดอะฟูลอย่างคล่องแคล่ว ตามด้วยการเสกแผ่นกระดาษและปากกาเพื่อเขียนรายละเอียดพิธีกรรมเอ็มลินรับกระดาษหนังสีน้ำตาลไปอ่านด้วยสีหน้าตกตะลึง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งนี้อยู่นอกเหนือจินตนาการของมันไปมากเอ็มลินได้รับรู้ทันทีว่า ชุมนุมทาโรต์แตกต่างจากทุกชุมนุมในความทรงจำของตนโดยสิ้นเชิงไคลน์เฝ้ามองการแลกเปลี่ยนระหว่างสมาชิกอย่างมีความสุข เพราะยิ่งเวลาผ่านไป เครือข่ายข้อมูลของสมาชิกชุมนุมทาโรต์ก็ยิ่งแผ่ขยาย ความต้องการของแต่ละคนจะถูกตอบสนองได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอคอยอย่างไร้ความหวังเหมือนในอดีต จะไม่มีบรรยากาศเงียบงันระหว่างช่วงเวลาค้าขายอีกต่อไปมิสจัสติสเป็นตัวแทนสมาคมแปรจิต ชนชั้นสูงแห่งโลเอ็น และพลังแห่งเงินตรา… มิสเตอร์แฮงแมนเป็นตัวแทนโบสถ์วายุสลาตัน และเครือข่ายโจรสลัดในท้องทะเล มิสเตอร์ซันเป็นตัวแทนดินแดนเทพทอดทิ้งและเมืองเงินพิสุทธิ์ มิสเมจิกเชี่ยนเป็นตัวแทนตระกูลอับราฮัมและชุมนุมลับขนาดย่อมในเบ็คลันด์ มิสเตอร์มูนเป็นตัวแทนตระกูลผีดูดเลือด ไม่มีเครือข่ายของใครก้าวก่ายซึ่งกันและกัน นับเป็นการรวมตัวอย่างสมบูรณ์แบบ…ไม่เพียงเท่านั้น ทุกคนยังพัฒนาตัวเองตลอดเวลา…คิดมาถึงตรงนี้ ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลเปล่งเสียงแหบพร่า“ผมมีเบาะแสของตะกอนพลังนักจิตบำบัด มิสจัสติส ไม่ทราบว่าคุณสนใจหรือไม่”ไคลน์ไม่กังวลว่าจนจะแย่งธุรกิจของเอ็มลิน เพราะชายหนุ่มทราบดี มิสจัสติสเลี้ยงสัตว์วิเศษไว้หนึ่งตัว แถมยังเป็นเส้นทางเดียวกันกับเธอ การซื้อวัตถุดิบโอสถสองชุดจึงไม่ใช่เรื่องแปลก“แน่นอนค่ะ” ออเดรย์แทบไม่ลังเลแนวคิดของเธอไม่ซับซ้อน ในอนาคต หากตนถูกโจมตีทีเผลอ ตัวเธออาจตอบสนองไม่ทันการจนเสียท่าศัตรู การมีซูซี่ไว้ข้างกายจะช่วยมอบความอบอุ่นใจได้มาก“แต่ผมคงต้องใช้เวลาอีกสักพัก ราวหนึ่งถึงสองเดือน” เดอะเวิร์ลเสริมเสียงทุ้ม“ไม่มีปัญหาค่ะ” ออเดรย์เองก็ไม่รีบร้อนเพราะยังต้องใช้เวลาอีกสักพักเช่นกัน กว่าซูซี่จะย่อยโอสถนักอ่านใจเสร็จฟู่ว… อย่างน้อยอีกฝ่ายก็รับปากแล้ว ได้แต่หวังว่าเราจะหาโอกาสปล่อยวิญญาณนักจิตบำบัดออกจากถุงมือได้โดยเร็ว… มิสจัสติสไม่ถามเรื่องราคาเลยสักนิด สำหรับเธอ ภายใต้การควบคุมดูแลของเดอะฟูล เธอคงมั่นใจว่าไม่มีการแลกเปลี่ยนเกินราคาแน่ หรือต่อให้เกินก็ไม่มากจนน่าเกลียด…ขณะเดียวกันก็ยังหมายความว่า สภาพคล่องทางการเงินของเธอเริ่มดีขึ้นแล้ว…ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลหันไปทางแฮงแมนและหัวเราะในลำคอ“สนใจจะช่วยผมค้าขายอีกครั้งไหม มูลค่าไม่ต่ำกว่าสามพันห้าร้อยปอนด์ โดยคุณจะได้รับค่านายหน้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์”“ยินดีเป็นอย่างยิ่ง” อัลเจอร์ตอบตกลงโดยไม่ลังเล ก่อนจะซักถามรายละเอียด “คราวนี้เป็นสินค้าแบบไหน”มันค่อนข้างสนใจในตัวเดอะเวิร์ล เพราะมองว่าอีกฝ่ายมักมีข้อมูลและสิ่งของเหนือความคาดหมายมาแลกเปลี่ยนอยู่เสมอ“เป็นตะกอนพลังของผู้วิเศษลำดับเทียบเท่า 6 พลังหลักคือการเปลี่ยนแปลงใบหน้าได้อย่างอิสระ และเปลี่ยนรูปร่างได้เล็กน้อย มีพลังเสริมเป็นการควบคุมไฟและการต่อสู้ระยะประชิดอีก หากนำไปให้ช่างฝีมือจัดการ พลังของสมบัติวิเศษจะขึ้นอยู่กับมาตรฐานและแนวคิดของช่าง” เดอะเวิร์ลหัวเราะเปลี่ยนแปลงใบหน้าและรูปร่าง…เราอยากได้อันนี้!ออเดรย์และฟอร์สต่างเกิดความรู้สึกแบบเดียวกัน เพียงแต่ ฝ่ายหลังทำได้เพียงเก็บไปจินตนาการออเดรย์รีบหันไปมองแฮงแมนพร้อมกับกะพริบตาถี่“มิสเตอร์แฮงแมน ดิฉันสามารถจองสมบัติวิเศษผลงานช่างฝีมือล่วงหน้าได้ไหม? ขอแค่มีพลังเปลี่ยนแปลงใบหน้า!”ถ้าผลข้างเคียงไม่ร้ายแรงเกินไป ท่านพ่อจะต้องเห็นด้วยกับสมบัติวิเศษชิ้นนี้อย่างแน่นอน!หญิงสาวเสริมในใจอย่างตื่นเต้น……………………
คอมเม้นต์