ราชันเร้นลับ 420 : ตระกูลปีศาจ
เขตตะวันตก บ้านเลขที่ 6 ถนนเอ็ดเวิร์ดหลังจากพานักสืบทั้งสามขึ้นรถม้ามายังบ้านหลังหนึ่ง ไอคานส์·เบอร์นาร์ดถอดหมวกสีดำด้วยมือหนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างชี้ไปทางประตูบ้านซึ่งอยู่ถัดไปจากน้ำพุ“พวกเราทำการรื้อคดีกลับมาสืบใหม่ทั้งหมดจากหลายช่องทาง เก็บรวบรวมเบาะแสทุกชนิด สืบสวนร่วมกับภาพวาดด้านข้างของคนร้าย แล้วก็… ผนวกกับความช่วยเหลือจากกระจกวิเศษ ผลลัพธ์คือ ทางเราสามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้หนึ่งคน”ถึงกับชะงักครู่หนึ่งเมื่อพูดถึงกระจกวิเศษ…ชักอยากรู้แล้วว่าเขาต้องจ่ายอะไรไปบ้างกว่าจะได้รับคำตอบสำคัญเกี่ยวกับคดี…เมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือของไอคานส์ ไคลน์รู้สึกเห็นอกเห็นใจไม่น้อย“ผู้ต้องสงสัยคือเจ้าของบ้านหลังนี้?”คาสลาน่าย้อนถาม น้ำเสียงค่อนข้างมั่นใจว่าตนคาดเดาไม่ผิดไอเซนการ์ดมองไปรอบตัวด้วยสีหน้าครุ่นคิด“ในเมื่อคุณยอมบอกเรื่องนี้กับเรา…หมายความว่าจิตแห่งจักรกลค้นพบเบาะแสสำคัญเพิ่มเติมแล้วใช่ไหม”“ถูกต้อง จุดน่าสงสัยก็คือ พวกเราไม่พบรูปถ่ายเจ้าของบ้านแม้แต่ใบเดียว ปรากฏเพียงภาพวาดสีน้ำมัน” ไอคานส์เปิดเผยรายละเอียดของคดีโดยไม่ปิดบัง “ไม่เพียงเท่านั้น ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงยังระบุตรงกันว่า พวกเขาเคยเห็นสุนัขสีดำตัวใหญ่ในบ้าน—”“พวกคุณจึงสรุปว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นคนเดียวกับผู้ปลดปล่อยแรงกระหายใช่ไหม?” เมื่อกล่าวจบ ไอเซนการ์ดยิ้มชืด “ต้องขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจจะขัด เพียงแต่ความเข้มข้นของคดีทำให้พวกเรากระวนกระวาย”หลังจากทุกคนเดินอ้อมน้ำพุ ไอคานส์ชี้ไปทางประตูบ้านพร้อมกับเล่าต่อ“เจ้าของบ้านชื่อว่าเจสัน·แพทริค เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารเล็กแห่งหนึ่ง จากคำบอกเล่าของเพื่อนบ้านในละแวก เขาเป็นชายวัยกลางคนอุปนิสัยร่าเริง กระตือรือร้น และมองโลกในแง่บวก เป็นชายโสด แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเขามีภรรยาลับซ่อนไว้หลายคน อย่างไรก็ตาม แม้จะร่ำรวย แต่จำนวนคนรับใช้กลับน้อยผิดปรกติ การจัดงานเลี้ยงรับแขกแต่ละครั้งจำเป็นต้องจ้างคนใช้ชั่วคราวจากสำนักงานจัดหาคนรับใช้ประจำเมืองเป็นจำนวนมาก