God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ ตอนที่ 1196
“ดูเร็ว พลังอำนาจของบาเรียนี้เหมือนกับว่ากำลังอ่อนแอลง”ในช่วงเวลานี้ ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนของชนเผ่าวิญญาณก็ได้รวมตัวกันอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ พวกเขาต่างก็วิตกกังวลกันอย่างมาก กำลังมองดูสถานการณ์ของบาเรียตรงหน้าบางคนที่มีพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ที่เฉียบแหลมนั้น ตรวจจับได้อย่างกะทันหันว่าบาเรียตรงหน้านี้เหมือนกับว่าเกิดความผันผวนบางอย่าง เหมือนกับว่าพลังอำนาจของมันกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้แข็งแกร่งและไร้เทียมทานเหมือนกับก่อนหน้านี้“ใช่ เป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ”“นี่แสดงว่าผนึกของเซนต์โลหิตวิญญาณกำลังจะคลายลงหรือ?”“มีความเป็นไปได้สูง นี่ก็ผ่านระยะเวลามาสองวัน การที่ผนึกจะอ่อนแอลงนั้นก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก”“คาดการณ์ได้ว่ารออีกเพียงแค่หนึ่งวัน พวกเราก็จะได้เห็นเซนต์โลหิตวิญญาณ”“ทว่าการที่พวกเราไม่สามารถจับตัวปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้น ไม่ได้ทำภารกิจที่ท่านบรรพบุรุษเก่าแก่มอบหมายให้สำเร็จนั้น ท่านบรรพบุรุษเก่าแก่จะไม่โมโหหรือ?”“ท่านบรรพบุรุษเก่าแก่เป็นคนที่ใจกว้าง เป็นไปได้อย่างไรที่จะโมโหกับเรื่องแค่นี้?!”“ใช่ พวกเรารอดูเถอะ อีกไม่นานก็จะได้เห็นท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ที่กลับมาอีกครั้ง”ผู้คนต่างก็ตื่นเต้นกันอย่างมาก เมื่อคิดได้ว่าผนึกกำลังจะคลายลงและเซนต์โลหิตวิญญาณใกล้ที่จะออกมาจากบาเรียนี้นั้น พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งอารมณ์ของตนเองได้เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว เซนต์โลหิตวิญญาณนั้นคือตำนานของทวีป ผู้คนของชนเผ่าวิญญาณทุกคนต้องได้ยินถึงเรื่องราวของเซนต์โลหิตวิญญาณมาตั้งแต่เด็กๆ นี่มันช่างเป็นบุคคลในตำนานจริงๆฉางซื่อเซิงและคนอื่นๆต่างก็รู้สึกละอายใจเล็กน้อย เพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้นำกองกำลังจำนวนมากออกไป ใช้อำนาจและอิทธิพลอย่างเต็มเปี่ยม แต่ก็ไม่สามารถที่จะจับตัวปีศาจต่างถิ่นเหล่านั้นได้ ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามหลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย นี่มันเป็นความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่พวกเขาไม่รู้ว่าเซนต์โลหิตวิญญาณจะรู้สึกกับเรื่องนี้อย่างไร หากพวกเขาเผชิญกับการลงโทษอย่างหนักล่ะก็ คงจะเป็นโชคร้ายของพวกเขาจริงๆทว่าระยะเวลาหนึ่งวันก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ค่ายกลบาเรียนี้ก็ยังคงไม่ได้หายไป ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่แม้แต่จะส่งเสียงใดๆออกมาบางคนเริ่มรู้สึกตึงเครียด “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าท่านบรรพบุรุษเก่าแก่บอกว่าภายในระยะเวลาสามวันจะสามารถทำลายผนึกได้หรือ? ตอนนี้ก็ผ่านมาสามวันแล้ว ทำไมถึงไม่มีวี่แววใดๆ? หรือว่าการทำลายผนึกจะล้มเหลว?”“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ต่อให้จะล้มเหลวก็ควรที่จะต้องส่งเสียงออกมา อย่างน้อยท่านบรรพบุรุษที่อยู่ข้างในบาเรียจะต้องแจ้งพวกเราถึงเรื่องนี้ เจ้าอย่าพูดเรื่องที่จะทำให้ผู้คนตกอกตกใจเช่นนี้”บางคนที่พูดโต้แย้งออกมาทันที“ทว่าในกรณีนี้ ทำไมถึงไม่มีการตอบสนองใดๆ? ต่อให้จะล้มเหลว ก็ควรที่จะบอกพวกเรา” คนๆนั้นพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม เขาคิดว่าเรื่องนี้มันดูไม่ชอบมาพากลขึ้นเรื่อยๆฉางซื่อเซิงและคนอื่นๆก็พยักหน้าเช่นกัน พวกเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป“ข้าคิดว่าพวกเราไม่สามารถที่จะรอได้อีก การรอเช่นนี้จะเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์”บางคนที่เริ่มหมดความอดทนได้พูดออกมา “ข้าคิดว่าพวกเราควรที่จะช่วยเหลือเช่นกัน ช่วยท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ในการทำลายผนึกนี้ ทำไมพวกเราไม่โจมตีจากข้างนอกบาเรียเช่นกัน ประสานการโจมตีจากทั้งข้างนอกและข้างใน มันจะไม่ทำให้ผนึกถูกคลายเร็วขึ้นหรือ?”“ข้าไม่เห็นด้วย ข้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ใครจะไปรู้กันว่าผนึกนี้มีกลไกการทำงานอย่างไร? หากเจ้าโจมตีออกไปอย่างสิ้นคิด มันอาจจะส่งผลให้เกิดปัญหากับการปลดผนึกมากกว่าเดิม อาจจะทำให้ท่านบรรพบุรุษเก่าแก่บาดเจ็บได้เช่นกัน ผลลัพธ์เช่นนี้เจ้าสามารถที่จะรับผิดชอบได้หรือ?”บางคนที่พูดจาต่อว่าออกมา“ช่างมันเถอะ หากเจ้าไม่กล้า ข้าจะทำเอง”ชายวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดสีดำได้พูดแทรกขึ้นมา จากนั้นเขาก็ประเคนหมัดไปสู่บาเรียตรงหน้าเดิมทีเขานั้นเตรียมพร้อมสำหรับการต้านทานของบาเรียนี้ ทว่าในตอนนี้ไม่คาดคิดว่าหมัดของเขาจะผ่านบาเรียนี้ไปได้โดยตรง ทำให้ร่างของเขานั้นล้มไปที่บาเรียเช่นกันวิซ วินาทีต่อมา ทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ได้จมหายไปในบาเรียเช่นนี้อะไรกัน?!ผู้คนต่างก็มองอย่างตกตะลึง มองหน้าซึ่งกันและกัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้บาเรียนี้แข็งแรงทนทานแค่ไหน ต่อให้พวกเขาจะร่วมมือกันก็ไม่สามารถที่จะสร้างรอยขีดข่วนได้ ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะเข้าไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดฝัน“เป็นไปได้ว่าท่านบรรพบุรุษเก่าแก่อาจจะปลดผนึกได้แล้ว พวกเราลองเข้าไปดูเถอะ” ฉางซื่อเซิงตอบสนองในทันที ล่วงรู้ว่าบาเรียนี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้ จากนั้นเขาก็ได้ก้าวเข้าไปในบาเรียนี้ทันทีซู่ ซู่ ซู่!!!คนอื่นๆก็มองหน้าซึ่งกันและกัน จากนั้นแต่ละคนก็ได้ก้าวตามฉางซื่อเซิงเข้าไปในบาเรียทันใดนั้น ฉางซื่อเซิงและคนอื่นๆก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาข้างในพื้นที่ของค่ายกลบาเรียนี้“ที่นี่คือพื้นที่ข้างในบาเรียอย่างนั้นหรือ? นี่มันอะไรกัน? ท่านบรรพบุรุษเก่าแก่อยู่ที่ใด?” บางคนที่เดินเข้ามาและมองสำรวจออกไปรอบๆก่อนที่จะพบว่าข้างในพื้นที่แห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลยอย่าว่าแต่ภาพเงาของบรรพบุรุษเก่าแก่เลย แม้แต่ภาพเงาของคนๆเดียวก็ไม่มียิ่งไปกว่านั้นพื้นที่แห่งนี้ก็กว้างใหญ่อย่างมากแต่ก็ไม่มีที่ให้ใครได้หลบซ่อนเช่นกัน“หากไม่มีใครจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเศษกระดาษที่ปรากฏขึ้นมาก่อนหน้านี้นั้นเป็นฝีมือของใครกัน?” บางคนที่รู้สึกสับสนอย่างมาก นี่มันช่างเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด ก่อนหน้านี้มันคือภาพลวงตาอย่างนั้นหรือ?“ใช่ หินวิญญาณ พวกเราได้โยนหินวิญญาณเข้ามามากมาย แต่ว่าทำไมตอนนี้ถึงไม่ได้มีหินวิญญาณอยู่ที่นี่แม้แต่ก้อนเดียว?!” ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณตะโกนออกมา ไม่ใช่เพียงแค่ไม่ค้นพบใครเท่านั้น ทว่าแม้แต่หินวิญญาณก็ไม่ได้ค้นพบเช่นกัน ช่างเป็นเรื่องที่แปลกเกินไป“เดี๋ยวก่อน บนโต๊ะนี้เหมือนกับว่ามีข้อความบางอย่างที่ถูกเขียนไว้”ทันใดนั้นก็มีบางคนที่ค้นพบว่าเหมือนกับมีใครบางคนที่ได้ทิ้งข้อความเอาไว้บนโต๊ะในห้องหนังสือผู้คนจำนวนมากที่ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็รีบวิ่งไปที่ห้องหนังสือทันที จากนั้นก็ได้อ่านข้อความในทันที “การเดินทางของอู๋ไท่โต่วที่นี่ได้สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณสหายชนเผ่าวิญญาณทุกๆคนที่ได้มอบหินวิญญาณเหล่านี้เป็นของขวัญแก่ข้า คุณงามความดีครั้งนี้ข้าจะจดจำไปตลอดทั้งชีวิต ในอนาคตข้าจะตอบแทนพวกเจ้าอย่างแน่นอน”“อู๋ไท่โต่ว ทำไมชื่อนี้ถึงฟังคุ้นหูยิ่งนัก เหมือนกับว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง”ชายหัวโล้นได้ลูบศีรษะของตนเอง“เจ้าโง่!”บางคนที่อยู่ใกล้ได้ต่อว่าออกมาและตบเข้าไปที่ศีรษะของชายหัวโล้นทันที “แน่นอนว่าต้องคุ้นหู เจ้าอู๋ไท่โต่วนี่คือฆาตกรที่สังหารลูกชายของจ้าวสำนักฉาง เป็นผู้ที่มาจากนอกจักรวาล เป็นปีศาจต่างถิ่นที่ชั่วร้ายซึ่งไม่เห็นใครอยู่ในสายตา!”ชายหัวโล้นคนนี้ก็ทำสีหน้าที่งุนงงครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องเมื่อสามวันก่อนได้อย่างรวดเร็ว“เวรเอ๊ย แต่ทำไมเขาถึงต้องขอบคุณพวกเรา? เขาเป็นปีศาจต่างถิ่น เป็นผู้ที่ชนเผ่าวิญญาณของพวกเราไล่ล่า” บางคนที่อยู่ในสภาวะงุนงงอย่างถึงที่สุด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“นี่มันยังไม่ชัดเจนอีกหรือ? พวกเราถูกหลอกลวง ถูกหลอกลวง ผู้ที่อยู่ข้างในพื้นที่บาเรียนั้นไม่ใช่ท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ ทว่าเป็นเจ้าปีศาจต่างถิ่นอู๋ไท่โต่วนั่น เจ้าบัดซบนั่นใช้สถานะของท่านบรรพบุรุษเก่าแก่ในการหลอกลวงพวกเรา”ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณคนหนึ่งที่ตะโกนออกมาอย่างโศกเศร้าและไม่พึงพอใจ การที่เห็นข้อความที่ทิ้งไว้นี้ มีที่ไหนที่เขาจะไม่เข้าใจอีก พวกเขาทั้งหมดได้หลงกลฝ่ายตรงข้ามแล้ว ถูกเจ้าอู๋ไท่โต่วนั่นหลอกลวงเหมือนกับเป็นคนโง่เขลาก็ว่าได้ผู้คนจำนวนมากที่อยู่รอบๆก็เหมือนกับว่าเข้าใจได้อย่างกะทันหัน ทันใดนั้นสีหน้าก็ซีดเผือดเหมือนกับว่าภรรยามีชู้ก็ว่าได้“ไม่มีทาง หินวิญญาณทั้งหมดที่พวกเราได้โยนเข้ามา มีจำนวนกว่า2-3แสนก้อน หินวิญญาณทั้งหมดหายไปไหนกัน?” มีบางคนที่ตะโกนออกมา “นั่นคือหินวิญญาณในจำนวนกว่า3แสนก้อน กองกันได้เป็นภูเขาขนาดเล็ก เขาจะนำพวกมันทั้งหมดกลับไปอย่างไร ไม่เกรงกลัวว่ามันจะทับเขาจนตายหรือ?!”เขาไม่เข้าใจถึงจุดๆนี้ ก้อนหินวิญญาณจำนวนกว่าสามแสนก่อนนั้น ต่อให้คนๆหนึ่งจะมีสามเศียรหกกรก็ไม่สามารถที่จะนำกลับไปได้ นี่มันเทียบเท่ากับการเดินแบกภูเขาขนาดเล็กไว้บนหลังก็ว่าได้ยิ่งไปกว่านั้นการกระทำเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะพวกเขาจะไม่ค้นพบ“ยังจะต้องถามอีกหรือ? เขานั้นเป็นปีศาจต่างถิ่น ข้าได้ยินมาว่าบนตัวของปีศาจต่างถิ่นเหล่านี้นั้นมีสมบัติที่มีชื่อว่าแหวนห้วงมิติอยู่ สามารถที่จะเก็บสิ่งของได้มากมาย คาดการณ์ได้ว่าไอ้ลูกหมานั่นก็คงจะขนย้ายหินวิญญาณทั้งหมดออกไปด้วยแหวนห้วงมิตินี้”ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณตะโกนออกมา
คอมเม้นต์