ในคืนเดียวกัน ณ สำนักงานของนิกายฟ้าดินภายในดาวรังอสูร
เซี่ยปิงก็ได้กลับมาสู่คฤหาสน์หลังนี้ ผู้คนทั้งหมดก็ได้แยกย้ายกันออกไป หลงเหลือเพียงแค่เขาคนเดียวในห้องนอน
ดิ้ง!
ในตอนนี้เสียงของระบบได้ดังขึ้นมา “ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้บุคคลในโลกใต้ดินจำนวนมากของดาวรังอสูรเกิดความเกลียดชังขึ้นมา ครั้งนี้ได้รับคะแนนความเกลียดชังไปทั้งหมดหนึ่งร้อยล้านคะแนน ขอให้ผู้เล่นพยายามต่อไป”
“ดูเหมือนว่าการแสดงในคืนนี้จะได้รับผลตอบแทนพอสมควร”
เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง การที่เขาเรียกร้องเงื่อนไขที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เช่นนี้ แน่นอนว่ามันจะต้องกระตุ้นให้บุคคลในโลกใต้ดินเหล่านี้เกิดความเกลียดชังขึ้นมา เป็นการเก็บเกี่ยวคะแนนความเกลียดชังมา
อีกทั้งเขาก็ได้แหวกหญ้าให้งูตื่น ท้าทายตระกูลเมเดลลินอย่างแท้จริง นี่ก็จะเป็นการดึงดูดให้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาเคลื่อนไหวออกมา จากนั้นก็จะสามารถแกะรอยตามกลับไปได้ ลักลอบเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง
ตอนนี้ดูเหมือนว่าแผนการของเขาจะดำเนินไปอย่างราบรื่น คาดการณ์ได้ว่าอีกไม่นานก็จะสามารถเข้าถึงกองกำลังหลักของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้
“ถึงแม้ว่าเป้าหมายหลักของข้าก็คือการจัดการกับกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง ทว่าก็ต้องกวาดล้างกลุ่มอิทธิพลในดาวรังอสูรให้เรียบเช่นกัน ทำภารกิจของนิกายให้สำเร็จ ควรที่จะมองหาโอกาสในการจัดการทุกอย่างภายในคราวเดียว”
เซี่ยปิงมีสายตาเป็นประกาย เขากำลังคิดหากลยุทธ์ขึ้นมา ในช่วงเวลานี้เขาจะไม่ปล่อยให้กลุ่มอิทธิพลของดาวรังอสูรได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย จะต้องบีบบังคับให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ทำให้พวกเขากลายเป็นสุนัขจนตรอก
นี่ก็คือการใช้ประโยชน์จากความถูกต้อง ไม่ว่าจะทำร้ายใคร ก็จะมีเหตุผลน่าไว้วางใจเสมอ มีความชอบธรรม
………
วันต่อมา ภายใต้คำสั่งของเซี่ยปิง ต้วนเฉินลุ่ยก็ได้สืบค้นหาข้อมูลของกลุ่มอิทธิพลส่วนใหญ่ในดาวรังอสูรมาให้กับเซี่ยปิง
ถึงแม้ว่าต้วนเฉินลุ่ยจะไม่ต้องการทำตามคำสั่งนี้ ทว่าเขาก็ต้องทำ เพราะว่าถึงอย่างไรเขาก็กำลังแฝงตัวเป็นสายลับอยู่ข้างกายเซี่ยปิง ไม่สามารถขัดคำสั่งของเซี่ยปิง ไม่อย่างนั้นเซี่ยปิงอาจจะสงสัยในตัวเขาได้
เซี่ยปิงก็อ่านข้อมูลที่ได้มาอย่างอิสระพร้อมทั้งใช้ข้อมูลนี้ในการอ้างอิง “ตระกูลเฟเธอร์นี่มันอะไรกัน? ไม่คาดคิดว่าจะทำการค้าทาส? ไม่รู้หรือว่านี่เป็นกฎข้อห้ามที่ชัดเจนของนิกายฟ้าดิน? ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจแต่ก็จะยังละเมิดกฎของนิกายฟ้าดิน นี่พวกเขาไม่ได้เห็นกฎระเบียบของนิกายฟ้าดินอยู่ในสายตาแม้แต่น้อยหรือ?! แอบลักลอบทำเรื่องที่ชั่วร้ายอยู่เบื้องหลัง!”
อะไรนะ?!
ต้วนเฉินลุ่ยก็สะดุ้งตกใจขึ้นมา บัดซบ เจ้านี่กำลังเพ่งเล็งไปที่ตระกูลเฟเธอร์ ยังต้องการที่จะสร้างปัญหาขึ้นมาอีกหรือ? ท่าไม่ดีแล้ว ปล่อยให้เจ้าเด็กนี่อาละวาดอีกไม่ได้ จะต้องขัดขวางเขา ไม่อย่างนั้นอาจจะนำพาภัยพิบัติมาสู่ทุกๆคน
“ศิษย์น้องหยาง ตระกูลเฟเธอร์นี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิด พวกเขาเป็นกลุ่มอิทธิพลที่เป็นรองเพียงแค่ตระกูลเมเดลลินเท่านั้น”
ต้วนเฉินลุ่ยพูดแนะนำออกมาอย่างรวดเร็ว “ตระกูลนี้เป็นตระกูลที่พวกเราจะแตะต้องไม่ได้ พวกเขามีความสัมพันธ์กับตระกูลที่ยิ่งใหญ่ต่างๆในอาณาเขตดวงดาวทั้งหก อีกทั้งลูกค้าหลักของพวกเขาก็เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่และกลุ่มอิทธิพลที่ใหญ่โตต่างๆ”
“ถึงแม้ว่าการค้าทาสจะเป็นเรื่องต้องห้ามและไม่สมควร ทว่ามันก็มีผู้คนมากมายที่รู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง หากจัดการกับตระกูลเฟเธอร์ล่ะก็ มันจะเป็นการแหย่รังแตน กระตุ้นให้กลุ่มอิทธิพลต่างๆเคลื่อนไหวออกมา”
เขาได้พูดเตือนว่าตระกูลเฟเธอร์นั้นไม่ใช่ตระกูลธรรมดา ไม่สามารถท้าทายได้
“จะบอกว่าพวกเขามีคนหนุนหลังอย่างนั้นหรือ? มีคนหนุนหลังแล้วอย่างไรกัน การที่พวกเขามีคนหนุนหลังนั้น พวกเราไม่มีหรือ?! จะมีกลุ่มอิทธิพลใดกันที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่านิกายฟ้าดินของพวกเรา พวกเขาจะกล้ากัดข้าอย่างนั้นหรือ?!” เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม
ต้วนเฉินลุ่ยก็มีสีหน้าที่ซีดเผือด ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ทว่าเจ้าเด็กนี่ก็เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินเท่านั้น การที่ต้องการจะให้กองกำลังทั่วทั้งนิกายฟ้าดินเคลื่อนไหวออกมานั้น ไม่รู้ว่ายังห่างไกลอีกมากแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้น ทวนเปิดเผยก็หลบหลีกง่าย ทว่าเกาทัณฑ์ลับยากที่จะระวัง หากตระกูลเหล่านี้ต้องการที่จะสังหารเจ้านี่จริงๆ มันก็มีวิธีการนับหมื่นที่จะทำได้
“ศิษย์น้องหยาง”
ต้วนเฉินลุ่ยก็ต้องการที่จะพูดโน้มน้าวอีก
ทว่าเซี่ยปิงก็ไม่ได้สนใจและพูดแทรกขึ้นมา “เอาล่ะ เลิกพูดจาไร้สาระเถอะ องค์กรที่ชั่วร้ายเช่นนี้ ทุกๆคนมีสิทธิที่จะลงโทษ ข้าจะบดขยี้องค์กรค้าทาสนี้ให้สิ้นซากในทันที ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากสังคม”
เขาตัดสินใจที่จะมองหาเป้าหมายแรกในการบดขยี้ เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตระกูลเฟเธอร์นั้นเป็นตัวเลือกที่ดี
“อะไรนะ? จะไปตอนนี้เลยรึ?!” ต้วนเฉินลุ่ยก็มีสีหน้าที่ตกใจ เขาไม่คาดคิดว่าเซี่ยปิงจะเริ่มลงมือทันที นี่ก็ทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะรายงานเรื่องนี้กับตระกูลเฟเธอร์ก่อน
“แน่นอน ท่านก็มากับข้าด้วย ไปเถอะ อย่ามัวแต่เสียเวลา”
เซี่ยปิงก็คว้าตัวต้วนเฉินลุ่ยและเดินออกไปทันที ไม่ให้โอกาสเขาได้ปล่อยข่าวเรื่องนี้ออกไป
………….