เขาให้เหตุผลรองรับว่า ตนเป็นโรคนอนไม่หลับ จึงไม่ชอบจ้างคนรับใช้ในบ้านเยอะเพราะมักมีเสียงดังวุ่นวาย”“อย่างนั้นหรือ…แต่ผมกลับคิดว่า เหตุผลแท้จริงของพฤติกรรมกล่าวก็คือ เขากำลังซุกซ่อนความลับบางอย่างไว้ในบ้าน” ไอเซนการ์ดกล่าวทีเล่นทีจริงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ไคลน์ ผู้ไม่ได้จ้างคนใช้ไว้ในบ้านเลย เริ่มออกอาการร้อนตัว“เขาอาจไม่ได้ร่ำรวยเหมือนภายนอกก็ได้”“ถูกต้อง พวกเรายังไม่ควรตัดความเป็นไปได้ดังกล่าวออกไป” ไอเซนการ์ดยกมุมปากขณะเดินขึ้นไปบนเฉลียงหน้าประตูไอคานส์พลันหันมาจ้องไคลน์ด้วยสีหน้ากระจ่าง ราวกับเพิ่งตระหนักบางสิ่งได้“แบบนี้นี่เอง…สาเหตุให้คุณไม่จ้างคนรับใช้แม้แต่คนเดียว และเลือกใช้บริการทำความสะอาดจากสาวใช้เจ้าของบ้านสัปดาห์ละสองครั้งแทน เพราะคุณกังวลว่าความลับเรื่องผู้วิเศษจะรั่วไหลออกไป?”หากเทียบกับความลับอื่นของฉัน…เรื่องนั้นจะไม่น่ากังวลเลยสักนิด…ไคลน์แสร้งยิ้มชืด“ใช่ครับ”ขณะชายหนุ่มมอบคำตอบ ไอเซนการ์ดผลักประตูบ้านเข้าไป กลิ่นเหม็นเน่าลอยโชยออกมาทันใด“กลิ่นการเน่าเปื่อย…” ไอเซนการ์ดคาดเดาความสัญชาตญาณไอคานส์ส่งเสียงเรียกสมาชิกทีม“คาร์ลเซ่น! พบอะไรบ้างไหม?”ผู้วิเศษ คาร์ลเซ่น สวมแว่นตาหนาเตอะ กำลังทำสีหน้าซับซ้อน“ศพ… ศพเต็มไปหมดเลยครับ… ใต้ซีเมนต์ห้องใต้ดิน ระหว่างกำแพงซีเมนต์หนา ใต้ลานหญ้า พวกเราขุดพบศพแล้วศพเล่าอย่างต่อเนื่อง ศพเก่าสุดคงตายมานานกว่าสิบปีแล้ว และศพใหม่สุดยังมีลมหายใจจนกระทั่งสองสามวันก่อน บ้างเหลือแต่ซากกระดูก บ้างเน่าเปื่อยไปแล้วบางส่วน… ท่านอาวุโส บ้านหลังนี้ไม่ต่างอะไรกับโรงเชือดมนุษย์!”ขณะคาร์ลเซ่นกำลังเล่า จิตแห่งจักรกลและตำรวจซึ่งถูกคัดเลือกมาอย่างดี ทยอยขนศพออกมาวางเรียงรายด้านหน้าหลายศพมีชิ้นส่วนกระจัดกระจาย บนพื้นจึงเต็มไปด้วยลิ้น นิ้ว กระเพาะอาหาร ลูกตา และอีกมาก บางศพแห้งกรังเหลือเพียงกระดูก“ดูเหมือนว่า คดีคนหายเกือบส่วนใหญ่ในเบ็คลันด์จะถูกสะสางก็คราวนี้” ไอเซนการ์ดบิดจมูกพร้อมกับถอนหายใจเมื่อไคลน์เห็นลำไส้เล็กถูกลากไปตามพื้นจนเกิดคราบของเหลว มันรีบเบือนหน้าหนีพลางสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวคาร์ลเซ่นส่งเสียงพึมพำอีกครั้ง“เจสันจ่ายค่าแรงให้คนรับใช้สูงมาก แถมยังมอบวันหยุดยาวมากกว่านายจ้างรายอื่น