ราชันเร้นลับ 466 : ผู้กลืนหาง
โครม!ขวานในมือเดอร์ริค อันกำลังถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้าสีเงิน ฟันสับเข้าใส่ภาพแม่น้ำในจิตรกรรมฝาผนังจนเกิดเป็นร่องลึก เศษหินร่วงกราวกระจัดกระจายเพียงการสับครั้งเดียว แม่น้ำก็ถูกตัดขาดออกจากการอย่างสมบูรณ์ขณะกำลังยืนรอให้วังวนกระแสเวลาถูกทำลายและปล่อยทุกคนเป็นอิสระ ร่างของนักล่าปีศาจโคลินพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเด็กหนุ่มกะทันหันอีกฝ่ายกล่าวด้วยแววตาดุดันขึงขัง“คุณคิดจะทำอะไร”ปลายดาบอาจชี้ลงล่าง แต่ฝ่ามือของโคลินกำลังบีบด้ามจับแน่นเดอร์ริคอาศัยบทเรียนจากชุมนุมทาโรต์ มอบคำตอบกลับไปด้วยสีหน้าสับสนแกมหวาดผวา“ท…ท่านเจ้าเมือง เมื่อครู่มีเงาดำพุ่งผ่านหน้าผมไป เป็นเงาดำรูปร่างคล้ายเด็ก!”โคลินส่งเสียงถามสมาชิกด้านหลังโดยไม่เบือนหน้าหนีจากเดอร์ริค“ฮาอิม คุณเห็นรึเปล่า”สมาชิกทีมสำรวจนามฮาอิมขยับตัวเข้าใกล้โคลิน พร้อมกับมอบคำตอบอย่างมั่นใจ“ไม่ครับ ผมไม่เห็นอะไรเลย”ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาสีฟ้าอ่อนของโคลินเริ่มส่องแสง กระจกตาปรากฏอักขระโบราณซับซ้อนสีเขียวเข้มในสภาพดังกล่าว มันยืนจ้องเดอร์ริคนานถึงห้าวินาทีจนกระทั่ง โคลินเบือนหน้าไปทางอื่นและกล่าวเสียงเรียบ“นี่คือภารกิจสำรวจครั้งแรกของคุณ ย่อมมองเห็นภาพหลอนเป็นเรื่องปรกติ ฉะนั้น คุณคอยมาอยู่ข้างผม อาจทำให้จิตใจสงบได้มากกว่า”“ครับ ท่านเจ้าเมือง” เดอร์ริคขานรับขึงขังและปราศจากความลังเลขณะเดียวกัน มันยืนยันได้ว่า ภาพวาดดังกล่าวไม่ใช่กุญแจสำหรับฝ่าวังวนกระแสเวลาวลีกุหลาบไถ่บาปของมิสเตอร์ฟูลคงซ่อนความหมายลึกซึ้งเอาไว้ เราคิดง่ายเกินไป…เดอร์ริคเดินสำรวจเคียงข้างโคลินอย่างเงียบงันพร้อมกับขวาเฮอร์ริเคนในมือเหตุการณ์หลังจากนี้ไม่แตกต่างความทรงจำในอดีตมากนัก ทุกคนมีพฤติกรรมแบบเดิม สำรวจในจุดเดิม จนกระทั่งผ่านเข้ามาถึงโถงสีเทาห้องเดิม และได้พบเด็กชายแจ็คคนเดิม ผู้มีผมสีเหลือง กำลังขดตัวด้านหลังเทวรูปและแท่นบูชาขนาดใหญ่มันเคยเห็นฉากแบบนี้มาแล้วห้าครั้งเมื่อได้ยินเสียงร้อง ‘ช่วยด้วย… ช่วยด้วย…’ และร่างของเด็กชาย โคลินผงกศีรษะเล็กน้อยพลางคลายความสงสัยในตัวเดอร์ริคขณะเจ้าเมืองเงินพิสุทธิ์กำลังยืนเรียบเรียงคำพูด เดอร์ริคชิงถามแทรก“พวกเราจะช่วยเจ้าได้อย่างไร”แจ็คเผยสีหน้ายินดีปรีดา“ช่วยด้วย! ช่วยพาผมกลับบ้าน! ช่วยพาผมกลับบ้าน!”