“แม่เจ้า พี่ใหญ่โหดเหี้ยมเกินไป”
เฟิงเหอตังมีสีหน้าที่ซีดเซียว เมื่อเห็นว่าเซี่ยปิงได้ใช้หอกแทงหัวหน้าหอคอยเซียงยุ่นจนตายไปนั้น เขาก็หวาดกลัวจนหัวใจสั่นระรัว
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้มานานแล้วว่าเซี่ยปิงเป็นบุคคลที่มีความอดทนต่ำ ทว่าเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะกล้าสังหารฝ่ายตรงข้ามอย่างกะทันหันเช่นนี้ ใช้หอกแทงผู้อื่นโดยที่ไม่มีความลังเล
ต้องรู้ด้วยว่าที่นี่คือรังโจร ทุกๆที่มีแต่ผู้คนของหอคอยเซียงยุ่น การที่กำจัดหัวหน้าของที่นี่ไป นี่ไม่ใช่เป็นการทำให้ตนเองตกเป็นเป้าของผู้คนจำนวนมากหรือ? ทำให้เรื่องมันใหญ่โตขึ้นมา
“เจ้าอันธพาลนี่”
เจียงยารุและคนอื่นๆก็เอามือแตะหน้าผากของตนเอง พวกเธอต่างก็พูดอะไรไม่ออก พวกเธอก็ล่วงรู้ว่าเซี่ยปิงนั้นเป็นบุคคลที่โหดเหี้ยมแค่ไหน ไม่คาดคิดว่ากลุ่มคนเหล่านี้ต้องการที่จะใส่ร้ายเซี่ยปิง อีกทั้งยังต้องการที่จะฉกฉวยสมบัติไปจากเขา นี่ไม่ใช่เป็นการนำพาความตายไปสู่ตนเองหรือ?!
ทว่าพวกเธอก็ไม่ได้โทษเซี่ยปิงแต่อย่างใด หนำซ้ำยังเข้าใจ เพราะว่าถึงอย่างไรฝ่ายตรงข้ามนั้นก็ประกาศว่าจะต้องการกำจัดพวกเขาทั้งหมด ต้องการที่จะฆ่าปิดปากพวกเขา
พวกเธอไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเสือที่ดุร้ายนั้นจะมีเหตุผลกับกระต่าย นี่มันไม่ได้แตกต่างจากการเข้ามาในถ้ำเสือ ต่อให้จะอ้อนวอนขอความเมตตาเพียงใดสุดท้ายเสือก็จะต้องกินกระต่าย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถามหาเหตุผลอีกต่อไป จะต้องทำการสังหารก่อนและพูดกันในภายหลัง
“เจ้าบัดซบ ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะกล้าสังหารท่านฉู่เฟิง!”
ผู้อาวุโสของหอคอยเซียงยุ่นก็รู้สึกงุนงง เขาไม่กล้าที่จะเชื่อสายตาของตนเอง เขาก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าเจ้าเด็กนี่จะโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ กล้าที่จะสังหารหัวหน้าของหอคอยเซียงยุ่น ช่างอาจหาญอย่างถึงที่สุด
“เพียงแค่การแทงหอกครั้งเดียวก็สังหารท่านฉู่เฟิงได้ นี่มันเป็นเรื่องตลกอะไรกัน?”
ผู้คนจำนวนมากต่างก็มีสีหน้าที่ตกตะลึง พวกเขาก็ไม่อยากเชื่อ เพราะว่าถึงอย่างไรฉู่เฟิงนั้นก็เป็นถึงยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นกลาง ควบคุมพลังอำนาจของสวรรค์และโลกได้ มีพลังการต่อสู้ที่ทรงอำนาจอย่างถึงที่สุด มีที่ไหนที่จะตายไปได้ง่ายๆ
ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าเขาจะถูกเจ้าชายหนุ่มคนนี้สังหารไปด้วยหอก พวกเขาคิดว่าเรื่องเช่นนี้ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย
“ช่างมีความกล้าหาญที่ใหญ่โตยิ่งนัก กล้าที่จะสังหารผู้คนของหอคอยเซียงยุ่น หนำซ้ำยังเป็นหัวหน้าฉู่เฟิง นี่เป็นความผิดที่มีโทษถึงตาย นี่เป็นความผิดที่มีโทษถึงตาย!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่เดือดระอุขึ้นมา ตะโกนออกมาอย่างโมโห
“สังหารเจ้าคนเสียสตินี่ซะ!”
ผู้คนของหอคอยเซียงยุ่นต่างก็อดทนอดกลั้นกับเรื่องนี้ไม่ได้อีกต่อไป ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นหนึ่งในกลุ่มอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองคริสตัล มียอดฝีมือที่มากมายดั่งก้อนเมฆาบนฟากฟ้า หากคนอื่นล่วงรู้ว่าหัวหน้าของตนเองถูกหอกสังหารภายในหอคอยเซียงยุ่น ถูกสังหารภายในอาณาเขตของตนเองนั้น ในอนาคตจะมีใครอีกที่เกรงกลัวพวกเขา
เมื่อถึงเวลานั้นบางทีพวกเขาอาจจะกลายเป็นกลุ่มอิทธิพลที่คนอื่นๆต้องการที่จะรังแก คนอื่นๆไม่ให้ความเคารพและก่อกวนระรานพวกเขาอย่างไม่รู้จบ ไม่มีจุดยืนอยู่ในดาวคริสตัลอีกต่อไป
ซู่ ซู่ ซู่!!!
ภายในพริบตา ผู้อาวุโสสองคนของหอคอยเซียงยุ่นก็ได้เคลื่อนไหวออกมา คนหนึ่งไปทางซ้าย อีกคนไปทางขวา ทั้งสองเป็นผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นเริ่มต้น ค่ายกลผสมผสานเข้ากับร่างกาย สามารถที่จะควบคุมพลังอำนาจของสวรรค์และโลกได้
“ตายซะ!”
ยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นเริ่มต้นทั้งสองคนที่ได้เคลื่อนไหวออกมานี้ เหมือนกับว่าพลังฉีภายในพื้นที่ระยะสิบกิโลเมตรนี้ได้ถูกถ่ายทอดมาทั้งหมด สะเทือนน้ำสะเทือนบก ที่พื้นก็เกิดการสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง
พวกเขาต่างก็ต้องการที่จะสังหารเซี่ยปิงใจจะขาด ไม่มีท่าทีของการปราณีแม้แต่น้อย
น่าเสียดายที่ทั้งสองคนนี้อ่อนแอเกินไป
เดิมทีภายในรังของมังกรที่แท้จริงนั้น เซี่ยปิงที่เป็นเพียงแค่ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดก็สามารถที่จะเอาชนะยอดฝีมือในระดับหล่อหลอมสมบัติจำนวนหลายคนได้ด้วยมือเปล่า ตอนนี้การที่เขาเลื่อนขั้นขึ้นมามาในระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นเริ่มต้นนั้น ไม่รู้ว่าพลังอำนาจของเขาได้เพิ่มขึ้นมามากแค่ไหน
เพียงแค่ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นเริ่มต้นสองคนที่ต้องการจะสังหารเขานั้น ช่างเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็ได้กำหอกอเวจีไว้อย่างแน่น พลังเวทมนตร์ภายในร่างกายก็ได้หลั่งไหลเข้าไปและได้แทงออกไปสู่ผู้อาวุโสทั้งสองคนของหอคอยเซียงยุ่น
อะไรกัน?!
ผู้อาวุโสทั้งสองต่างก็แตกตื่นขึ้นมาทันที เพราะพวกเขารู้สึกว่าความเร็วของหอกนี้รวดเร็วเกินไป รวดเร็วเกินไปจริงๆ เป็นเหมือนกับอุกกาบาตก็ว่าได้ รวดเร็วจนถึงจุดที่จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถตรวจจับได้
อีกทั้งหอกนี้ก็แอบแฝงไปด้วยพลังการเจาะทะลวงที่น่าสะพรึงกลัวเช่นกัน เดิมทีภายในร่างกายของพวกเขาที่มีพลังอำนาจของค่ายกลไหลเวียนอยู่นั้น ทว่าพลังการเจาะทะลวงนี้กลับฉีกทำลายลังอำนาจค่ายกลของพวกเขาไปอย่างกะทันหัน
“ท่าไม่ดีแล้ว!” บางคนที่อยู่ใกล้ๆได้กรีดร้องออกมา สัมผัสได้ว่าผู้อาวุโสทั้งสองคนนี้กำลังเผชิญกับอันตรายที่ยิ่งใหญ่ เป็นวิกฤติของความเป็นความตาย ทว่าในตอนนี้การที่ต้องการจะเข้าไปขัดขวางนั้นก็สายเกินไปเสียแล้ว
ตึบ!
วินาทีต่อมา หอกอเวจีก็ได้เจาะทะลวงหน้าอกของทั้งสองคน เป็นเหมือนกับการเจาะผ่านเต้าหู้ก็ว่าได้ เลือดพุ่งกระฉูดออกมาเหมือนกับเป็นน้ำพุ ไหลออกไปตามพื้น
“อ๊าก!”
ผู้อาวุโสของหอคอยเซียงยุ่นทั้งสองคนส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพช ปลายหอกได้ถ่ายทอดพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวออกไป ปกคลุมไปทั่วอากาศและภายในร่างกายของพวกเขา ปัง ร่างกายของพวกเขาได้ระเบิดออกมาทันที เปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มของหมอกเลือดที่ลอยออกมา
“ศัตรูโจมตี!”
“เร็ว รีบเปิดใช้งานค่ายกลทันที!”
“ทุกๆคนร่วมมือกัน สังหารเจ้าบุคคลที่ชั่วร้ายนี่ซะ!”
เห็นผู้อาวุโสทั้งสองคนที่ถูกสังหารไปต่อหน้าต่อตา ผู้คุ้มกันที่เหลือของหอคอยเซียงยุ่นก็ตะโกนออกมา พวกเขาต่างก็หวาดกลัวจนฉี่ราด ทันใดนั้นก็ได้ตะโกนเสียงดัง ตะโกนเรียกยอดฝีมือจำนวนมากของหอคอยเซียงยุ่นมาทันที
บางคนนั้นก็ถึงขั้นเปิดใช้งานค่ายกลภายในของหอคอยเซียงยุ่น
หล่ง หล่ง หล่ง~
อย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งตึกแห่งนี้ก็สั่นไหว ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ได้ปรากฏขึ้นมาเหนือท้องฟ้าของตึกแห่งนี้ เส้นลวดลายปรากฏขึ้นมาเหมือนกับเป็นการประทับตราในความว่างเปล่า มีความลึกลับอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“หืมม?!”
เซี่ยปิงขมวดคิ้ว ในเสี้ยววินาทีที่ค่ายกลนี้ปรากฏขึ้นมานั้น เขาก็เหมือนจะสัมผัสได้ว่าพลังฉีในระยะพื้นที่นับสิบกิโลเมตรได้รวบรวมเข้ามาที่ฐานค่ายกลนี้ จากนั้นความกดดันที่ยิ่งใหญ่ก็ได้กดทับบนร่างกายของเขาเช่นกัน
หมอกสีขาวได้ปรากฏขึ้นมาและปกคลุมออกไปรอบๆ เปลี่ยนตึกแห่งนี้ให้กลายเป็นโลกของหมอกและควัน สามารถมองเห็นได้ไกลออกไปเพียงสิบเซนติเมตรเท่านั้น แม้แต่การที่ยื่นมือออกไปก็แทบมองไม่เห็นนิ้วมือของตนเอง
เขาไม่คาดคิดว่าหอคอยเซียงยุ่นแห่งนี้จะไม่ใช่หอคอยธรรมดาทั่วไป ไม่คาดคิดว่าจะติดตั้งค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ไว้ เป้าหมายก็เพื่อสังหารศัตรูที่บุกรุกเข้ามา
“เจ้าหัวขโมย เจ้าไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้”
“ต่อหน้าค่ายกลหมอกแปดประตูของพวกเรานั้น ต่อให้เป็นผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติก็จะต้องตาย”
“จงนึกเสียใจซะเถอะ ผู้ที่กล้าบุกรุกเข้ามาสร้างปัญหาในหอคอยเซียงยุ่นของพวกเรานั้น ไม่มีใครที่จะได้เผชิญกับจุดจบที่ดี”
ยอดฝีมือของหอคอยเซียงยุ่นแต่ละคนต่างก็เผยสีหน้าที่ดุร้ายออกมา อย่างน้อยพวกเขาแต่ละคนก็อยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นเริ่มต้น อีกทั้งยังมีเป็นจำนวนมาก 300-400คน ตอนนี้แต่ละคนต่างก็ได้ผสมผสานพลังอำนาจเข้ากับค่ายกลนี้ หลั่งไหลพลังเวทมนตร์ของตนเองเข้าไป
ทว่าผู้ที่ควบคุมค่ายกลนี้อยู่นั้นก็คือชายชราคนหนึ่ง เขานั้นเป็นผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติขั้นกลางและเป็นผู้อาวุโสคนสุดท้ายของหอคอยเซียงยุ่น
เขามองไปที่เซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง หากเจ้าบัดซบนี่ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาล่ะก็ เป็นไปได้อย่างไรที่หอคอยเซียงยุ่นจะเผชิญกับความสูญเสียเช่นนี้
“ต้องการที่จะพึ่งพาฐานค่ายกลนี้ในการสังหารข้าหรือ? ช่างเป็นการประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไป”
สายตาของเซี่ยปิงเผยแสงที่หนาวเหน็บออกมา
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของขุมนรก—หอกกำราบปีศาจนรก!
ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็ได้กำหอกอเวจีไว้อย่างแน่น จากนั้นก็ไหลเวียนพลังอำนาจของความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมา ค่ายกลสีแดงได้ปรากฏขึ้นมาที่ปลายหอกอเวจีทันที ออร่าของขุมนรกที่น่าสะพรึงกลัวได้แผ่ออกมา เหมือนกับว่าประตูนรกได้ถูกเปิดออก
เห็นเพียงแค่ว่าเขาได้ยกหอกอเวจีขึ้นมา จากนั้นก็ได้ปักลงไปที่พื้น
ปัง!
พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวได้เอ่อล้นออกมาจากหอกอเวจี พลังอำนาจนี้เหมือนกับว่าจะเจาะทะลวงผ่านห้วงมิติก็ว่าได้ เจาะทะลวงค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ไป คาช่า ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ถูกเจาะทะลวงผ่านไปอย่างง่ายดาย
อีกทั้งก็ยังมีแสงสีดำที่ได้ยิงออกไป เจาะทะลวงผ่านทั่วทั้งตึกแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเจาะลึกลงไปใต้ดินถึง10เมตรเช่นกัน
ทว่าค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ก็ได้พังทลายอย่างกะทันหัน แตกกลายเป็นเสี่ยงๆ
“อั่ก!”
เมือค่ายกลถูกทำลาย ผู้อาวุโสของหอคอยเซียงยุ่นที่ควบคุมค่ายกลนี้ก็ได้รับภาระของพลังสะท้อนเข้าไปมากที่สุด พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวได้ท่วมท้นเข้าไปในร่างกายของเขา ในเสี้ยววินาทีร่างกายของเขาก็เหมือนกับลูกโป่งที่ระเบิดออกมาก็ว่าได้ เปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มของหมอกเลือด
ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆก็เผชิญกับผลสะท้อนกลับเช่นกัน ร่างกายของแต่ละคนต่างก็ระเบิดออกมา นอกจากผู้คนส่วนน้อยที่โชคดีรอดชีวิตออกมาได้นั้น คนอื่นๆก็ถูกสังหารไปทั้งหมด