สองเดือนต่อมา  ณ ห้องที่เงียบสงบภายในหุบเขาหยานหวง
เซี่ยปิงนั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้น ข้างหลังของเขามีอีกานรกทองคำปรากฏขึ้นมา กำลังดึงดูดพลังฉีของโลกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เป็นเหมือนกับการดูดกลืนแม่น้ำก็ว่าได้ พลังงานที่มหาศาลได้หลั่งไหลเข้ามาในร่างกาย
หลังจากการบ่มเพาะเป็นระยะเวลาสองเดือน ด้วยการกลืนกินเม็ดห้าธาตุ เม็ดยาหยินหยางและเม็ดยาอื่นๆรวมถึงหินวิญญาณอย่างต่อเนื่องนั้น แกนพลังฉีของเขาก็พัฒนาไปถึงจุดสูงสุดในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นเริ่มต้น เหลือเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นก็จะสามารถพัฒนาขึ้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางได้
เขารู้สึกว่าตอนนี้ตนเองได้มาถึงจุดก้าวผ่านแล้ว แก่นแท้ของพลังฉีและจิตวิญญาณอยู่ในสภาวะสูงสุด
“ถึงเวลาแล้ว!”
ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็ลืมตาขึ้นมา ม่านตาของเขานั้นมีดวงอาทิตย์ที่ปรากฏอยู่ มีเปลวไฟแห่งสวรรค์ที่ลุกโชนออกมา ในช่วงเวลานี้พลังเวทมนตร์และจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็พัฒนามาถึงขีดจำกัดเช่นกัน
ตึบ!
ทันใดนั้น จุดก้าวผ่านภายในราชวังสีม่วงก็ถูกกระแสพลังเวทมนตร์ที่ไหลเชี่ยวกระแทกเข้าไปจนแตกออก คาช่า คาช่า ส่งเสียงดังออกมา
ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง!
เซี่ยปิงล่วงรู้ทันทีว่าในที่สุดตนเองก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง พลังเวทมนตร์ที่ไร้ขอบเขตได้ไหลอยู่ภายในส่วนลึกของราชวังสีม่วง พื้นที่ของราชวังสีม่วงก็ได้รับการขยายออกไป พลังเวทมนตร์เป็นเหมือนกับน้ำที่ไหลเชี่ยว พุ่งออกไปข้างนอกของราชวังสีม่วงที่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว
ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อพลังเวทมนตร์ของราชวังสีม่วงหยุดเติบโตนั้น การขยายตัวของพื้นที่ราชวังสีม่วงก็หยุดลงเช่นกัน ทว่าเทียบกับพื้นที่ของราชวังสีม่วงก่อนหน้านี้นั้น ตอนนี้ไม่คาดคิดว่ามันจะขยายขึ้นมาถึงหนึ่งเท่า
หากมีบางคนที่เห็นพื้นที่ภายในราชวังสีม่วงของเซี่ยปิงในตอนนี้ พวกเขาจะต้องตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ นี่มันเป็นเหมือนกับท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ไกลจนสุดตาจะเห็น ทุกๆที่มีพลังเวทมนตร์ที่หลั่งไหลอย่างน่าอัศจรรย์
เส้นลมปราณจำนวนนับไม่ถ้วนและจุดเค้นพลังฉีจำนวนนับไม่ถ้วนในร่างกายกำลังสั่นสะท้าน พลังเวทมนตร์ได้ไหลออกไปจากราชวังสีม่วง หลั่งไหลไปทั่วทั้งร่างกาย เติมเต็มเซลล์แต่ละเซลล์จนมีพลังระเบิดที่เต็มเปี่ยม เหมือนกับว่ากล้ามเนื้อทุกมัดมีพลังอำนาจที่สามารถบดทำลายภูเขาก็ว่าได้
ในเวลาเดียวกันเซลล์อีกานรกทองคำของเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาเช่นกัน เซลล์อีกานรกทองคำละลายและผสมผสานเข้ากับเลือดในร่างกาย ทำให้สายเลือดอีกานรกทองคำของเขาเข้มข้นมากขึ้น บ่มเพาะร่างกายอย่างต่อเนื่อง
เลือดเป็นเหมือนกับลาวาที่เดือดระอุ ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยไอร้อนตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะว่าตอนนี้ร่างกายของเขานั้นมีอุณหภูมิที่สูงมาก จึงส่งผลให้ความชื้นรอบๆนั้นถูกระเหยไปอย่างกะทันหัน
การที่มีพลังอำนาจของสายเลือดเช่นนี้ เปลวไฟแห่งสวรรค์ทั้งสี่ในร่างกายของเขาก็ทรงอำนาจมากขึ้นเช่นกัน
“รูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์!”