“แล้วบ้านเจ้าอยู่แห่งหนใด” เดอร์ริคซักถามด้วยสีหน้าสงสัยกึ่งระแวงเมื่อเห็นฉากตรงหน้า โคลินทำเพียงปิดปากเงียบและเริ่มกำด้ามดาบแน่นแจ็คทำไม้ทำมือขณะตอบ“บ้านของผมอยู่ข้างท่าเรือเอ็นมาร์ท!”ท่าเรือเอ็นมาร์ท… แม้ว่ามิสเตอร์แฮงแมนจะไม่เคยเอ่ยถึง แต่ลำพังคำว่า ‘ท่าเรือ’ ก็เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่า แจ็คไม่ใช่คนบนดินแดนต้องสาปแห่งนี้… เขาน่าจะมาจากโลกภายนอก มาจากดินแดนซึ่งมีอาณาจักรโลเอ็นของมิสจัสติสและคนอื่น!เดอร์ริคเริ่มตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่ท่าทีของเด็กหนุ่มมิได้ทำให้นักล่าปีศาจโคลินประหลาดใจนัก เนื่องจากเจ้าเมืองเงินพิสุทธิ์สุดทรงพลังก็ไม่เคยเห็นทะเลมาก่อนเช่นกัน มันเพียงได้อ่านจากหนังสือโบราณและทราบว่า ‘ทะเล’ ใหญ่กว่า ‘ทะเลสาบ’ หลายเท่า รวมถึงยังเคยอ่านพบคำว่า ‘ท่าเรือ’ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับทะเลถ้อยคำของเด็กชายได้เติมเต็มจินตนาการเอายาวนานของโคลิน·อีเลียด ผู้ดิ้นรนหาทางอยู่รอดให้เมืองเงินพิสุทธิ์มานานหลายปีมันซักถามต่อไปโดยไม่สนใจสิ่งอื่น“เจ้าหรือพวกพ้องของเจ้า เดินทางมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร”แจ็คทำหน้านึก“พ่อพาผมขึ้นเรือเล็กออกทะเล จากนั้น พวกเราได้พบกับเพื่อนของพ่อและเริ่มเดินทางต่อด้วยเรือใหญ่ ระหว่างทางได้เผชิญพายุขนาดมหึมา พวกเราทุกคนตื่นขึ้นบนดินแดนแห่งหนึ่ง ทุกคนเดินตามทิศทางการมองของพระองค์ จนกระทั่งมาถึงวิหารแห่งนี้”“เดินตามทิศทางการมองของพระองค์?”นักล่าปีศาจโคลินและสมาชิกทีมสำรวจต่างหันไปจ้องเทวรูป พวกมันพยายามวิเคราะห์ว่า ปลายทางของสายตากำลังมองไปยังแห่งหนใดผ่านไปสักพัก โคลินเริ่มได้ข้อสรุปหากบุคคลภายนอกเดินตามทิศทางสายตาของเทวรูปมาถึงตรงนี้ได้ หมายความว่า ถ้าเรากระทำในสิ่งย้อนกลับ ก็จะทราบว่าพวกเขาเข้ามาจากชายฝั่งทางไหน…ทิศทางตรงกันข้ามกับสายตาของเทวรูป…โคลินกำลังจินตนาการแผนผังของจุดสำคัญรอบเมืองเงินพิสุทธิ์ในหัว ข้อมูลนี้ถูกรวบรวมจากประสบการณ์สำรวจอันยาวนานของเมืองเงินพิสุทธิ์ และไม่กี่อึดใจถัดมา นักล่าปีศาจโคลินสามารถวาดเส้นทางการผจญภัยของเด็กชายตรงหน้าได้ชัดเจนหากไม่มีวิหารอื่นหรือเทวรูปคั่นกลาง คณะเดินทางของเด็กคนนี้จะตรงมาจากซากปรักหักพังของวังราชาคนยักษ์!