ราชันเร้นลับ 640 : โจรสลัดหญิง
ไคลน์เองก็อยากทราบผลการดำน้ำลงไปสำรวจก้นทะเล จึงมิได้ซักถามต่อ เพียงเดินผ่านห้องกัปตันและลงบันไดไปยังชั้นล่างผ่านไปสองสามก้าว ชายหนุ่มคันคอจนต้องไอกระแอมสองหนโดยใช้กำปั้นปิดปากสำหรับอาการป่วย มันไม่ประหลาดใจสักเท่าไร เพราะเมื่อคืนต้องพกขวดพิษชีวภาพไว้กับตัวนานเกินสองชั่วโมง ด้วยเกรงว่าพลเรือเอกดวงดาวและลูกเรืออาจคิดไม่ซื่อกับตน แต่หลังจากผ่านไปสักพักจนมั่นใจ ขวดพิษก็ถูกลำเลียงกลับมิติหมอก อย่างไรก็ตาม นั่นยังไม่เพียงพอจะให้รอดจากอาการป่วยกระเสาะกระแสะแต่เนื่องจากพกขวดพิษติดตัวไว้ไม่นาน ร่างกายจึงมิได้อ่อนแอลง อาการมีเพียงคันคอและไอกระแอมขณะเดียวกัน แคทลียาที่เดินตามหลังอย่างไม่รีบร้อนได้เห็นภาพดังกล่าวเข้าพอดี แต่เธอมิได้คิดว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องแปลก อยู่ในขอบเขตที่สามารถหาเหตุผลรองรับได้เป็นที่ทราบกันดีว่า การพกพาสมบัติวิเศษจะมาพร้อมผลข้างเคียงเสมอ และเธอได้เห็นตัวอย่างจากเจ็ดโบสถ์หลักแล้วว่า ในบางกรณี หากพกพาติดตัวเป็นเวลานานเกินไป สมบัติวิเศษก็อาจส่งผลข้างเคียงร้ายแรงได้ไม่แพ้สิ่งที่เรียกว่าสมบัติปิดผนึกนั่นยังเป็นเหตุผลที่แคทลียาตัดสินใจขายสมบัติวิเศษระดับกลางและต่ำไปจนหมด เธอต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อสมบัติวิเศษทรงพลังจำนวนน้อยชิ้น มากกว่าพกพาสมบัติวิเศษระดับต่ำหลายชิ้น และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ หญิงสาวไม่ต้องการมัวกังวลกับผลข้างเคียงหลายชนิดให้ปวดหัว การมีเพียงน้อยชิ้นจะช่วยให้หลีกเลี่ยงได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลหายนะแบบลูกโซ่ ซึ่งอาจเกิดจากการซ้อนทับของผลข้างเคียงหลายประเภท สำหรับผู้วิเศษทั่วไป สิ่งเหล่านี้เป็นโทษมากกว่าประโยชน์เมื่อวานเธอได้เห็นไปแล้วว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์พกพาสมบัติวิเศษเต็มอัตราศึกเพียงใด แถมยังมียันต์กับวัตถุวิเศษอีกจำนวนหนึ่ง แคทลียาจึงนึกสงสัยมาตลอดว่า ผลข้างเคียงแบบใดจะเกิดขึ้นกับร่างกายอีกฝ่ายบ้าง และปัจจุบันก็เริ่มเผยให้เห็นแล้วหลังจากย่างกรายออกมายังดาดฟ้าเรือ ไคลน์พบแฟรงค์·ลี อีกฝ่ายยังคงสวมเชิ้ตขาวและกางเกงยีนส์ติดสายรัดบ่า ชายแขนเสื้อถูกถกขึ้นสูงจนเผยให้เห็นท่อนแขนเปื้อนโคลน ราวกับไม่เกรงกลัวอากาศหนาวเย็นแม้แต่น้อย“อรุณสวัสดิ์ เกอร์มัน” แฟรงค์โบกมืออย่างกระตือรือร้น “เข้ามาสิ! ฉันจะให้นายดูผลงานชิ้นโบแดงชนิดล่าสุด! มันจะต้องได้รับความนิยมในทะเลอย่างแน่นอน!”แฟรงค์กล่าวพลางชูมือข้างหนึ่ง บนฝ่ามือมีปลาทะเลตัวใหญ่และหนาซึ่งไม่ทราบสายพันธุ์ไม่มีทาง… ฉันไม่อยากรู้สักนิด ว่านายกำลังจะสร้างสัตว์ประหลาดแบบไหนออกมาอีก…ไคลน์ชะงักฝีเท้า จ้องมองด้วยสายตาเย็นชาแฟรงค์·ลีมิได้มองว่าท่าทีตอบสนองเช่นนี้เป็นเรื่องผิด เพียงหยิบมีดสั้นออกจากเอวและแทงเข้าไปในตัวปลา ก่อนจะตวัดมือกรีดเป็นทางยาวเลือดสดพุ่งกระฉูด ส่วนหนึ่งตกลงไปในแก้วเบียร์ใบใหญ่บนพื้นดาดฟ้า แต่กลับมิได้ส่งกลิ่นคาวปลาออกมาอย่างที่ควร“ได้กลิ่นไหม? กลิ่นอันแสนเย้ายวนยังไงล่ะ!” แฟรงค์·ลีหลับตาลงหนึ่งข้าง กล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี “นี่คือปลาที่มีเลือดเป็นไวน์แดง! แถมยังเป็นไวน์ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร!”ไคลน์ถึงกับหมดคำพูดแฟรงค์มองไปยังลูกเรือรอบตัวอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็กล่าวกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์“คุณรู้ไหมว่าเรื่องใดสร้างความรำคาญใจมากที่สุดในทะเล? ถูกต้อง นั่นคือการที่แอลกอฮอล์หมดก่อนเรือจะแล่นถึงฝั่ง! แต่ถ้าปลาตัวนี้ขยายพันธุ์จนเต็มท้องทะเลเมื่อไร ไม่ว่าพวกเราจะเดินทางไปที่ใดก็ไม่มีวันขาดเหล้า! แต่รสชาติต้องหลากหลาย แลงติร้อนแรงบ้าง เนโพสบ้าง ไวน์แดงบ้าง เบียร์บ้าง แต่ถ้าเบียร์ต้องเป็นวาฬกับฉลาม ไม่อย่างนั้นจะไม่พอกิน!”ไม่ใช่ว่า ปัญหาใหญ่บนเรือคือการขาดแคลนน้ำดื่มหรอกหรือ? นั่นสินะ พวกนายคงซัดเหล้ากันต่างน้ำ เพราะย่อยได้ง่ายกว่ามาก…เฮ่อ… เจ้าปลาผู้น่าสงสาร…ขณะไคลน์กำลังไตร่ตรองว่าตนควรตอบสนองแฟรงค์อย่างไร พลเรือเอกดวงดาวเดินเข้ามาใกล้พลางซักถามรองกัปตันเรือ“นีน่าพร้อมหรือยัง”“พร้อมครับ เธอดื่มเนโพสไปแล้วหนึ่งขวด” แฟรงค์ชี้ไปทางเงามืดที่เกิดจากใบเรือเตรียมพร้อมด้วยการดื่มเนโพสซึ่งมีรสชาติคล้ายลำคอถูกแผดเผาเข้าไปหนึ่งขวด?ไคลน์เชื่อว่า สตรีนามนีน่าจะต้องมีสายเลือดฟุซัคอย่างแน่นอน“กัปตัน แต่ฉันอยากกินไวน์เลือดโซเนียมากกว่า!” ภายในเงามืด ร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งเดินออกมาอย่างใจเย็นส่วนสูงเกินกว่า 1.8 เมตร เส้นผมสีทองถูกมัดรวบสูงเป็นทรงหางม้า ใบหน้าไม่โดดเด่น แต่ก็แฝงเอกลักษณ์ของชาวฟุซัค ผิวพรรณขาวเนียนและดวงตาสีอ่อนสตรีนามนีน่าสวมชุดรัดรูปสีดำสนิทที่ทำจากเกล็ดปลา ท่อนล่างและบนเชื่อมติดกันเป็นเนื้อเดียว ช่วยส่งเสริมทรวดทรงอันเซ็กซี่และเนื่องจากขนาดหน้าอกที่ใหญ่เกินมาตรฐานไปพอสมควร สายตาของโจรสลัดโดยรอบจึงไม่มองไปทางอื่นไคลน์ค่อนข้างกระอักกระอ่วน ในใจต้องการเบือนหน้าหนี แต่เมื่อพิจารณาว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์มิใช่ไก่อ่อนไร้เดียงสา จึงทำเพียงลดประกายในดวงตาลง และเงยขึ้นไปจ้องใบหน้าหญิงสาวอย่างไร้อารมณ์“เกอร์มัน ทางนี้คือนีน่า หนึ่งในสรั่งเรือของพวกเรา เป็นรองหัวหน้าสรั่งเรือ ลำดับปัจจุบันของเธอคือ ‘นักเดินเรือ’ ” แฟรงค์·ลียังคงแนะนำตัวพวกพ้องแบบไม่หวงแหนข้อมูลหากไม่นับการผสมข้ามสายพันธุ์ที่ขาดจิตสำนึก ‘ผู้เชี่ยวชาญพิษ’ คนนี้นับว่าใสซื่ออย่างมาก… จำได้แล้ว สตรีนามว่านีน่าเป็นเจ้าของค่าหัวสามพันหกร้อยปอนด์ ฉายาคือ ‘นักฆ่าก้นทะเล’ เฮ่อ… ใบประกาศจับมีมากเกินไป หลายครั้งก็จำไม่ได้ในทันที…ไคลน์จ้องตานีน่า กล่าวเรียบง่าย“อรุณสวัสดิ์ มาดาม”นีน่ายิ้ม สำรวจไคลน์หัวจรดเท้า“อรุณสวัสดิ์ มิสเตอร์สแปร์โรว์ ฉันสงสัยมานานแล้ว พลเรือโทโรคภัยงดงามและทรงเสน่ห์ตามข่าวลือจริงหรือไม่”ในฐานะที่เป็นโจรสลัดจากครอบครัวชนชั้นกลางค่อนไปทางล่าง เธอไม่แบ่งแยกชายหญิง ปราศจากความเขินอายที่จะสนทนากับเพศชายหลังจากเห็นท่าทีตอบสนองเมื่อครู่ของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ นีน่าต้องการถามกับอีกฝ่ายว่า ตนยังเซ็กซี่ไม่มากพอ หรือเพราะเขาเป็นคนตายด้านกันแน่ จึงเมินกันเฉยโดยสมบูรณ์เช่นนี้แต่หลังจากไตร่ตรองอย่างละเอียดและตระหนักว่า บุรุษตรงหน้าคือบุคคลทรงพลังที่เกือบ ‘ล่า’ พลเรือโทโรคภัยสำเร็จ และยังเป็นคนที่ชักปืนยิงใส่ศัตรูได้อย่างเลือดเย็น นีน่าตัดสินใจกลืนคำถามข้างตนลงคอ เลือกเบี่ยงประเด็นไปถามเกี่ยวกับพลเรือโทโรคภัยแทนควรตอบยังไงดี…ไคลน์ครุ่นคิด ก่อนจะมอบคำตอบเสียงแผ่ว“ค่าหัวของหล่อนมีเสน่ห์มาก”นีน่าผงะไปหลายวินาที ไม่ทราบว่าตนควรตอบสนองเช่นไร ก่อนจะหันไปถามกับพลเรือเอกดวงดาว“กัปตัน เริ่มเลยไหม”แคทลียาซึ่งกำลังนึกทบทวนค่าหัวตัวเอง มอบคำตอบหน้านิ่ง“เริ่มได้”เมื่อสิ้นเสียง นีน่าสับเท้าวิ่งไปทางกราบเรือ กระโดดพุ่งหลาวลงไป เกิดเสียงดังคล้ายกับปลาตัวใหญ่ถูกโยนลงน้ำนอกจากนั้นยังมีเสียงกระโดดน้ำดังตามมาอีกสองสามครั้ง เป็นลูกเรือคนอื่นที่ดำลงไปคอยช่วยสนับสนุนนีน่าหืม… บอกให้เริ่มก็เริ่มทันทีโดยไม่ลีลา… นิสัยเหมือนกับพวกโบสถ์วายุสลาตัน สมแล้วที่เป็นเส้นทางนักเดินเรือ…ไคลน์มองออกไปนอกลำเรือ ปิดปากกระแอมสองสามหน“ป่วยหรือ?” แฟรงค์·ลีซักถามซื่อตรงไคลน์พยักหน้าแผ่วเบาจนยากสังเกตเห็น“นิดหน่อย”แฟรงค์ก้มหน้าใคร่ครวญสักพัก ไม่พูดพร่ำ รีบเดินดุ่ยกลับเข้าเขตห้องพัก ไม่มีใครทราบว่าปลายทางคือที่ใดถัดไปไม่ไกล พลเรือเอกดวงดาว·แคทลียา ขยับแว่นตาเลนส์หนาพลางเผยรอยยิ้ม“แฟรงค์อาจได้ชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญพิษ แต่เขาก็เป็นหมอที่เก่งมากเช่นกัน”สมแล้วที่เป็นเส้นทาง ‘นักเพาะปลูก’ …ไคลน์ไม่ถามต่อ ยืนรอผลการสำรวจของนีน่าอย่างคาดหวังเมื่อแคทลียาเห็นภาพดังกล่าว เธอเองก็พลอยเงียบตาม เกิดเป็นบรรยากาศแปลกประหลาดชวนให้อึดอัด จึงตัดสินใจเดินเข้ามาใกล้ไคลน์และเล่าอย่างเป็นกันเอง“อีกแค่วันเดียว พวกเราก็จะพ้นจากเส้นทางล่าวาฬขาวแล้ว”“…น่านน้ำสำหรับล่าวาฬต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในการแล่นให้พ้นไม่ใช่หรือ”ไคลน์ผุดคำถามหลังจากนึกทบทวนข้อมูล“นั่นคือกรณีที่แล่นไปบนเส้นทางล่าวาฬตามปรกติ จะเป็นการอ้อมขึ้นเหนือเล็กน้อย แต่ฉันรู้ทางลัดที่ช่วยให้ไปถึงเป้าหมายของคุณได้ภายในสองสามวัน” แคทลียาใช้ดวงตาสีม่วงมองลอดเลนส์หนา จ้องเข้าไปในตาไคลน์ หวังหยั่งเชิงว่าอีกฝ่ายมีข้อมูลของน่านน้ำอันตรายมากน้อยเพียงใดไคลน์ใคร่ครวญ ตอบห้วน“เยี่ยมมาก ตรงตามที่ผมต้องการ จากข้อมูลในมือผม เขตดังกล่าวจะดูเหมือนกับภาพมายามากกว่าของจริง”แคทลียามองกลับไปยังทางเข้าห้องพักแฟรงค์·ลีเดินกลับออกมา ในมือถือแอปเปิลเขียวหนึ่งผล“นี่คืออีกหนึ่งความสำเร็จของผม การผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างยาและผลไม้ ช่วยให้การกินยาเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น!” มันฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับยื่นแอปเปิลเขียวให้ไคลน์ฉันเกรงว่า หากกินเจ้านี่เข้าไป อาการป่วยอาจเลวร้ายยิ่งกว่าเก่า…ไคลน์ชำเลืองแคทลียาด้วยหางตา เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้ายืนยัน จึงรวบรวมความกล้าเพื่อกัดผลแอปเปิลหนึ่งคำใหญ่รสชาติคล้ายแอปเปิลปรกติ แต่มีความชุ่มฉ่ำมากกว่า และเนื้อนุ่มกว่า…กัดไปอีกสองสามคำ ไคลน์พบว่าอาการคันคอของตนหายเป็นปลิดทิ้งอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่รู้สึกอยากไอกระแอมอีกต่อไปคงต้องยอมรับว่า มหัศจรรย์มาก… ตราบใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับสัตว์และมนุษย์ พรสวรรค์ของแฟรงค์·ลีเข้าขั้นอัจฉริยะที่หาตัวจับยาก สามารถเป็นบุคคลสำคัญของโบสถ์พระแม่ธรณีได้สบาย..น่าเสียดาย เขาถูกฟ้ากำหนดให้เป็นปีศาจ…ไคลน์มองหน้าผู้เชี่ยวชาญพิษ แฟรงค์·ลี พลางกล่าวห้วน“หายสนิทแล้ว”“ดีใจด้วย” แฟรงค์ไม่กล่าวชมตัวเอง เพียงใช้เวลาว่างตรงนี้ กล่าวแนะนำโจรสลัดคนอื่นให้เกอร์มัน·สแปร์โรว์รู้จักผ่านไปสักพัก นีน่าและกลุ่มของเธอว่ายขึ้นมาบนผิวน้ำ ปืนขึ้นเรือและเดินมาทางกัปตันในมือของเธอกำลังถือแผ่นโลหะสีดำขึ้นสนิม เต็มไปด้วยช่องว่างผุพังคล้ายรวงผึ้ง ไม่มีใครทราบว่ามันเคยเป็นอะไรมาก่อนนีน่ายื่นสิ่งที่ตนค้นพบให้พลเรือเอกดวงดาว“กัปตัน บ่อน้ำขนาดมหึมาไม่มีอยู่จริง! บ่อนั่นเล็กกว่ารอบอกของฉันเสียอีก! แต่มันค่อนข้างลึกและมืดมาก ไม่แน่ใจว่าข้างล่างซ่อนอะไรไว้”เธอแสดงภาษากายประกอบ“เรื่องเล่าเกินจริงเป็นของคู่กับโจรสลัดและนักผจญภัยอยู่แล้ว” แคทลียาพยักหน้า จงใจไม่เลือกใช้คำว่า ‘โอ้อวด’เส้นรอบวงเล็กแค่นี้เองหรือ…ไคลน์จ้องหน้าอกนีน่าพลางจินตนาการขนาดของบ่อน้ำ ก่อนจะเบือนสายตาออกจากร่างกายที่ชุ่มน้ำทะเลอย่างสุภาพแคทลียามีท่าทีตอบสนองคล้ายกัน เพียงแต่เธอเงยหน้าถามอีกฝ่าย“เล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อย”……………………
คอมเม้นต์