ราชันเร้นลับ 398 : เห็ดอันเย้ายวน
ดาร์ก?ภาพของดาร์ก·รีเจนซ์ผุดขึ้นในหัวเดอร์ริคสูงปานกลาง เจ้าเนื้อเล็กน้อย มีพละกำลังมาก มองโลกในแง่ดี ร่าเริง และมักฉาบด้วยรอยยิ้มสดใสอยู่เสมอ ดาร์กเป็นเพื่อนเดอร์ริคตั้งแต่สมัยเรียน และในภายหลังได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีมลาดตระเวนแต่หลังจากภารกิจสำรวจซากปรักหักพังของพระผู้สร้างเสื่อมทราม ดาร์กเปลี่ยนไปเป็นคนเก็บตัวและสุภาพนอบน้อมจนผิดวิสัย เขาแทบไม่เคยยิ้มให้ใครอีกเลยเมื่อหวนนึกถึงบุคลิกใหม่ของเพื่อนสนิท เด็กหนุ่มพลันยืนสั่นเทาแม้ว่าอากาศรอบตัวจะไม่หนาว ร่างกายสั่นสะท้านจากความเย็นเฉียบทุกอณูทำไมถึงมาหาเรากะทันหันแบบนี้? ไม่ใช่ว่าเขาควรตรงกลับบ้านทันทีหลังถูกปล่อยตัวจากเขตกักกันหรอกหรือ?คำถามมากมายพรั่งพรูใส่สมองเดอร์ริคจากนั้น มันเริ่มวิเคราะห์หาความเป็นไปได้…หรืออาวุโสโลเฟียร์จะทราบว่าเรากำลังสงสัยในตัวทีมสำรวจ จึงส่งดาร์กมาเก็บเรา?เดอร์ริคเผยอาการตกตะลึงและหวาดกลัว แต่ไม่นานก็เริ่มมองโลกในแง่ดีแฮงแมนเคยกล่าวไว้ว่า :‘ถ้าไม่มีชาวเมืองช่วยเป็นพยานให้ จงใช้คนของสภาอาวุโส ผู้ได้รับมอบหมายให้คอยสะกดรอยตามคุณทุกฝีก้าว ช่วยเป็นพยานในเหตุการณ์ดังกล่าวแทน’และตอนนี้ คนของสภาอาวุโสกำลังหลบซ่อนอยู่ตรงมุมห้อง ถ้าดาร์กโจมตีใส่เรา สภาอาวุโสก็จะทราบทันทีว่าทีมสำรวจชุดนี้ไม่ปรกติ!ดังนั้น ถึงจะไม่มีวัตถุของมิสเตอร์เวิร์ลช่วยกระตุ้นให้พวกเขาเผยธาตุแท้ แต่เราก็จะผ่านวิกฤติไปได้อย่างราบรื่น!เดอร์ริคมองออกไปนอกหน้าต่างสายฟ้าด้านนอกกำลังผ่าด้วยความถี่ต่ำ ประมาณสองนาทีต่อหนึ่งครั้ง ส่งผลให้บรรยากาศรอบเมืองเงินพิสุทธิ์มืดสนิทเกือบตลอดเวลาหากอาศัยอยู่ตามลำพัง เดอร์ริคจะไม่เสียเวลาหามองเทียนไขขึ้นมาจุด เพียงนอนแผ่ไปบนเตียงพลางใช้สมองขบคิดเรื่องราวต่างๆ จนกระทั่งหลับไปแน่นอน มันทราบว่าพฤติกรรมเช่นนี้เป็นสิ่งอันตราย เพราะหากปราศจากแสงสว่าง จะมีโอกาสถูกสัตว์ประหลาดจากความมืดลอบทำร้าย แม้ว่ากำลังอยู่ในเมืองเงินพิสุทธิ์ก็ตามแต่เนื่องจากเดอร์ริคคือ ‘ผู้ภาวนาแห่งแสง’ ร่างกายจะแผ่ออร่าของธาตุแสงออกมาตลอดเวลาอยู่แล้ว สิ่งนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!