ราชันเร้นลับ 402 : ขุดลงไป
ใครกัน? ไคลน์หันขวับไปทางประตูชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตนกำลังป่วยเป็นโรคกลัวเสียงกริ่งบ้าน คล้ายกับโรคกลัวเสียงโทรศัพท์ซึ่งมันเคยประสบขณะอยู่โลกเก่า!ไคลน์วางหนังสือพิมพ์ลงและก้มมองชามอาหารอันว่างเปล่า สะอาดเกลี้ยงเกลาไม่หลงเหลือแม้แต่น้ำซุป ก่อนจะลุกยืนและเดินไปทางประตูบ้านยังไม่ทันได้ใช้มือจับลูกบิด ภาพนิมิตของผู้มาเยือนก็ปรากฏในสมองศัลยแพทย์อลันไม่ทำงานทำการบ้างหรือไง…?ไคลน์พึมพำหัวเสียพลางหมุนลูกบิด“อรุณสวัสดิ์ อลัน วันนี้หมอกเข้มจังเลย”ชายหนุ่มยิ้มรับอลันยังคงสวมสีหน้าเย็นชาเหมือนทุกที แต่แววตากำลังเผยความหวาดกลัวและวิตกกังวลพอสมควรอีกฝ่ายใช้นิ้วขยับกรอบแว่นสีทอง ก่อนจะกล่าวห้วนเข้าประเด็นโดยไม่ทักทาย“เชอร์ล็อก ผมฝันร้ายอีกแล้ว… ฝันถึงวิล·อัสติน”หือ…? ไคลน์พลันผงะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง… กระดาษนกกระเรียนพับของจริงยังอยู่กับเราไม่ใช่หรือ? กระดาษในกระเป๋าสตางค์ของเขาเป็นเพียงสิ่งเลียนแบบจากเหยี่ยวราตรี แล้วทำไมยังฝันถึงวิล·อัสตินได้อีก? ไม่สอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์เลยสักนิด… ไม่สิ หลักของศาสตร์เร้นลับ…ไคลน์ซักถามเสียงขรึม“เป็นความฝันแบบเดิม?”“ไม่ใช่ คราวนี้ไม่น่ากลัวเท่าของเก่า” อลันเริ่มใจเย็นลง “ผมฝันเกี่ยวกับสุสานกรีน คุณน่าจะรู้จักใช่ไหม”“อา.” ไคลน์ตอบห้วนย้อนกลับไป มันเคยแอบมองกลุ่มเด็กนักเรียนและคาปุสตี้·รีดด์—มือใหม่แห่งวงการศาสตร์เร้นลับ แอบประกอบพิธีกรรมระบำวิญญาณ โดยหลังจากนั้น ไคลน์ได้ตามไปถึงบ้านของคาปุสตี้และสืบเรื่องราว จนกระทั่งได้รับนกหวีดเรียกผู้ส่งสารเพิ่มอีกหนึ่งตัวอลันสูดอากาศเย็นจัดเข้าไปในปอดพลางเล่าเรื่องราว“ผมฝันถึงป่านอกสุสานกรีน เห็นต้นเบิร์ชซึ่งเปลือกไม้ถูกลอกออกหลายชั้น เห็นเด็กชายวิล·อัสตินกำลังนั่งใต้ต้นเบิร์ชพลางจ้องมองมายังผมโดยไม่กล่าวสิ่งใด”“หลังจากนั้น?” ไคลน์ซักไซ้อลันส่ายหัว“ฝันจบลงแค่นี้”น่าแปลก… กำลังจะบอกว่าความฝันของหมออลันไม่เกี่ยวกับนกกระเรียนกระดาษ? คงไม่ใช่แน่ เพราะความฝันเปลี่ยนแปลงทันทีหลังจากเรานำนกกระดาษติดตัวมาด้วย… และเหนือสิ่งอื่นใด คำทำนายจากห้วงมิติสายหมอกก็ให้คำตอบสอดคล้องกัน…ไคลน์ตอบกลับเสียงขรึม“เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความเข้าใจของผม อลัน คุณถ่อมาหาผมด้วยเหตุผลใด?”อลันพ่นลมหายใจอุ่น ซึ่งจับตัวเป็นหมอกสีขาวทันทีหลังจากพ้นรูจมูก“ผมต้องการแวะเข้าไปในสุสานกรีน ต้องการไปเดี๋ยวนี้ ขณะท้องฟ้ายังสว่าง จึงอยากให้คุณคอยตามไปคุ้มกัน ผมยินดีจ่ายค่าเสียเวลาหนึ่งปอนด์”ค้นหาตำแหน่งในความฝัน? ถ้าเป็นขณะฟ้ายังสว่างแบบนี้ คงไม่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกระมัง…ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะมอบคำแนะนำ“ผมยินดีรับงานนี้ แต่ขอแนะนำให้คุณแวะเข้าไปในวิหารสักแห่งก่อน เพื่อเล่าความฝันเมื่อคืนให้ท่านบิชอปฟัง”อลันไม่คัดค้าน เพียงซักถามอย่างฉงน“ทำไมคุณถึงเอาแต่แนะนำให้ผมแวะเข้าไปในวิหาร? ผมทราบดี คุณเคยอธิบายไว้อย่างสมเหตุสมผลแล้วว่า หากโลกนี้มีพลังเหนือธรรมชาติอยู่จริง บรรดาโบสถ์หลักซึ่งคอยชี้นำมนุษย์มานานหลายพันปีย่อมต้องทรงพลังมากกว่าใคร หรือต่อให้โลกนี้ไม่มีพลังดังกล่าว แต่การได้ระบายเพื่อให้จิตใจผ่อนคลายก็ยังถือเป็นเรื่องเหมาะสม… แต่ผมไม่เข้าใจ ทำไมคราวนี้คุณถึงยังแนะนำให้ผมไปหาโบสถ์อยู่? ความฝันในคราวนี้ธรรมดามาก ไม่น่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติไม่ใช่หรือ”ไคลน์ก้มหน้าตรึกตรองราวสองวินาที ก่อนจะเงยขึ้นมาตอบอย่างขึงขัง“ผมเป็นนักสืบ ย่อมเคยเผชิญเหตุการณ์เหนือธรรมชาติซึ่งหาคำอธิบายไม่ได้หลายหน และผมเข้าใจถึงความพิเศษของบรรดาสามโบสถ์หลัก บ่อยครั้งจึงต้องไปขอคำปรึกษาจากท่านบิชอป”“เป็นความจริงหรือ?” อลันซักถามอึมครึมไคลน์ยกมุมปาก“ไม่เลย แค่อำเล่น… อลัน ผ่อนคลายเข้าไว้ ผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างจานให้เรียบร้อยก่อน”หลังจากยืนสนทนากับอลันหน้าประตูเป็นเวลานาน ไคลน์สัมผัสได้ว่า ร่างกายตนเริ่มเย็นเฉียบจากสายลมหนาวอาศัยโอกาสดังกล่าว ชายหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำและส่งตัวเองขึ้นมิติเหนือสายหมอก ตามด้วยการทำนายถึงความอันตรายของภารกิจตรงหน้า และได้รับคำตอบออกมาว่า :แทบจะไม่มีอันตรายหากออกมาเป็นคำตอบยอดนิยมอย่าง ‘มีอันตรายแต่อยู่ในขอบเขตรับได้’ ไคลน์เตรียมผลักภาระให้โบสถ์เทพธิดาสานต่อทันที…เขตฮิลสตัน วิหารมหาดารา“เชอร์ล็อก ทำไมคุณถึงไม่จ้างสาวใช้ไว้สักคนสองคน? ในฐานะนักสืบชื่อดังรายได้มั่นคง คุณน่าจะจ้างพวกหล่อนได้สบายไม่ใช่หรือ”อลันซักถามขณะเดินนำไคลน์เข้าไปในวิหารมหาดารา—วิหารอันดับหนึ่งของโบสถ์รัตติกาลประจำเขตฮิลสตันคำถามข้างต้น อลันสงสัยมาสักพักแล้ว มันพยายามหาจังหวะถามขณะอยู่บนรถม้า แต่เนื่องจากบทสนทนาค่อนข้างพัวพัน จึงยังไม่มีโอกาสเสียทีไคลน์ถอนหายใจยาว ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม“อลัน ผมขอเล่านิทานให้ฟังหนึ่งเรื่อง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนักสืบหนุ่มคนหนึ่ง เขาจ้างสาวใช้ส่วนตัวติดบ้านไว้สองคน พ่อครัวหนึ่งคน และผู้ช่วยหนึ่งคน ทุกสิ่งเป็นไปอย่างราบรื่นนานหลายปี แต่อยู่มาวันหนึ่ง เขารับงานสืบคดีฆาตกรรม โดยคนร้ายมีอุปนิสัยป่าเถื่อนและชอบใช้ความรุนแรง เมื่อคนร้ายใกล้ถูกสาวถึงตัว มันตัดสินใจลอบเข้ามาในบ้านเพื่อหวังแก้แค้น นักสืบคนดังกล่าวมีฝีมือพอตัวและสามารถเอาชนะได้โดยบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่เขาต้องเสียคนรับใช้ไปสองคน อลัน คุณพอจะเห็นภาพไหม…”“เข้าใจแล้ว” น้ำเสียงอลันแฝงความเห็นใจจากก้นบึ้ง “เชอร์ล็อก ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณมีอดีตขื่นขมแบบนี้”ผิดแล้วสหาย… ตัวเอกในนิทานไม่ได้เกี่ยวข้องกับผมเลยสักนิด นั่นก็แค่เรื่องแต่ง…เพียงแต่ผมบอกคุณไม่ได้ว่า ตัวผมมีวัตถุแปลกประหลาดและเหนือธรรมชาติซ่อนไว้เต็มบ้าน ไม่สะดวกให้คนใช้เดินเพ่นพ่านไปมา การไม่มีคนใช้จึงอิสระกว่ามาก…ไคลน์รำพันพลางถอนหายใจยาวสำหรับปัจจุบัน การทำความสะอาดบ้านจะตกเป็นงานของสาวใช้คนสวยของคุณนายซาเมอร์—ยูเลียนน่า เธอคอยเข้ามาทำความสะอาดบ้านให้ไคลน์สัปดาห์ละสองครั้ง โดยทุกครั้งจะคิดค่าบริการหนึ่งซูลขณะเดินสนทนา สุภาพบุรุษทั้งสองย่างกรายเข้ามาในโถงสวดมนตร์หลักประจำวิหารมหาดาราบรรยากาศค่อนข้างมืด เงียบ และปราศจากแสงเทียน สมกับเป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์โบสถ์รัตติกาลด้านในสุดของโถงหลักคือแท่นบูชาสลักตราศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาสีดำขนาดใหญ่ ดวงดาวบนตราศักดิ์สิทธิ์ทำจากไข่มุก และจันทร์แดงทำจากทับทิม นอกเหนือจากนั้นก็มีเพียงบรรยากาศมืดสลัวรอบห้องเพียงไคลน์กวาดสายตามอง มันได้พบช่องว่างสำหรับให้แสงลอดผ่าน ห้องโถงจึงอัดแน่นด้วยกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์เข้มข้นแต่ชายหนุ่มกลับมองว่า วิหารแห่งนี้ยังด้อยกว่ามหาวิหารพระแม่เซเลน่าในเมืองทิงเก็นพอสมควร สำหรับวิหารพระแม่ บรรยากาศภายในห้องจะดำมืด มีเพียงช่องว่างขนาดเล็กทรงกลมไม่กี่จุด แสงจึงลอดผ่านเข้ามาในลักษณะคล้ายดวงดาวระยิบระยับในตอนกลางวัน ช่วยมอบบรรยากาศราวกับพลังของเทพธิดารัตติกาลกำลังโอบอุ้มอย่างไรก็ตาม การตกแต่งในลักษณะดังกล่าวจะมีข้อเสียคือ ตอนกลางคืนจะมีบรรยากาศมืดสนิทโดยสิ้นเชิง…ไคลน์สุ่มนั่งโดยไม่เลือกเก้าอี้ พลางวางไม้ค้ำสีดำพิงไว้ด้านหน้า ส่วนอลันเดินตรงไปเข้าคิวเพื่อรอสารภาพบาปกับบิชอปเมื่อได้นั่งในโถงสวดมนตร์พลางจ้องมองผู้คนตั้งใจสวดภาวนารอบตัว สมาธิไคลน์เริ่มสงบนิ่งพร้อมกับครุ่นคิดเรื่องของตัวเองจะว่าไป… เราเคยเข้ามาในวิหารของเทพธิดาเพียงสามครั้งเท่านั้น…ชายหนุ่มรำพันพลางเผยรอยยิ้มจืดชืด…มหาวิหารสุขสงบ รัฐเหมันต์เลียวนาร์ด·มิเชล ผู้สวมเสื้อกันลมสีดำและถุงมือแดงสองข้าง เดินเข้าไปในห้องทำงานของอาวุโสใหญ่แห่งโบสถ์รัตติกาลเครสไทน์·ซีสม่า“ขอแสดงความยินดีด้วย คุณกลายเป็นสมาชิกของถุงมือแดงอย่างเป็นทางการแล้ว ขอให้เทพธิดาอวยพร”เครสไทน์วาดจันทร์แดงกลางหน้าอกมันยังคงแต่งกายในลักษณะเดิม คือการนำปกเสื้อขึ้นมาปิดบังริมฝีปากและส่วนคาง“เทพธิดาจงเจริญ… เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับคนต่ำต้อยเยี่ยงกระผม”เลียวนาร์ดเลือนมือขึ้นมาทำสัญลักษณ์สี่จุดทวนเข็มนาฬิกาเครสไทน์ไม่พิธีรีตอง รีบเข้าประเด็นทันที“ตามความต้องการของคุณ ผมจัดสรรให้คุณเข้าหน่วยของโซสต์ สบายใจได้ เขาเป็นถึงนักปลอบวิญญาณผู้ครอบครองสมบัติวิเศษ และถ้าหากต้องการ ผมสั่งให้ช่างฝีมือเตรียมรอสร้างอาวุธวิเศษให้คุณแล้ว ทีมของคุณจะรับงานดูแลคดีด้านการอัญเชิญปีศาจและพิธีกรรม โดยตัวคุณต้องคอยทำงานภาคสนามเพื่อสืบหาเบาะแส ยกตัวอย่างเช่น คดีต่อเนื่องภายในกรุงเบ็คลันด์ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับไพ่ทาโรต์”“ขอรับ ท่านเจ้าคุณซีสม่า” เลียวนาร์ดไม่คัดค้านคำสั่งนี่จะเป็นก้าวแรกในการแค้นของเรา…มันพึมพำ…เขตตะวันตก รอบนอกสุสานกรีนไคลน์คอยเดินตามอลันผ่านแนวป่าแห่งแล้วแห่งเล่า ระยะทางนับว่าค่อนข้างไกลจากจุดเริ่มต้น และทั้งสองกระแอมบ่อยครั้งเนื่องจากเศษฝุ่นสีเทาร่วงหล่นลงมาเป็นระยะ“บางที อาจไม่มีต้นไม้ดังกล่าวอยู่บนโลกความจริง โดยเป็นเพียงสัญลักษณ์”อลันเริ่มไม่แน่ใจเมื่อการสำรวจกินเวลานานกว่าความคาดหมายในตอนแรกไม่ต้องห่วง คุณหมอ ตัวผมเชี่ยวชาญการตามหาของมาก…ไคลน์ใช้ไม้ค้ำชี้ตรงไปข้างหน้าและกล่าว“พวกเราเดินไปดูตรงนั้นก่อนก็แล้วกัน ถ้าไม่มีค่อยตัดสินใจกลับ”“ตกลง” อลันพยายามสูดหายใจเข้าหลังจากเดินต่อไม่นาน ศัลยแพทย์ชื่อดังพลันชะงักฝีเท้าและโพล่งขึ้นเสียงดัง“ตรงนั้น! ต้นนั้นไม่ผิดแน่!”ไม่กี่สิบเมตรข้างหน้า ต้นเบิร์ชซึ่งเปลือกไม้ถูกลอกออกหลายชั้น ตั้งเด่นตระหง่านเตะตากว่าต้นไม้ในละแวกใกล้เคียงทั้งหมด ราวกับกำลังรอให้ใครหาพบ“เหมือนกับในฝันไม่มีผิด!” อลันกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแกมตื่นเต้นไคลน์ยิ้มพลางติดตลก“แต่ผมไม่เห็นวิล·อัสตินเลยนะ”อลันเดินเข้าไปใกล้ต้นเบิร์ช มันขมวดคิ้วและชี้ปลายนิ้วลงด้านล่าง“ในความฝัน วิล·อัสตินนั่งตรงนี้ พร้อมกับก็ชี้นิ้วลงไปบนพื้นโคลนข้างล่าง”ชี้นิ้วลงไปบนพื้นโคลน…?ไคลน์ขมวดคิ้ว ก่อนจะก้มมองลงไปในจุดหญ้าเขียวชอุ่ม“คุณจะขุด?”อลันรีบพยักหน้า“แน่นอน ในเมื่อพวกเราตามหาตำแหน่งในความฝันจนพบ ก็ต้องยืนยันให้แน่ชัดก่อนกลับไป เชอร์ล็อก ช่วยกลับไปยังสุสานและขอยืมพลั่วมาสองเล่ม ผมคอยเฝ้าตรงนี้ดีกว่า ถ้าให้คุณเฝ้าคนเดียว เกรงว่าอาจเกิดเรื่องไม่คาดฝัน” ไคลน์อธิบายพร้อมเหตุผล“ตกลง” อลันไม่คัดค้าน เพียงรีบวิ่งออกไปจากเขตป่าผ่านไปสักพัก และด้วยการบริจาคเงินให้สุสานจำนวนหนึ่ง อลันเดินกลับมาพร้อมสัปเหร่อและพลั่วอีกสามเล่มทุกคนลงมือช่วยกันขุดระหว่างออกแรง ไคลน์เริ่มได้กลิ่นอันคุ้นเคยจากเบื้องล่างทีละนิด จนกระทั่งหน้าดินถูกตักออกและเผยให้เห็นบางสิ่งด้านล่างอย่างสมบูรณ์ศพเด็กศพเด็กเน่าเปื่อยมาแล้วหลายวัน!ผิวหนังและเนื้อใกล้ละลายกลายเป็นของเหลวเต็มที หนอนแมลงนานาชนิดชอนไชเข้าออกปากจมูกอย่างอิสระเคร้ง!พลั่วหลุดจากมืออลันกระทบหินศัลยแพทย์ชื่อดังชี้นิ้วไปยังส่วนขาของศพพลางพะงาบปากหงึกหงัก แต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาไคลน์อดทนต่ออาการคลื่นไส้และเพ่งมองจุดดังกล่าวอย่างตั้งใจ มันพบว่าขาซ้ายของศพเด็กหายไปตั้งแต่ส่วนใต้หัวเข่าอลันผงะถอยหลังสองก้าวและล้มก้มจ้ำเบ้า“ว…วิล! วิล·อัสติน!”ศพของวิล·อัสติน……………………
คอมเม้นต์