ดวงตาโคลินพลันสั่นระริกณ ตรงนั้นคือวังของเทพบรรพกาล ราชาคนยักษ์ เออร์เมียร์ และยังอยู่ไม่ห่างจากเมืองเงินพิสุทธิ์มากนัก!ในฐานะทายาทของอาณาจักรเงินพิสุทธิ์ซึ่งเคยถูกคนยักษ์ปกครองมาหลายชั่วอายุคน โคลินย่อมทราบว่าวังราชาคนยักษ์อยู่ในบริเวณใด แต่ปัจจุบัน เมืองเงินพิสุทธิ์ยังมิอาจดำเนินการสำรวจได้อย่างละเอียด เพราะด้านในเต็มไปด้วยอันตรายเหนือความคาดหมาย น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าการถูกความมืดมิดครอบงำเสียอีก!จากการคาดคะเนของโคลิน เด็กชายปริศนาและพวกพ้อง จะต้องเดินทางผ่านวังราชาคนยักษ์ก่อนมาถึงวิหารแห่งนี้แน่พวกเขาผ่านเขตวังมาได้อย่างไร…ไม่สิ บางทีอาจใช้วิธีเดินอ้อม…แต่ไม่ว่าจะวิธีไหน ‘ทะเล’ ต้องอยู่ด้านหลังวังราชาคนยักษ์แน่นอน และอีกฟากของทะเลคืออาณาจักรมนุษย์ภายนอก…นี่คือทางรอดของเมืองเงินพิสุทธิ์ใช่ไหม…โคลินครุ่นคิดในหลายสิ่งขณะเดียวกัน เดอร์ริคเริ่มสังเกตเห็นว่า เสื้อผ้าบริเวณหน้าอกของเด็กชายแจ็คมีสีแดงเข้มในลักษณะเปียกชุ่ม ราวกับมีของเหลวบางชนิดไหลออกมาทีละนิดอย่างต่อเนื่อง“เจ้าบาดเจ็บอยู่หรือ” เด็กหนุ่มซักถามแจ็คก้มหน้าลงและตอบเสียงสั่น“ส…สิ่งน่ารังเกียจกำลังเติบโตในนี้…”เมื่อสิ้นเสียง เด็กชายถอดเสื้อและเผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่าแต่ผิวหนังบนหน้าอกกลับมีดวงตาจำนวนสองข้าง จมูกหนึ่ง และปากหนึ่ง รวมกันเป็นใบหน้ามนุษย์อย่างครบถ้วน!สิ่งนี้มิใช่ภาพวาดหรือการฝังอัญมณีให้มีลักษณะคล้ายคลึงใบหน้ามนุษย์ แต่ทั้งหมดคือตาของคนจริง จมูกจริง และปากจริง!ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนอวัยวะทั้งหมดจะไม่ได้มาจากคนคนเดียวกัน ดวงตามาจากคนหนึ่ง จมูกจากอีกคน และปากจากอีกคน รวมทั้งหมดเป็นสามคนเดอร์ริคพลันจินตนาการว่า แจ็คได้กินพวกพ้องเข้าไปจำนวนสามคน และนำตา จมูก ปาก มาเรียงกันเป็นใบหน้าใหม่บนหน้าอก!