ดาร์กเคาะประตูย้ำอีกสามหน ราวกับกำลังเร่งเร้าให้เจ้าของบ้านรีบออกมาเปิดเขาไม่เคยเป็นแบบนี้… ดาร์กมีนิสัยสุภาพและขี้เกรงใจมาก…เดอร์ริคทวีความเจ็บแปลบตรงหน้าอกเด็กหนุ่มเดินไปหยิบเทียนไขและนำมาวางไว้บนโต๊ะไม้ ตามด้วยการใช้ปลายนิ้วถูไส้เทียนจนเกิดแสงสว่างสีทองเมื่อเทียนไขติดไฟ บรรยากาศภายในบ้านเริ่มสลัวอย่างอบอุ่น มีกลิ่นฉุนแซมเล็กน้อยเทียนไขภายในเมืองเงินพิสุทธิ์จะถูกผลิตจากไขมันและน้ำมันจากศพสัตว์ประหลาด ส่งผลให้มีกลิ่นแตกต่างกันไปตามแต่ละต้นกำเนิดหลังจากสูดลมหายใจยาวสุดปอด เดอร์ริคเดินไปเปิดประตูด้วยท่าทีระมัดระวัง“ทำไมถึงได้ช้านัก?” ดาร์กถามเปื้อนยิ้ม“หาเทียนไขอยู่” เดอร์ริคตอบห้วนเด็กหนุ่มไม่กล้าหันหลังให้อีกฝ่ายแม้แต่วินาทีเดียว มันเดินไหล่ชิดไหล่เข้าไปในบ้านพร้อมกับอีกฝ่าย จนกระทั่งแต่ละคนแยกกันนั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะไม้“กินผลดูมแห้งไหม?” ดาร์กซักถามด้วยรอยยิ้มขณะปลดถุงผ้าใบเล็กออกจากเอวผลดูมคืออาหารทานเล่นหายากของเมืองเงินพิสุทธิ์ หาได้จากเถาวัลย์ดูมโลหิต เป็นพืชชนิดพิเศษ สามารถเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องอาศัยแสงแดด กลไกทางชีวภาพคือการแย่งชิงสารอาหารจากซากศพเน่าเปื่อยทุกชนิด เถาวัลย์ดูมโลหิตมีสติและความนึกคิด มักโจมตีใส่สิ่งมีชีวิตใกล้ตัวเสมอ ถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่สัตว์ประหลาดอ่อนแอเถาวัลย์ดูมโลหิตจะมีผลสีดำขนาดเท่าหัวแม่มือมนุษย์ สามารถใส่ปากเคี้ยวได้ทันทีโดยไม่ต้องปรุง รสสัมผัสกรุบกรอบ รสชาติหวาน แต่ปราศจากคุณค่าทางอาหารและไม่อิ่มท้อง เป็นได้เพียงอาหารทานเล่นระหว่างวัน ชาวเมืองเงินพิสุทธิ์สามารถนำคะแนนผลงานไปแลกเป็นผลดูมได้หลายถุง“ไม่ดีกว่า” เดอร์ริคส่ายหัวปฏิเสธ“เข้าใจแล้ว” เมื่อกล่าวจบ ดาร์กเทผลไม้แห้งสีดำออกจากถุงผ้า ก่อนจะหยิบขึ้นมาใส่ปากเคี้ยวกร้วมกร้ามเสียงดังอย่างไม่เกรงใจเดอร์ริคครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเปิดประเด็น“ในห้องใต้ดินของซากปรักหักพังมีสัตว์ประหลาดบ้างไหม?”ดาร์กหยุดเคี้ยวพลางเงยหน้ายิ้มตอบ“มีไม่มาก และค่อนข้างอ่อนแอ เพียงครู่เดียวก็ถูกพวกเราจัดการจนหมด ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสักเท่าไร วิหารดังกล่าวเคยถูกสำรวจมาแล้วหนหนึ่ง หากมีสัตว์ประหลาดแข็งแกร่งอาศัยอยู่จริง มันคงย้ายถิ่นฐานไปนานแล้ว”ดาร์กเว้นวรรค ตามด้วยการเล่าโดยยกโค้งมุมปากขึ้นเล็กน้อย“ในจุดลึกสุดของวิหาร พวกเราได้พบพืชพันธุ์ประหลาด ลักษณะคล้ายเห็ด… ไม่ผิดแน่ รายละเอียดปลีกย่อยตรงตามคำอธิบายของเห็ดภายในหนังสือเรียนทุกประการ เพียงแต่มันส่องแสงสว่างจ้าเป็นพิเศษ และดูน่ากินจนแทบอดใจไม่ไหว พวกเรายืนยันแล้วว่า เห็ดดังกล่าวสามารถกินได้ มีสรรพคุณช่วยเสริมพลังวิญญาณและความคงทนทางร่างกาย ถ้านำไปปรุงร่วมกับเนื้อสัตว์ประหลาดย่าง จะมอบกลิ่นชนิดพิเศษซึ่งเย้ายวนเกินห้ามใจ”ขณะเล่าเรื่อง ดาร์กหยิบเห็ดขนาดเท่าฝ่ามือออกจากถุงผ้าอีกหนึ่งใบ โคนเห็ดมีสีขาวโพลนราวกับนมสด หมวกเห็ดเป็นสีแดงลักษณะมันวาวคล้ายผลึก แซมด้วยจุดสีทองเข้มประปรายเพียงจ้องมอง เดอร์ริคพลันน้ำลายแตกฟองราวกับไม่ได้กินอะไรมาหลายวันภายใต้แสงสลัวจากเทียนไข เห็ดดังกล่าวทั้งระยิบระยับและเชื้อเชิญให้ผู้ได้พบเห็น เกิดความต้องการจะหยิบใส่ปากอย่างแรงกล้า ชนิดยากจะหักห้ามใจตัวเองไหว“อันนี้ของนาย” ดาร์กยิ้มอ่อนโยน“ตกลง…” จิตใต้สำนึกของเดอร์ริคบอกให้มันหยิบเห็นตรงหน้าใส่ปากเคี้ยวทันที แต่จนแล้วจนรอด สติส่วนลึกได้เอาชนะแรงปรารถนา ก่อนจะเงยหน้าพูดกับอีกฝ่าย“ฉันจะเก็บไว้กินพรุ่งนี้”ดาร์กไม่กล่าวสิ่งใดต่อ เพียงดันเห็ดปริศนามาวางหน้าเดอร์ริคและเคี้ยวผลดูมแห้งอย่างเอร็ดอร่อยเดอร์ริคฝืนเบือนสายตาออกจากเห็ดปริศนาอย่างยากลำบาก ตามด้วยการซักถามสารทุกข์สุกดิบ“ทีมสำรวจค้นพบอะไรในการเดินทางครั้งนี้บ้างไหม?”“มีสิ!” ดาร์กหยุดเคี้ยว จากนั้นก็มอบคำตอบด้วยสีหน้าขึงขัง“พวกเราพบจิตรกรรมฝาผนังใหม่เป็นจำนวนมาก เดอร์ริค นายยังจำรูปปั้นด้านหน้าวิหารได้ไหม?”“จำได้” เดอร์ริคชำเลือง ‘เห็ด’ พลางพยักหน้ารับ “รูปปั้นของคนเปลือยกายเปื้อนเลือด ถูกแขวนกลับหัวบนกางเขนใหญ่ใช่ไหม?”ดาร์กควงผลดูมในมือเล่น“ถูกต้อง ภาพวาดชุดใหม่ได้สื่อเป็นนัยว่า ผู้สร้างวิหารแห่งนี้มีความเชื่อว่า เทวรูปดังกล่าวคือมหาเทพผู้ปราดเปรื่องและทรงพลัง มหาเทพผู้รังสรรค์ทุกสิ่งจากต้นกำเนิด… พวกเขายังเชื่อด้วยว่า พระองค์มิได้ทอดทิ้งพวกเราและดินแดนแห่งนี้ ตรงกันข้าม เมื่อมหาภัยพิบัติมาเยือน พระองค์ได้แบกรับบาปทั้งหมดของพวกเราไว้แต่เพียงผู้เดียว ส่งผลให้พระองค์ถูกตรึงกางเขนในสภาพกลับหัว ถูกพันธนาการและลงโทษเท่ากับจำนวนบาปของพวกเราทุกคน พระองค์ต้องหลั่งเลือดเพื่อชดใช้บาปแทนพวกเรา”“ความรักจากองค์เทพนั้นไร้ขอบเขต พวกเรามิใช่ผู้ถูกทิ้ง กลับกันเลยต่างหาก! พวกเราคือลูกแกะผู้ถูกพระองค์เลือก! หากพระองค์ไม่แบกรับบาปแทนพวกเรา เมืองเงินพิสุทธิ์คงถูกทำลายในเหตุการณ์มหาภัยพิบัตินานแล้ว มนุษยชาติก็จะถึงคราวสูญสิ้น!”แต่ว่านะดาร์ก… โลกด้านนอก อาณาจักรโลเอ็น ถิ่นอาศัยของเดอะเวิร์ล แฮงแมน เมจิกเชี่ยน และจัสติส ไม่มีคำสาปเหมือนพวกเราแม้แต่อย่างเดียว ไม่มีสัตว์ประหลาดในความมืดมิด… พวกเราไม่ใช่กลุ่มผู้ถูกเลือกอย่างแน่นอน อาจตรงกันข้ามด้วยซ้ำ…เดอร์ริคโต้แย้งในใจ“และหากความเชื่อของพวกเขาเป็นความจริงทั้งหมด หมายความว่า ทุกพิธีกรรมหลังจากนี้ เมืองเงินพิสุทธิ์ต้องเปลี่ยนสัญลักษณ์และพระนามเต็มให้สอดคล้องกับพระองค์ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น พวกเราจึงจะได้รับการตอบสนองจากพระองค์อีกครั้ง…”ดาร์กยังคงสาธยายอีกยืดยาว มันอธิบายรายละเอียดของภาพวาด เล่าถึงมุมมองของตัวเอง และการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนพิธีกรรมของเมืองเงินพิสุทธิ์ยิ่งได้ฟัง เดอร์ริคก็ยิ่งพบว่า ตนหักห้ามใจจาก ‘เห็ด’ ได้ยากขึ้นทุกขณะห้ามกินเด็ดขาด… จะกินไม่ได้เด็ดขาด!ไม่อย่างนั้น เราจะกลายเป็นเหมือนดาร์กและคนอื่น ถูกพระผู้สร้างเสื่อมทรามกัดกร่อนจิตใจและกลายเป็นสาวกเดนตาย… ถึงจะมีคนของสภาอาวุโสคอยจับตามอง แต่เขาคงไม่พบความผิดปรกติกับตัวเราแน่…ความหวาดกลัวเริ่มกัดกินจิตใจเดอร์ริคทีละนิด จนถึงขั้น มันอยากหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวออกจากดาร์กสักระยะเราควรทำยังไงดี…? ไล่ดาร์กกลับไปพร้อมกับคืนเห็ด? แต่ถ้าทำแบบนั้น เราก็จะเสียโอกาสแสนสำคัญ… โอกาสอันหายาก…สายตาเดอร์ริคหันมาจดจ่ออยู่กับเปลวเทียนไขสีเหลืองนวลเพื่อตั้งสติ“เดี๋ยวฉันจะไปหยิบน้ำให้” ขณะลุกยืน เด็กหนุ่มตัดสินใจหนักแน่นว่า ตนจะเริ่มลงมือตามแผนของมิสเตอร์แฮงแมนเดี๋ยวนี้!ดาร์กพยักหน้ารับพลางโยนผลดูมสีดำเข้าปากเคี้ยวเสียงดังขณะรินน้ำใส่แก้ว เดอร์ริคจงใจเทให้ช้าลง เด็กหนุ่มก้มศีรษะต่ำพร้อมกับเอ่ยพระนามเต็มอันศักดิ์สิทธิ์ของเดอะฟูล และตามด้วย :“ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านรับฟังคำขอร้อง ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านรับเครื่องเซ่นสังเวย ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านเปิดประตูอาณาจักรของท่าน”ฟ้าว!สายลมกระโชกพลันพัดผ่านภายในห้อง จากนั้น สายลมทางธรรมชาติอันเกิดจากคาถาบริกรรม เริ่มก่อตัวเป็นลักษณะเกลียวคลื่นถัดมาไม่นาน ดาร์ก·รีเจนซ์ ผู้กำลังหยิบผลดูมแห้งขึ้นมาเคี้ยวโดยไม่คิดอะไร พลันเงยหน้าและซักถามเสียงฉงน เมื่อพบว่าเดอร์ริคเดินมาหยุดยืนข้างตนด้วยสีหน้าอึมครึม“มีอะไรหรือ?”