ราชันเร้นลับ 514 : ตำนานเทพบรรพกาล
ท่ามกลางวังสายหมอกไร้ขอบเขต บรรยากาศโดยรอบยังคงเงียบสงัดเหมือนเช่นทุกคราว‘เดอะมูน’ เอ็มลิน·ไวท์ ลืมตาขึ้นหลังจากถูกส่งตัวมายังดินแดนลึกลับอีกครั้งมันเห็นมิสจัสติสฝั่งตรงข้าม กำลังมองไปทางมุมโต๊ะทองแดงยาวลายโบราณและกล่าวทักทายอย่างยิ้มแย้ม“ทิวาสวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์ฟูล~”จัสติส·ออเดรย์เริ่มทักทายจากเดอะฟูล และไปจบลงตรงเดอะเวิร์ลการเรียงลำดับทักทายเช่นนี้มิได้เป็นไปตามตำแหน่งการนั่ง แต่เรียงตาม ‘ลำดับไพ่’ ในสำรับหลักของไพ่ทาโรต์ เริ่มจากเดอะฟูล และไปสิ้นสุดยังเดอะเวิร์ลนี่คือรายละเอียดปลีกย่อยอันเกิดจากความหลงใหลในศาสตร์เร้นลับของออเดรย์ พฤติกรรมดังกล่าวเด่นชัดขึ้นเมื่อชุมนุมทาโรต์เริ่มมีสมาชิกเป็นจำนวนมากหญิงสาวสูงศักดิ์ มีชาติตระกูล และมองโลกในแง่บวกอย่างมาก… เอ็มลินประเมินตัวตนของอีกฝ่ายภายในใจ พลางพยักหน้ารับการทักทายตามมารยาทระหว่างนั้น มุมสายตาผีดูดเลือดหนุ่มชำเลืองไปทาง ‘เดอะซัน’ ด้านข้าง พลางหวนนึกช่วงเวลาขณะศึกษาประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์ผีดูดเลือด ภายในบ้านบารอนเวย์แมนดี้เมื่อไม่กี่วันก่อนเรายังบกพร่องด้านประวัติศาสตร์อยู่มาก นี่คือความแตกต่างระหว่างนักค้นคว้ามืออาชีพกับมือสมัครเล่น แต่หลังจากสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ตัวข้า เอ็มลิน·ไวท์ จะกลายเป็นนักค้นคว้าประวัติศาสตร์มืออาชีพ…บารอนเวย์แมนดี้ไม่เคยเอ่ยถึงเมืองเงินพิสุทธิ์แม้แต่ครั้งเดียว เราจึงก็มิได้ซักถามออกไปโดยตรง เพราะด้วยฐานะวีรบุรุษในเงามืดของตระกูล เราไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่งเดช…นั่งฟังประวัติศาสตร์ครึ่งวัน ไปเรียนคำสอนจากโบสถ์อีกครึ่งวัน และกลับมาเล่นตุ๊กตาในตอนกลางคืน ชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน…เอ็มลินปล่อยความคิดของตนล่องลอยจนกระทั่ง มันเริ่มขมวดคิ้วเมื่อตระหนักถึงปัญหาสำคัญแล้วทำไมเราถึงยังต้องแวะไปยังโบสถ์ฤดูเก็บเกี่ยวทุกวัน?ในฐานะเผ่าพันธุ์อันสูงส่ง เราต้องจัดการปัญหาของตัวเองให้เด็ดขาด เราอดทนกับสิ่งนี้มานานแล้ว! เฮ่อ… การถูกพี่น้องในตระกูลนินทาลับหลังไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลยสักนิด…เดอะมูน·เอ็มลิน เริ่มผ่อนคิ้วเมื่อเห็นว่ามิสจัสติสจบการทักทาย ผีดูดเลือดหนุ่มเหยียดแขนออกไปและเคาะโต๊ะทองแดงอย่างแผ่วเบา พลางมองไปยังหญิงสาวฝั่งตรงข้ามและกล่าว“วัตถุดิบตามความต้องการของคุณ”จัสติส·ออเดรย์ยกมือขวาขึ้นเพื่อส่งภาษากายเป็นเชิงให้หยุด ก่อนจะยิ้มอย่างสง่างาม“ไว้ค่อยคุยกันในช่วงค้าขายนะคะ ตอนนี้เป็นเวลา ‘อ่าน’ ของมิสเตอร์ฟูล”ฟังจากน้ำเสียง มิสเตอร์แวมไพร์คงรวบรวมอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างผลของต้นคนชราหรือเลือดของมังกรกระจกได้แล้ว…ไม่สิ อาจทั้งสองอย่าง… ออเดรย์ เธอกำลังจะกลายเป็นนักจิตบำบัด! ผู้วิเศษลำดับกลาง!หญิงสาวเผยยิ้มสดใสจากนั้น เธอมองไปทางบุคคลเบื้องหลังม่านหมอกหนาทึบ“มิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ดิฉันรวบรวมไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์ได้อีกสามหน้า~”เหลืออีกแค่สี่หน้าเท่านั้น… หญิงสาวเม้มปากพลางใช้ความคิดเมื่อเห็นมิสจัสติสทำตัวเป็นแบบอย่าง มิสเมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส กล่าวเสริมทันที“มิสเตอร์ฟูล ดิฉันก็มีไดอารีของจักรพรรดิโรซายล์สามหน้าเช่นกัน”เธอเฝ้ารอชุมนุมทาโรต์มาตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากโอสถผู้ฝึกหัดขวดใหม่ซึ่งเพิ่งดื่มซ้ำเข้าไป ถูกย่อยได้เร็วกว่าความคาดหมายในตอนแรกมาก ปัญหาข้างเคียงจึงถูกขจัดอย่างสมบูรณ์เมื่อไม่กี่วันก่อนเดอะซัน·เดอร์ริคเสริมตามทันที“มิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ผมทำการคัดลอกตำนานของเทพบรรพกาลบางส่วนมาแล้ว”จากนั้น เด็กหนุ่มหันไปพูดกับแฮงแมน“ผมทำตารางรายชื่อสัตว์ประหลาดรอบเมืองเงินพิสุทธิ์เสร็จแล้วเช่นกัน”เป็นเด็กดี และไม่ต้องรอให้ใครเตือน…ไคลน์ ผู้กอบโกยผลประโยชน์มากกว่าใครในวันนี้ เอนกายพิงพนักอย่างมีความสุขไม่ได้พัฒนาเลยสักนิด… จริงอยู่ เราอาจไม่ทราบชื่อวัตถุดิบจากสัตว์ประหลาดโดยตรง แต่นี่ถือเป็นการแพร่งพรายข้อมูลเมืองเงินพิสุทธิ์ทางอ้อม… หากปล่อยไว้ เด็กคนนี้จะกลายเป็นปัญหาต่อองค์กรในอนาคต…โชคยังดี สิ่งนี้สามารถแก้ไขได้โดยการเพิ่มความหวาดระแวงและประสบการณ์เข้าไป…แฮงแมน·อัลเจอร์ ส่ายหน้าอย่างจนปัญญาถัดมาไม่นาน ไดอารีจักรพรรดิโรซายล์และตำนานเทพบรรพกาลได้ปรากฏตรงหน้าไคลน์ชายหนุ่มกวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็วหนึ่งรอบ และพบว่าสองจากหกหน้าของไดอารีคราวนี้มีเนื้อหาซ้ำกับของเดิม หนึ่งในนั้นเป็นหน้าของจัสติส ซึ่งแฮงแมนเคยนำมาให้อ่านในช่วงแรกแล้วเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ นอกเสียจากจะสอนภาษาจีนกลางง่ายๆ ให้พวกเขาช่วยจำแนกเอกสาร…ไคลน์ถอนหายใจสั้น พลางใช้จิตย้ายไดอารีสองแผ่นบนไปอยู่ด้านหลังสำหรับไดอารีอีกสี่หน้า ข้อมูลด้านในก็มิได้สลักสำคัญอะไรนัก ส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาซึ่งโรซายล์กำลังสูญเสียอุดมคติ เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับความร่ำรวยและเงินทองเนื้อหาส่วนใหญ่ประกอบด้วยคำถามเช่น ‘วันนี้จะประดิษฐ์อะไรดี’ ‘พรุ่งนี้จะประดิษฐ์อะไรดี’ ‘สิ่งนี้จะขายได้เท่าไร’ และ ‘จะมีนักลงทุนมาสนใจบ้างไหม’ไคลน์เกือบควบคุมอารมณ์ทางสีหน้าไม่อยู่ ชายหนุ่มต้องการจะนำแผ่นไดอารีสามหน้าฟาดใส่หน้าโรซายล์สักป้าบขณะเดียวกัน จัสติส·ออเดรย์เหลือบเห็นไพ่จักรพรรดิมืดกลับมาวางอยู่ด้านหน้าเดอะฟูลในลักษณะคว่ำหน้าท่านให้ข้ารับใช้หยิบยืมไปสะสางภารกิจจริงด้วย! ไม่สิ ยังมีความเป็นไปได้อื่นอยู่ นี่อาจเป็นไพ่เย้ยเทพใบใหม่ ไม่จำเป็นต้องเป็นใบเดิมสักหน่อย!ออเดรย์คาดเดาเรื่อยเปื่อย แววตาเผยความสนใจโดยไม่ปิดบังหลังจากอ่านไดอารีจบ ไคลน์พยายามข่มความหงุดหงิด พลางพลิกไปอ่านตำนานเทพบรรพกาลจากเดอะซันน้อยต่อรายละเอียดค่อนข้างหยาบ แปดเทพบรรพกาลในยุคสมัย 2 ถูกแบ่งออกเป็นสามขั้วอำนาจใหญ่ ฝ่ายแรกประกอบด้วย ราชาคนยักษ์ เออร์เมียร์ ราชาเอลฟ์ ซอนญาธริม และต้นตระกูลแวมไพร์ ลิลิธ ฝ่ายถัดมามี มังกรจินตภาพ·แอนเคอร์เวล ต้นตระกูลฟินิกซ์ เกรจารี และราชามนุษย์กลายพันธุ์ เควาสทูนในส่วนของราชาปีศาจ ฟาโบธี และราชาหมาป่าอสูร·เฟรเกีย ทั้งสองไม่ต้องการเข้าพวกกับใคร มีเป้าหมายเพียงล้มล้างระบอบทั้งหมด และกัดกร่อนมนุษยชาติให้พังพินาศตามบันทึกของเมืองเงินพิสุทธิ์ เทพบรรพกาลทั้งแปดมีลักษณะป่าเถื่อน ชั่วร้าย และน่าขยะแขยง แม้กระทั่งเทพธิดาซึ่งมีรูปร่างคล้ายมนุษย์และดูธรรมดากว่าใครอย่างต้นตระกูลแวมไพร์ ลิลิธ หรือรู้จักกันในนาม ‘ความงามท่วมท้นกายา’ ก็ยังมีมุมน่ารังเกียจเธอจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นก้อนเนื้อน่าขยะแขยงขนาดใหญ่เท่าภูเขา พื้นผิวด้านบนปกคลุมด้วยอวัยวะสืบพันธุ์จำนวนมาก และคอยผุดหมอกสีดำเข้มข้นออกมาตลอดเวลาเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดหากตัวตนทรงพลังคนใดเข้าใกล้ ‘ภูเขา’ ส่วนลึกของจิตใจจะถูกกระตุ้นให้เกิดอารมณ์สืบพันธุ์ จนกระทั่งเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นอวัยวะสืบพันธุ์มีชีวิตไปโดยปริยายนอกเหนือจากเทพบรรพกาลตนอื่น หากสิ่งมีชีวิตใดมองเห็นฉากดังกล่าว พวกมันจะสิ้นสติไปในทันที หรือไม่ก็กลายพันธุ์ หรือไม่ก็กลายเป็นคนบ้า อย่างใดอย่างหนึ่งบันทึกตามตำนานของเมืองเงินพิสุทธิ์จะถูกเขียนขึ้นจากเอกสารโบราณภายในวังราชาคนยักษ์ หรืออย่างน้อย บรรพบุรุษเมืองเงินพิสุทธิ์ก็อ้างไว้แบบนั้นยังมีความเป็นไปได้ว่า เผ่าคนยักษ์อาจแต่งเรื่องใส่ร้ายพันธมิตร… แต่เรื่องนี้สอดคล้องกับข้อมูลซึ่งระบุว่า ในภายหลัง ลิลิธได้สูญเสียอำนาจในดวงจันทร์บรรพกาล—เป้าหมายการสวดวิงวอนของผีดูดเลือดจำนวนมาก…หรือนี่จะเป็นชะตากรรมของผู้เดินบนเส้นทาง ‘จันทรา’ ทุกคน?