แต่เมื่อพิจารณาดูให้ดี ใบหน้าดังกล่าวกลับแผ่กลิ่นอายความอ่อนโยนและเย็นชา มอบความรู้สึกคุ้นเคยให้กับเดอร์ริคอย่างน่าประหลาดผ่านไปราวสองวินาที เด็กหนุ่มเริ่มนึกขึ้นได้ว่าความคุ้นเคยดังกล่าวมีต้นตอมาจากไหนใบหน้าบนอกเด็กชายแจ็คช่างละม้ายคล้ายคลึงกับ ‘เทวทูต’ บนจิตรกรรมฝาผนังข้างข้อความ ‘กุหลาบไถ่บาป’ มาก!เป็นใบหน้าของเทวทูตผู้มีเส้นผมสีเงินยาวถึงหลัง และใต้ฝ่าเท้ามีสายน้ำไหลบรรจบครบหนึ่งรอบถ้วน!ไม่ผิดแน่ พวกเราติดอยู่ในวังวนกระแสเวลาเพราะฝีมือของเทวทูตตนนั้น!ความคิดหนึ่งพลันแล่นเข้ามาในหัวเดอร์ริค เมื่อตั้งสติได้ เด็กหนุ่มรีบโพล่งถ้อยคำออกไป ราวกับเป็นคาถาสำหรับขจัดปัดเป่าภยันตราย“กุหลาบไถ่บาป!”ได้ยินเช่นนั้น แจ็คเงยรีบหน้ามองเดอร์ริค ตามด้วยการฉีกยิ้มกว้างไปถึงใบหู“หิว…หิวจังเลย…”“…” เดอร์ริคทำได้เพียงยืนผงะเหตุการณ์ถัดมาเป็นการต่อสู้ตามปรกติ ไม่ผิดไปจากความทรงจำเดิมแม้แต่น้อยเมื่อได้สติกลับมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มรีบมองไปรอบตัวและพบกับกองไฟ รวมถึงพวกพ้องซึ่งกำลังยืนเวรยามเฝ้าค่ายกุหลาบไถ่บาปไม่ใช่คาถาปลดผนึก…มันเน้นย้ำในใจเมื่อภารกิจสำรวจรอบเจ็ดเริ่มต้นขึ้น หนนี้เดอร์ริคไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ เพียงเดินนำทีมของตนเข้าไปสำรวจจิตรกรรมฝาผนังข้างวลีกุหลาบไถ่บาปอย่างละเอียดเมื่อเสร็จการสำรวจด้านนอก ทุกคนเดินเข้าไปในโถงใหญ่แท่นบูชาตามกำหนดการปรกติ และไม่นานก็ได้พบกับเด็กชายแจ็คบทสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นเช่นเคย จนกระทั่งถึงเหตุการณ์เด็กชายแจ็คถอดเสื้อ เผยให้เห็นใบหน้าคล้ายกับถูกรวมจากสามบุคคลแต่คราวนี้ เดอร์ริคมีประสบการณ์มาแล้ว มันไม่ทำให้แจ็คแตกตื่น เพียงพูดคุยอย่างเป็นกันเองและหันไปกระซิบกับนักล่าปีศาจโคลิน“ท่านเจ้าเมือง ใบหน้าบนตัวเขาคล้ายกับใบหน้าของเทวทูตในจิตรกรรมฝาผนังด้านบนมากครับ เทวทูตตนดังกล่าวมีผมสีเงินยาว ใต้ฝ่าเท้ามีแม่น้ำบรรจบ ข้างภาพวาดมีข้อความเขียนไว้ว่า ‘กุหลาบไถ่บาป’ ”โคลินทำหน้าประหลาดใจ ก่อนจะขมวดคิ้วชนกันขณะแสร้งคุยกับแจ็คอย่างเป็นมิตร หางตาโคลินแอบเหลือบมองเดอร์ริคผ่านไปไม่กี่อึดใจ เจ้าเมืองเงินพิสุทธิ์บีบเสียงให้เล็กลงและกระซิบกับเด็กหนุ่ม“คำพูดเมื่อครู่ของคุณ ช่วยให้ผมนึกถึงเรื่องสำคัญบางสิ่ง”โดยไม่รอให้เดอร์ริคถาม“สภาอาวุโสเคยศึกษาภาพวาดดังกล่าวอยู่นานและได้ข้อสรุปว่า