ดวงตาทั้งสองของเซี่ยปิงเป็นประกาย ไม่ใช่แค่พลังเวทมนตร์และจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่พัฒนาขึ้นมา เพราะว่ารูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในส่วนลึกของราชวังสีม่วงนั้นก็ได้พัฒนาพลังอำนาจขึ้นมาอยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธ์ขั้นกลางเช่นกัน
รูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นมาภายในพื้นที่ราชวังสีม่วง นกศักดิ์สิทธิ์บินข้ามท้องฟ้าไป อสูรหยานเป่ยโลดแล่นไปอย่างอิสระ พระจันทร์เต็มดวงแขวนอยู่บนความว่างเปล่า มังกรสวรรค์คำรามออกมา…..
ปรากฏการณ์จำนวนนับไม่ถ้วนได้เกิดขึ้นในพื้นที่ของราชวังสีม่วง เหมือนกับว่ามีเทวดาตีฆ้องและกลอง เป่าหอยสังข์ พระอรหันต์กำลังสวดมนต์ พ่อมดกำลังอธิษฐาน
หล่ง หล่ง หล่ง~
ภายใต้พลังอำนาจที่ลึกลับนี้ ภายในรูนความสามารศักดิ์สิทธิ์แต่ละอย่างก็เหมือนกับว่ามีเส้นลวดลายมากขึ้น กลายเป็นเส้นที่ซับซ้อนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มีออร่าที่ทรงอำนาจแผ่ออกมา เป็นเหมือนกับว่าเป็นการประทับตราวิญญาณก็ว่าได้
รูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เหมือนกับว่าได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่อย่างช้าๆ ในความว่างเปล่ากำลังเกิดปฏิกิริยารุนแรงระหว่างค่ายกลของโลก เหมือนกับจะสามารถสื่อสารกับโลกได้ ค่ายกลนี้ก็ดูเป็นปริศนาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ล้ำลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้
เขารู้สึกเหมือนกับว่าตนเองได้พัฒนาขึ้นไปอีกหนึ่งก้าวสำหรับการควบคุมพลังอำนาจของสวรรค์และโลก
“ในที่สุดก็พัฒนาขึ้นมาในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง”
เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมา หลังจากที่บ่มเพาะเป็นระยะเวลาสองเดือน กินสมุนไพรวิญญาณและเม็ดยาอย่างมหาศาล ย่นระยะเวลาการบ่มเพาะไปได้นับสิบปี ในที่สุดเขาก็สามารถที่จะเลื่อนขั้นไปในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางภายในคราวเดียว
พลังเวทมนตร์และพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
แน่นอนว่าความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือการที่เขาสามารถทำความเข้าใจค่ายกลของโลกขึ้นมาในระดับหนึ่ง นี่สำหรับการเลื่อนขั้นไประดับหล่อหลอมสมบัตินั้น ถือว่ามีประโยชน์อย่างมมาก เป็นการผสมผสานค่ายกลของสวรรค์และโลกเข้ากับร่างกาย
หากรูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์แต่ละอย่างแปรเปลี่ยนกลายเป็นค่ายกลสวรรค์และโลกนั้น จากนั้นพลังอำนาจของมันก็จะเพิ่มขึ้นมานับสิบเท่า
อีกทั้งการที่สามารถเข้าใจได้ถึงค่ายกลนั้น จากนั้นก็จะเข้าใจถึงแก่นแท้ของการหล่อหลอมสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์เช่นกัน สามารถที่จะเจาะเข้าไปในค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ของสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ ทำให้สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์แสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือจินตนาการออกมาได้ มีพลังอำนาจที่ไร้ที่สิ้นสุด
………….
หลังจากนั้นหนึ่งวัน ณ ห้องที่เงียบสงบ
ในที่สุดเซี่ยปิงก็สามารถทำให้แกนพลังฉีในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางเสถียรมั่นคงได้ ควบคุมพลังเวทมนตร์และพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างกะทันทันได้อย่างสมบูรณ์ ก้าวเข้าสู่ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางอย่างเต็มตัว
“ทักษะหมัดสายฟ้า!”
เซี่ยปิงแสดงทักษะหมัดนี้ออกมาภายในห้องที่เงียบสงบ ทั่วทั้งร่างกายของเขามีพลังอำนาจของสายฟ้าแผ่ออกมา เสียงช็อตดังขึ้นมา เป็นเหมือนกับเทพเจ้าสายฟ้าที่ถือกำเนิดขึ้นมาก็ว่าได้ ทันใดนั้นรูนความสามารถศักดิ์สิทธิ์ก็ทะยานขึ้น รูนนี้มีลักษณะเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์สายฟ้า
นี่คือทักษะระดับเซนต์ที่ได้มาจากเฉียนซาน
ในระหว่างสองเดือนนี้ เขาไม่ใช่แค่ควบแน่นพลังเวทมนตร์และฝึกฝนทักษะหมัดสายฟ้าเท่านั้น
ทว่าเขาก็ยังฝึกฝนทักษะวิทยายุทธอื่นๆเช่นกัน ในตอนนี้ความเข้าใจของเซี่ยปิงนั้นอยู่ในจุดที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก มีประสบการณ์และความรู้มากมาย ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้คะแนนความเกลียดชัง ตนเองก็สามารถที่จะทำความเข้าใจได้อย่างยอดเยี่ยม
หลังจากการบ่มเพาะเป็นระยะเวลาสองเดือน ในที่สุดเขาก็สามารถที่จะเรียนรู้และฝึกฝนทักษะหมัดสายฟ้าจนประสบความสำเร็จ
เพื่อที่จะบ่มเพาะให้ทักษะระดับเซนต์นี้สำเร็จนั้น เขาต้องดึงดูดพลังอำนาจของสายฟ้าเก้าสวรรค์เข้าในร่างกายของตนเอง ใช้เทพเจ้าสายฟ้าเก้าสวรรค์เป็นแนวทาง ปะทุพลังอำนาจสายฟ้าฟาดออกมา นี่เป็นหนึ่งในทักษะบ่มเพาะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง มีพลังอำนาจที่เผด็จการอย่างมาก
แต่ปัญหาก็คือว่า คนส่วนใหญ่นั้นมักที่จะล้มตายไปในขั้นตอนแรก การที่ต้องการจะดึงดูดพลังอำนาจของสายฟ้าเก้าสวรรค์เข้ามาในร่างกายนั้น ด้วยพลังทำลายล้างของพลังอำนาจสายฟ้าฟาดนั้น สายฟ้าเหล่านี้จะช็อตร่างกายของผู้บ่มเพาะจนไหม้เกรียมไปอย่างกะทันหัน
อีกทั้งไม่รู้ว่าในอดีตเคยมีผู้คนจำนวนมากแค่ไหนที่บ่มเพาะทักษะหมัดสายฟ้านี้ ทว่าก็ต้องเผชิญกับความล้มเหลว นี่ถือว่าเป็นทักษะที่มีความอันตรายอย่างมาก เรียกได้ว่าจะต้องนำชีวิตของตนเองมาเสี่ยงเพื่อบ่มเพาะทักษะนี้
ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่ได้รับคัมภีร์ลับทักษะหมัดสายฟ้านี้มานั้นก็จะขายมันออกไป เพราะหากว่าเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์นั้น คัมภีร์ลับเล่มนี้ถือว่าไม่มีประโยชน์ใดๆสำหรับพวกเขา ถึงแม้ว่าจะเป็นทักษะที่ทรงอำนาจอย่างมาก ทว่าก็ไม่มีทางที่จะบ่มเพาะมันจนสำเร็จได้