ในช่วงเวลานี้ ณ ฐานที่สำคัญของตระกูลเฟเธอร์
ในฐานแห่งนี้มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ทุกๆที่มีผู้คุ้มกันอยู่ เป็นเหมือนกับป้อมปราการ ต่อให้จะมีแมลงวันบินเข้ามา ก็จะถูกทะลวงกลายเป็นรังผึ้งอย่างกะทันหัน
ส่วนลึกของฐานแห่งนี้ก็มีทาสของเผ่าพันธุ์ต่างๆที่มาจากทุกซอกทุกมุมของจักรวาล มีทั้งหญิงสาวเผ่าพันธุ์ปีก หญิงสาวเผ่าพันธุ์เงือก หญิงสาวเผ่าพันธุ์นางฟ้า หญิงสาวเผ่าพันธุ์เทวดา หญิงสาวเผ่าพันธุ์หูแมว หญิงสาวเผ่าพันธุ์หูกระต่าย หญิงสาวเผ่าพันธุ์งู หญิงสาวเผ่าพันธุ์อรหันต์ หญิงสาวเผ่าพันธุ์อสุรา หญิงสาวเผ่าพันธุ์แวมไพร์และเผ่าพันธุ์อื่นๆ
เรียกได้ว่าทาสเหล่านี้คือหญิงสาวที่งดงามของเผ่าพันธุ์ต่างๆ เพราะว่ามีเพียงแค่ทาสหญิงสาวที่งดงามเท่านั้นที่จะขายได้ในราคาที่สูง ก่อให้เกิดการแข่งขันขึ้นระหว่างบุคคลที่มีอิทธิพลในทุกซอกทุกมุมของจักรวาล
แน่นอนว่าทาสผู้ชายที่ราคาสูงก็มีอยู่เช่นกัน ทว่าก็มีน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่มีเพียงแค่ทาสที่ทำหน้าที่เป็นจับกังและเป็นโล่กำบังกระสุนเท่านั้น
ทว่าในตอนนี้ทหารของฐานแห่งนี้กลับมองไปที่ทาสเด็กหญิงคนหนึ่งด้วยสีหน้าที่วิตกกังวลอย่างมาก เหมือนกับว่ากำลังหนักอกหนักใจ
“เวรเอ๊ย ท้ายที่สุดแล้วทาสหมายเลข66นี่คืออะไรกัน? ทำไมถึงกินได้มากเช่นนี้ กินอาหารหมดไปหลายตันแล้ว ทำไมถึงยังกินอยู่ได้ นี่เธอไม่รู้จักอิ่มหรือ?”
“แม่เจ้า ในระยะเวลาหลายวันนี้เธอได้กินอาหารสำรองที่สามารถหล่อเลี้ยงฐานของพวกเราได้นานสามปี หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ต่อให้พวกเราจะขายทาสได้มากแค่ไหน ก็คงจะไม่สามารถทำกำไรมาได้”
“บัดซบ เงินทั้งหมดที่พวกเราหามาได้เหมือนกับว่าถูกนำมาจ่ายค่าอาหารให้กับเธอ”
“ท่าน ทาสหมายเลข66ได้ก่อปัญหาขึ้นมา เธอข่มขู่พวกเรา บอกว่าหากพวกเราไม่ให้เธอกินอีก เธอจะกินกรงขังแห่งนี้ให้หมด ตอนนี้พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี?”
“แม่เจ้า รีบขัดขวางเธอไว้ ครั้งก่อนที่เธอคลุ้มคลั่งขึ้นมา แม้แต่ยานอวกาศของพวกเราก็ถูกเธอกินเข้าไป หากเธอคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกครั้งล่ะก็ ทั่วทั้งฐานแห่งนี้ก็อาจจะกลายเป็นอาหารของเธอได้”
“เป็นภาระจริงๆ อันที่จริงไอ้บัดซบไหนกันที่จับตัวทาสคนนี้มา นี่มีที่ไหนที่เป็นทาส เห็นได้ชัดว่าเป็นเจ้านายของพวกเรา คิดที่จะกลายเป็นเจ้านายของพวกเรา”
“อันที่จริงเธอมาจากเผ่าพันธุ์ใดกัน ทำไมถึงกินได้มากเช่นนี้?”
“ท่าน ข้าได้สืบหาข้อมูลมาแล้ว หากว่าข้อมูลไม่ผิด เธอก็ควรที่จะมาจากเผ่าพันธุ์หายากที่มีเอกลักษณ์เฉพาะเจาะจง นั่นก็คือเผ่าพันธุ์เทาเที่ย”
“เวรเอ๊ย  ไอ้บัดซบ เผ่าพันธุ์เทาเที่ยเจ้าก็กล้าจับกลับมา แม่เจ้า เจ้ากลัวว่าพวกเราจะมีเงินใช้มากเกินไปหรือ?! ล่วงรู้หรือไม่ว่าหากเผ่าพันธุ์เทาเที่ยต้องการกินจริงๆ แม้แต่ทั้งดาวเคราะห์ก็กลายเป็นอาหารสำหรับพวกเขาได้ ตระกูลเฟเธอร์ของพวกเราที่ดูเหมือนเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีทรัพย์สินมากมายนั้น ทว่าก็ยังไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูเธอด้วยซ้ำ เจ้าเข้าใจไหม?!”
“ท่าน พวกเราไม่ได้จับเธอมา ทว่าเป็นเธอที่ได้ถวายตัวมาเอง เธอบอกว่าถ้ามีอาหารให้เธอกิน ไม่ว่าจะให้ทำอะไรเธอก็จะไม่เกี่ยง พวกเราจึงคิดว่านี่จะเป็นการทำกำไรครั้งใหญ่ เพราะว่าถึงอย่างไรหญิงสาวคนนี้ก็น่ารักน่าชังอย่างมาก สามารถที่จะขายได้ในราคาที่สูงอย่างแน่นอน ไม่คาดคิดว่าจะหลงกล เด็กหญิงที่ไร้ยางอายคนนี้มองพวกเราเป็นตั๋วอาหารระยะยาว กินอาหารทั้งหมดในยานอวกาศของพวกเรา ท้ายที่สุดแม้แต่ยานอวกาศของพวกเราก็ถูกเธอกินไป ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่สามารถไล่ออกไปได้ เกาะติดพวกเรามา เหมือนกับต้องการที่จะติดตามพวกเราไปจนตาย”
“การที่ไม่สามารถสลัดทิ้งไปได้ อีกทั้งก็ไม่สามารถสังหารได้นั้น พวกเราก็ไม่มีทางเลือกใดๆ”
ผู้คนของตระกูลเฟเธอร์ต่างก็มีสีหน้าที่บูดบึ้ง เมื่อเห็นว่าอาหารส่วนใหญ่ในฐานได้หายไปนั้น ทั่วทั้งร่างกายของพวกเขาก็สั่นเทา แม้แต่การถูกจับจ้องโดยเทพเจ้าแห่งความตายก็ไม่ได้น่าสะพรึงกลัวเท่านี้