ราชันเร้นลับ 861 : ความฝันของฟอร์ส
ราชันเร้นลับ 861 : ความฝันของฟอร์ส
หลังจากได้ยินเสียงตะโกนของชายวัยกลางคนซึ่งกำลังมีใบหน้าบิดเบี้ยวสุดขีด ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยโทสะของเฮเซลพลันคลายออกพร้อมกับเผยความสับสนไม่ใช่แค่เธอ แม้แต่ส.ส. มัคท์ มาดามลีอานน่า และดอน·ดันเตสที่ยืนอยู่ข้างๆ เองก็ทำได้เพียงปิดปากเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา กระทั่งฟอร์สที่ซ่อนตัวอยู่ในกำบังก็ยังสูญเสียความตื่นเต้นเมื่อครู่ไปจนหมด ไม่หลงเหลือจิตวิญญาณแห่งผู้ผดุงคุณธรรมผ่านไปราวสิบวินาที มัคท์เบือนหน้าออกจากคนร้าย หันไปพูดกับบอดี้การ์ด“เฝ้าที่นี่หนึ่งคน คอยจับตามองจุดเกิดเหตุและคนร้ายเอาไว้ รอจนกว่าตำรวจจะมาถึง”กล่าวจบ มันเว้นวรรคเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางบุรุษรับใช้“บอกให้พวกสำนักพิมพ์ปิดข่าวนี้”หลังจากรับมือกับสถานการณ์เบื้องต้น ส.ส. รายนี้มองไปรอบๆ และพบว่ามีคนเดินเท้าเริ่มหยุดมุง หลายคนหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น มัคท์ตัดสินใจกล่าวกับดอน·ดันเตส“ขอโทษที่ทำให้คุณต้องเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์อันตราย ผมไม่คิดว่าเรื่องราวจะลงเอยแบบนี้… อันที่จริง ทางเราได้คำนึงถึงกลุ่มเจ้าของโรงงานถ่านหินที่ธุรกิจได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังมีการเยียวยาไปจำนวนหนึ่งแล้ว แต่ใครไปจะคิดว่า…”นโยบายก็เรื่องหนึ่ง การบังคับใช้จริงก็เรื่องหนึ่ง… เมื่อมลพิษทางอากาศกลายเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ทุกคนให้ความสนใจ แรงกดดันมหาศาลจึงตกอยู่กับโรงงานเชื้อเพลิงแบบเก่า ไม่แปลกที่จะเกิดเรื่องทำนองนี้เข้าสักวัน… ไคลน์ถอนหายใจพลางรำพัน“ไม่ต้องห่วงทางนี้ ในอดีต ผมเคยเผชิญสิ่งที่อันตรายกว่านี้นับครั้งไม่ถ้วน”ภายนอกฟังดูคล้ายกับมันกำลังพูดถึงการผจญภัยบนทวีปใต้ แต่ในความเป็นจริง ไคลน์กำลังย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมกูสอาละวาดขณะตั้งครรภ์ทายาทเทพมาร เหตุการณ์อุกกาบาตพุ่งชนโลกกลางป่าด้านนอกเบ็คลันด์ เหตุการณ์ซินเธียปรารถนาจะมีทายาทกับพลเรือเอกอมิรุส และเหตุการณ์เทวทูตของโรงเรียนกุหลาบปะทะกับสัตว์ประหลาดนิกายวิญญาณบนภูเขาด้านนอกบายัมเมื่อเทียบกับประสบการณ์ข้างต้น สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเพียงละอองฝนในอากาศ แทบไม่ต้องให้ความสนใจ ไคลน์ที่ตระหนักถึงการมีอยู่ของมิสซิล มิสเมจิกเชี่ยน และเฮเซล จึงทำเพียงฉากหลบอย่างชำนาญตามประสาคนมีประสบการณ์ความสนใจในปัจจุบันมีเพียง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับ ‘พายุ’ ที่กำลังก่อตัวในเบ็คลันด์หรือไม่?มัคท์ถอนหายใจพลางพยักหน้า“ผมได้ประจักษ์เต็มสองตาว่าคุณเยือกเย็นมากเพียงใด… ตัวผมที่เคยสงสัยในประสบการณ์ของคุณ ตอนนี้หมดข้อกังขาแล้ว… เอาล่ะ ดอน กลับกันเถอะ ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ หากต้องมีการสอบปากคำ พวกเขาจะเดินทางไปหาคุณถึงบ้าน”ไคลน์พยักหน้า กล่าวกับครอบครัวมัคท์“ระวังตัวด้วยนะ”ส.ส. มัคท์ผงกศีรษะรับเคร่งขรึม กล่าวพลางถอนหายใจ“ฤดูแห่งการเข้าสังคมของเบ็คลันด์เพิ่งเริ่มต้น แต่ดันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น… คงต้องดื่มด่ำกับความสุขในปัจจุบันให้มาก”ฤดูกาลเข้าสังคมของเบ็คลันด์หมายถึงการกลับมายังเบ็คลันด์หลังจากหยุดยาวของเหล่าสมาชิกสภาขุนนาง ดูเหมือนจะเพิ่งเริ่มต้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา… เพียงสัปดาห์เดียว มีเหตุร้ายเกิดขึ้นติดๆ กันถึงสองครั้ง หนแรกเป็นการปองร้ายบารอนซินดราส และหนที่สองเป็นการลอบโจมตีส.ส. มัคท์… ท่ามกลางความคิดมากมาย ไคลน์ยังไม่หยุดเดิน ด้านหลังมีริชาร์ดสันที่กำลังสั่นเทาเดินตามมาเมื่อนั่งลงในห้องโดยสาร ชายหนุ่มมองวิวทิวทัศน์ข้างทางค่อยๆ เคลื่อนคล้อย ถอนหายใจเงียบงันพลางหลับตาลงชายหนุ่มไม่มีทางเดาได้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เกิดจากพลังพิเศษหรือไม่ เพราะคนธรรมดาเองก็ก่อเรื่องทำนองนี้ได้ เหนือสิ่งอื่นใด เหตุผลของชายวัยกลางคนนับว่าฟังขึ้น – ทั้งหมดคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริง และไคลน์เชื่อว่าคงไม่ได้มีเจ้าของโรงงานเพียงรายเดียวที่ประสบชะตากรรมน่าอดสูเช่นนี้สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มประหลาดใจก็คือ เหตุใดเป้าโจมตีถึงเป็นส.ส. มัคท์?แม้ส.ส. รายนี้จะออกตัวสนับสนุนการควบคุมมลพิษทางอากาศอย่างชัดเจน รวมถึงการอภิปรายในสภาและให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์หลายหน แต่ไม่น่าจะตกเป็นเป้าเกลียดชังเท่ากับ ‘คณะกรรมการมลพิษทางอากาศแห่งชาติ’ไคลน์เอนหลังพิงกำแพง บรรจงลืมตาขึ้นอย่างใจเย็น พบว่าด้านนอกหน้าต่างค่อนข้างมืด เมฆบนฟ้าจับตัวหนาและมีฝนตกปรอยเป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่า วังวนพายุที่กำลังก่อตัวภายในกรุงเบ็คลันด์ นับวันยิ่งทวีความรุนแรงไคลน์ดึงสติกลับมาและยกมือซ้ายขึ้นจับกระเป๋าเสื้อภายในนั้นมีจดหมายที่แฟรงค์·ลีตอบกลับมา รวมถึงเห็ดปริศนาบางชนิดใจจริง ไคลน์อยากรีบกลับบ้านและเข้าไปยังมิติเหนือสายหมอก นำเห็ดที่เพิ่งได้รับมาใหม่ ‘สื่อสาร’ กับยุบพองหิวโหยเพื่อให้สมบัติปิดผนึกชิ้นนี้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง – ในยามที่พายุก่อตัว ไคลน์เชื่อว่าตนจำเป็นต้องอยู่ในสภาพพร้อมรบมากที่สุด และเพื่อการนั้น ยุบพองหิวโหยคือสิ่งที่ขาดไม่ได้แต่น่าเสียดาย ตอนนี้มีบอดี้การ์ดสองคนคอยคุ้มกัน หากเป็นไปได้ก็ไม่ควรส่งตัวเองเข้าไปในมิติเหนือสายหมอกตัวเราไม่จำเป็นต้องให้ใครคุ้มครอง