ไคลน์หักห้ามตัวเองมิให้ชำเลืองสายตาไปมองเอ็มลิน·ไวท์ตามตำนานของเมืองเงินพิสุทธิ์ ต้นตระกูลแวมไพร์เคยถือครองอำนาจ ‘จันทราแดง’ หากเธอต้องการ ก็สามารถทำให้จันทราสีแดงเข้มประหนึ่งเลือดลอยอยู่บนท้องฟ้าสี่ยิบสี่ชั่วโมงตลอดสามร้อยหกสิบห้าวันต่อปีได้ โดยนั่นจะทำให้พลังด้านลบแผ่ปกคลุมโลกมนุษย์ทุกหัวระแหง โลกวิญญาณและความเป็นจริงจะใกล้ชิดกันมากขึ้น มีอิทธิพลต่อกันมากขึ้น สัตว์ประหลาดและวิญญาณมารจำนวนมากจะออกมาอาละวาดนี่คือพลังแห่งเทพ… เราเริ่มมองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างเทพบรรพกาลกับเทพแท้จริงใจปัจจุบัน ทำไมทุกตนถึงได้ทำตัวเหมือนกับเทพมารไปเสียหมด… แต่ถ้าอ้างอิงจากตำนานของผีดูดเลือด ลิลิธไม่ได้เป็นไปตามตำนานของเมืองเงินพิสุทธิ์เลยสักนิด…มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหก? หรือเกิดเหตุการณ์คั่นตรงกลางระหว่างนั้น จนส่งผลให้ลิลิธมีบุคลิกเปลี่ยนไปจากอดีต?ไคลน์นั่งครุ่นคิดอย่างตั้งใจจากนั้น ชายหนุ่มสลายแผ่นกระดาษพลางเอนกายพิงพนักอย่างผ่อนคลาย“เชิญ”จัสติส·ออเดรย์ พูดพลางหันไปทางผีดูดเลือดหนุ่มด้วยดวงตาเปล่งประกาย“มิสเตอร์มูน คุณมีความคืบหน้าของผลต้นคนชราและเลือดมังกรกระจกใช่ไหมคะ”เอ็มลินเชิดคางขึ้น“สองอย่างเจ็ดร้อยห้าสิบปอนด์… เงินมาของไป และแน่นอน ต้องไม่ลืมส่วนแบ่งของข้าจำนวนหนึ่งร้อยปอนด์ด้วย”ออเดรย์มิได้สนใจราคารวมหรือส่วนแบ่ง เธอตอบรับทันทีด้วยสีหน้ายินดีปรีดา“ตกลง! เอ่อ… ดิฉันหวังว่าคุณจะส่งสินค้าให้ได้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้”“ไม่มีปัญหา” เดอะมูน·เอ็มลิน ผู้กำลังจะทำกำไรหนึ่งร้อยปอนด์โดยแทบไม่ต้องออกแรง ย่อมไม่ปฏิเสธความต้องการของลูกค้าเยี่ยม! ออเดรย์หย่อนมือขวาลงใต้โต๊ะพลางกำหมัดแน่น และเขย่าขึ้นลงอย่างสะใจสองสามหนขณะเดียวกัน แฮงแมน·อัลเจอร์มองไปทางมิสเตอร์แวมไพร์“คุณยังต้องการมรดกของบารอนผีดูดเลือดอยู่อีกไหม? ราคาสี่พันห้าร้อยปอนด์ ผมลดมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”แต่ในความเป็นจริง โจรสลัดผู้ขายพร้อมจะปล่อยให้อัลเจอร์ในราคาสามพันสองร้อยปอนด์ได้ยินเช่นนั้น ท่าทีของเอ็มลินเปลี่ยนไปถ้าราคาแค่หนึ่งพันปอนด์ เราจะตอบตกลงโดยไม่ลังเล! เพียงแต่ว่า… มันรำพันในใจแม้ว่าครอบครัวของเอ็มลินจะเป็นเภสัชกรและแพทย์มีชื่อเสียง รายรับประจำปีจัดว่าสูง และด้วยการมีอายุยืนยาว ทรัพย์สมบัติของครอบครัวย่อมมั่งคั่งพอสมควร แต่เมื่อเอ็มลินกลายเป็นคนเสพติดตุ๊กตา เงินก็ไม่เคยอยู่ติดกระเป๋าอีกต่อไป เพราะมันมักสั่งตุ๊กตาทำมือมาตั้งไว้ในห้องเสมอแม้จะรวมเงินหนึ่งร้อยปอนด์ของจัสติสซึ่งยังไม่ถูกชำระเข้าไปด้วย แต่เงินออมของเอ็มลินก็ยังมีไม่ถึงห้าร้อยปอนด์ด้วยซ้ำ โดยจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์มาจากการขายสินค้าให้กับนักสืบเชอร์ล็อก·โมเรียตี้“ข…ขอคิดดูก่อน” เดอะมูน·เอ็มลินกล่าวอย่างหนักแน่น ขณะเดียวกันก็เริ่มตระหนักว่า ตนควรหาวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายโดยเร็วสหายเอ็มลินเอ๋ย ทำไมถึงได้ทำตัวน่าสมเพชนัก…เมื่อเห็นฉากดังกล่าว ไคลน์จิกกัดอย่างมีความสุขเบื้องหลังม่านหมอกสีเทาบนโลกความจริง มันเป็นเพื่อนเพียงไม่กี่คนของมิสเตอร์แวมไพร์หนุ่ม และเคยได้ยินว่าอีกฝ่ายใช้เงินไปกว่าเจ็ดพันปอนด์เป็นค่าตุ๊กตาในรอบหลายปีหลัง ไคลน์จึงอดตัดพ้อในความมั่งคั่งและฟุ่มเฟือยของเอ็มลินไม่ได้“ไม่มีปัญหา” แฮงแมนไม่ซักไซ้มันหันไปทางจัสติส·ออเดรย์และกล่าวต่อ“คุณหนูผู้สูงศักดิ์ ช่างฝีมือจัดการสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์นับว่าน่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก สมบัติวิเศษชิ้นนี้จะช่วยให้คุณแปลงโฉมได้อย่างสมบูรณ์ มาพร้อมกับพลังพิเศษปลีกย่อยอีกสามชนิด ประกอบด้วย ควบคุมไฟ ถ่ายโอนความเสียหาย และนิมิตลางสังหรณ์ รวมถึงช่วยเพิ่มสมรรถภาพร่างกายอีกเล็กน้อย สินค้ามีลักษณะเป็นหน้ากากสีเงินแกมขาว แต่สามารถเปลี่ยนเป็นต่างหูหรือหมวกได้ตามต้องการ และยังตั้งชื่อให้มันได้ด้วย แน่นอน มันมีผลข้างเคียงเหมือนกับสมบัติวิเศษชนิดอื่น ขณะสวมใส่ อารมณ์ของถูกจะถูกขยายจนพลุ่งพล่าน ต้องหาวิธีระงับไว้ให้อยู่หมัด มิฉะนั้นอาจเกิดความผิดพลาดในการตัดสินใจ ราคาของมันคือห้าพันห้าร้อยปอนด์”เล่ามาถึงจุดนี้ แฮงแมนเผยรอยยิ้มพลางหันไปพูดกับเดอะเวิร์ล“ตะกอนพลังของคุณขายได้สี่พันห้าร้อยปอนด์ โดยช่างฝีมือคิดราคาหนึ่งพันปอนด์”สี่พันห้าร้อยปอนด์… ราคาสูงกว่าความคาดหมายของเราไปมาก ถึงจะต้องจ่ายสิบห้าเปอร์เซ็นต์หรือหกร้อยเจ็ดสิบห้าปอนด์เป็นค่านายหน้าให้มิสเตอร์แฮงแมนก็ตาม…ไคลน์บังคับให้เดอะเวิร์ลพยักหน้าตกลง“ไม่มีปัญหา”ขยายอารมณ์ให้พลุ่งพล่าน? ถ้าจำไม่ผิด มาดามเอสลันด์เคยบอกว่า หากเราได้เป็นนักจิตบำบัดเมื่อใด จะมีพลังในการควบคุมอารมณ์กับสภาพจิตใจของผู้อื่น และสิ่งนี้ก็น่าจะมีผลกับตัวเองด้วยเช่นกัน… หรือก็คือ เราสามารถรับมือผลข้างเคียงนั่นได้!จัสติส·ออเดรย์พยักหน้ารับเล็กน้อย“ดิฉันจะจ่ายเงินภายในสองวันหลังจากสมบัติวิเศษถูกส่งถึงมือ”เพื่อมิให้ความลับของชุมนุมทาโรต์เล็ดลอดออกไป หญิงสาวจึงต้องรอให้สินค้าส่งมาถึงมือเสียก่อน จึงค่อยนำไปเบิกกับเอิร์ลฮอลล์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย“ตกลง” แฮงแมนไม่กังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของจัสติสร่ำรวยฉิบหาย…เดอะมูน·เอ็มลิน รวมถึงเมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส ต่างถูกกระตุ้นอารมณ์ด้วยเงินจำนวนห้าพันห้าร้อยปอนด์ระหว่างการซื้อขายฟู่ว… ไคลน์ถอนหายใจอย่างผ่อนคลายเมื่อตระหนักว่า ในอีกไม่กี่วัน ตนจะมีเงินจำนวนสามพันปอนด์ให้จับจ่ายใช้สอยมิสจัสติสจงเจริญ! ชายหนุ่มวาดจันทร์แดงกลางหน้าอกตัวเองในใจ……………………
คอมเม้นต์