ทว่านี่สำหรับเซี่ยปิงนั้น ไม่ได้เป็นปัญหาแม้แต่น้อย
เพราะว่าเขานั้นได้เผชิญหน้ากับการลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดมาแล้วหลายครั้ง ถูกฟ้าผ่ามาจนไม่สามารถนับได้ ภายในร่างกายของเขานั้นมีแก่นแท้ของสายฟ้านับไม่ถ้วนอยู่แล้ว แม้แต่ในจุดเค้นพลังฉีแต่ละจุดก็มีพลังงานของการลงทัณฑ์สายฟ้าฟาดที่เก็บไว้อยู่เช่นกัน
ดังนั้นการที่เซี่ยปิงจะทำการบ่มเพาะทักษะหมัดสายฟ้านั้น นี่จึงเป็นการที่ใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียวแต่ก็ได้ผลลัพธ์กลับมาสองเท่า สามารถที่จะเรียนรู้จนสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเข้าใจถึงความท่องแท้ของพลังอำนาจสายฟ้า สามารถที่จะควบคุมพลังอำนาจของสายฟ้าได้อย่างง่ายดาย
เรียกได้ว่าทักษะวิทยายุทธนี้มีความเหมาะสมกับตัวเขาอย่างมาก
ตึบ!
ภายในพริบตา เซี่ยปิงก็ประเคนหมัดออกไป พลังอำนาจสายฟ้าภายในร่างกายของเขาได้เอ่อล้นออกมา หลั่งไหลเข้าไปในหมัดอย่างกะทันหัน ปะทุออกมา กระแทกเข้าไปที่แผ่นหินตรงหน้า
ทันใดนั้นพลังอำนาจของสายฟ้านี้ก็เป็นเหมือนกับหอกยาว ปัง เจาะทะลวงเข้าไปอย่างกะทันหัน เจาะทะลวงผ่านแผ่นหินที่มีความแข็งแรงทนทานอย่างมาก ปรากฏเป็นรูขนาดใหญ่ขึ้นมา
รอบๆมีเสียงไฟฟ้าช็อต อีกทั้งก็ยังมีกลิ่นเหม็นไหม้ที่โชยออกมาเป็นครั้งคราว
ในเวลาเดียวกันเซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกายของเขาก็มีพลังอำนาจของสายฟ้าอยู่ เหมือนกับเป็นการกระตุ้นเซลล์เช่นกัน
เซี่ยปิงก็ค้นพบว่าการที่ไหลเวียนทักษะหมัดสายฟ้าออกมานั้น ในเวลาเดียวกันก็เหมือนกับว่าทักษะหมัดนี้จะมีอิทธิพลต่อการบ่มเพาะร่างกายของตนเองในระดับหนึ่งเช่นกัน
หลังจากนั้นก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน
“ถึงเวลาที่จะกลับไปที่โลกแห่งเมฆา”
ในที่สุดเซี่ยปิงก็เสร็จสิ้นการบ่มเพาะของตนเอง เขาได้ลืมตาขึ้นมา เผยให้เห็นแสงประกาย เขาได้จากโลกแห่งเมฆามาเป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งปี ตอนนี้ถึงเวลาที่จะกลับไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ได้ครอบครองระบบตาข่ายแห่งสวรรค์มา ควรที่จะติดตั้งระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นี้โดยเร็วที่สุดเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่ความล่าช้าจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา