ราชันเร้นลับ 553 : ความพยายามของเดนิส
ค่าหัวเพิ่มขึ้น…กล้ามเนื้อแก้มของเดนิสพลันกระตุก มันทำได้เพียงฝืนยิ้มโดยกลบเกลื่อนว่าตนมิใช่เพลิงพิโรธ และไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกันจนกระทั่งไอร์แลนด์กลับไป เดนิสเดินวนไปมาอย่างกระวนกระวาย ก่อนจะหันไปพูดกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์“ฉันคิดพวกเราควรย้ายไปพักโรงแรมอื่น ไม่สิ… ต้องรีบออกจากบายัมให้เร็วที่สุด!”หากเรามีค่าหัวเกินกว่าห้าพันปอนด์ การเดินทางไปไหนมาไหนจะไม่ใช่เรื่องปลอดภัยอีกต่อไป! ไอ้พวกนักผจญภัยและโจรสลัดระดับเดียวกับเราจะโถมเข้าใส่ประหนึ่งฉลามหิวเลือด! สำหรับโจรสลัด ไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะหมายหัวเหยื่อที่ตนคิดว่าล่าไหว นอกจากจะทำเงินก้อนโตได้เร็ว ยังเป็นการสร้างชื่อเสียงไปในตัว โจรสลัดที่มีค่าหัวเกินฝีมือจึงไม่ต่างอะไรกับหีบสมบัติ!เดนิสจินตนาการถึงหายนะที่กำลังคืบคลานเข้าใกล้ตนทุกขณะไคลน์มิได้เห็นด้วยหรือปฏิเสธ เพียงยิ้ม :“ค่าหัวมากเกินฝีมือ… ก็เลยกังวล?”เดนิสพยักหน้าหนักแน่น ยอมรับว่าคำพูดของชายเสียสติ เกอร์มัน·สแปร์โรว์ มีเหตุผลเป็นอย่างยิ่งในคราวนี้“นอกจากหลบหนี… ยังมีอีกหนึ่งวิธี”ไคลน์กล่าวพลางเดินไปยังราวแขวนผ้าหน้าประตูห้อง“วิธีอะไร…” เดนิสถามด้วยความสงสัยชายหนุ่มดึงหมวกผ้าไหมทรงกึ่งสูงออกจากราว และสวมลงบนศีรษะของตน“เพิ่มลำดับพลัง”ให้สอดคล้องกับค่าหัว…ไคลน์สวมโค้ท บิดกลอนประตู และเดินออกจากห้องพักสุดหรูเพิ่มเป็นลำดับ 6? นักวางแผน?เดนิสชะงักไปหลายวินาที ก่อนจะขมวดคิ้วพลางเผยรอยยิ้มขื่นขมขณะดื่มโอสถลำดับ 9 นักล่า และลำดับ 8 นักยั่วยุเข้าไป เดนิสไม่พบปัญหาใดเลย จนถึงขั้นเคยวาดฝันว่า ตนอาจเติบโตและกลายเป็นผู้ค้นพบหนึ่งในสมบัติระดับตำนาน หรือไม่ก็ตามล่าสูตรผลิตและวัตถุดิบโอสถมาขายได้เป็นกอบเป็นกำ เลื่อนลำดับกลายเป็นครึ่งเทพ และก้าวขึ้นเป็นราชาโจรสลัดคนที่ห้า แต่ทุกสิ่งเปลี่ยนไปหลังจากดื่มโอสถลำดับ 7 นักวางเพลิง ความเจ็บปวดเจียนตายและความรู้สึกหวาดกลัวยังคงตามหลอกหลอนในบางคืนเดนิสแทบไม่อยากเชื่อ ทั้งที่ตนทำตามคำแนะนำของกัปตันอย่างเคร่งครัด คอยยั่วยุศัตรูในทุกโอกาสสมัยยังเป็นลำดับ 8 แต่กลับลงเอยด้วยการเกือบคลุ้มคลั่งหลังจากดื่มโอสถลำดับ 7 เข้าไปเดนิสไตร่ตรองอย่างจริงจังทันที ตนควรหยุดการเดินทางไว้เพียงเท่านี้ดีไหม เงินออมในปัจจุบันก็นับว่ามาก