กลับยอมเสียเงินหลายร้อยปอนด์เพื่อจ้างบอดี้การ์ดมาทำให้ตัวเองอึดอัด… นี่สินะปัญหาของคนรวย… ไคลน์ถอนหายใจเงียบ รับชาดำที่ริชาร์ดสันเพิ่งชงเสร็จหลังจากจิบหนึ่งคำ ใบหน้าชายหนุ่มกระตุกเล็กๆ ก่อนจะคลายออกไคลน์ก้มลงและพบว่า มะนาวฝานในถ้วยชาดำมีขนาดใหญ่กว่าปรกติถึงสองเท่าชายหนุ่มชำเลืองสายตาโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว พบว่าบุรุษรับใช้ของตนกำลังอยู่ในอาการเหม่อลอย คล้ายกับยังคงผวาจากเหตุการณ์คนร้ายบุกโจมตีเมื่อครู่ยังคงใจเสาะเช่นเคย… ไคลน์รำพันพลางวางถ้วยชากระเบื้องเคลือบลง…กลางดึกสงัด ณ บ้านเลขที่ 39 ถนนเบิร์คลุน บ้านของส.ส. มัคท์เฮเซลนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง จ้องไปทางหนูสีเทาที่กำลังหมอบบนกล่องใบเล็ก กล่าวหลังจากครุ่นคิด“พ่อของฉันทำอะไรผิด? เขาผลักดันในสิ่งที่ดีและควรทำ”“ไม่มีใครทำให้ทุกคนพึงพอใจได้ ทุกการกระทำจะมีทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ขึ้นอยู่กับว่าพ่อของเจ้ามีการชดเชยผู้เสียประโยชน์หลังจากผลักดันกฎหมายหรือไม่ ถ้ามี เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถ้าไม่ เขาค่อนข้างเลือดเย็นทีเดียว” หนูตอบคร่าวๆเฮเซลไตร่ตรองสักพัก สีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะหันไปกล่าว“ระหว่างอาหารค่ำ ฉันสัมผัสได้ว่ามีสิ่งของมีค่าซ่อนอยู่ในตู้ แต่เมื่อลองย้อนกลับไปตรวจสอบกลับไม่พบสิ่งใด”หนูสีเทาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบ“นั่นอาจเป็นบอดี้การ์ดของดอน·ดันเตส… เขาเพิ่งเข้าไปพัวพันกับคดีฆ่าตัวตาย กล่าวกันว่าบารอนซินดราสมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะจ้างบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันอย่างลับๆ … อา บอดี้การ์ดในตู้คงเป็นผู้วิเศษ รวมถึงพกพาสมบัติวิเศษ เจ้าจึงสัมผัสได้ถึงสิ่งของมีค่า”เฮเซลพยักหน้าเล็กน้อย มองว่าคำอธิบายดังกล่าวสมเหตุสมผล ตามด้วยพึมพำกับตัวเอง“อยากรู้เหมือนกันว่าบอดี้การ์ดพวกนั้นจะมีพลังพิเศษแบบใด”กล่าวจบ หญิงสาวชำเลืองไปทางหนูสีเทาด้วยความฉงน“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าดอน·ดันเตสเข้าไปพัวพันกับคดีซับซ้อน?”หนูส่งเสียงตอบ“ร่างปัจจุบันของข้าเหมาะแก่การแอบฟังบทสนทนาของคนอื่น”กล่าวจบ มันมองไปทางบ้านเลขที่ 160 ถนนเบิร์คลุนพร้อมกับกะพริบตาสองครั้ง…ฟอร์สซึ่งกำลังงีบระหว่างเวร พบว่าภาพการมองเห็นของตนล่องลอยขึ้นไปยังพระราชวังลอยฟ้าที่เก่าแก่และสง่างาม วัตถุวิเศษและสมบัติวิเศษมากมายวางเรียงราย มีแม้กระทั่งไพ่ทาโรต์สองใบที่ค่อนข้างคลุมเครือแต่เธอไม่สามารถเข้าไปหยิบได้ เนื่องจากถูกพลังที่มองไม่เห็นสกัดกั้นไว้ฟอร์สมองไปรอบๆ โดยหวังหาทางทำลายผนึก จนกระทั่งพบสัญลักษณ์ซับซ้อนบนหลังคาทรงโดมเป็นสัญลักษณ์ที่ผสมผสานระหว่าง ‘โชคชะตา’ และ ‘การปกปิด’ !