เดอร์ริคไม่ตอบ มือข้างหนึ่งกำด้ามขวานเฮอร์ริเคนแน่นกระชับ อีกข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋าลับเสื้อโค้ทพลางทำลายกำแพงวิญญาณและเปิดกล่องโลหะสายตาเดอร์ริคไม่ปกปิดความหวาดระแวงในตัวเพื่อนสนิท ทันใดนั้น เด็กหนุ่มเริ่มมองเห็นแสงสีแดงเข้ม สว่างวาบขึ้นบนกระจกตาสีฟ้าครามของดาร์กบนฝ่ามือดาร์ก เปลือกผลดูมแห้งสีดำถูกกะเทาะออก เนื้อด้านในเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นบางสิ่งซึ่งมีสีสันคล้ายผิวหนังมนุษย์ในวินาทีนี้ วัตถุในมือดาร์ก·รีเจนซ์ไม่ใช่ผลดูมแห้งอีกต่อไป หากแต่เป็นนิ้วมือนิ้วมือมนุษย์ชุ่มฉ่ำด้วยเลือดสด!เช่นเดียวกันกับผลดูมจำนวนมากซึ่งถูกวางกองสุมบนโต๊ะไม้ ทั้งหมดคือนิ้วมนุษย์!‘เห็ด’ ระยิบระยับเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปโฉม ความงดงามในตอนต้นเลือนหายจนหมดสิ้น เฉกเช่นความเย้ายวนอันเชิญชวนให้โยนใส่ปากเคี้ยวมันกลายเป็นหนังศีรษะของมนุษย์ซึ่งมีเส้นผมสีดำแซมอยู่หนึ่งกระจุก!ดาร์กจ้องเดอร์ริคกลับด้วยสีหน้าสับสน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเย็นชาแกมล่องลอย“นายคิดจะทำอะไร?”…กรุงเบ็คลันด์ บ้านเลขที่ 15 ถนนมินส์ขณะไคลน์กำลังขดตัวอยู่ภายในโลกแสนอบอุ่นใต้ผ้าห่มหนา เมื่อได้ยินเสียงสวดภาวนาจากเดอะซัน ชายหนุ่มรีบกุลีกุจอลุกจากเตียงเพื่อสร้างกำแพงวิญญาณ เดินถอยหลังทวนเข็มสี่ก้าว และส่งจิตเข้าห้วงมิติเหนือสายหมอกเทาเมื่อกลับมานั่งบนเก้าอี้พนักสูงของเดอะฟูล ไคลน์ไม่รีบร้อนตรวจสอบคำภาวนาของเดอะซันน้อย อันดับแรก มันนำไพ่จักรพรรดิมืด กระดาษรูปคน และสมบัติวิเศษชนิดอื่นมาวางเรียงรายบนโต๊ะตรงหน้าอย่างเป็นระเบียบจากแผนการของแฮงแมน เดอะซันต้องประกอบพิธีกรรมสังเวยถึงเดอะฟูลค้างไว้ก่อน จากนั้นค่อยเริ่มลงมือกระตุ้นให้ทีมสำรวจเผยร่างแท้จริงออกมา ด้วยวิธีการข้างต้น เมื่อเรื่องราวจบลง เดอะซันจะได้ฉวยโอกาสสังเวย ‘ดวงตาดำล้วน’ ของเดอะเวิร์ล กลับคืนให้เดอะฟูลได้ทันที ไม่หลงเหลือหลักฐานเกี่ยวกับชุมนุมทาโรต์ไว้บนโลกจริง และความผิดทั้งหมดก็จะตกเป็นของอามุนด์!ในส่วนของมิสเตอร์ฟูล ไคลน์อนุญาตให้เดอะซันประกอบพิธีกรรมถึงตนในแบบฉบับ ‘รวบรัด’ ได้เป็นกรณีพิเศษ ไม่ต้องเตรียมวัตถุฟุ่มเฟือยหรือมากพิธีรีตอง เพียงกล่าวคำสำคัญให้ครบก็พอโดยงานของเดอะฟูลก็คือ นั่งรอให้เดอะซันดำเนินพิธีกรรมสังเวยจนถึงขั้นตอนเปิดอุโมงค์วิญญาณนั่นจะเป็นเวลาลงมือของตน……………………
คอมเม้นต์