สามารถกลับไปเป็นเศรษฐีในสาธารณรัฐอินทิสได้สบายมันยืนนิ่งเป็นเวลานาน เหม่อลอยราวกับคนจิตหลุดหลายวินาที ก่อนจะตั้งคำถามกับตัวเองถึงเราอยากดื่มโอสถลำดับ 6 ตอนนี้ แต่กว่าจะเตรียมการเสร็จก็คงอีกนานโข ต้องเสียเวลาค้นหาสูตรผลิต เสียเวลารวบรวมวัตถุดิบหลัก กิจกรรมข้างต้นล้วนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ค่าหัวของเราสามารถเพิ่มขึ้นได้ทุกวัน อาจเป็นพรุ่งนี้ วันมะรืน หรือแม้กระทั่งวันนี้!ดังนั้น อย่างน้อยก็ต้องเปลี่ยนโรงแรม หรืออย่างมากก็ต้องรีบออกจากบายัมให้เร็วที่สุด!…หลังออกจากบริษัทการค้าราล์ฟ อัลเจอร์ทำตัวเสมือนว่ายุ่งมาก แต่ความจริงแล้วแค่ทำงานพอเป็นพิธี เดินไปนั่นมานี่เพื่อไถ่ถามเบาะแสจากคนในพื้นที่ จนกระทั่งใกล้ช่วงเที่ยงวัน มันได้รับข่าวด่วนกะทันหัน“เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ผู้ที่นำใบประกาศมาแปะหน้าวิหารคือเพลิงพิโรธ เดนิส พยายามสืบหาแหล่งกบดานของมัน”เพลิงพิโรธ เดนิส…อัลเจอร์ยื่นแขนออกไปรับแผ่นกระดาษ พลางพึมพำทวนชื่อของบุคคลที่เป็นเป้าหมายภารกิจในใจ มุมปากบรรจงยกโค้งทีละนิด ความคลางแคลงทั้งหมดถูกขจัดจนเกลี้ยงมันจินตนาการภาพตัวเองล่องเรือออกไปล่าวัตถุดิบอย่างมีความสุข อัลเจอร์เชื่อโดยไม่เคลือบแคลงว่า ตลอดการเดินทางจะประสบแต่ความราบรื่นการล่องเรือของเราต้องไปได้สวยแน่ เพราะตัวตนใหม่ของมิสเตอร์ฟูลมีชื่อว่า…เทพสมุทร!…เนื่องจากพลาดช่วงเวลาของดาวสีครามไปในตอนเช้า เดนิสจึงต้องรอจนถึงสี่โมงเย็น จึงสามารถประกอบพิธีกรรมวิญญาณสถิตขณะเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่อยู่ที่ห้องมันวาดสัญลักษณ์ของเทพปัญญาความรู้อย่างชำนาญ เป็นภาพดวงตาแห่งปัญญาลอยเหนือหนังสือที่กำลังกางออก ขณะเดียวกัน เดนิสจัดแจงประกอบแท่นบูชาด้วยท่าทางคล่องแคล่วภายในกำแพงวิญญาณ มันจุดเทียนไข หยิบขวดสารสกัดลาเวนเดอร์และมินต์ เปิดฝาหยดลงบนเปลวเทียนที่กำลังลุกไหม้ท่ามกลางกลิ่นสดชื่นและหอมหวนฟุ้งกระจาย เพลิงพิโรธ·เดนิสยังคงจุดเผาผงสมุนไพรอีกหลายชนิดอย่างต่อเนื่องเมื่อจัดการเสร็จทั้งหมด มันก้าวถอยหลังพลางเปล่งเสียงภาษาเฮอร์มิสโบราณ“ข้าขอวิงวอนเพื่อพลังแห่งความรู้… ข้าขอวิงวอนเพื่อพลังแห่งเหตุและผล… ข้าขอวิงวอนโดยปรารถนาความเมตตาจากเทพแห่งปัญญา… ข้าต้องการสื่อสารทางวิญญาณกับ อาจารย์ผู้แสวงหาความรู้ นักวิจัยสิ่งมีชีวิตโลกวิญญาณ พลเรือโทธารน้ำแข็งแห่งท้องทะเล เอ็ดวิน่า·เอ็ดเวิร์ดแห่งลุนเบิร์ก”…ฟ้าว!ท่ามกลางเสียงสวดภาวนาดังสะท้อนกังวาน บรรยากาศภายในกำแพงวิญญาณพลันเย็นยะเยือก นอกจากเทียนไขทั้งสามเล่ม ทุกสิ่งบนแท่นบูชาล้วนลอยขึ้นอย่างเชื่องช้า ไม่ว่าจะเป็นกริชทองเหลือง จานเกลือ ขวดน้ำค้างบริสุทธิ์ ปากกา หรือกระดาษเดนิสรอคอยอย่างประหม่า ไม่ทราบเลยสักนิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปบ้างผ่านไปราวสิบวินาที แสงจากเทียนไขพลันโยกคลอนในจังหวะเดียวกัน พร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีเขียวอ่อนร่างกายเดนิสแข็งทื่อทันที พลังลึกลับในคราบความเย็นกำลังแทรกแซงร่างกาย มิอาจต่อต้านได้ด้วยประการทั้งปวงมันเห็นขาของตนขยับไปเอง เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวมันเห็นแขนข้างซ้ายยกขึ้น จับปากกาสีดำและกระดาษสีขาวมันเห็นตัวเองโน้มร่างกายท่อนบนลงเล็กน้อย มือซ้ายจับปากกา เขียนขยุกขยิกรวดเร็ว“มีอะไร?”ตัวอักษรบนกระดาษนับว่าวิจิตรงดงามและเป็นระเบียบ แตกต่างจากลายมือปรกติของเดนิสโดยสิ้นเชิงมันเพิ่งรู้ตัวว่า ตนยังสามารถขยับอวัยวะตั้งแต่ส่วนลำคอขึ้นมาได้“หัวหน้า เทพสมุทร·คาเวทูว่าตายแล้ว!” เดนิสแผดเสียงค่อนข้างแหบ คล้ายกับคนป่วยเป็นไข้หวัดรุนแรง“รายละเอียด” แขนซ้ายยังคงตวัดเขียนหนังสืออย่างชำนาญเดนิสกำลังรอจังหวะนี้อยู่ มันรีบเล่าเรื่องราวตั้งแต่เริ่มโดยไม่แต่งเติม มีทั้งการเดินทางไปยังเกาะไซมีมของเกอร์มัน·สแปร์โรว์เพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของนักผจญภัยคนหนึ่ง มีทั้งเรื่องที่อีกฝ่ายถูกคำสาปเทพสมุทรเล่นงาน แต่กลับขจัดได้หมดจดหลังจากปิดประตูไม่กี่วินาที มีทั้งเรื่องที่ชายเสียสติคนนี้เดาผิด เข้าใจว่าโบราณสถานของเอลฟ์คือโบราณสถานเทพสมุทร โดยผนวกเข้ากับเรื่องจิปาถะอีกเล็กน้อยสรุปสุดท้าย เดนิสเสริมจุดประสงค์ที่แท้จริงของตนเข้าไป“ผมไม่คิดว่าพลเรือเอกโลหิตจะวกกลับมายังบายัมในอนาคตอันใกล้ ไม่มีโจรสลัดชื่อดังหน้าไหนโง่ขนาดนั้นแน่! อย่างน้อยก็ครึ่งปี จนกว่าผลกระทบจากเหตุการณ์คราวนี้จะเริ่มซาลง กัปตัน คุณกับเกอร์มัน·สแปร์โรว์ควรพับเก็บแผนล่าเซนอลไปก่อน ผ…ผมอยากกลับฝันทองคำใจแทบขาดแล้ว!”