ถ้าเราพบวัตถุที่มีสัญลักษณ์แบบเดียวกัน จะสามารถเปิดผนึกกรุสมบัติเข้าไปได้… ขณะกำลังฝันหวาน ฟอร์สสะดุ้งตื่นกะทันหัน พบว่าตัวเองกำลังนอนขดบนพรมภายในห้องกึ่งเปิดโล่ง บนตัวมีผ้านวมทำจากไหมผืนบาง – เธอและซิลไม่กล้านอนบนเก้าอี้เอนหลังใจกลางห้อง เนื่องจากดอน·ดันเตสใช้นอนประจำ อีกฝ่ายอาจค้นพบความผิดปรกติลูบหน้าผากเสร็จ ฟอร์สเห็นซิลกำลังแนบตัวพิงกำแพงฝั่งที่ติดกับห้องนอนใหญ่ คอยฟังการเคลื่อนไหวอย่างตั้งใจ“ฉันรู้สึกว่าที่นี่มีความลับซ่อนอยู่ ฉันฝันไม่ปรกติ ฝันเห็นกองสมบัติล้ำค่ามากมายและสัญลักษณ์ซับซ้อน” ฟอร์สเดินเข้าไปใกล้ซิลพลางเล่าความฝันในฐานะโหราจารย์ เธอย่อมทราบว่าความฝันเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องปรกติ!เมื่อเห็นเพื่อนสนิททำหน้าขึงขัง ซิลกลืนคำที่อยากพูดลงคอ ครุ่นคิดสักพักก่อนจะกล่าว“อาจมีความลับซ่อนอยู่จริงๆ … ฉันเคยได้ยินสุภาษิตเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับกล่าวไว้ว่า ‘หากค้นพบแหล่งพลังพิเศษ จะต้องมีแหล่งที่สองตามมาเสมอ’ ”“ถ้าไม่นับพ่อบ้านที่ยังไม่แน่ใจว่ามีพลังพิเศษหรือไม่ มิสเฮเซลคือแหล่งพลังพิเศษแลก ถ้าอย่างนั้น ใกล้ๆ กับเธอหรือไม่ก็ภายในบล็อกถนนละแวกนี้ ควรมีอีกหนึ่งแหล่งพลังพิเศษใช่ไหม?” ฟอร์สพยักหน้าพลางยิ้มแห้ง “แต่นั่นก็ไม่มีผลอะไรกับเรา พรุ่งนี้เย็น พวกเราจะได้รับค่าจ้างและยุติภารกิจบอดี้การ์ด บุคคลที่น่าสงสารที่สุดคือดอน·ดันเตส เขาเป็นเพียงคนธรรมดา แต่กลับถูกรายล้อมด้วยปัญหาของโลกเหนือธรรมชาติมากมาย”กล่าวจบ ฟอร์สมองไปทางซิลพลางพูดติดตลก“เร็วเข้า… รีบอวยพรให้เทพธิดาคุ้มครองเขา… ฉันเป็นผู้เชื่อในเทพจักรกลไอน้ำ พูดแบบนั้นออกมาไม่ได้”ซิลครุ่นคิดสักพัก วาดจันทร์แดงบนหน้าอกพลางพึมพำจากก้นบึ้ง“ขอให้เทพธิดาคุ้มครองดอน·ดันเตส”ฟอร์สที่เริ่มหายง่วง อ้าปากห้าวครั้งสุดท้ายและกล่าว“ฉันจะลาดตระเวนรอบๆ บ้าน ตรวจตราหาความผิดปรกติ ส่วนเธอไปงีบสักสิบห้านาที”“ตกลง” ซิลที่ดูสดชื่นมากกว่าฟอร์ส ขานรับแต่โดยดีฟอร์สเดินไปทางประตูห้อง นำมือทาบลงบนผนังด้านข้างประตู ส่งตัวเองออกมายังทางเดินขณะเตรียมเดินไปที่บันได หญิงสาวตรวจพบความผิดปรกติจากห้องนอนของบุรุษรับใช้ดอน·ดันเตสฟอร์สรีบหันไปมอง ก่อนจะตัดสินใจเดินไปใกล้ๆ ห้องและเปิดประตู ‘บานเล็ก’ เพื่อแอบมองเข้าไปทันใดนั้น เธอเห็นริชาร์ดสันกำลังเต้นแร้งเต้นกา คล้ายกับกำลังประกอบพิธีกรรมระบำลึกลับระบำวิญญาณ? ไม่ใช่ว่าคนรับใช้รายนี้นับถือเทพธิดารัตติกาลหรอกหรือ? ความจริงแล้วแอบบูชาเทพมรณา? ฟอร์สขมวดคิ้วพลางเฝ้ามองริชาร์ดสันระบำวิญญาณจนจบ จากนั้น อีกฝ่ายพึมพำขอให้เทพมรณาคุ้มครองจากอันตรายรอจนกระทั่งเหตุการณ์สงบลง ฟอร์สส่ายหน้าพลางรำพัน“มิสเตอร์ดันเตสผู้น่าสงสาร”
คอมเม้นต์