ราชันเร้นลับ 787: คำเตือนของโดเรี่ยน
เกอร์มัน·สแปร์โรว์… ได้ยินเช่นเช่นนั้น เส้นเลือดที่หน้าผากโดเรี่ยนพลันปูดโปน เลื่อนมือขึ้นมาจับโดยไม่รู้ตัว ร่างกายเกิดอาการชาไปทุกส่วนโดยไม่มีเหตุผลมันอาศัยอยู่ในท่าเรือพริสต์ ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ข่าวลือมากมายเกี่ยวกับทะเลย่อมชัดเจนกว่าชาวเมืองเบ็คลันด์ที่ต้องอาศัยการอ่านข่าวหนังสือพิมพ์เพื่อให้ทันโลกในช่วงหลายเดือนหลัง มันมักได้ยินข่าวเกี่ยวกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์จากช่องทางที่แตกต่าง เริ่มจากการสังหาร ‘เหล็กกล้า’ แม็ควิตี้ ลงมือกับ ‘พลเรือโทโรคภัย’ เทรซี่ ประสบความสำเร็จในการล่า ‘พลเรือเอกโลหิต’ เซนอล โดยเรื่องราวทั้งหมดเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งมันหายไปจากทะเล มาที่เบ็คลันด์? แถมยังไม่เปลี่ยนนิสัยอันบ้าบิ่นนั่น! โดเรี่ยนปกปิดความกลัวและตื่นตัวที่คุกรุ่นภายในใจ จ้องหน้าศิษย์ของตน กล่าวเสียงทุ้ม“พยายามติดต่อนักล่าค่าหัวคนนี้ให้น้อยลง… เขาจะสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นในสักวัน และเวลานั้นคงอีกไม่นาน”อาจารย์ช่างมากประสบการณ์ สายตาเฉียบแหลม มองเห็นแก่นแท้ของมิสเตอร์เวิร์ลได้อย่างรวดเร็ว… น่าเสียดาย เรากลายเป็นสมาชิกชุมนุมทาโรต์เรียบร้อยแล้ว ไม่มีทางยกเลิกการติดต่อ… ฟอร์สวิเคราะห์สถานการณ์ พยักหน้าอย่างจริงใจ“ค่ะ อาจารย์”โดเรี่ยนใจเย็นลง เพ่งมองใบหน้าอดีตศิษย์ที่กลายมาเป็นศัตรู ลูอิส·เวย์นทว่า ‘นักท่องเที่ยว’ รายนี้พูดไม่ได้อีกแล้ว ไม่หลงเหลือแม้แต่เศษเสี้ยวพลังวิญญาณเงียบงันสองสามวินาที โดเรียนเอนหลังเล็กน้อย จ้องหน้าฟอร์ส“คุณบอกว่าจ่ายเงินไปหนึ่งหมื่นปอนด์เพื่อเป็นค่าหัว?”มันไม่มีข้อมูลสถานะทางการเงินของฟอร์ส ทราบเพียงว่า ศิษย์ของตนเป็นนักเขียนนิยายขายดี มีค่าตอบแทนพอสมควร และการมีชุมนุมผู้วิเศษสักสองสามแห่งก็คงช่วยได้มาก ทำภารกิจของที่นั่นนับว่าจ่ายค่อนข้างหนัก ดังนั้น การออมเงินหลักหมื่นปอนด์จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตกตะลึงหรือยอมรับไม่ได้ฟอร์สขยับตัว กล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิดเล็กๆ“แพงไปหรือคะ?”เธอจงใจยอกย้อนอย่างมีวาทศิลป์เพื่อปกปิดความจริงที่ว่า เธอกุราคาขึ้นมาเอง ทำให้ดูคล้ายกับไม่ประสาในด้านนี้สักเท่าไรโดเรี่ยนส่ายหน้า“เปล่า ถูกเกินไปต่างหาก… ถูกจนอดคิดไม่ได้ว่า เกอร์มัน·สแปร์โรว์มีเจตนาแอบแฝงหรือไม่”ในฐานะสมาชิกตระกูลอับราฮัมที่เผชิญโศกนาฏกรรมหนแล้วหนเล่า มันหวาดระแวงกับทุกสิ่งหมายความว่า นี่คือ ‘ราคาสมาชิก’ สินะ… ฟอร์สหัวเราะแห้ง กล่าวอย่าง ‘ซื่อตรง’“ยังมีข้อตกลงอื่นๆ ด้วยค่ะ เช่นสิ่งของที่ลูอิส·เวย์นพกติดตัวทั้งหมด จะตกเป็นของเขา และฉันต้องคอยให้ความช่วยเหลืออย่างกระตือรือร้น นอกจากนั้น ฉันยังต้องรับปาก หากภายหลังเขาต้องการเงินสดเป็นการเร่งด่วน จะต้องจ่ายเพิ่มอีกสามพันปอนด์”“เริ่มสมเหตุสมผล” โดเรี่ยนพยักหน้า “เดิมที การลอบสังหารลูอิส·เวย์นที่มีชุมนุมแสงเหนือคอยหนุนหลัง ราคาต้องไม่ต่ำกว่าสามหมื่นปอนด์ อา… ยิ่งถ้ามีสถานการณ์ไม่คาดฝัน ราคาก็ยิ่งต้องเพิ่มขึ้นอีก”ในตอนนั้น มิสเตอร์เวิร์ลใช้พลังครึ่งเทพจากบันทึกการเดินทางของเลมาโน่… นั่นคงเป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน… นักบุญจากชุมนุมแสงเหนือปรากฏตัว? ฟอร์สผู้ถูกอิทธิพลของชุมนุมทาโรต์เปลี่ยนชีวิต ไม่ถึงกับไม่รู้จักชุมนุมแสงเหนือเลย จึงขมวดคิ้วโดยไม่ปิดบัง“อาจจะเป็นแบบนั้น… เงื่อนไขของเขาฟังดูไม่ปรกติสักเท่าไร หรือว่า เขากำลังรีบใช้เงิน?”โดเรี่ยนใช้ความคิด“บางที เขาคงสนใจตะกอนพลังของลูอิส·เวย์นมากกว่า สำหรับผู้วิเศษเส้นทางอื่น สิ่งนั้นสามารถนำไปสร้างเป็นสมบัติวิเศษที่มีประโยชน์ ตราบใดที่สามารถหา ‘ช่างฝีมือ’ ที่เก่งกาจ”โดเรี่ยนเว้นวรรค กล่าวเสริม“ไม่ต้องไปใส่ใจ หลังจากนี้แค่อยู่ให้ห่างจากเขา… บางที เขาอาจจะหมายหัวลูอิส·เวย์นมานานแล้ว เมื่อเธอมีข้อมูล เขาจึงกล้าลงมือ ขณะเดียวกันก็ได้ค่าจ้างก้อนใหญ่เป็นของแถม”โดเรียนไม่สานต่อหัวข้อเดิม หยิบลูกบอลคริสตัลบริสุทธิ์ขนาดเท่ากำปั้นออกจากกระเป๋าเสื้อด้านใน“สร้างจากผลึกดวงดาว จะช่วยเพิ่มพลังโหราจารย์ของคุณได้มาก”เมื่อแสงจากด้านนอกส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ลูกบอลคริสตัลกะพริบ ‘คลื่น’ ที่สว่างไสวออกมาเป็นระยะโดยไม่รอให้ฟอร์สปฏิเสธ โดเรียนหัวเราะ“ลูอิส·เวย์นคือศัตรูของผม คนจ่ายเงินค่าหัวต้องเป็นผม ตอนนี้ยังไม่มีเงินสดมากขนาดนั้น ขอผ่อนชำระด้วยวัตถุบางชิ้น”“ไม่ค่ะ ไม่จำเป็น” ฟอร์สส่ายศีรษะอย่างลังเลด้วยความสัตย์จริง ในตอนที่เธออยากฆ่าลูอิส·เวย์น ความคิดเดียวในหัวคือแก้แค้นให้อาจารย์ ไม่ได้หวังรางวัลที่จะตามมา แต่ตรงข้ามกับเจตนารมณ์ เธอมิอาจปฏิเสธโดเรี่ยนทำหน้าขึงขัง“คุณอยากให้ผมรู้สึกผิดและเสียใจหรือ? ไม่ต้องกังวล อาจารย์ของคุณไม่ได้จนขนาดนั้น”ฟอร์สพยักหน้ารับ“ตกลงค่ะ”โดเรี่ยนยิ้มอีกครั้ง“แล้วก็ ผมนำสูตรโอสถ ‘นักบันทึก’ มาให้คุณด้วย เริ่มเร่งมือย่อยโอสถ ‘โหราจารย์’ ได้โดยไม่ต้องลังเล รวบรวมวัตถุดิบให้ครบ… ฮะฮะ! ผมจะมอบหนึ่งในวัตถุดิบหลักให้ด้วย สมองของอัสมาน ที่เหลือคุณจัดการเอาเอง”อัสมานคือสัตว์ประหลาดที่มีตัวตนอยู่แค่ในเรื่องเล่าโบราณ ลักษณะคล้ายกับสมองของมนุษย์ที่ไม่มีกะโหลกปกป้อง ไม่เพียงจะมีพลังในการสร้างภาพลวงตาที่น่ากลัว แต่ยังสามารถทำให้ศัตรูเสียชีวิตด้วยการโจมตีของตัวเองขณะกล่าว โดเรี่ยนหยิบกระดาษหนังสีน้ำตาลอ่อนออกมา ส่งให้ฟอร์สฟอร์สรับไว้ด้วยความเต็มใจ ตรวจสอบวัสดุว่ามีวัสดุหลักอะไรบ้าง“สมองที่สมบูรณ์ของอัสมาน คำสาปของวิญญาณอาฆาตโบราณ…”หวังว่าเราจะรวบรวมได้ครบก่อนที่โอสถโหราจารย์จะย่อยเสร็จ… ฟอร์สม้วนกระดาษหนัง เหลือบไปเห็นอาจารย์โดเรี่ยนหยิบกล่องสีทองบริสุทธิ์ออกจากกระเป๋าเดินทางสลายกำแพงวิญญาณเสร็จ โดเรี่ยนกล่าว“หากไม่ผนึกไว้ด้วยทองคำ สมองของอัสมานจะส่งอิทธิพลต่อคุณตลอดเวลา ทำให้มองเห็นภาพหลอน จนถึงขั้นจิตตก”ภายในกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส หมอกสีเทากำลังนอนแน่นิ่ง เต็มไปด้วยร่องลึกและส่วนที่นูน สีโปร่งแสง ขนาดเพียงหนึ่งในห้าของศีรษะลูอิส·เวย์นสมกับที่เป็นตระกูลเก่าแก่… ฟอร์สกล่าวขอบคุณอีกครั้ง รับกล่องสี่เหลี่ยมสีทอง ปิดฝาอย่างชำนาญ ใช้พลังวิญญาณเพื่อผนึกจากนั้น โดเรี่ยนบอกให้ฟอร์สช่วยรอสักพัก ลงมือประกอบพิธีกรรม เรียกมาลมอส สัตว์ห้วงมิติผู้รักเสียงดนตรี เอกสารจำนวนสองปึกถูกนำออกจากร่างกลมๆ ของมันนอกจากของขวัญสามชิ้นแรก เนื่องจากโดเรี่ยนค่อนข้างผวากับข่าวของมิสเตอร์ประตู จึงเตรียมสิ่งเหล่านี้มาให้ฟอร์สด้วย ปึกเอกสารถูกวางไว้ข้างลำตัว“นี่คือโฉนดที่ดินในเบ็คลันด์สองแห่ง ที่แรกอยู่ในฮิลสตัน อีกที่หนึ่งอยู่ในเขตเชอร์วู้ด ทำเลค่อนข้างดี ราคารวมน่าจะประมาณหกพันห้าร้อยปอนด์ ขายได้เท่าไร คุณเอาเงินไปเลย” โดเรี่ยนกล่าวพลางยิ้มแม้ว่าตระกูลอับราฮัมจะกำลังเสื่อมโทรม แต่ในฐานะอดีตตระกูลเทวทูต ในฐานะตระกูลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทรัพย์สมบัติติดตัวย่อมไม่ธรรมดา มีทั้งที่ดิน ฟาร์มเกษตร อสังหาริมทรัพย์ บ้าน และเหมืองแร่ แต่โดเรี่ยนได้ครอบครองเพียงบางส่วน ที่เหลือเกือบทั้งหมดจะตกอยู่ในความครอบครองของตระกูลย่อยบ้านที่เรากำลังเช่า มีราคากลางอยู่ที่ประมาณสองพันห้าร้อยปอนด์ ความกว้างน่าพึงพอใจก็จริง แต่ทำเลกลางๆ … สิ่งที่อาจารย์มอบให้เราในวันนี้ มูลค่ารวมไม่น่าจะต่ำกว่าหนึ่งหมื่นปอนด์… ฟอร์สทำได้เพียงแอบถอนหายใจ…ภายในมหาวิหารแห่งวายุ ‘เจ้าพิธีกรรมสีคราม’ เรดาลล์·วาเลนไทน์จ้องหน้าทูตพิพากษาอาวุโสฝั่งตรงข้าม“ผลเป็นยังไง?”อาร์ชบิชอปใหม่แห่งเบ็คลันด์คือชายวัยกลางคนที่มีบรรยากาศคุกคามสุดขีด ผมสีน้ำเงินเข้มหยักศก ติ่งหูใหญ่ ในดวงตาคล้ายกับมีสายฟ้าและพายุกำลังอาละวาดตลอดเวลาฝั่งตรงข้ามคือ อาวุโสของทูตพิพากษา เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างผอมบาง สวมหมวกกัปตันเรือรุ่นใหม่ ไม่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีรอยสักรูปสมอสีน้ำเงินสลับดำตรงคอสุภาพบุรุษตอบด้วยความเคารพ“ท่านเจ้าคุณ พวกเราจับกุมตัวสมาชิกที่เข้าร่วมชุมนุมได้หลายคน… แต่พวกเขาไม่รู้จักกันเลย จึงไม่ต้องพูดถึงผู้ที่สังหารมิสเตอร์ X… จากคำอธิบายของพวกเขา ส่วนสูงของผู้โจมตีคือ 1.6 เมตร จึงน่าจะเป็นเพศหญิง แต่ก็ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้ชายตัวเตี้ย”เรดาลล์พยายามข่มโทสะ“แล้วจะทำยังไงต่อ”“เนื่องจากในตอนนี้ พวกเรายังไม่มีข้อมูลว่ามิสเตอร์ X เชิญใครมาร่วมงานบ้าง และสตรีส่วนใหญ่ก็มีส่วนสูงประมาณ 1.6 เมตรด้วยกันทั้งนั้น แผนการของเราก็คือ ภายนอกแสร้งทำเป็นไม่สนใจ แต่จะคอยจับตามองเป้าหมายที่น่าสงสัยเอาไว้… นอกจากนั้น เราจะเปลี่ยนคนที่จับตัวมาได้ให้เป็นสายข่าว หากเราไม่กระโตกกระตาก พวกเสียสติของชุมนุมแสงเหนือจะต้องตามหาตัวฆาตกรแน่นอน แก้แค้นให้มิสเตอร์ X ด้วยข้อมูลที่ทางนั้นรวบรวมได้… ด้วยเหตุนี้ ไม่เพียงพวกเราจะสาวจนพบตัวมือสังหาร แต่ยังสามารถสืบสวนย้อนรอยไปถึงชุมนุมแสงเหนือได้ด้วย” ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมบางอธิบายรายละเอียดเรดาลล์พยักหน้าครุ่นคิด“รอย… ถ้าคิดจะลงมือ อย่าลืมเบิกสมบัติปิดผนึกระดับ ‘1’ ไปใช้งาน… สถานที่เกิดเหตุได้บอกกับเราแล้วว่า ชุมนุมแสงเหนือจะส่งนักบุญอย่างน้อยหนึ่งคนมาที่เบ็คลันด์แน่นอน และความแข็งแกร่งของมือสังหารคนดังกล่าวน่าจะสูงกว่าลำดับ 5 ทั่วไป นอกจากนั้นก็ยังมีครึ่งเทพอยู่เบื้องหลังเช่นกัน”“ครับ ท่านเจ้าคุณคาร์ดินัล” รอย·เวลลิงตันกล่าวพลางนำกำปั้นขวากระแทกอกซ้าย…“ดอน คุณมักทำให้ผมประหลาดใจได้เสมอ ผ่านไปเพียงไม่นาน คุณกลับศึกษา ‘หนังสือแห่งปัญญา’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ‘วิวรณ์รัตติกาล’ จนแตกฉาน” ภายในวิหารนักบุญแซมมวล บิชอปอีเล็คตร้าปิดพระคัมภีร์ในมือ กล่าวด้วยรอยยิ้มกับเศรษฐีเคร่งศาสนา เจ้าของจอนสีขาว ดวงตาน้ำเงินลุ่มลึกตรงหน้าไคลน์ยิ้มและตอบ“นี่คือสิ่งที่สาวกพึงกระทำ… ต่อไปคือการเรียน ‘จดหมายของนักบุญ’ ใช่ไหมครับ?”“ถูกต้อง คุณอยากเริ่มด้วยนักบุญพระองค์ใด” บิชอปอีเล็คตร้าตั้งคำถามไคลน์กวาดสายตา หัวเราะในลำคอ“นักบุญแซมมวลก็ได้ครับ”บิชอปอีเล็คตร้าไม่ประหลาดใจ เริ่มกล่าวแนะนำด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“นักบุญแซมมวลอาศัยอยู่ในจักรวรรดิทรันซอสต์ ตรงกับช่วงยุคสมัยที่สี่ ในเวลานั้น พระองค์ดำรงตำแหน่งเป็นอาร์ชบิชอปของวิหารภายในเบ็คลันด์ สร้างผลงานมากมายเพื่อเผยแพร่ความเชื่อในตัวเทพธิดา จึงได้เข้าสู่อาณาจักรแห่งเทพขณะยังมีชีวิต กลายเป็นเทวทูต”ขณะเล่า มันพลิกไปยังหน้า ‘จดหมายของนักบุญ’ ที่สอดคล้องกันทันใดนั้น สัมผัสวิญญาณไคลน์พลันถูกกระตุ้น มันรู้สึกว่า ความคิดชั่วร้ายจากชั้นบนค่อยๆ แพร่กระจายออกมาแต่ในวินาทีถัดมา ความรู้สึกเย็นยะเยียบและเงียบสงบเริ่มแผ่ซ่านออกจากพื้นดิน ทำให้ทุกสิ่งสงบนิ่งไปชั่วขณะ เปลี่ยนให้วิหารกลับสู่ภาวะปรกติบิชอปอีเล็คตร้าที่เพิ่งได้สติ กล่าวกับดอน·ดันเตสตรงหน้าที่ ‘ไม่สังเกตเห็นอะไรเลย’“ต้องขออภัยด้วย พอดีผมนึกบางอย่างขึ้นมาได้”……………………………………………
คอมเม้นต์