มือซ้ายของมันชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเขียน“คุณอยู่กับเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไปก่อน เป็นคนกลางช่วยประสานงานระหว่างฉันกับเขา”“กัปตัน คุณสอนพิธีกรรมวิญญาณสถิตให้ชายคนนั้นไม่ได้หรือ…” เดนิสเปล่งเสียงแหบพร่าเจือความเศร้าสลดมือซ้ายเริ่มเขียน“พิธีกรรมนี้จะสำเร็จก็ต่อเมื่ออยู่ห่างกันไม่เกินห้าร้อยไมล์ทะเล จึงต้องคัดเลือกผู้ประกอบพิธีกรรมเป็นอย่างดี จะให้ใครทำส่งเดชไม่ได้ เพราะจะอันตรายกับเราทุกคน พวกเราจะไม่แจ้งตำแหน่งของฝันทองคำด้วยช่องทางอื่นนอกจากจุดนัดพบ และคุณเป็นคนที่รู้จักจุดนัดพบแทบทุกเกาะบนทะเลโซเนีย ฉันคงนำความลับของเราไปบอกกับคนนอกไม่ได้”จริงด้วย…เกอร์มัน·สแปร์โรว์เป็นเพียงคนนอก…แต่ว่านะกัปตัน ผมอยากกลับไปขึ้นฝันทองคำแทบแย่แล้ว!เดนิสเค้นสมองนึก ก่อนจะรีบกล่าว“ชวนเขาขึ้นเรือได้ไหม? ไม่สิ น…นั่นคงไม่ดีแน่”ทันใดนั้น มันเริ่มมองเห็นแสงสว่าง“กัปตัน! ชายคนนั้นมีผู้ส่งสาร! ใช่แล้วผู้ส่งสาร! สิ่งมีชีวิตที่ท่องไปในโลกวิญญาณเพื่อส่งจดหมายให้เขา!”นี่คือการติดต่อที่ปราศจากเงื่อนไข และจะไม่มีความลับใดถูกเปิดเผย เราจึงไม่ต้องคอยเป็นคนกลางอีกต่อไป!เดนิสทำหน้าโล่งใจคราวนี้ แขนซ้ายลอยเหนือกระดาษนานหลายวินาที จึงค่อยเริ่มเขียนอีกครั้ง“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา หากสิ้นสุดวันหยุดยาวช่วงปีใหม่เมื่อไร คุณกลับมาขึ้นเรือได้ทันที จริงอยู่ คุณอาจมีพรสวรรค์ทางด้านภาษา แต่สาขาอื่นยังบกพร่องอยู่มาก จำเป็นต้องพยายามอย่างหนักเพื่อตามคนอื่นให้ทัน ฉันจะเพิ่มคาบเรียนพิเศษให้คุณตามความต้องการ”เดนิสอ้าปากค้าง ไม่มีลมใดพ่นออกไปมันเพิ่งตระหนักได้เมื่อสายว่า การกลับไปขึ้นเรือฝันทองคำ อาจไม่ใช่สิ่งที่ตนรอคอยสักเท่าไร…ตกเย็น ไคลน์กลับถึงโรงแรมวายุครามความพยายามอย่างหนักตลอดทั้งวันไม่เป็นผล ไคลน์ไม่พบเป้าหมายการสวมรอย คงเป็นเพราะการสืบสวนแบบปูพรมในวันก่อน โจรสลัดและนักผจญภัยที่มีค่าหัวเกือบทั้งหมดจึงถูกจับกุม ส่วนที่ยังเหลือก็เอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในที่พัก ไม่กล้าเตร็ดเตร่ส่งเดช หลังจากตระเวนไปตามผับ ซ่อง ย่านการค้า ย่านแออัด ไคลน์พบว่าลูกค้าของธุรกิจข้างต้นบางตาลงอย่างเห็นได้ชัด“คือว่า…” เดนิสกระแอมล้างคอ พลางยิ้มแห้งและเริ่มเล่า “เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เคยใช้พิธีกรรมวิญญาณสถิต ฉันจึงตัดสินใจทดสอบดูก่อน ฮะฮะ…โชคดีที่มันประสบความสำเร็จ ทำให้ฉันได้คุยกับกัปตันพอสมควร เธอเองก็มองว่า แผนการไล่ล่าพลเรือเอกโลหิตคงไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้แน่ จึงเตรียมเรียกฉันกลับฝันทองคำ สำหรับการติดต่อในภายหลัง นายเองก็มีผู้ส่งสารไม่ใช่หรือ… ค่อยให้ผู้ส่งสารนำจดหมายไปมอบให้กัปตันโดยตรงก็ได้”ผู้ส่งสารตนนั้นเป็นของลูกพี่ใหญ่ ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย…ตามหลักแล้ว อุปกรณ์อัญเชิญผู้ส่งสารจะมีขอบเขตการใช้งานจำกัด สามารถส่งจดหมายกลับไปยังเจ้านายได้เพียงอย่างเดียว มิอาจออกนอกลู่นอกทางไปส่งให้เป้าหมายอื่น… การอัญเชิญผ่านพิธีกรรมก็ไม่ต่างกัน เหมือนกับกรณีของมาดามดาลีย์..นึกขึ้นได้พอดี เรามีความคิดจะหาผู้ส่งสารของตัวเองนานแล้ว ถ้าทำสำเร็จ การใช้ชีวิตก็จะง่ายขึ้นมาก… ส่วนทำอย่างไรนั้น แน่นอน ไว้เขียนจดหมายถามมิสเตอร์อะซิก คงไม่มีใครชำนาญด้านนี้ไปกว่าเขาอีกแล้ว…ไคลน์ดึงบรรจงดึงเก้าอี้ออก ทิ้งตัวนั่งลง และโน้มร่างกายท่อนบนไปข้างหน้าเล็กน้อยมันกล่าวเสียงทุ้ม“แจ้งให้กัปตันของนายทราบว่า ฉันมีวิธีตามหาตัวพลเรือเอกโลหิต”“อ…เอ๋…?” เดนิสถึงกับผงะ ไม่คาดคิดว่าตนจะได้รับคำตอบเช่นนี้ถัดมา มันเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์เริ่มฉีกยิ้มกว้างขึ้นทีละนิด พร้อมกับทวนคำซ้ำ“แจ้งกัปตันของนาย”ร่างกายเดนิสพลันสั่นเทา แต่ก็ไม่กล้าตั้งคำถามใด ทำได้เพียงฝืนยิ้ม“ต…ต้องรอให้ถึงช่วงเวลาของดาวสีครามรอบถัดไป ห…ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนของวันนี้”“เก่งมาก” ไคลน์ยังคงยิ้มเยือกเย็นแม้จะได้รับคำชม แต่เดนิสกลับไม่มีความสุขเลยสักนิดไคลน์เหยียดตัวลุกขึ้นยืน เตรียมสวาปามอาหารสุดพิเศษสำหรับค่ำมื้อค่ำชายหนุ่มเดินกลับเข้าห้องนอนอาหารชนิดนี้มีชื่อว่า เทียทีว่า เป็นภาษาโลเอ็นที่มีความหมายว่า เนื้อในผลไม้ กรรมวิธีไม่ซับซ้อน เจาะเอาเนื้อผลไม้ด้านในออกจนหมด เหลือไว้เพียงเปลืองแข็ง จากนั้นก็ยัดเนื้อแกะและปลาเข้าไป ปรุงรสด้วยเกลือทะเลกับเครื่องเทศ นำไปอบซ้ำอีกหลายรอบ จะทำให้ได้เนื้อสัตว์รสอร่อย กลิ่นหอมหวน ผสานเข้ากับรสเปรี้ยวและหวานจากเปลือกผลไม้เป็นอย่างดีเมื่อปิดประตูสนิท ชายหนุ่มลงมือเขียนจดหมายเป็นอันดับแรก เพื่อขอบคุณคำชี้แนะในคราวก่อน และถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหาผู้ส่งสารมาครอบครองหลังจากพับกระดาษ ไคลน์ล้วงหยิบนกหวีดทองแดงออกมาเป่าคล้ายกับผู้ส่งสารกำลังรีบ เมื่อรับจดหมาย มันหายตัวลงไปในพื้นห้องแทบจะทันทีฟู่ว…ไคลน์ถอนหายใจยาว เตรียมส่งตัวเองเข้าสู่ห้วงมิติสายหมอก เพื่อตรวจสอบว่ามีสาวกเทพสมุทรแจ้งเบาะแสสำคัญเข้ามาบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะเบาะแสให้ตนได้สวมรอยปลอมตัวเป็นใครสักคน……………………
คอมเม้นต์