ราชันเร้นลับ 424 : เปลี่ยนคำถาม
ภายในห้องโดยสารรถม้า ริมถนนด้านนอกสโมสรครักซ์“ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายอาจไม่ใช่คนเดียวกับเจสัน·บีเลียล? คุณเชื่อว่าพวกเรากำลังถูกคนร้ายชักนำให้หลงทาง?” ไอคานส์ไม่แสดงพฤติกรรมเหยียดหยัน ขุ่นเคือง หรือไม่แยแสคำแนะนำไคลน์ ตรงกันข้าม มันเริ่มนำประเด็นดังกล่าวมาถกเถียงจริงจังอาวุโสคนนี้ไม่เลว…แต่บางที นิสัยใจเย็นของเขาอาจเกิดจากกระจกชื่ออาโรเดสนั่นก็ได้ เพราะไม่ว่าคนเราจะมีอารมณ์ร้อนสักเพียงใด แต่ถ้าอยู่กับกระจกบานนั้นได้นาน ความหุนหันก็คงหายไปเองในภายหลัง…ชายหนุ่มครุ่นคิดพลางพยักหน้ารับ“นี่เป็นเพียงความเห็นของผม…ความเห็นจากนักสืบผู้หวาดระแวงและรอบคอบโดยธรรมชาติ วิธีพิสูจน์ทฤษฎีนั้นง่ายนิดเดียว เพียงคุณถามกระจกอีกครั้ง ถึงตำแหน่งปัจจุบันของผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย มิใช่เจสัน·บีเลียลเหมือนคราวก่อน”ไอคานส์ใช้มือข้างหนึ่งกดหมวก“สมเหตุสมผล”ขณะไอคานส์ก้มมองกระจกเงิน สีหน้าแววตาพลันกลับมาอึมครึม“รอก่อน…อาวุโสไอคานส์ หากคุณถามถึงเบาะแสของปีศาจในตอนนี้ มันจะสัมผัสถึงอันตรายและทราบตำแหน่งปัจจุบันของเรา” ไคลน์กล่าวเตือน“นั่นก็จริง” ไอคานส์หันไปมองสมาชิกทีมอีกสองคน “ฝากพวกคุณช่วยคุ้มกันนักสืบโมเรียตี้ในทางลับ หากโชคร้ายถูกผู้ปลดปล่อยแรงกระหายโจมตี พวกคุณสามคนคงพอจะถ่วงเวลาได้บ้าง นอกจากนั้นยังมีคนของกองทัพช่วยเฝ้าระวังไม่ห่าง”“รับทราบ!” จิตแห่งจักรกลทั้งสองขานรับอย่างแข็งขันโดยปราศจากความลังเลไอคานส์แยกตัวไปจากทุกคน รีบมุ่งหน้าไปยังจุดระดมพลปัจจุบันของเหยี่ยวราตรี—บ้านของไอเซนการ์ด·สแตนธอนเมื่อลองพิจารณาอย่างละเอียด… หากนำความโกลาหลซึ่งเกิดจากการออกโรงด้วยตัวเองของผู้ขับขานแห่งเทพ ไปรวมกับการเคลื่อนย้ายสมบัติวิเศษสุดทรงพลังของเหยี่ยวราตรี1-42 อย่างเอิกเกริก…ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า ผู้ปลดปล่อยแรงกระหายจะชิงลงมือทำตามเป้าหมายหลักของตนภายในช่วงบ่ายของวันนี้…หวังว่ากระจกวิเศษอาโรเดสจะช่วยแจ้งเบาะแสพวกเขาได้ทันเวลา…แต่หากทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น เราคงไม่มีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์แม้แต่น้อย ไม่มีโอกาสได้แก้แค้นไอ้ปีศาจบัดซบนั่น และไม่มีโอกาสได้จับต้องกระเป๋าเดินทางซึ่งบรรจุทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่าห้าหมื่นปอนด์…ไคลน์จ้องมองแผ่นหลังของไอคานส์ซึ่งกำลังลับสายตา ด้วยท่าทีผิดหวังเล็กน้อยแต่อีกใจหนึ่ง มันก็นึกโล่งอกแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน… อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัว สามารถกลับไปใช้ชีวิตปรกติได้โดยไม่ต้องลงทุน…ยิ่งไปกว่านั้น จิตแห่งจักรกลคงไม่ใจแคบกับเรานัก หากปฏิบัติการในคราวนี้สำเร็จลุล่วง คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากคำวิเคราะห์ของเรา ยิ่งผนวกกับการเป็นสาวกโบสถ์จักรกลไอน้ำของเราด้วยแล้ว อย่างน้อยก็ต้องได้ส่วนแบ่งกลับมาบ้าง…โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางใบนั้น ถ้ามันมีมูลค่าสูงถึงห้าหมื่นปอนด์จริง…ไคลน์ครุ่นคิดอย่างเสียดายแต่ก็เมื่อเทียบกับการต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย มันขอเลือกเส้นทางปลอดภัยดีกว่านักมายากลห้ามแสดงกลโดยไม่เตรียมตัว!ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีเวลาให้เราได้วางแผนหรือจัดหาอุปกรณ์แก้ทางปีศาจ…ไคลน์พยักหน้าส่งสัญญาณกับจิตแห่งจักรกลทั้งสองเป็นเชิงขอตัว เดินลงจากรถม้า และกลับไปยังสโมสรครักซ์ตามเดิม เตรียมบอกให้บริกรช่วยจองห้องพักสำหรับงีบในยามบ่าย…เขตฮิลสตัน ณ ห้องรับแขกบ้านไอเซนการ์ด·สแตนธอนเลียวนาร์ด·มิเชลกำลังใช้มือสางเส้นผมสีดำกระเซิงเล็กน้อยของตน ภายใต้คำสั่งของหัวหน้าโซสต์ และด้วยความช่วยเหลือจากเหยี่ยวราตรีคนอื่น การสวมใส่ชุดเกราะสีเงินเต็มอัตราศึกจึงเป็นไปอย่างราบรื่นบริเวณหัวไหล่ซ้ายของเกราะลงมาถึงช่องท้องยังคงเปรอะเปื้อนคราบเลือดเช่นเคยเลียวนาร์ดดึงกะบังหน้าลงมาปิด เก็บซ่อนดวงตาสีเขียวมรกตไว้ด้านในหมวกเหล็ก ตามด้วยการยกแขนซ้ายซึ่งสวมถุงมือเหล็กขึ้นเล็กน้อย บนฝ่ามือกำลังถือกระจกเงินลวดลายประหลาดซึ่งยืมมาจากไอคานส์·เบอร์นาร์ดโบสถ์เทพจักรกลไอน้ำจะเรียกสมบัติปิดผนึกชิ้นนี้ว่า :2-111“ระดับสองเองหรือ?” โซสต์ซักถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจไอคานส์พยักหน้ารับ“อา… มันก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น”ขณะกล่าว เสียงของไอคานส์คล้ายกับกำลังพูดไปพร้อมกันฟัน“ดูเหมือนคุณกำลังบอกเป็นนัยว่า ในบางสถานการณ์มันก็ ‘อันตรายขนาดนั้น’ ?”โซสต์ซักถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด“ก็แค่บางสถานการณ์”ไอคานส์ตอบเลี่ยง เจตนาไม่ต้องการเปิดเผยความลับของสมบัติปิดผนึกประจำโบสถ์ไปมากกว่านี้ขณะเลียวนาร์ดเริ่มใช้ฝ่ามือขวาลูบไล้ไปบนผิวกระจกเงินอย่างทะนุถนอม บรรยากาศภายในห้องรับแขกพลันเงียบสงัดเมื่อถูจนครบสามครั้ง มันกล่าวเสียงต่ำแสงรอบตัวทุกคนเริ่มสลัว คล้ายกับมีเมฆดำก้อนใหญ่เคลื่อนผ่านบนท้องฟ้าผิวกระจกเริ่มปรากฏแสงมายาของคลื่นน้ำ ส่องกระเพื่อมไปรอบทิศทาง ฉากอันพร่ามัวเริ่มรวมตัวกันจนกลายเป็นคมชัด :บ้านพักหรูหราซึ่งมีสวนเขียวขจีอยู่ด้านหน้าทางเข้า ใจกลางสวนเป็นเรือนกระจกซึ่งด้านในเต็มไปด้วยกุหลาบสีแดงฉานเหนือเรือนกระจก ท้องฟ้าด้านบนมีลักษณะหม่นหมองคล้ายกับกำลังถูกหมอกหนาทึบบดบังแสงอาทิตย์“ในเบ็คลันด์…!” ไอเซนการ์ดคาดเดาพิกัดของบ้านจากตำแหน่งดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าและอีกหลายปัจจัยประกอบ“ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างจากการทำนายด้วยชื่อเจสัน·บีเลียลโดยสิ้นเชิง พวกเราถูกมันหลอกเข้าอย่างจัง!” ไอคานส์กล่าวเสียงขรึมผู้ปลอบวิญญาณ โซสต์ ถอนหายใจ“แล้วผู้ขับขานแห่งเทพกำลังไล่ตามใคร? ไม่ใช่เจสัน·บีเลียลหรอกหรือ… เฮ่อ เรื่องนั้นช่างมันก่อน พวกเราต้องรีบตีกรอบตำแหน่งของผู้ปลดปล่อยแรงกระหายให้แคบลงโดยอาศัยข้อมูลจากภาพเมื่อครู่ จึงค่อยเริ่มวางแผนลงมือ… ผมสงสัยว่าคนร้ายกำลังเตรียมก่อการอุกอาจครั้งใหญ่!”ขณะเดียวกัน กระจกวิเศษอาโรเดสได้สลายภาพเหตุการณ์พร้อมกับเผยตัวอักษรชุดหนึ่งขึ้นมาแทนหมายความว่า ถึงคราวเลียวนาร์ด·มิเชลต้องเป็นฝ่ายตอบคำถาม หากโกหกหรือไม่ยอมตอบ บทลงโทษอันรุนแรงกำลังรออยู่ด้วยเหตุผลบางประการ เลียวนาร์ดเกิดความตึงเครียดสุดขีด ไม่หลงเหลือสีหน้าไม่เอาจริงเอาจังในยามปรกติ สมาธิมัวเพ่งอยู่กับคำถามซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจหลายวินาทีถัดมา ผิวกระจกเริ่มผุดอักษรสีเลือดขึ้นมาทีละตัว :“ในร่างกายของเจ้ามี…”ขณะคำถามดำเนินไปครึ่งทาง ตาดำของเลียวนาร์ดพลันหดเกร็ง กล้ามเนื้อทุกมัดเริ่มสั่นกระตุก เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นกึ่งกลางหน้าผากอย่างมิอาจยับยั้งหากไม่เพราะใบหน้าถูกปกปิดโดยกะบังหมวกเหล็ก คนรอบข้างคงสังเกตเห็นความผิดปรกติได้นานแล้วทันใดนั้น มือซ้ายเลียวนาร์ด—ข้างถือกระจกเงาสีเงิน พลันสั่นกระตุกแผ่วในระดับไม่มีใครนอกจากเลียวนาร์ดตระหนักถึงกระจกเงินโยกเอนเล็กน้อย ตัวอักษรสีเลือดเริ่มมีสีเขียวแซมในลักษณะยากจะมองออก หากไม่เพ่งให้ละเอียดก็ไม่มีทางพบการเปลี่ยนแปลงอักษรบนกระจกยังคงเขียนต่อไป :“ในร่างกายของเจ้ามีแผลเป็นซึ่งไม่สามารถบอกกับผู้อื่นได้ใช่ไหม”“ใช่ครับ…แผลเป็นดังกล่าวฝังลึกในความทรงจำของผมมาสักพักแล้ว” เลียวนาร์ดตอบเสียงเรียบไร้พิรุธ แต่ร่างกายภายในชุดเกราะสีเงินกำลังผ่อนคลายสุดขีดกระจกบานนี้อันตรายเกินไป…มันพบความผิดปรกติในตัวเรา! โชคดีว่าตาแก่ฟื้นฟูพลังกลับคืนมาแล้วหลายส่วน…เลียวนาร์ดรำพันด้วยริมฝีปากแห้งผากโซสต์ล้วงนาฬิกาพกออกมาเปิดฝาสำรวจ เงยหน้ามองเลียวนาร์ดผู้กำลังสวมชุดเกราะสีเงินเต็มอัตราศึก“ยังพอมีเวลาเหลือ… เลียวนาร์ด ปฏิบัติการในคราวนี้ ให้เป็นงานของคุณแล้วก็กัน”“รับทราบ! หัวหน้าโซสต์!” เลียวนาร์ดตอบแข็งขัน แต่ภายในกำลังถอนหายใจยาวสุดปอด…เขตอู่ต่อเรือ ย่านท่าเรีอเจสัน·แพทริค·บีเลียลกำลังเดินเข้าไปในห้องพักของผู้โดยสารมันมองออกไปนอกหน้าต่างและให้ความสนใจกับท้องฟ้าอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ในใจกำลังนับถอยหลังอย่างเงียบงันผ่านไปสักพัก มันรีบถอดหมวกและเสื้อผ้าออกจนหมด ตามด้วยการกระตุกข้อมือเพื่อถอดผิวหนังมนุษย์ผืนใหญ่ออกมา!ใต้หนังมนุษย์ดังกล่าวเผยให้เห็นหญิงสาวผู้มีใบหน้าเลอโฉม อายุราวสามสิบ ดวงตาลุ่มลึกแฝงความนัยเธอมิใช่บุรุษเจ้าของดวงตาและเส้นผมสีน้ำตาลซึ่งไคลน์เคยเห็นในนิมิตการทำนาย!สตรีปริศนานำเสื้อผ้าออกมาสวมอย่างคล่องแคล่ว เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหญิงงามผู้มากด้วยเสน่หาจากนั้น เธอนำรูปปั้นแกะสลักทำจากหิน ขนาดเท่ากำปั้น ออกจากกระเป๋าเดินทางหนังใบใหญ่ นำมันมาห่อด้วยหนังมนุษย์ และมัดแน่นจนกลายเป็นเงื่อนตายกว่าจะเตรียมการเสร็จ เรือล่องแม่น้ำได้แล่นออกจากท่าเป็นระยะทางไกลพอสมควร หญิงสาวปริศนาเปิดกระจกพร้อมกับโยนหนังมนุษย์ในคราบเจสัน·แพทริค·บีเลียลออกนอกหน้าต่าง ลงไปในแม่น้ำด้านข้างตัวเรือจ๋อม!หนังมนุษย์ซึ่งถูกถ่วงด้วยวัตถุน้ำหนักมาก เริ่มดำดิ่งสู่ก้นแม่น้ำอย่างรวดเร็วหญิงสาวปิดหน้าต่าง ถือกระเป๋าเดินทางหนังเดินออกจากห้องพัก และเข้าไปในอีกห้องหนึ่งซึ่งจองเตรียมไว้ล่วงหน้าเธอนั่งริมหน้าต่างด้วยสีหน้าร่าเริง นำศอกมาวางบนกรอบหน้าต่าง และเท้าคางชมวิวอย่างสบายใจผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ หญิงสาวมองเห็นสายลมกระโชกพัดพาผ่าน รุนแรงจนหมอกหนาทึบบนท้องฟ้าเริ่มเจือจางมุมปากแดงฉานยกโค้งอย่างมีเลศนัย…เขตเชอร์วู้ด ภายในบ้านพักหรูหราซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิหารวายุศักดิ์สิทธิ์พาลัส·นีแกนเจ้าของดวงตาสีฟ้ากลมโต กางมือสวมกอดภรรยาลับสาวสวยวัยย่างยี่สิบอย่างแนบแน่นเมื่อทราบข่าวการมาเยือน เธอรีบออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าตื่นเต้นแกมไร้เดียงสาด้านหลังดยุคนีแกนยังมีบุรุษเดินตามอีกสองคน คนหนึ่งอยู่ในวัยกลางคน สวมสูทหางยาว เส้นผมสีน้ำตาลและดวงตาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าไร้อารมณ์ไม่ใช่ใครนอกจากบอดี้การ์ดส่วนตัวของพาลัส·นีแกนซึ่งทางโบสถ์วายุสลาตันจัดหามาคอยอารักขา ลำดับ 6 ผู้รับใช้วายุส่วนอีกหนึ่งคนคือเลขาส่วนตัวมันคือชายหนุ่มผมทอง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสะอ้านสะอ้าน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้ดีมีสกุลคล้ายทายาทตระกูลขุนนางใหญ่ ข้อเสียเพียงจุดเดียวก็คือ หน้าผากซึ่งเริ่มเถิกล้านก่อนวัยอันควรในส่วนของคนรับใช้และองครักษ์ส่วนตัว ทั้งหมดถูกวางกำลังไว้รอบบ้านพักณ ชั้นสอง ผู้รับใช้วายุเดินนำเข้าไปสำรวจห้องนอนใหญ่เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยให้ดยุคนีแกน ส่วนเลขาคอยสำรวจห้องอื่นในบริเวณใกล้เคียงเมื่อมั่นใจว่าปลอดอันตราย มันหันมาพยักหน้าให้พาลัส·นีแกนเป็นเชิงเสร็จสิ้น“กว่าจะเสร็จ ไอ้นั่นของฉันหดหมดแล้ว” นีแกนกล่าวติดตลกภรรยาลับกล่าวด้วยสีหน้าร่าเริง“ถ้าอย่างนั้น ท่านช่วยเล่าประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในทะเลให้ฟังก่อนสิคะ”“เชื่อฉันเถอะ เธอไม่มีแรงฟังหรอก” ดยุคนีแกนจัดการอุ้มหญิงสาวเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับปิดประตูด้านหลังด้วยส้นเท้าเลขาส่วนตัวและผู้รับใช้วายุต่างเดินเข้าไปในห้องฝั่งตรงข้าม ไม่มีใครลดระดับการป้องกันลงแม้แต่วินาทีเดียวณ ห้องใต้หลังคาของบ้านหลังเดียวกันชายสวมโค้ทตัวใหญ่สีดำสนิทกำลังนั่งบนเก้าอี้สภาพเก่าโทรม ดวงตาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง ไม่มีใครทราบว่ามันกำลังตั้งใจฟังสิ่งใดพฤติกรรมทั้งหมดมีเพียงการอมยิ้มและส่ายศีรษะเป็นระยะเส้นผมหยักศกเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลแผ่กลิ่นอายความเย็นชา ไม่ใช่ใครนอกจากบุรุษในนิมิตทำนายของไคลน์จุดต่างแตกก็คือ ข้างฝ่าเท้าของมันเหลือกระเป๋าเดินทางหนังเพียงหนึ่งใบ“หิวกระหายอะไรเช่นนี้ นับเป็นแรงปรารถนาอันน่าทึ่ง…ผิดคาดไปเยอะทีเดียว หืม คงเพราะกินยาบางชนิดช่วยกระตุ้นสินะ…แบบนี้ก็ยิ่งเข้าทางเรา…หึหึ! คงไม่มีใครคาดคิดแน่ ว่าแท้จริงแล้ว เจสัน·แพทริค·บีเลียลจะหมายถึงสองบุคคล…” ชายปริศนาเอียงคอพลางทำสีหน้าเคลิบเคลิ้ม“ใกล้แล้ว…ตอนนี้แหละ!”หมับ! มันกำมือขวาฉับพลัน ราวกับกำลังบีบหัวใจใครบางคนให้แหลกละเอียด……………………
คอมเม้นต์