คนรับใช้ในละแวกใกล้เคียงจึงพากันอิจฉาคนรับใช้ของหลังนี้… พ่อครัวของเจสันรับปากกับลูกชายไว้ว่า ครอบครัวจะเดินทางไปชมคณะละครสัตว์ในช่วงสุดสัปดาห์…”“ปีศาจตัวจริง…” คาสลาน่ากัดฟันกรอดไคลน์ข่มอารมณ์พร้อมกับมองไปรอบบ้าน“ทำไมเครื่องเรือนถึงมีสภาพธรรมดานัก? เป็นถึงนายธนาคาร อาจไม่ใช่ธนาคารใหญ่ก็จริง แต่เจสันก็ควรมีภาชนะลายครามไว้คอยรับแขกไม่ใช่หรือ รวมถึงเป็นภาพวาดสีน้ำมัน นาฬิกาแหวนผนังหรูหรา และเครื่องเรือนวัสดุผ้าไหม ทำไมถึงไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว? …ถึงเครื่องเรือนจำพวกไม้จะถูกประกอบจากวัสดุค่อนข้างดีก็เถอะ”คาร์ลเซ่นชำเลืองไอคานศ์ รอจนกระทั่งอีกฝ่ายพยักหน้าอนุญาต จึงหันกลับมาเล่า“ค่อนข้างแน่ชัดว่าเจสันวางแผนแก้แค้นไว้นานแล้ว มันทยอยขายสมบัติมูลค่าสูงแต่ไม่เตะตาออกไปทีละนิดโดยไม่มีใครสังเกตเห็น ขณะเดียวกันก็เทขายหุ้นทั้งหมดให้ธนาคารบาร์วาร์ตอย่างลับๆ หลังจากฆ่าคนรับใช้ในบ้าน มันเริ่มเปลี่ยนทรัพย์สินเป็นเงินอย่างรวดเร็ว เร่งขายภาพวาดสีน้ำมันราคาแพงและสมบัติชนิดอื่น ราวกับมั่นใจมากว่าจะถูกพวกเราตามสืบจนพบตัว ทุกการกระทำจึงไม่ปรากฏความลังเลแม้แต่น้อย ทุกสิ่งถูกจัดการอย่างเด็ดขาดและฉับไว แทบไม่หลงเหลือเบาะแสในบ้าน ก่อนจะลงมือแก้แค้นพวกคุณ มันเหลือเพียงบ้านหลังนี้ เครื่องเรือนเก่า และตัวตน… ไม่มีใครทราบว่ามันขนย้ายเงินสดก้อนโตด้วยวิธีใด และยังมีอัญมณีราคาแพงอีกมากซึ่งทางเราไม่พบประวัติการขายทอดตลาด”หลังจากได้ยินคำอธิบายคาร์ลเซ่น ไคลน์นึกออกเพียงสามคำในหัว :เยือกเย็น มีเหตุมีผล และบ้าบิ่น!“ปีศาจตัวริง…” ไอเซนการ์ดพำพึมพร้อมกับแบ่งปันความคิดเห็น “พฤติกรรมของมันเยือกเย็นจนน่ากลัว แต่ขณะเดียวกันก็บ้าบิ่น กล้าได้กล้าเสียประหนึ่งนักผจญภัย สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับพฤติกรรมทั้งสองครั้งของมัน”“ถ้าอย่างนั้น พวกเราควรระวังความบ้าบิ่นของมันเอาไว้ใช่ไหม? คนแบบนี้สามารถจู่โจมได้ทุกเมื่อในจังหวะไม่คาดฝัน” ไคลน์พยายามจับประเด็น“ถูกต้อง” ไอเซนการ์ดพยักหน้ารับถัดมา สามนักสืบร่วมมือกับหน่วยพิเศษเพื่อค้นบ้าน จนกระทั่งพบหลักฐานมากมายบ่งชี้ว่า เจสัน·แพทริคไม่ใช่นายธนาคารปรกติขณะเดียวกัน กึ่งกลางห้องนั่งเล่นยังมีภาพวาดสีน้ำมันผืนใหญ่แขวนไว้ :ชายวัยกลางคน โหนกแก้มใหญ่ ดวงตาสีฟ้าอมเทา ใบหน้าจืดชืด