God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ ตอนที่ 1248

อ่านนิยายจีนเรื่อง God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ ตอนที่ 1248 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ณ เกาะหยานหวงภายในโลกแห่งเมฆา
ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของรัฐบาลกลาง เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญที่สุดของโลกแห่งเมฆาก็ว่าได้
เซี่ยปิงไม่ได้ทำการติดต่อกับเหล่าผู้มีอิทธิพลระดับสูงของมนุษย์ทันที ทว่ากลับอำพรางยานจันทราศักดิ์สิทธิ์ไว้ชั่วคราวและมาถึงที่ดาวหยานหวง เขาต้องการที่จะรู้ว่าอันที่จริงในปีนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปกับโลกแห่งเมฆา
เพราะว่าถึงอย่างไรการที่ไม่ได้กลับมายังโลกแห่งเมฆาเป็นระยะเวลาหนึ่งปีนั้น ด้วยความเร็วในการพัฒนาของมนุษย์ จะต้องมีความเปลี่ยนแปลงในทุกๆวันอย่างแน่นอน เขามีความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นในจุดๆนี้มาก
“หืมม? ทำไมเกาะหยานหวงถึงได้มีปีศาจจำนวนมากเช่นนี้?”
เซี่ยปิงเดินไปบนท้องถนนของเกาะหยานหวงที่มีชีวิตชีวาอย่างมาก ทันใดนั้นก็ค้นพบว่าภาพที่เห็นนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง เดิมทีท้องถนนที่ควรจะมีแต่มนุษย์ ทว่าตอนนี้กลับมีปีศาจจำนวนมากปรากฏขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด
แม้แต่พวกปีศาจใต้ท้องทะเลก็ปรากฏอยู่ที่นี่เช่นกัน อยู่ร่วมกับมนุษย์ ซื้อของตามท้องถนน
ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์ที่อยู่รอบๆก็ไม่ได้เห็นสิ่งนี้เป็นเรื่องแปลก เหมือนกับว่าในหนึ่งปีนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงราวกับฟ้ากับเหว เป็นภาพที่ไม่สามารถจินตนาการได้เลย
เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลนั้น ทั้งสามเผ่าพันธุ์เป็นดั่งศัตรูคู่อาฆาตกัน มีความบาดหมางดั่งทะเลเลือด พบเจอกันเมื่อไหร่ก็ต้องต่อสู้กันทุกครั้ง เป็นไปได้อย่างไรที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้
“ดูจากท่าทางของเจ้า คงจะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในภูเขาเพื่อทำการบ่มเพาะเป็นระยะเวลานาน ไม่ได้กลับมาสู่สังคมมนุษย์เลย” ในตอนนี้ ชายชราชุดคลุมสีขาวได้เดินเข้ามา เหมือนกับว่าจะมองทะลุถึงท่าทางของเซี่ยปิง
“ใช่ เป็นจริงอย่างที่ว่า ข้าไม่ได้กลับมาสู่สังคมมนุษย์เป็นระยะเวลานาน ท้ายที่สุดแล้วเกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมถึงได้มีปีศาจจำนวนมากมายปรากฏตัวอยู่ที่นี่?”
เซี่ยปิงถามออกไปอย่างสงสัย
“อันที่จริงความเปลี่ยนแปลงนี้เพิ่งขึ้นได้ไม่นาน เกิดขึ้นในปีนี้เอง ข้าก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าในระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งปีจะเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้” ชายชราชุดคลุมสีขาวพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม “เหตุผลที่เกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้นั้น ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากการที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลได้ก่อตั้งรัฐบาลโลกขึ้นมา หลอมรวมโลกแห่งเมฆาเป็นหนึ่งเดียว”
รัฐบาลโลก?!
เซี่ยปิงมีสายตาเป็นประกาย เขาถามออกไปอีกครั้งและเป็นจริงอย่างที่ว่า หลังจากที่ตนเองได้เดินทางออกไปนั้น ผู้มีอิทธิพลของทั้งสามเผ่าพันธุ์ได้ตัดสินใจก่อตั้งรัฐบาลโลกขึ้นมาเพื่อรักษาความสงบของโลกแห่งเมฆาและได้จัดตั้งตัวแทนทั้งเก้าขึ้นมาเช่นกัน
ไม่ว่าจะมีเรื่องที่สำคัญใดๆเกิดขึ้นภายในโลกแห่งเมฆานั้น ล้วนถูกตัดสินใจโดยตัวแทนทั้งเก้านี้
ในบรรดามนุษย์จะครอบครองตำแหน่งที่นั่งทั้งหมด5ที่ เผ่าพันธุ์ปีศาจจะได้ครอบครองตำแหน่งที่นั่ง2ที่และเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลก็จะได้ครอบครองตำแหน่งที่นั่ง2ที่เช่นกัน หากพูดโดยหลักพื้นฐานนั้นมนุษย์มีความได้เปรียบอย่างมาก ปกติแล้วหากมนุษย์ตัดสินใจอย่างไร จากนั้นผลลัพธ์ของการประชุมก็จะเป็นไปตามนั้น
ต่อให้เผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลจะต้องการคัดค้านนั้น ก็ไม่สามารถที่จะทำได้
“การที่จัดตั้งที่นั่งของตัวแทนเช่นนี้ เผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลยินยอมหรือ?”
เซี่ยปิงถามขึ้นมา
ชายชราชุดคลุมสีขาวก็พูดออกมาอย่างเหยียดหยาม “ต่อให้พวกมันจะไม่ต้องการตอบตกลง ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ตั้งแต่ที่มนุษย์ต่างดาวบุกรุกเข้ามาในโลกแห่งเมฆานั้น เผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลต่างก็สูญเสียราชันปีศาจและราชันไร้เทียมทานไปเป็นจำนวนมาก มนุษย์นั้นเป็นฝ่ายที่ได้รับความสูญเสียน้อยที่สุด พลังการต่อสู้ของพวกเราจึงมีความได้เปรียบอย่างมหาศาล ไม่ใช่สิ่งที่ทั้งสองเผ่าพันธุ์จะเทียบด้วยได้”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือในปีที่ผ่านมา เผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราก็มีราชันกำเนิดขึ้นมาใหม่ถึง150คน นี่ยิ่งทำให้ความแตกต่างระหว่างพลังอำนาจของพวกเรากับเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลเพิ่มมากขึ้น”
ราชัน150คน?!
เซี่ยปิงกระพริบตา เขานึกได้ถึงผลไม้วิญญาณห้าธาตุที่ตนเองได้ทิ้งไว้ทันที อย่างมากก็สามารถที่จะผลิตราชันมนุษย์ขึ้นมาได้หนึ่งร้อยคนต่อปี ทว่าทำไมตอนนี้ถึงได้มีราชันมนุษย์ใหม่ถึง150คน นี่มันเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการจริงๆ
ทว่าหลังจากที่คิดดีๆนั้น เขาก็ไม่พบว่ามันแปลกประหลาด ถึงแม้ว่าผลไม้วิญญาณห้าธาตุนั้นจะสามารถช่วยให้มนุษย์เลื่อนขั้นเป็นผู้ใช้พลังฉีจักรพรรดิได้ ทว่ามันก็ไม่ได้บ่งบอกว่าผู้ที่ไม่มีผลไม้วิญญาณห้าธาตุนั้นจะไม่สามารถเลื่อนขั้นขึ้นมาได้
มีอัจฉริยะจำนวนมากมายที่พึ่งพาเพียงแค่พลังอำนาจของตนเองในการเลื่อนขั้นขึ้นมา
ยิ่งไปกว่านั้นตามความเร็วในการพัฒนาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์นั้น อีกทั้งการที่ได้ครอบครองวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงมาเช่นกันนั้น นักวิจัยจำนวนนับไม่ถ้วนก็อาจจะทำการศึกษาประสิทธิภาพของผลไม้วิญญาณห้าธาตุทั้งวันทั้งคืนและบางทีก็อาจจะพบเจอกระบวนการที่ใช้พัฒนาระดับพลังของมนุษย์ก็เป็นได้
ดังนั้นตอนนี้สำหรับมนุษย์นั้น การที่เลื่อนขั้นไปในระดับราชวังสีม่วงจึงไม่ใช่เรื่องที่เหนือธรรมชาติอีกต่อไป
ผู้คนที่เดินผ่านซึ่งได้ยินคำพูดของชายชราชุดคลุมสีขาวนี้ก็มีความรู้สึกในทิศทางเดียวกัน
“ใช่ ช่างเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดฝันจริงๆ ตอนนี้ราชันคนใหม่ๆปรากฏขึ้นมาเหมือนกับเป็นเกี๊ยวก็ว่าได้ ไม่ได้มีคุณค่าเหมือนกับเมื่อก่อน”
“ว่ากันว่ารัฐบาลมนุษย์ได้ค้นพบวิธีการพัฒนามนุษย์เพื่อเข้าสู่ระดับราชัน ในอนาคตบางทีพวกเราทุกๆคนอาจจะเลื่อนขั้นไปในระดับผู้ใช้พลังฉีจักรพรรดิก็เป็นได้ มีความสุขกับการที่มีอายุขัยนับพันปี”
“ไม่คาดคิดว่าช่วงเวลาในชีวิตของพวกเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ราชันไม่ใช่บุคคลที่สำคัญอีกต่อไป”
“การที่มีพลังอำนาจเช่นนี้ เผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลนั้นก็จริงใจขึ้นมาทันที ไม่กล้าที่จะยโสโอหังเหมือนเมื่อก่อน”
“จะยโสโอหังได้อย่างไรกัน? ตอนนี้พวกเรามีราชันที่เพิ่มขึ้นมากว่าร้อยคนในทุกๆปี บางทีในอนาคตอาจจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นที่มากกว่านี้ เพียงแค่จำนวนของราชันนั้น ก็สามารถที่จะกำจัดเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองนั่นได้นับสิบๆครั้ง”
“ตอนนี้โลกแห่งเมฆานั้นกลายเป็นอาณาเขตของพวกเรามนุษย์”
ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็รู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง รู้สึกปลื้มปิติอย่างมาก เดิมทีในโลกแห่งเมฆานั้นเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาถูกรังแก เผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลนั้นมักที่จะกวาดล้างเมือง สังหารผู้คนบนเกาะ ไม่รู้ว่าส่งผลให้มนุษย์จำนวนมากแค่ไหนบาดเจ็บล้มตายไป
ทว่าตอนนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้แต่ตอนนี้ทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็ไม่กล้าที่จะผายลมออกมาด้วยซ้ำ
บรรดาเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลที่ได้ยินคำเหล่านี้ แต่ละตัวต่างก็ไม่เต็มใจยอมรับอย่างมาก ทว่าต่อให้จะรู้สึกไม่พึงพอใจก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา เพราะว่าในตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่พวกมันมีอำนาจในโลกแห่งเมฆาอีกต่อไป
ตอนนี้มนุษย์นั้นได้แข็งแกร่งขึ้นมากว่าพวกมันอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพียงแค่การที่มีราชันกำเนิดขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆนั้น มันก็เป็นเหมือนกับการบีบคอไม่ให้พวกมันได้พักหายใจ
หากพวกมันไม่เปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเองล่ะก็ ชะตากรรมเดียวของพวกมันก็คงจะมีเพียงความตายเท่านั้น
“การที่มีราชันมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นจำนวนมากนั้น ในอนาคตมนุษย์ของพวกเราจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งเมฆาได้อย่างสุขสบาย”
“ใช่ไหม? การที่ตอนนี้มีราชันมนุษย์เพิ่มขึ้นมามากนั้น พวกเขาก็จะกระจายไปทั่วทั้งโลก ราชันแต่ละคนจะคุ้มกันแต่ละเมือง ไม่ว่าปีศาจตัวใดที่กล้าก่อปัญหาขึ้นมาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
“ก่อนหน้านี้ก็มีปีศาจใต้ท้องทะเลจำนวนหนึ่งที่ต้องการจะปล้นชิงเรือของมนุษย์ในท้องทะเล ทำการสังหารหมู่มนุษย์ อีกทั้งยังปฏิเสธที่จะกลับใจ ในที่สุดพวกเราก็ส่งราชันมนุษย์อกไปกว่าร้อยคน ตามไปที่รังของพวกมัน จากนั้นก็ฆ่าล้างพวกมันทั้งหมด ซึ่งการต่อสู้นี้ก็ทำให้เผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลช็อกอย่างมาก หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทะเลไร้จุดจบก็สงบสุขและเงียบมาก เหล่าโจรสลัดไม่ค่อยปรากฏตัวอีกต่อไป”
“ไมใช่เพียงแค่ทะเลไร้จุดจบเท่านั้น ทว่าบนบกก็เป็นเช่นกัน ในอดีตภูเขาแสนลูกที่เป็นอาณาเขตของเผ่าพันธุ์ปีศาจนั้น มักที่จะมีปีศาจออกมาบุกรุกเมืองมนุษย์เป็นครั้งคราว สังหารมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วน กินมนุษย์ทั้งเป็น ทว่าตอนนี้เพียงแค่พวกมันเข้าใกล้เมืองมนุษย์ พวกมันก็จะถูกกำจัดไปในทันที”
ผู้คนจำนวนมากต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้านี้ หนึ่งปีนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของมนุษย์จริงๆ การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์ในโลกแห่งเมฆานั้นดีกว่าเดิมมาก
ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะไม่ได้มีความคืบหน้ามากนัก ทว่าการที่ราชันมนุษย์เพิ่มขึ้นมานั้น มันก็ทำให้พลังอำนาจของเผ่าพันธุ์มนุษย์เติบโตขึ้นมาอย่างทวีคูณ
“ดูเหมือนว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีจริงๆ”
เซี่ยปิงพยักหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะทิ้งต้นไม้วิญญาณห้าธาตุไว้เพียงเท่านั้น ทว่ามันกลับเพิ่มพลังอำนาจของกองทัพมนุษย์ได้อย่างมาก ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์กลายเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของโลกแห่งเมฆา
ภายในโลกแห่งเมฆานั้น พลังอำนาจของราชันถือว่าเป็นสิ่งที่แน่นอน ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านได้ พลังการต่อสู้นั้นจะเป็นปัจจัยที่กำหนดชัยชนะและความพ่ายแพ้ของสงคราม
“เซี่ยปิง?!”
ในขณะที่เซี่ยปิงคิดที่จะเดินออกไปนั้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมา น้ำเสียงนี้ฟังดูประหลาดใจอย่างมาก เหมือนกับว่าจะรับรู้ถึงตัวตนของเซี่ยปิง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด