ราชันเร้นลับ 406 : ความจริงอันน่ายินดีแต่ไม่เกิดประโยชน์
ณ ห้วงมิติเหนือสายหมอกเทา ท่ามกลางพระราชวังโอ่อ่าอลังการไคลน์เคาะโต๊ะทองแดงสลับเป็นจังหวะ สมองประมวลผลว่าตนควรรับมือการไล่ล่าจากชุมนุมแสงเหนือด้วยวิธีใดขณะปวดหัวอยู่กับคำถามว่า อีกฝ่ายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ชายหนุ่มพลันผุดแนวคิดใหม่ในการแก้ปัญหาจริงด้วย… แจ้งตำรวจจับมิสเตอร์ A!แจ้งจับชุมนุมลับของมัน!มันสามารถทราบตำแหน่งบ้านจัดชุมนุมได้จากมิสเมจิกเชี่ยน จากนั้นก็แอบรายงานให้เหยี่ยวราตรี จิตแห่งจักรกล หรือทูตพิพากษาในเขตดังกล่าวดำเนินการกวาดล้างลำพังชื่อเสียงของชุมนุมแสงเหนือ มากพอจะทำให้หน่วยพิเศษตื่นตัวและเกิดความสนใจเมื่อเป็นเช่นนั้น ความปลอดภัยรอบตัวมิสเตอร์ A ก็จะลดลง และไม่มีเวลาเหลือสำหรับไล่ลาสาวกของเดอะฟูลแต่ปัญหาคือ วิธีนี้จะทำให้ผู้วิเศษไร้เดียงสาจำนวนมากต้องเดือดร้อน…จริงสิ มิสเตอร์ A อาจประกาศตามล่าตัวสาวกของเดอะฟูลเพียงเพื่อวางกับดัก…มันน่าจะเตรียมลู่ทางหลบหนีไว้ล่วงหน้าแล้ว หากหน่วยพิเศษบุกถล่มชุมนุมลับของมันจริง ก็จะหมายความว่า สาวกของเดอะฟูลแฝงตัวอยู่ในกลุ่มสมาชิกชุมนุม…ส่วนเป็นใครนั้น คนเสียสติอย่างมิสเตอร์ A ไม่มัวกังวลให้เปลืองสมอง มันแค่จัดการกับทุกคนให้หมดก็สิ้นเรื่องและถ้ากลุ่มผู้วิเศษไร้เสียงสาตกอยู่ในเงื้อมมือของมิสเตอร์ A โอกาสรักษาความลับก็แทบจะกลายเป็นศูนย์ในฐานะกลุ่มคนเสียสติอย่างชุมนุมแสงเหนือ ในฐานะโอสถลำดับ 5 คนเลี้ยงแกะ ในฐานะสาวกของพระผู้สร้างแท้จริง มิสเตอร์ A ย่อมเชี่ยวชาญการกัดกร่อนจิตใจเป็นพิเศษเมื่อแนวคิดทางศาสนาถูกบิดเบือนและเริ่มเทิดทูนบูชาพระผู้สร้างแท้จริงจากก้นบึ้งหัวใจ จะยังมีใครรักษาความลับได้อีกหรือ?ใช่ว่าเราไม่มีทางอื่นสักหน่อย… ไม่ควรรีบร้อนแจ้งตำรวจหรือหน่วยพิเศษ…ไคลน์เอนกายพิงเก้าอี้พนักสูง ไตร่ตรองเรื่องราวทั้งหมดใหม่อีกครั้งขณะพยายามนึกหาทางออก ชายหนุ่มเริ่มตระหนักถึงความจริงบางข้อโลกนี้ไม่มีสาวกของเดอะฟูลสักหน่อย!หากกล่าวถึงชุมนุมทาโรต์ จำนวนสมาชิกก็นับว่าน้อยเกินไป โดยแต่ละคนสามารถเก็บความลับได้ดีสรุปโดยสั้น ชุมนุมแสงเหนือไม่มีทางได้รับเบาะแสอะไรจากการประกาศค่าหัวคราวนี้… เราไม่ต้องกังวลเลยสักนิด… ปัญหาเดียวก็คือ เดอะฟูลได้กลายเป็นเป้าความเกลียดชังจากเทพ จริงอยู่ นี่อาจเป็นความรู้สึกไม่น่าอภิรมย์ แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไร…ไคลน์พยักหน้ากับตัวเองพลางสงบสติเมื่อลองตรึกตรองให้ลึกลงไป ความไม่สะดวกข้อเดียวจากเหตุการณ์นี้ก็คือ ไคลน์เคยใช้ชื่อเต็มของเดอะฟูลในภาษาเฮอร์มิส เป็นรหัสผ่านเปิดบัญชีธนาคาร และเมื่อถูกเปิดเผย บัญชีของตนอาจมีปัญหาในภายหลังอย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เดอะฟูลคิดค้นพิธีกรรม ‘สังเวย’ และ ‘รับมอบ’ สำเร็จ บัญชีธนาคารดังกล่าวก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป จึงถูกทิ้งร้างมานานแล้วและในช่วงเดือนครึ่งก่อนหน้า ยังไม่เคยมีใครพยายามลักลอบเปิดบัญชีธนาคารของเราแม้แต่ครั้งเดียว จึงสรุปได้ว่า ไม่ต้องมัวกังวลเรื่องของบัญชีธนาคาร…พนักงานธนาคารธรรมดา ผู้คอยเก็บรักษารหัสผ่าน คงไม่รู้จักภาษาเฮอร์มิส ฉะนั้น ต่อให้เขาหรือเธอเห็นนามเต็มของเดอะฟูลเป็นภาษาโลเอ็น ก็ไม่มีทางเชื่อมโยงกับนามเต็มของเดอะฟูลในภาษาเฮอร์มิสได้แน่…หากใครคัดลอกเป็นภาษาเฮอร์มิส ไม่ว่าจะด้วยวิธีเขียนหรือท่อง ตัวเรา เดอะฟูล ก็จะตระหนักถึงได้ทันที…หรือต่อให้มีใครบางคนเข้าถึงรหัสผ่าน ก็คงยากจะเชื่อมโยงกับนักสืบเชอร์ล็อก เพราะเราปลอมตัวแนบเนียนทุกครั้งขณะเบิกเงิน…ขณะเคาะโต๊ะทองแดงโบราณ ไคลน์แสยะยิ้มพลางกล่าวเสียงเคร่งขรึม“พวกแกคิดว่าเดอะฟูลมีผู้ศรัทธามากมายจนสามารถแกะรอยได้ง่ายดายอย่างนั้นหรือ? ผิดแล้ว… ผิดถนัด! โลกนี้มีผู้ศรัทธาเดอะฟูลเพียงคนเดียวเท่านั้น! และนั่นคือฉันคนนี้!”เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มขื่นขม“ไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเลยสักนิด…”หลังจากนี้ เราต้องเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังให้มาก อย่าเพิ่งนำชื่อของเดอะฟูลไปใช้งานฟุ่มเฟือย…ไคลน์เตือนสติตัวเอง พลางมอบคำตอบกลับไปหาเมจิกเชี่ยนมันเปลี่ยนท่านั่งและกล่าวเสียงทุ้ม“ไม่ต้องกังวล”…ไม่ต้องกังวล…หลังจากฟอร์สได้รับคำตอบ เธอค่อนข้างประหลาดใจ แต่ส่วนหนึ่งก็คาดเดาไว้บ้างแล้วจริงด้วย… ในสายตามิสเตอร์ฟูล ชุมนุมแสงเหนือเป็นได้แค่พวกหนอนแมลงเท่านั้น!ถัดมา ฟอร์สเอ่ยพระนามเต็มของเดอะฟูลและซักถามเพิ่มเติมด้วยเสียงต่ำ“ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ชุมนุมแสงเหนือศรัทธาเทพองค์ใดหรือคะ”หญิงสาวเงยหน้าขึ้น มองเห็นมิสเตอร์ฟูลกำลังนั่งบนเก้าอี้พนักสูงท่ามกลางสายหมอกสีเทาไร้จุดสิ้นสุดอีกฝ่ายเปล่งเสียงตอบกลับมา“พระผู้สร้างแท้จริง”พระผู้สร้างแท้จริง…!ดวงตาฟอร์สพลันสั่นเทา ขณะเดียวกันก็เข้าใจทันทีว่า เหตุใดมิสเตอร์ A ถึงต้องตามล่าตัวสาวกของเดอะฟูล!ด้วยความช่วยเหลือจากชุมนุมทาโรต์ เด็กหนุ่มเดอะซันได้เปิดโปงความผิดปรกติของทีมสำรวจและทำให้แผนการของพระผู้สร้างแท้จริงล้มเหลว!เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้ คือความขัดแย้งระหว่างมิสเตอร์ฟูลและพระผู้สร้างแท้จริง…ฟอร์สไม่ถามเซ้าซี้ เพียงเล่าถึงเหตุการณ์การพบปะกับหนึ่งในสมาชิกตระกูลอับราฮัม เจตจำนงของมิสเตอร์ลอว์เรนซ์ สมุดบันทึกประหลาด และตะกอนพลังของเขา“ท่านเดอะฟูล ดิฉันควรทำเช่นไร”หญิงสาวขอคำแนะนำควรทำอย่างไร? ทำไมเราถึงไม่โชคดีแบบเธอบ้าง น่าอิจฉาชะมัด…ไคลน์ยิ้มและมอบคำตอบ“ทำตามเสียงของหัวใจ”มันไม่กังวลว่า บุคคลชื่อโดเรียน·เกรย์จะทำอันตรายมิสเมจิกเชียนจนถึงแก่ชีวิต เพราะมันทราบดี เธอยังเหลืออัญมณีบนกำไลข้อมืออีกสองเม็ด ช่วยให้หลบหนีโดยใช้เส้นทางโลกวิญญาณได้สองครั้งทำตามเสียงหัวใจ… ฟอร์สก้มหน้าครุ่นคิด“เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมาก”เธอตัดสินใจจะซื้อบัตรโดยสารรถจักรไอน้ำในวันพรุ่งนี้ หากใช้วิธีเดินทางดังกล่าว ฟอร์สสามารถไปถึงท่าเรือพริสต์โดยใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงไม่มาก หรือถ้าโชคดีก็เร็วกว่านั้นหลังจากรายงานเรื่องราวทั้งหมด ฟอร์สแจ้งความประสงค์ ขอประกอบพิธีกรรมสังเวยและรับมอบ เพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราของตนกับตะกอนพลังเจ้าพนักงานเมื่อได้จับต้องวัตถุคล้ายกำปั้นสามสี ประกอบด้วยสีแดงเข้ม ดำเหล็ก และเงินวาว ซึ่งแผ่แสงออร่างดงามตลอดเวลา ฟอร์สพลันเกิดความยินดีปรีดาเหนือคำบรรยายซิลรวบรวมวัตถุดิบรองของโอสถได้นานแล้ว แปลว่าเธอกำลังจะกลายเป็นลำดับ 8 เจ้าพนักงาน… ส่วนเรายังอีกนานกว่าจะได้เป็นลำดับ 8 นักตุกติก ได้แต่หวังว่ามิสเตอร์แฮงแมนและสมาชิกชุมนุมทาโรต์คนอื่น จะช่วยตามหาวัตถุดิบเกี่ยวข้องได้โดยเร็ว…ซิลทำตัวเป็นผู้ตัดสินมานานแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องการย่อยโอสถ แต่ถ้าเธอกลายเป็นเจ้าพนักงานเมื่อไร เราควรทำอย่างไรดี?ขออนุญาตมิสเตอร์ฟูลเพื่อถ่ายทอดเทคนิคสวมบทบาท หรือแนะนำให้เธอแฝงเข้าไปทำงานกับภาครัฐ?…ณ เก้าอี้หัวโต๊ะทองแดงโบราณ ไคลน์นั่งจ้องเงินสดปึกใหญ่ในมือและนับซ้ำหลายหนด้วยการค้าขายเมื่อครู่ เราจึงมีเงินสดติดตัวทั้งสิ้น 1,230 ปอนด์ ยังขาดอีกสามร้อยปอนด์หากต้องการซื้อวัตถุดิบหลักโอสถลำดับ 6 สักหนึ่งชิ้น ไม่สิหนึ่งพันห้าร้อยปอนด์เป็นเพียงราคาขั้นต่ำ ถ้าสินค้ามีจำนวนจำกัด ราคาก็จะยิ่งพุ่งสูงกว่าเดิม…จะหาเงินเพิ่มยังไง? ปล้นธนาคาร?หรือควรรอให้จักรยานของเลพเพิร์ดจดสิทธิบัตรผ่าน จึงค่อยขายหุ้นให้นายทุนใหญ่?จริงสิ เราลืมความพิเศษของชุมนุมทาโรต์เสียสนิท ถึงแม้ว่าตะกอนพลังมนุษย์หมาป่า—สมบัติของโรงเรียนกุหลาบ จะไม่สามารถค้าขายได้ในเบ็คลันด์เพราะอาจถูกสาวถึงตัว แต่ถ้าเป็นมิสเตอร์แฮงแมน เขาต้องทำไปขายให้ชุมนุมโจรสลัดได้แน่ เราแค่ต้องแบ่งเงินค่านายหน้าให้บางส่วน…หลังจากหักลบทุกสิ่ง ตะกอนพลังมนุษย์หมาป่าน่าจะทำเงินได้สักหนึ่งพันปอนด์ และนั่นจะส่งผลให้เรามีเงินเพียงพอสำหรับซื้อวัตถุดิบหลักโอสถลำดับ 6 ได้หนึ่งชิ้น…ไคลน์เริ่มวางแผนขณะเดียวกัน มันค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยเมื่อไม่สามารถขายตะกอนพลัง ‘นักสอบสวน’ ให้ซิลได้ในเร็ววัน เพราะกว่าเธอจะย่อยโอสถเจ้าพนักงานสำเร็จและมีเงินพอซื้อ ตนคงกลายเป็นผู้ไร้หน้าไปนานแล้วในส่วนของฟอร์ส ถ้าการติดต่อกับตระกูลอับราฮัมผ่านไปด้วยดี อีกฝ่ายอาจให้ความสนใจในตัวเธอ และสูตรโอสถโหราจารย์ในมือเราก็จะไม่สามารถทำเงินได้…เกิดเป็นคนจนช่างน่าเศร้า…ไคลน์ถอนหายใจยาว พลางส่งตัวเองกลับสู่โลกแห่งความจริง…วันพุธเช้าไคลน์มิได้ตื่นตระหนกจนนอนไม่หลับ แผนตามล่าสาวกเดอะฟูลของชุมนุมแสงเหนือหาได้กระทบกับสภาพจิตใจชายหนุ่ม มันหลับสนิทจนถึงช่วงสาย และตื่นขึ้นมาจับจ่ายซื้ออาหารอย่างมีความสุข เช่นการซื้อพายเดซี่กลับมากินเป็นมื้อเช้าไม่ต้องสงสัยเลยว่า พายเดซี่ต้องกินคู่กับชาเย็นจึงจะสมบูรณ์แบบ!ขณะกำลังลิ้มรสอาหารมื้อเช้า ไคลน์ใช้มือข้างหนึ่งพลิกอ่านหนังสือพิมพ์ตามประสาสุภาพบุรุษชาวโลเอ็น จากนั้นก็พบกว่า บริษัทการค้าเอินส์ได้ลงประกาศโฆษณารับซื้อสินค้าในหน้าห้า หรือก็คือ คืนพรุ่งนี้สองทุ่มตรงจะมีการชุมนุมของเนตรแห่งปัญญาในการชุมนุม เราจะประกาศหาซื้อวัตถุดิบโอสถผู้ไร้หน้า แต่แน่นอน สำหรับชุมนุมลับขนาดเล็ก โอกาสสมหวังช่างริบหรี่ อย่างมากก็คงได้วัตถุดิบรองจำพวก กระจุกเส้นผมของนากาทะเลลึก…ไคลน์เริ่มแจกแจงว่า ตนมีช่องทางรวบรวมวัตถุดิบโอสถใดบ้างมือซ้ายถูกเหยียดออกไปเพื่อนับนิ้วสำหรับชุมนุมทาโรต์ เรามีเดอะซันจากเมืองเงินพิสุทธิ์ มีแฮงแมนจากทะเล มีจัสติสจากสังคมชนชั้นสูง และมิสเมจิกเชี่ยนจากสังคมชนชั้นกลาง นอกจากนี้ เรามีชุมนุมของเนตรแห่งปัญญา มีมิสบอดี้การ์ดกับมาริค แต่เรายังไม่ควรรีบร้อนติดต่อพวกเขา…หืม… นั่นสินะ เรายังมีแวมไพร์เอ็มลิน·ไวท์ หมอนั่นเคยบอกว่า ตนสามารถเขียนจดหมายปรึกษากับแวมไพร์ชั้นสูงได้ นี่ล่ะ! หนึ่งในสายสัมพันธ์ทางธุรกิจ!คิดมาถึงจุดนี้ ไคลน์ตัดสินใจแวะไปยังวิหารฤดูเก็บเกี่ยวเพื่อตามหาเอ็มลิน·ไวท์แม้จะทราบดีว่า ชุนนุมแสงเหนือไม่มีวันพบเบาะแสหรือสาวมาถึงตน แต่ไคลน์ก็ไม่ทำตัวประมาท มันปรารถนาจะเลื่อนลำดับทันทีเมื่อโอสถนักมายากลย่อยเสร็จสมบูรณ์สิบโมงเช้าณ ถนนกุหลาบ ย่านทิศใต้ของสะพานไคลน์ ผู้มาในชุดกระดุมสองแถวตัวหนาและหมวกทรงกึ่งสูง ย่างกรายเข้าไปในวิหารขนาดเล็กอย่างไม่รีบร้อนเพียงชำเลืองหนึ่งรอบ มันได้พบกับบิชอปร่างกายใหญ่ยักษ์ หลวงพ่อยูทรอฟสกี้ และแวมไพร์หนุ่ม เอ็มลิน·ไวท์ ในชุดคลุมยาวสีน้ำตาลของนักบวชรายหลังกำลังทำความสะอาดตะเกียงด้วยแววตาเหม่อลอย ราวกับขอตายเสียยังดีกว่าบังเอิญจัง… เดี๋ยวก่อน…!หรือว่าเอ็มลินจะอาศัยอยู่ในวิหารฤดูเก็บเกี่ยวทั้งวัน โดยกลับบ้านแค่ตอนกลางคืน?ไคลน์สอดส่องมองหาเก้าอี้นั่ง และพบว่าโถงหลักของโบสถ์มีผู้ศรัทธากำลังสวดมนต์อยู่ราวห้าคนเมื่อเอ็มลิน·ไวท์มองเห็นชายหนุ่ม มันรีบวางผ้าขี้ริ้วและจ้ำเท้าเข้ามานั่งด้านข้างทันทีสีหน้าแววตาแวมไพร์พลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด มันเชิดคางขึ้นเล็กน้อยพลางกล่าวด้วยอากัปกิริยาแสนทระนงตน“ลงทุนถ่อมาหาข้าด้วยตัวเองเชียวหรือ? แปลว่าเจ้ากำลังเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือจากข้าคนนี้ใช่ไหม?”……………………
คอมเม้นต์