เส้นผมหวีเรียบ นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีสิ่งใดพิเศษไอคานส์เดินตรงมาทางไคลน์“พวกเราพบวัตถุปริศนาภายในห้องลับ จากการวิเคราะห์เบื้องต้น ผมสามารถยืนยันได้ว่าเจสัน·แพทริคพยายามอัญเชิญปีศาจทรงพลังกว่าตัวเองลงมาบนโลก แต่ด้วยเหตุผลบางประการ พิธีกรรมดังกล่าวเกิดล้มเหลวกลางคัน และวัตถุปริศนาก็ช่วยให้พวกเราทราบถึงตัวตนแท้จริงของมัน เจสัน·แพทริค หนึ่งในสมาชิกตระกูลปีศาจโบราณ ‘บีเลียล’ ดังนั้น ชื่อจริงของมันก็ควรจะเป็นเจสัน·บีเลียล”ตระกูลบีเลียล…? ไคลน์พยักหน้ารับโดยไม่เผยความประหลาดใจมากนัก“ในยุคสมัยที่สี่ กลุ่มมนุษย์บูชาปีศาจได้จับมือก่อตั้งพันธมิตรอย่างหลวมๆ ในนามนิกายบูชาโลหิต องค์กรของสาวกมันมีการแบ่งฝักฝ่ายภายในชัดเจน ประกอบด้วยสามสุดยอดตระกูลปีศาจ นอร์ธ อันเดราธ และบีเลียล พวกมันถูกเรียกว่าไตรภาคีแห่งปีศาจ เป็นสามเสาหลักสำคัญของนิกายบูชาโลหิต กราบไหว้บูชาเทพมารนาม ‘ด้านมืดเอกภพ’ เชื่อกันว่าเป็นผู้ปกครองสูงสุดแห่งนรก เกิดมาเพื่อทำลายและกัดกร่อนทุกสรรพสิ่งในจักรวาล” ไอเซนการ์ดเปิดเผยข้อมูลสำคัญให้ผู้วิเศษไร้สังกัดอย่างไคลน์และคาสลาน่าฟังไอคานส์ส่ายหัว“ถึงจะเป็นไตรภาคีและแบ่งแยกฝักฝ่ายอย่างชัดเจนในนิกาย แต่การร่วมอุดมการณ์เดียวกันก็ทำให้พวกมันตัดไม่ขาด ข่าวลือหลายแหล่งระบุตรงกันว่า เมื่อตระกูลบีเลียลและอันเดราธเริ่มเสื่อมอำนาจลงเมื่อราวหนึ่งพันปีก่อน พวกมันตัดสินใจมารวมกับนอร์ธในฐานะตระกูลสาขาเมื่อราวสิบปีหลัง สัญลักษณ์ของตระกูลบีเบียลจะเป็นรูปดาวห้าแฉกและเขาแพะ”แต่ถึงอย่างนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าบีเลียลคือหนึ่งในตระกูลโบราณ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เหตุใดเจสันถึงมั่งคั่งจนสามารถชุบเลี้ยงสุนัขปีศาจขึ้นมาได้… เฮ่อ แต่นั่นคงเป็นแค่ส่วนเดียว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือการเป็นเจ้าของธนาคาร ถึงจะไม่ใหญ่นักก็ตาม…ในยุคสมัยที่สอง เทพบรรพกาลซึ่งมีพลังสอดคล้องกับด้านมืดเอกภพคือ ราชาปีศาจ ฟาโบธี…ทั้งสองจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันไหม?ไคลน์ถอนหายใจยาวขณะครุ่นคิดหลังจากค้นทั่วบ้านอย่างละเอียด สามนักสืบและจิตแห่งจักรกลทำได้เพียงยืนยันว่า เจสัน·แพทริคคือผู้ปลดปล่อยแรงกระหายจริง แต่ไม่มีใครสามารถระบุตำแหน่งปัจจุบันได้ไคลน์ขอผ้าเช็ดหน้าของเจสันในพิธีกรรมอัญเชิญปีศาจติดตัวกลับไป โดยอ้างว่าจะนำไปให้เพื่อนของตนช่วยค้นหาอีกแรง แต่ความจริงคือ มันเตรียมใช้ทำนายบนห้วงมิติเหนือสายหมอก เนื่องจากไม่มีวัตถุใดเกี่ยวข้องกับเจสัน·แพทริคมากกว่านี้แล้วถัดมาไม่นาน ไอคานส์เดินเข้ามาใกล้สามนักสืบพลางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“เหยี่ยวราตรีกำลังนำสมบัติปิดผนึกอันตรายมายังบ้านหลังนี้! พวกเราต้องรีบย้ายก้นออกไปโดยด่วน!”“ตกลง!” ไอเซนการ์ดและคาสลาน่าขานรับพร้อมกันในส่วนของไคลน์ เพียงได้ยินคำว่าเหยี่ยวราตรี ภายในใจก็ยกมือสนับสนุนนานแล้วหลังจากเดินพ้นบ้านหลังใหญ่และกว้างขวางของเจสัน ไคลน์หันกลับไปมองด้านหลังและกล่าวด้วยสีหน้าอึมครึมมันกล่าวอย่างเคลือบแคลง“ไม่สมเหตุสมผล”“เรื่องไหน?” คาสลาน่ารีบถามไคลน์เรียบเรียงคำพูดอธิบาย“มันถึงกับขายธนาคาร ธุรกิจ และสมบัติมีค่ามากมายล่วงหน้า… หมายความว่าเจสันเตรียมทิ้งตัวตนปัจจุบันรวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ซึ่งสั่งสมมานานหลายสิบปี…เพียงเพื่อแก้แค้นให้สุนัขตัวเดียว? ผมมองว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่มีเหตุผลรองรับมากพอ มันอาจผูกพันกับสุนัขตัวนั้นเป็นพิเศษก็ได้ เชอร์ล็อก คุณอาจคาดไม่ถึง แต่โลกนี้มีคนรักสัตว์เทียบเท่าคนในครอบครัวอยู่มาก” คาสลาน่าโต้แย้งไอเซนการ์ดด้านข้างกล่าวเสียงขึงขัง“ผิดแล้ว เหตุผลของเชอร์ล็อกฟังขึ้น คาสลาน่า คุณทราบหรือไม่ว่าลำดับ 8 ของเส้นทางปีศาจมีชื่อโบราณว่าอย่างไร”คาสลาน่าเผยสีหน้าครุ่นคิด คล้ายกับเธอเคยทราบมาก่อน แต่ไม่สามารถนึกให้ออกได้ในทันทีทันใดนั้น ไคลน์ตอบเสียงต่ำ“สัตว์เลือดเย็น”สัตว์เลือดเย็น…! หลังจากพึมพำตาม เธอเริ่มเข้าใจความหมายแฝงของสองยอดนักสืบ เชอร์ล็อกและไอเซนการ์ดเมื่อเห็นท่าทีตอบสนอง ไคลน์ชี้ไปยังทางแยกตรงหน้า“คงต้องแยกกันตรงนี้ รีบใช้ช่องทางของแต่ละคนช่วยกันสืบหาเบาะแสคนร้าย”หลังจากเห็นอีกสองคนพยักหน้ารับ ไคลน์เร่งฝีเท้าเดินแยกตัวออกมา แต่มันยังไม่ตรงไปยังย่านทิศใต้ของสะพานเพื่อตามหาเอ็มลินในทันทีอันดับแรก มันมีแผนแวะสถานีตำรวจซีซาร์เพื่อนำเงินประกันจำนวนห้าสิบปอนด์คืน!ไคลน์ได้รับการพิสูจน์ว่าไม่ใช่คนร้ายเนื่องจากทั้งไอเซนการ์ดและหน่วยพิเศษอย่างไอคานส์ช่วยเป็นพยานยืนยัน……………………
คอมเม้นต์