ราชันเร้นลับ 513 : ขู่ให้กลัว
ถ้าเราขุดคุ้ยเข้าไปลึกกว่านี้ อาจนำพาตัวเองไปสู่ ‘กุหลาบไถ่บาป’ หรือแม้กระทั่ง ‘เทวทูตสีชาด’ ผู้อยู่เบื้องหลัง… เราเฉียดใกล้อันตรายชนิดห่างกันเพียงไม่กี่คืบ แต่โชคดีว่ายังระงับความอยากรู้อยากเห็นได้ทัน จึงตัดสินใจปล่อยวางความผิดปรกติของภัตตาคารมะนาวและสำนักงานโทรเลข…ขณะกำลังทบทวนตัวเอง ไคลน์พบว่าเข็มกลัดสุริยันไม่ช่วยบรรเทาความเย็นเฉียบอันเกิดจากเหงื่อเม็ดใหญ่กลางหลังท่ามกลางสถานการณ์ปริศนาและไม่มีคำอธิบาย ไคลน์มองว่าเรื่องนี้น่ากลัวยิ่งกว่าการลงมาจุติของ ‘พระผู้สร้างแท้จริง’ เสียอีกมันอดคิดไม่ได้ว่า หากตนพังประตูสำนักงานโทรเลขเข้าไป หรืออ้อมไปปีนหน้าต่างด้านหลังอาคาร จะได้เข้าไปเห็นภาพอันน่าสยดสยองสักเพียงใดขณะเดียวกัน ไคลน์เตรียมใจผลิตน้ำมนต์จำนวนมากบนเรือ และมอบให้กับผู้โดยสารทุกคนซึ่งเคยเข้าไปกินอาหารในภัตตาคารมะนาว เพื่อขจัดภัยอันตรายแอบแฝง“มีอะไรหรือ” ไอร์แลนด์สังเกตเห็นความผิดปรกติของเกอร์มัน·สแปร์โรว์“เปล่า แค่เรื่องในอดีต” ไคลน์อาศัยพลังตัวตลกเพื่อควบคุมสีหน้า ขณะเดียวกันก็รู้สึกขอบคุณความรอบคอบของตัวเองอย่างน้อย ตอนนี้ตนก็หลุดพ้นออกจากเมืองท่าแบนชีเรียบร้อยแล้วสำหรับความลับของ ‘กุหลาบไถ่บาป’ และราชาเทวทูตซึ่งอาจซ่อนอยู่บนเกาะ ในหัวไคลน์กำลังคิดวิธีจัดการได้แค่ทางเดียว :รีบรายงานให้ทางการทราบโดยเร็ว!ถ้าไม่รายงานเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะปล่อยให้พวกมันอยู่ฉลองปีใหม่ 1351 รึไง!จริงอยู่ ทางเลือกฉลาดก็คือ ปิดข่าวไว้ก่อน รอจนกว่าตนจะมีลำดับสูงมากพอ จึงค่อยเข้าไปจัดการเพื่อ ‘เก็บเกี่ยว’ ผลประโยชน์มหาศาลอย่างไรก็ตาม หากอันตรายซ่อนเร้นบนเกาะเกิดปะทุขณะตนกำลังพัฒนาฝีมือ จนผู้บริสุทธิ์ต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก ไคลน์คงมิอาจสลัดความคิด ‘เราคือต้นเหตุทำให้พวกเขาตาย’ ได้แน่ มันจะรู้สึกผิดอย่างมากและเอาแต่โทษตัวเองว่า ทำไมถึงไม่ยอมแจ้งหน่วยพิเศษของทางการตั้งแต่แรกแน่นอนว่า การรายงานต้องกระทำอย่างถูกวิธีและเป็นความลับ ไคลน์ไม่โง่พอจะเดินไปบอกไอร์แลนด์โต้งๆ หรือเขียนจดหมายจากชายนิรนามถึงโบสถ์วายุสลาตันนั่นจะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ประการแรก เกอร์มัน·สแปร์โรว์จะถูกตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด หากยิ่งสืบเข้าไปลึก เพียงใด ก็จะยิ่งพบความผิดปรกติในหลายเรื่องให้แกะรอยประการสอง นี่อาจเป็นการเปิดเผยตัวตนของไคลน์ต่อกุหลาบไถ่บาป จนเรื่องไปถึงหูของราชาเทวทูตเข้าไคลน์จึงวางแผนว่า เมื่อชุมนุมทาโรต์ในอีกสองวันข้างหน้าเริ่มขึ้น มันจะให้เดอะเวิร์ลเปิดประเด็นเกี่ยวกับความผิดปรกติของท่าเรือแบนชี จากนั้น เดอะฟูลก็จะบอกใบ้ไปในทิศทางของกุหลาบไถ่บาปและราชาเทวทูต เพียงเท่านี้ก็มากพอจะทำให้แฮงแมน หนึ่งในสมาชิกของโบสถ์หลัก ทราบว่าควรจัดการอย่างไรต่อไปนี่คือโอกาสสร้างผลงานชิ้นโตให้แฮงแมน!สำหรับหยดเลือดของทายาทตระกูลเมดีซี ไคลน์มิได้กังวลในเรื่องนี้ เพราะตนและชารอนเห็นพ้องร่วมกันว่า จะไม่ยื่นมือช่วยเหลือวิญญาณมารในซากปรักหักพังใต้ดินเด็ดขาดเมื่อมั่นใจว่าเกอร์มัน·สแปร์โรว์ไม่ต้องการเล่าอดีตของตน ไอร์แลนด์เพียงยิ้ม และนำกล่องไม้สีดำใบเล็กออกจากเสื้อโค้ท โยนมาทางไคลน์ชายหนุ่มใช้มือรับ สายตาเผยความสงสัยโดยไม่ปิดบัง“ถุงน้ำดีของเมอร์ล็อก สามารถนำไปสร้างเป็นสมบัติวิเศษซึ่งมีประโยชน์ทางทะเล”ตะกอนพลังเมอร์ล็อก…มูลค่าราวหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์…กัปตันใจถึงมาก…ไคลน์เกือบลืมไปชั่วขณะ ว่านักผจญภัยเลือดเย็น เกอร์มัน·สแปร์โรว์ ต้องแสดงอากัปกิริยาเช่นไรในสถานการณ์แบบนี้แต่โชคยังดี มันเคยผ่านประสบการณ์การแสดงมาอย่างโชกโชน จึงเผยสีหน้าอึมครึมและกล่าวเสียงเข้ม“ผมไม่ได้ช่วยคุณเพื่อรางวัล”ไอร์แลนด์หัวเราะ. ยิ้ม.“ผมไม่ได้มอบให้เพราะคุณช่วยเหลือ พวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือ ผมเห็นว่าเพื่อนตัวเองยังขาดแคลนในบางสิ่ง จึงมอบให้โดยไม่คิดเงิน นี่ถือเป็นเรื่องปรกติของเพื่อน”สมเหตุสมผล ปฏิเสธไม่ได้เลย…มือข้างหนึ่งถือกล่องไม้สีดำในมือ ไคลน์พยักหน้ารับเล็กน้อยโดยไม่กล่าวสิ่งใดไอร์แลนด์หาวปิดปาก พลางถอดหมวกพับทรงทหารเรือออก“ขอตัวกลัวไปนอนชดเชยก่อน ไว้พบกันใหม่ตอนเที่ยงวัน”ไคลน์โบกมืออำลาอย่างสุภาพ ตามด้วยการพาเดนิสไปทางห้องพัก 312ผ่านไปสักพัก มันเห็นดอนน่าและแดนตันผู้ตื่นตั้งแต่เช้าครู่ กำลังยืนรอหน้าประตูห้องตน“คุณลุงสแปร์โรว์ ถืออะไรอยู่ในมือคะ?” ดอนน่าซักถามอย่างซุกซนไคลน์ไม่ตอบ เพียงเปิดฝ่ากล่องไม้สีดำออกด้านในถูกบุด้วยกำมะหยี่สีดำหลายชั้น กึ่งกลางเป็นวัตถุโปร่งใส ลักษณะคล้ายอัญมณีก้อนกลม ถูกวางไว้อย่างเงียบงัน“ของตัวเมอร์ล็อกวันนั้น…!” แดนตันครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะโพล่ง “ถุงน้ำดี!”ไคลน์ส่งสายตาบอกให้เดนิสเปิดประตูและเดินตามเข้าไปดอนน่าเดินตามติด พลางเหยียดแขนสองข้างไพล่ไว้ด้านหลังในมือเด็กสาวถือธนบัตรเงินสดปึกใหญ่ มีทั้งสิบปอนด์และห้าปอนด์คละเคล้า“พ่อกับแม่ ลุงคลีฟส์ และลุงดิเมอดอร์ให้หนูนำเงินมามอบให้ลุงสแปร์โรว์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์!” ดอนน่าฉีกยิ้มกว้าง และกล่าวด้วยเสียงสดใส “พวกเขาบอกว่า เงินจำนวนเท่านี้คงไม่สามารถตอบแทนบุญคุณของลุงสแปร์โรว์ได้หมด เพียงแต่ว่า อย่างน้อยก็ขอชดเชยค่ากระสุนและอุปกรณ์สิ้นเปลืองชนิดอื่นๆ ของคุณลุง พวกมันคงมีราคาสูงมากใช่ไหมคะ”“ค่อนข้าง” ไคลน์ไตร่ตรองเล็กน้อย ก่อนจะรับเงินขอบคุณจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์ไว้แต่โดยดี เพื่อมิให้คนธรรมดาอย่างเออร์ดี้เกิดความกระวนกระวายเมื่อเห็นลุงสแปร์โรว์ยัดปึกธนบัตรกับกล่องไม้สีดำใบเล็กใส่กระเป๋าเสื้อโค้ท ดอนน่าแสดงสีหน้าผ่อนคลาย เนื่องจากภารกิจหลักของพ่อแม่ได้จบลงแล้วเด็กสาวกลับมาเป็นตัวของตัวเอง และทำตามจุดประสงค์แท้จริงของการมาเยือนคำถามมากมายพลันถูกพรั่งพรู :“คุณลุงสแปร์โรว์ สัตว์ประหลาดเมื่อคืนเป็นประเภทไหนหรือคะ? ผีสางมีจริงรึเปล่า? คุณสามารถกระโดดออกจากกองไฟได้ตั้งแต่เกิดเลยไหมคะ? รวมถึงการปล่อยแสงสว่างลงมาจากท้องฟ้าด้วย!”หยุด หยุด หยุด! สาวน้อย เธอถามมากเกินไปแล้ว…ไคลน์ ผู้มิอาจอดกลั้นต่อความอบอ้าว ตัดสินใจถอดเข็มกลัดสุริยันออกและโยนลงบนโต๊ะไม้มะฮอกกานีอย่างไม่แยแส“สิ่งนี้เรียกว่าพลังพิเศษ สามารถได้รับจากพิธีกรรมและการดื่มโอสถ ผีสางมีจริงไหม ขอตอบว่าจริง และมีหลายประเภทมาก เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดเมื่อคืน พวกมันถูกสร้างขึ้นจากพิธีกรรมชั่วร้าย ส่วนเรื่องอื่น ถามเขาเอาเอง”ไคลน์มองไปทางเดนิส“วิเศษมาก…” แดนตันและดอนน่ากล่าวประสานเสียงด้วยอารมณ์หลากหลายดวงตาของดอนน่าเริ่มลุกวาว“คุณลุงสแปร์โรว์คือ ‘ซูเปอร์แมน’ ในความหมายของจักรพรรดิโรซายล์ใช่ไหมคะ? เราสองคนจะเป็นแบบคุณลุงบ้างได้ไหม? ประกอบพิธีกรรมและดื่มโอสถจนได้รับพลังพิเศษ!”แดนตันรอฟังคำตอบด้วยใจจดจ่อ เด็กชายกำลังคิดในสิ่งเดียวกับพี่สาวทุกประการทันใดนั้น ดอนน่าสังเกตเห็นว่า ดวงตาของลุงเกอร์มัน·สแปร์โรว์เปลี่ยนสีเล็กน้อยและยังเห็นรอยยิ้มตรงมุมปาก ซึ่งแฝงอารมณ์แปลกประหลาดจนอธิบายไม่ถูกไคลน์กล่าวเสียงทุ้ม“สิ่งนี้มิใช่เรื่องน่าอิจฉา และไม่ควรเป็นความฝันของใครทั้งสิ้น… หากพวกเธอเลือกเดินบนเส้นทางเดียวกับฉัน อนาคตวันข้างหน้าจะมีเพียงอันตรายและความบ้าคลั่งรออยู่ พวกเธออาจได้รับชัยชนะนับร้อยนับพันครั้งติดต่อกัน แต่หากพ่ายแพ้เพียงหนเดียว ชะตากรรมก็จะเหมือนกับบิชอปคนนั้น”ขณะเล่า ชายหนุ่มวางไม้ค้ำพิงผนัง ถอดเสื้อคลุมออก และพับแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้นแขนข้างหนึ่งเหี่ยวย่นราวกับคนแก่อายุเกินหนึ่งร้อยปี ส่วนอีกข้างโปร่งใสจนมองเห็นส่วนประกอบภายในอย่างแจ่มชัด มีทั้งเส้นเลือด มัดกล้ามเนื้อ และพังผืดขณะเดียวกัน บนใบหน้าไคลน์ปรากฏตุ่มเนื้อขนาดเล็กจำนวนมากเรียงติดกันเป็นพืด ดอนน่าและแดนตันพลันหวาดผวาและเซถอยหลังหลายก้าวจนชนประตูไคลน์ ผู้ยังมีตุ้มเนื้อเม็ดเล็กเต็มหน้า กล่าวพลางอมยิ้มเยือกเย็น“เห็นหรือยัง… นี่คือความบ้าคลั่ง”ไม่…!ดอนน่าและแดนตันแทบสิ้นสติ เด็กทั้งสองเดินโซเซไปเปิดประตูและรีบวิ่งออกไปผ่านไปไม่กี่ก้าว พวกเขาล้มลงเนื่องจากแข้งขาพัวพัน“น่ากลัวมาก…” แดนตันพึมพำพร้อมกันนั้น ประตูห้องพัก 312 ถูกปิดตามหลังจนเกิดเสียงโครมดอนน่าเริ่มสงบจิตใจ ได้รับความกล้าหาญกลับคืนมาบางส่วน แต่เธอยังไม่กล้านึกถึงภาพลักษณ์ของคุณลุงสแปร์โรว์เมื่อครู่—ตุ่มเนื้อเม็ดเล็กจำนวนมากปกคลุมทุกซอกมุมของใบหน้า แขนข้างหนึ่งแก่ชรา ส่วนอีกข้างโปร่งใสจนเห็นส่วนประกอบภายใน ความน่าขยะแขยงไม่ได้ด้อยไปกว่าสัตว์ประหลาดเมื่อคืนเลยสักนิดอย่างไรก็ตาม คำพูดของอีกฝ่ายยังคงกังวานในหัว :“เห็นหรือยัง…นี่คือความบ้าคลั่ง”วิสัยทัศน์ดอนน่าพลันพร่ามัว น้ำตาไหลรินอาบสองแก้มไม่หยุด“ดอนน่า เป็นอะไรไป?” แดนตันเห็นห่วงอาการของพี่สาวจนลืมแม้กระทั่งความกลัวของตัวเองดอนน่าสะอื้นตอบ“พี่ก็ไม่รู้…แต่รู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก”ภายในห้อง 312เมื่อเดนิสเห็นไคลน์กลับเป็นปรกติ มันอดตำหนิไม่ได้ไม่เห็นต้องขู่เด็กให้กลัวด้วยวิธีนี้เลย รังแต่จะเกิดแผลใจเปล่าๆ แค่บอกว่าการดื่มโอสถจะเป็นอันตรายก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ”เมื่อพูดจบ เดนิสเห็นไม้ค้ำสีดำ เปื้อนเลือดและคราบสกปรก กำลังลอยพุ่งมาทางตนตามด้วยประโยคไร้อารมณ์“ล้างให้สะอาด”มันใช้มือคว้าไว้ด้วยรอยยิ้มจืดชืด…กรุงเบ็คลันด์ เขตราชินีภายในคฤหาสน์หรูของเอิร์ลฮอลล์ออเดรย์ยืนอยู่หลังราวบันไดสีทองสลับขาวมุกบนทั้งสอง สายตาจ้องมองลงมายังกลุ่มคนรับใช้ซึ่งกำลังวุ่นวายบนชั้นหนึ่งตามธรรมเนียมของอาณาจักรโลเอ็น หากขุนนางคนใดมีดินแดนในครอบครอง จะต้องเดินทางออกไปจากเบ็คลันด์เมื่อครบหนึ่งสัปดาห์หลังงานเลี้ยงปีใหม่เป้าหมายของการเดินทางคือดินแดนของแต่ละคน และเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันงดงามของชนบทหรือปราสาทส่วนตัว จึงค่อยกลับเมืองหลวงใหม่อีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน ถัดจากนั้นจะเป็นงานเข้าสังคมอย่างต่อเนื่องโดยมีคิวแน่นขนัดอย่างไรก็ตาม นอกจากเอิร์ลฮอลล์จะเป็นขุนนางใหญ่ มันยังเป็นนายธนาคารใหญ่ด้วย จึงต้องแวะเวียนกลับมาจัดการเอกสารในเมืองหลวงเป็นครั้งคราวสำหรับการลาพักร้อนยาวต้นปี ปัญหาสำคัญคือการ ‘ขนของ’ หลายสิ่งต้องถูกเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ ถึงขั้นต้องมีการเกณฑ์คนจากดินแดนกลับมาช่วยงานในคฤหาสน์เป็นกรณีพิเศษ จนกว่าเจ้านายจะพร้อมออกเดินทางโดยไม่ติดขัดเมื่อชุมนุมทาโรต์จบ เราจะนั่งรถจักรไอน้ำไปยังแคว้นเชสเตอร์ตะวันออกทันที… หวังว่ามิสเตอร์แวมไพร์จะหาผลของต้นคนชราและเลือดมังกรกระจกมาให้เราทัน จะได้เป็นนักจิตบำบัดก่อนเดินทางออกจากเบ็คลันด์…ออเดรย์ปล่อยความคิดล่องลอยทันใดนั้น เคาต์เทสเคทลินเดินเข้ามาใกล้และถามด้วยรอยยิ้ม“กำลังคิดอะไรอยู่หรือ… จริงสิ เจ้าจะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวหลังจากกลับมายังกรุงเบ็คลันด์ในเดือนมิถุนายน คิดไว้บ้างแล้วหรือยัง ว่าอนาคตอยากจะทำอะไร?”ออเดรย์แทบไม่มีโอกาสประดิษฐ์คำตอบล่วงหน้า จึงตอบกลับไปอย่างเถรตรง“ท่านแม่ ดิฉันอยากไปทำงานกับองค์กรการกุศลของโบสถ์รัตติกาล”เราอยากรู้จักโลกให้มากกว่านี้… เธอเสริม“แนวคิดดี” เคาต์เทสเห็นด้วยหลังจากสนทนากันอีกเล็กน้อย เคทลินเดินลงจากชั้นสองเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยของงานเคลื่อนย้ายออเดรย์ปรับเปลี่ยนอารมณ์ หันหัวไปด้านข้างและโน้มตัวเข้าหาสุนัขขนสีทองฟูฟ่อง“ซูซี่ ตื่นเต้นรึเปล่า? เธอกำลังจะได้วิ่งเล่นไปบนทุ่งหญ้าเขียวขจี รวมถึงได้วิ่งไล่สัตว์ภายในป่าเขียวชอุ่ม!”หญิงสาวกำลังล้อเลียนซูซี่ เนื่องจากโกลเดนรีทรีเวอร์ตัวนี้ไม่ผ่านคุณสมบัติหมาล่าเนื้อ จึงถูกแถมมาให้เอิร์ลฮอลล์ในฐานะของขวัญใจจริง ซูซี่อยากจะแลบลิ้นใส่ออเดรย์กลับตามสัญชาตญาณ แต่เกิดเปลี่ยนใจกลางคันและทำตัวเรียบร้อยประหนึ่งสตรีเลอค่าสุนัขตัวใหญ่ตอบตามความจริง“แน่นอน ฉันชอบวิ่งในทุ่งกว้าง แต่ก็เกลียดขี้หน้าพวกป่าเถื่อนไม่แพ้กัน”หมายถึงสุนัขล่าเนื้อ? ออเดรย์ใช้มือป้องปากเพื่อมิให้อีกฝ่ายเห็นว่ากำลังหัวเราะเมื่อเงยหน้าขึ้น หญิงสาวพบว่าปัจจุบันใกล้ถึงช่วงเวลาของชุมนุมทาโรต์แล้ว……………………
คอมเม้นต์