เทวทูตในภาพคือผู้นำของคณะจาริกแสวงบุญ บางทีอาจมีชื่อกลุ่มว่ากุหลาบไถ่บาป เดิมที พวกเราตีความหมายของแม่น้ำไหลบรรจบครบรอบไว้ว่า เป็นการวนเวียนแสวงบุญหนแล้วหนเล่า แต่เมื่อครู่ ผมสามารถระบุตัวตนของเทวทูตตนดังกล่าวได้อย่างคร่าว เมื่อนำข้อมูลทั้งหมดในมือมารวมกัน มีทั้งข้อมูลจากคุณ และข้อมูลจากเหตุการณ์อามุนด์ใช้ร่างแยกสิงในตัวคุณ”“เกี่ยวกันยังไงหรือครับ” เดอร์ริคไม่เข้าใจโคลินมองแจ็คพลางเล่าต่อ“ซากหนอนของอามุนด์มีสัญลักษณ์ของกาลเวลา และภาพแม่น้ำไหลบรรจบครบรอบคือสัญลักษณ์ของโชคชะตา เมื่อนำมารวมเข้าด้วยกัน ผมหวนนึกถึงรายละเอียดในหนังสือโบราณเล่มหนึ่ง ซึ่งยังเพียงทฤษฎี ไม่มีการรับรองความถูกต้อง เมื่อมหาเทพผู้ปราดเปรื่องและทรงพลัง มหาเทพผู้รังสรรค์ทุกสิ่งจากต้นกำเนิด ถือกำเนิดขึ้นบนโลก ท่านมีเทวทูตมากมายรายล้อมรอบกาย ในบรรดาเทวทูตจะมีผู้นำซึ่งโดดเด่นกว่าใคร โดยเหล่าผู้นำจะถูกเรียกว่า ‘ราชาเทวทูต’ ราชาเทวทูตมีทั้งหมดแปดตน ชื่อของหลายตนสูญหายไปตามกาลเวลา มีการบันทึกรายละเอียดของราชาเทวทูตไว้เพียงบางตนเท่านั้น บ้างละเอียดชัดเจน และบ้างเป็นแค่รายละเอียดอย่างคร่าว ตามตำนานกล่าวไว้ว่า บุตรแห่งพระองค์เองก็เป็นหนึ่งในราชาเทวทูตเหล่านี้ จากเทวทูตทั้งแปดตน มีสองตนได้รับสมญานามว่า ‘เทวทูตกาลเวลา’ และ ‘เทวทูตโชคชะตา’ ”เดอร์ริคพลันกระจ่าง ก่อนจะถามย้ำเพื่อความแน่ใจ“ท่านเชื่อว่าอามุนด์คือเทวทูตกาลเวลา และบุคคลในภาพวาดคือเทวทูตโชคชะตา?”“ผมยังไม่แน่ใจ ด้านเทวทูตกาลเวลาถูกบันทึกไว้เพียงชื่อ แต่ในทางกลับกัน เทวทูตโชคชะตานั้นมีข้อมูลค่อนข้างละเอียด…”โคลินเว้นวรรคเพื่อสูดลมหายใจตามด้วยการกล่าวเสียงขรึม“เทวทูตโชคชะตา…ผู้กลืนหาง โอโรโบรอส”…ณ ยามเย็นภายในห้องใต้ดินของคฤหาสน์ตระกูลโอดราเอ็มลิน·ไวท์เพ่งมองโลงศพเหล็กพลางกล่าวกับผีดูดเลือดแก่ชราด้านใน“ลอร์ดนีบาส กระผมยินดีทำภารกิจของท่านบรรพชน!”นีบาสตอบด้วยเสียงชรา“ตัดสินใจได้ดี แล้วเจ้าจะเริ่มเมื่อไร มีสิ่งใดยังค้างคาใจหรือไม่ได้สะสางบ้างไหม”“…”เมื่อได้ยินนีบาสถามถึงความปรารถนาสุดท้าย แข้งขาเอ็มลินพลันอ่อนระทวย ภายในใจรู้สึกอยากถอนคำพูดแวมไพร์หนุ่มเกร็งคอเค้นเสียง“ไม่จำเป็นขอรับ เริ่มกันได้เลย!”……………………
คอมเม้นต์