God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ ตอนที่ 1203

อ่านนิยายจีนเรื่อง God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ ตอนที่ 1203 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

หลังจากนั้นไม่กี่วัน
เซี่ยปิงและเจียเอ่อหม่าก็ได้ติดต่อกันอีกครั้ง เขาได้ใช้ระยะเวลาสามวัน ในที่สุดก็ได้เขียนหนังสือเรื่องเคล็ดลับการหลอกลวงออกมาเสร็จสิ้น
“เคล็ดลับการหลอกลวง36วิธี?!”
เจียเอ่อหม่าเห็นชื่อของหนังสือเล่มนี้ เขาก็จ้องมองอย่างวอกแวก นี่เป็นหนังสือที่เขียนโดยอู๋ตี่อย่างนั้นหรือ?
บอกตามตรง เขานั้นไม่ได้คิดว่าอู๋ตี่จะเขียนหนังสือที่ดีออกมาได้ เพราะว่าการที่เขาอยู่ในวงการนี้มานานนั้น เขาก็ได้พบเจอนักเขียนและหนังสือมาทุกรูปแบบ
เขาล่วงรู้เป็นอย่างดีถึงสิ่งที่เรียกว่าต่างอาชีพกัน ความรู้ความเข้าใจก็ย่อมต่างกัน ถึงแม้ว่าเจ้าเด็กนี่จะประสบความสำเร็จในฐานะนักต้มตุ๋น ทว่ามันก็ไม่ได้เป็นบ่งบอกว่าเขานั้นจะสามารถเขียนหนังสือให้ออกมาดีได้ นี่เป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทว่าเขาก็ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ออกมาทันที คิดว่าควรที่จะอ่านเนื้อหาข้างในก่อนที่จะพูดอะไรออกมาได้
หากเป็นเนื้อหาที่ไร้สาระและอ่านไม่เข้าใจ จากนั้นเขาก็จะแนะนำให้เจ้าเด็กนี่ใช้นักเขียนคนอื่น การทำธุรกิจครั้งนี้จะไม่สามารถล้มเหลวได้
เขาเปิดหนังสืออ่าน ทันใดนั้นก็ได้เห็นหัวข้อที่โดดเด่น เคล็ดลับการหลอกลวงวิธีแรก กลยุทธ์สาวงาม!
แม่เจ้า!
เจียเอ่อหม่าตกตะลึงอย่างกะทันหัน เพราะว่าเนื้อหาข้างในนั้นบ่งบอกถึงรายละเอียดการใช้ความงดงามเพื่อหลอกลวง
สิ่งที่เรียกว่ามีมีดอยู่เบื้องหลังคำว่าตัณหานั้นเป็นจริงอย่างยิ่ง สามารถที่จะพูดได้ว่าตัณหานั้นก็คือพื้นฐานธรรมชาติของมนุษย์ บางทีผู้บำเพ็ญบางคนอาจจะกำจัดมันออกไปได้ ทว่าสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่นั้นก็ไม่สามารถที่จะกำจัดสัญชาตญาณนี้ไปได้
ซึ่งกลยุทธ์สาวงามนั้นก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่ใช้ประโยชน์จากสัญชาตญาณนี้เพื่อหลอกลวง
อย่างเช่นนางนกต่อ ใช้หลักจิตวิทยากามอารมณ์ของผู้ชายในการล่อลวงเข้ามา พูดง่ายๆก็คือการยั่วยวนให้ร่วมหลับนอน
การที่ผู้หญิงพลีกายให้นั้น ถามว่าผู้ชายปกติธรรมดาที่ไหนจะยับยั้งตนเองได้?
ดังนั้นผู้หญิงจึงได้ทำการล่อลวงผู้ชายไปยังสถานที่ลับสักแห่งและเมื่อถึงเวลาที่จะเริ่มการร่วมเพศนั้น ในตอนนี้เองที่หุ้นส่วนของผู้หญิงที่งดงามจะปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อไม่ให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปต่อสาธารณะหรือว่าเพื่อเป็นการป้องกันตนเองนั้น ผู้ชายที่ถูกล่อลวงคนนั้นจึงต้องมอบเงินให้กับพวกเขา ซึ่งทั้งหมดนี่ก็เป็นการแบล็คเมล์นั่นเอง
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่กลยุทธ์สาวงามระดับล่างเท่านั้น
สิ่งที่น่าเกรงกลัวกว่าก็คือการที่หญิงสาวงดงามพบเจอชายชราที่ร่ำรวย ทันใดนั้นก็ได้พลีกายให้ทันที ทำทุกอย่างให้ผู้ชายลุ่มหลง จากนั้นก็แต่งงานกันอย่างรวดเร็ว
ท้ายที่สุดภายในระยะเวลาไม่ถึงหกเดือน หญิงสาวที่งดงามนี้ก็จะมองหาโอกาสในการหย่าร้างกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งในที่สุดตามกฎหมายข้อกำหนดของการแต่งงานนั้น ทรัพย์สินครั้งหนึ่งก็จะต้องมอบให้กับฝ่ายหญิงไป ในตอนนั้นก็จะเป็นเหมือนกับการสูญเสียทรัพย์สมบัติไปอย่างมหาศาล
หากฝ่ายตรงข้ามมีความโหดเหี้ยมยิ่งกว่านี้ล่ะก็ ก็สามารถที่จะสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยยาพิษ เมื่อถึงเวลานั้นทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดก็จะตกเป็นของเธอ
นี่คือการหลอกแต่งงาน ซึ่งนี่อาจจะไม่ใช่เป็นอันตรายต่อทรัพย์สินเท่านั้น แต่ว่าก็อาจจะเป็นอันตายต่อชีวิตเช่นกัน
“ร้ายกาจเกินไป”
เจียเอ่อหม่าอ่านเนื้อหาในขณะที่ขนลุกตั้งขึ้นมา เขาไม่คาดคิดว่าบนโลกนี้จะมีกลอุบายที่ชั่วร้ายเช่นนี้อยู่ หากเป็นเช่นนี้จริงๆ บนโลกนี้จะมีความรักอะไรอีก จะสามารถเชื่อคำพูดของผู้หญิงที่งดงามเหล่านี้ได้อีกหรือ? ไม่ได้มาเพื่อแย่งเงินของตนเองไปหรือ?
เขาได้ลองถามตนเองดู หากผู้หญิงที่งดงามพลีกายให้กับตนเองอย่างกะทันหันขึ้นมาจริงๆ ในฐานะที่เป็นผู้ชายที่มีสุภาพที่ดีนั้น เขาก็คงจะไม่สามารถต้านทานได้เช่นกัน ไม่สามารถที่จะควบคุมส่วนล่างของตนเองได้
ทว่าหากเป็นเช่นนั้น เขาก็จะตกไปในกับดักของศัตรู เมื่อถึงเวลานั้นก็จะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป ทันใดนั้นเขาก็เริ่มคิดขึ้นมาว่าในโลกนี้นั้นเต็มไปด้วยอันตรายทุกหนแห่ง ความน่าเชื่อถือระหว่างผู้คนนั้นได้หายไป
“เคล็ดลับการหลอกลวงข้อที่16 กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ!”
เจียเอ่อหม่าอ่านอย่างต่อเนื่อง การที่ต้องการจะบรรลุวัตถุประสงค์ของการหลอกลวง ไม่สามารถที่จะแสดงความหยาบคายได้ ให้ใช้ความยโสโอหังของฝ่ายตรงข้าม ให้ฝ่ายตรงข้ามได้ประโยชน์ไปก่อน ทำให้ฝ่ายตรงข้ามผ่อนคลายความระมัดระวังลง
หลังจากที่รอให้ฝ่ายตรงข้ามไว้เนื้อเชื่อใจนั้น จากนั้นก็ทำการหลอกลวง นี่เป็นกลยุทธ์ที่สามารถใช้ได้อย่างราบลื่นในทุกหนแห่ง
นี่เป็นเหมือนกับแผนการทางการเงินของสังคมปัจจุบันก็ว่าได้ การที่มีผู้จัดการกองทุนที่พูดจาคุยโวโอ้อวดออกมา ตราบใดที่ลงทุนกับกองทุนของพวกเขา ทุกๆเดือนจะได้รับดอกเบี้ยไปห้าเปอร์เซ็นต์ หนึ่งปีจะได้รับไป60% สองปีจะได้รับเงินกลับไปสองเท่า สามปีจะสามารถซื้อบ้านได้ สี่ปีจะสามารถซื้อเครื่องบินได้
ในช่วงเริ่มต้นอาจจะไม่มีใครเชื่อ ทว่าเมื่อดอกเบี้ยเดือนแรกถูกโอนเข้าบัญชี ดอกเบี้ยเดือนที่สองถูกโอนเข้าบัญชีและดอกเบี้ยเดือนที่สามก็ถูกโอนเข้าบัญชีนั้น จากนั้นมันก็จะมีผู้คนที่ค่อยๆเชื่อมากขึ้น
ในตอนนั้นจะไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนคนเดียวอีกต่อไป ทว่าจะชักชวนเพื่อนๆและสมาชิกครอบครัวให้มาร่วมลงทุนเช่นกัน เขาจะคลุ้มคลั่งอย่างสมบูรณ์ คิดว่าในอีกไม่กี่ปีก็จะได้รับเงินจำนวนมหาศาลกลับมา ตกอยู่ในความฝันที่จะซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ ซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง
หารู้ไม่ว่าเพียงแค่ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น นักต้มตุ๋นคนนั้นก็จะปิดยอดและหลบหนีออกไปพร้อมกับนำเงินทั้งหมดไปด้วย
เดิมทีผู้ลงทุนนั้นสนใจในดอกเบี้ย ทว่าผู้จัดการกองทุนนั้นกลับสนใจในเงินทุน ในตอนนั้นมันก็สายเกินไปที่จะร้องไห้
นี่คือกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับที่ชาญฉลาด
ความโลภของมนุษย์นั้นได้คงอยู่มาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใดๆและจะปรากฏอยู่เสมอ
“เคล็ดลับการหลอกลวงข้อที่34 กลยุทธ์ทุกข์กาย”
เจียเอ่อหม่าอ่านต่อ  กลอุบายนี้เรียบง่ายมาก มันเป็นการหลอกลวงผู้อื่นโดยที่ให้พวกเขารู้สึกเห็นอกเห็นใจตนเอง
วิธีการที่เรียบง่ายของกลยุทธ์นี้คือการเป็นขอทาน ด้วยการที่มีร่างกายพิการและมีสภาพที่น่าสงสารนั้น หลอกลวงให้ผู้อื่นรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เพื่อให้ได้เงินมาเป็นจำนวนมาก
ในช่วงวันหยุดคนเหล่านี้มักจะปรากฏอยู่ตามท้องถนนและตรอกซอยต่างๆ
หากเป็นวิธีการที่ซับซ้อนกว่านั้นเล็กน้อยก็คือการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการ เป็นเหมือนกับกองทุนที่ไว้ช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้ ซึ่งเป็นการร่วมระดมทุนในสาธารณะ หวังว่าจะกลายเป็นเศรษฐีจากเงินที่ถูกบริจาคเข้ามานี้
เพราะเมื่อใดที่เงินเข้าประเป๋านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะนำเงินไปทำอะไร ก็ไม่มีใครที่จะสามารถรู้ได้
“ชาญฉลาด ชาญฉลาดจริงๆ”
เจียเอ่อหม่าอ่านเนื้อหาในหนังสือในขณะที่ทั่วทั้งร่างกายหนาวเหน็บ บนหน้าผาดมีเหงื่อเย็นผุดออกมา หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่หนังสือธรรมดาทั่วไป ทว่าเป็นการบ่งชี้ถึงจุดอ่อนของมนุษย์เช่นกัน เป็นการแสดงให้เห็นถึงลักษณะทั่วไปของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอัตตา โลภะ ราคะ ริษยา ตะกละ โทสะและเกียจคร้าน ซึ่งก็คือบาปทั้งเจ็ดประการนั่นเอง
ในความเป็นจริงนั้นสิ่งที่เรียกว่าเคล็ดลับการหลอกลวงนั้น ก็เป็นวิธีการใช้จุดอ่อนเหล่านี้ของมนุษย์เพื่อทำการหลอกลวงนั่นเอง
“ยอดปรมาจารย์ คุณอู๋นี่ช่างเป็นยอดปรมาจารย์ที่แท้จริง”
เจียเอ่อหม่ากล่าวชื่นชมออกมา หากไม่มีประสบการณ์การหลอกลวงมากมายหลายปี ไม่มีวิธีการของยอดปรมาจารย์และไม่มีสติปัญญาของอัจฉริยะนั้น เป็นไปได้อย่างไรที่จะเขียนหนังสือเช่นนี้ออกมาได้
นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่หนังสือธรรมดาทั่วไปเท่านั้น ทว่าเป็นผลงานชิ้นเอก!
ก่อนหน้านี้เขาก็ได้เหยียดหยามฝ่ายตรงข้าม คิดว่าไม่สามารถที่จะเขียนอะไรออกมาได้ ทว่าดูตอนนี้ มีที่ไหนที่นักเขียนของทางบริษัทเขาจะเทียบด้วยได้ ในประโยคแต่ละประโยคนั้นแอบแฝงไปด้วยเคล็ดลับการหลอกลวงที่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“สุภาพ สุภาพเกินไป อย่าเอ่ยถึงมันเลย มันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ”
เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ความจริงที่เขาสามารถที่จะเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาได้นั้น มันเป็นเพราะการที่เขาเคยอ่านผลงานที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตชาติที่แล้วของเขา ซึ่งหนังสือเล่มนั้นก็คือหนังสือ36ยุทธวิธีทางการทหาร
หนังสือเล่มนี้นั้นไม่ได้เป็นเพียงยุทธวิธีทางการทหารที่ไม่ธรรมดาเท่านั้น ทว่ามันยังมีปรัชญาที่เมะสมสำหรับทุกเพศทุกวัย ถือว่าเป็นหนังสือที่คู่ควรแก่การอ่านมากๆ ทุกครั้งที่ได้อ่านจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา
ซึ่งการที่นำเนื้อหาในหนังสือนี้มาประยุกษ์ใช้กับเคล็ดลับการหลอกลวงนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับเขา
“ท่านยอดปรมาจารย์ ท่านจะไม่หลอกลวงข้าในตอนนี้ใช่หรือไม่ ท่านไม่ได้มีความสนใจหุ้นของบริษัทหนังสือจักรวาลของพวกเราใช่ไหม? บอกตามตรง ข้านั้นไม่ได้มีเงิน มีให้ใช้จ่ายอย่างพอเพียงเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าจับจ้องมาที่ข้า”
เจียเอ่อหม่ามองเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่เกรงกลัว หลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เขาก็รู้สึกเคารพนับถือเซี่ยปิง ชายคนนี้ก็คือยอดปรมาจารย์นักต้มตุ๋นที่แท้จริง อยู่ในระดับที่สูงกว่าทุกๆคน
บางทีเพียงคำพูดไม่กี่คำ ก็อาจจะสามารถหลอกลวงเอากางเกงในของเขาไปได้ บอกตามตรง การอยู่ใกล้กับนักต้มตุ๋นระดับสุดยอดเช่นนี้ มันทำให้เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันทางจิตวิทยาอย่างมาก
ตอนนี้เขารู้สึกเกรงกลัว ตนเองได้ทำความรู้จักกับตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ แม้แต่สถานะของผู้จัดการบริษัทหนังสือจักรวาลสาขาย่อยในอาณาเขตดวงดาวเมฆาสายธารนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำให้เขารู้สึกปลอดภัยได้เลย
ในทางกลับกัน ยิ่งเขาอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการของบริษัทเช่นนี้ ก็เหมาะกับการที่จะถูกเพ่งเล็งโดยนักต้มตุ๋นอย่างมาก เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วนักต้มตุ๋นคนใดกันที่จะเพ่งเล็งไปที่คนยากคนจน
ต่อให้จะตามปล้นชิงคนยากคนจนเป็นระยะเวลาสามวัน บางทีก็อาจจะไม่สามารถบีบเค้นแม้แต่น้ำมันหยดเดียวออกมาได้

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด