God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ ตอนที่ 1192
“ท่าไม่ดีแล้ว! นี่มันคือหมอกพิษ อย่าสูดดมเข้าไปเด็ดขาด”ชายชราชุดคลุมสีเทาและคนอื่นๆต่างก็สะดุ้งตกใจขึ้นมา พวกเขาต่างก็รู้สึกได้ทันทีว่าตนเองได้สูดดมหมอกพิษเข้าไป พลังอำนาจกำลังหายไปจากร่างกายอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าพลังเวทมนตร์ที่ได้บ่มเพาะมานานหลายปีกำลังจะหายไปก็ว่าได้ความผิดปกติเช่นนี้ทำให้พวกเขาแตกตื่นกันอย่างมากในฐานะที่เป็นผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์นั้น พวกเขาคุ้นชินกับพลังอำนาจที่สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาและแหวกว่ายน้ำทะเล ทว่าในช่วงเวลานี้การที่ได้สูดดมหมอกพิษนี้เข้าไปนั้น ไม่คาดคิดว่าพลังอำนาจที่ตนเองได้บ่มเพาะมานานหลายปีกำลังจะหายไป ตนเองกำลังจะกลายเป็นมนุษย์ปกติธรรมดาที่ไร้ซึ่งพลังก็ว่าได้ความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดทว่าพิษสลายพลังงานนี้มีผลที่เผด็จการอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ตราบใดที่สูดดมเข้าไปเพียงเล็กน้อยโดยที่ปราศจากยาถอนพิษนั้น ก็ไม่สามารถที่จะขจัดมันออกไปได้เลย ต่อให้จะเป็นถึงผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ก็ตามตึบ ตึบ ตึบ!!!ร่างกายของพวกเขาแต่ละคนต่างก็อ่อนแรงอย่างถึงที่สุด เป็นเหมือนกับปลาที่ขาดน้ำก็ว่าได้ ล้มลงไปทันที ทั่วทั้งร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยืนขึ้นอีกต่อไป แม้แต่การที่จะขยับนิ้วมือนั้นก็เป็นเรื่องที่ยาก“นี่มันไม่ถูก เจ้าไม่ใช่ผู้คนของสำนักวิญญาณ เจ้า…แท้ที่จริงแล้วเจ้าเป็นใครกัน?”ในช่วงเวลานี้ ชายชราชุดคลุมสีเทาและคนอื่นๆต่างก็จ้องมองเซี่ยปิงอย่างโมโหมีที่ไหนที่ตอนนี้พวกเขาจะไม่รู้อีก ทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าตนเองนั้นไม่ใช่ลูกผู้ดีมีเงินของสำนักวิญญาณ เพราะลูกผู้ดีมีเงินจริงๆนั้นจะไม่มีความกล้าหาญในการทำร้ายผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณเช่นนี้เจ้านี่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะเยี่ยมเยียนสำนักวิญญาณหรือว่ามาหาพวกเขา ทว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคือตำหนักสืบทอดแห่งนี้ทว่าการที่พวกเขาสามารถเข้าใจถึงจุดนี้ได้ในตอนนี้นั้น มันก็สายเกินไปเสียแล้ว“เรื่องนี้พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ หลับให้สบาย”เซี่ยปิงเคลื่อนไหวทันที ทันใดนั้นพื้นที่รอบๆก็มีภาพเงาของเขาปรากฏขึ้นมามากกว่าสิบภาพเงา เคลื่อนที่ไปที่ชายชราชุดคลุมสีเทาและคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว ซึ่งมือของเขาได้สับเข้าไปที่หลังคอของพวกเขาทันทีตึบ พวกเขาต่างก็หมดสติและคว่ำหน้าลงไปในทันที อย่างน้อยก็ต้องใช้ระยะเวลาสามวันในการที่จะฟื้นคืนสติกลับมา“เอาล่ะ จัดการกับพวกเขาเรียบร้อย”เซี่ยปิงปรบมือ เขารู้สึกพึงพอใจอย่างมาก อีกทั้งก็ใช้จังหวะนี้ในการปิดประตูหน้าของตำหนักสืบทอดเช่นกัน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการที่ทหารที่เดินผ่านมาจะค้นพบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่“นี่มัน!”หลิวหยูหลานก็ช็อกอย่างมาก ต้องรู้ด้วยว่านี่คือผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์จำนวน5-6คน เป็นผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณ ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะสามารถจัดการไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ ง่ายดายเหมือนกับการเป่าฝุ่นให้หายไปถึงแม้ว่านี่จะเป็นการที่พึ่งพาหมอกพิษที่แปลกประหลาดบางอย่าง ทว่านี่ก็คือความเป็นจริง นี่เป็นการต่อสู้ มีที่ไหนที่ศัตรูจะต่อสู้กับเจ้าอย่างยุติธรรม แน่นอนว่ามีวิธีการใดก็จะต้องงัดออกมาใช้ทั้งหมด“ใช่สิ ข้าจะต้องทำอย่างไรเพื่อรับการสืบทอดของชนเผ่าวิญญาณ?” เซี่ยปิงมัดมือมัดเท้าของคนกลุ่มนี้ไว้ทั้งหมด จากนั้นก็หันไปถามหลิวหยูหลานหลิวหยูหลานก็จ้องมองอย่างวอกแวก เธอไม่คาดคิดว่าเรื่องมันจะดำเนินไปอย่างราบลื่นเช่นนี้ทว่าหากเซี่ยปิงไม่ได้ครอบครองพิษสลายพลังงานมาจากเฉินเหว่ย บางทีการที่จะต้องการจัดการกับกลุ่มผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้นั้นคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องขอบคุณเฉินเหว่ยจริงๆที่ได้มอบยาพิษที่ล้ำค่าเช่นนี้ให้กับเขาเธอครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมา “ตราบใดที่เจ้าวางมือไว้บนศิลาจารึกและใช้จิตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ในการเชื่อมโยงกับมัน ก็จะสามารถรับการสืบทอดทักษะลับจากศิลาจารึกได้”“ทว่านี่เป็นศิลาจารึกของชนเผ่าวิญญาณของข้า ตั้งแต่ยุคสมัยโบราณจนถึงปัจจุบันนั้นไม่เคยมีบุคคลภายนอกใดๆที่เคยแตะต้องมันมาก่อน เรื่องนี้ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้าจะสามารถรับการสืบทอดทักษะลับจากศิลาจารึกได้หรือไม่”นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบเจอสถานการณ์เช่นนี้“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลองดู”เซี่ยปิงมีกล้าหาญเพราะว่ามั่นใจในฝีมือของตนเอง เขาได้วางมือขวาลงไปที่ศิลาจารึกอย่างเบาบาง ในขณะเดียวกันก็ได้ไหลเวียนพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ออกมาและเชื่อมต่อเข้ากับศิลาจารึกตรงหน้านี้บึ้ซ~~ในตอนนี้ ศิลาจารึกสั่นสะเทือน มีแสงสีดำที่ส่องสว่างออกมา เป็นเหมือนกับพลังงานที่ปกคลุมก็ว่าได้ มันได้กระจายออกไปรอบๆ ห่อหุ้มทั่วทั้งตำหนักสืบทอดแห่งนี้แม้แต่หลิวหยูหลานก็ได้รับผลกระทบเช่นกันจากนั้นเสียงเครื่องจักรก็ดังออกมาจากศิลาจารึกนี้ “ดิ้ง ดิ้ง ตรวจสอบสถานะผู้รับการสืบทอด เพศชาย ไม่ใช่ผู้คนของชนเผ่าวิญญาณ หลังจากการตรวจสอบ มีคุณภาพของจิตวิญญาณที่สูงอย่างถึงที่สุด”“ดิ้ง ดิ้ง ในบริเวณใกล้เคียงก็มีเพศหญิงเช่นกัน เป็นผู้คนของชนเผ่าวิญญาณ มีร่างจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ มีคุณภาพของจิตวิญญาณที่สูงอย่างถึงที่สุด”“ตรงตามเงื่อนไขของการสืบทอด โปรดรับการสืบทอดไป!”ปัง!ทันใดนั้นก็มีพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวปะทุออกมาจากศิลาจารึกนี้ ซึ่งได้ปกคลุมเซี่ยปิงและหลิวหยูหลานทั้งสองคนอย่างกะทันหันอะไรกัน?!เซี่ยปิงตกใจขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าพลังอำนาจนี้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเขาในตอนนี้จะต้านทานได้แม้แต่น้อยปัง เซี่ยปิงและหลิวหยูหลานทั้งสองคนถูกห่อหุ้มด้วยพลังอำนานนี้ ทั้งสองต่างก็กอดรัดกันอย่างแน่น เกือบที่จะไม่มีช่องว่างระหว่างกันแม้แต่น้อย“อ๊าก!”ใบหน้าที่งดงามของหลิวหยูหลานแดงขึ้นมา เธอรู้สึกได้ถึงออร่าของผู้ชายที่แข็งแกร่งซึ่งแผ่ออกมาจากร่างกายของเซี่ยปิง ทั้งชีวิตนี้เธอไม่เคยได้เข้าใกล้ผู้ชายมาก่อน ไม่ต้องพูดถึงการที่จะได้อยู่ติดกันเช่นนี้ต้องรู้ด้วยว่าครั้งหนึ่งนั้นเธอเคยเป็นนักบุญหญิงของสำนักวิญญาณ เป็นดั่งเทพธิดาของทวีปโลหิตวิญญาณ มีที่ไหนที่ชายใดจะมีโอกาสได้เข้าใกล้เธอ แม้แต่การที่ต้องการให้เธอเหลียวตามองนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมากซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนหลั่ว หลั่ว หลั่ว~วินาทีต่อมา ก็มีลำแสงสีดำสองเส้นที่ได้พุ่งออกมาจากศิลาจารึกและพุ่งเข้าไปที่ศีรษะของเซี่ยปิงและหลิวหยูหลานทั้งสองคน ข้อมูลที่มหาศาลได้พรั่งพรูเข้ามาในอาณาเขตจิตใต้สำนักของพวกเขาทั้งสองทักษะเชื่อมโยงจิตใจ!เซี่ยปิงและหลิวหยูหลานทั้งสองล่วงรู้อย่างกะทันหัน นี่คือทักษะพลังวิญญาณระดับสุดยอดที่ศิลาจารึกได้มอบให้กับพวกเขา ทว่าหลิวหยูหลานนั้นรู้สึกเขินอายจนใบหน้าแดงเหมือนกับลูกมะเขือเทศทันที เกือบที่จะมีไอร้อนแผ่ออกมาอย่ามองเพียงแค่ว่าทักษะลับนี้มีชื่อที่ฟังดูดีอย่างมาก ทว่าในความเป็นจริงนั้น นี่คือทักษะการบ่มเพาะคู่นี่คือทักษะลับที่เซนต์โลหิตวิญญาณได้ครอบครองมาจากซากปรักหักพังโบราณสักแห่ง มีประโยชน์ในการใช้งานที่ไร้จุดสิ้นสุด เป็นทักษะที่ใช้ในการบ่มเพาะระหว่างคนรักหรือว่าสามีและภรรยาเมื่อใดที่บ่มเพาะสำเร็จ ทั้งสองคนจะอยู่ในสภาวะที่สามารถเข้าถึงจิตใจของกันและกันได้ เพราะในช่วงเวลานี้ผู้หญิงและผู้ชาย หยินและหยางทั้งสองได้ปรับตัวเข้าหากัน มันจะเสริมสร้างพลังงานวิญญาณและทำให้จิตวิญญาณบริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง เป็นการบ่มเพาะที่พัฒนาด้วยความรวดเร็วที่รวดเร็วอย่างถึงที่สุดอีกทั้งยังสามารถที่จะเชื่อมโยงความคิดของกันและกันได้ สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์วิทยายุทธที่อีกฝ่ายมีและส่งเสริมซึ่งกันและกันนี่มีผลลัพธ์ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมากว่ากันว่าทักษะลับนี้เป็นสิ่งที่เซนต์ที่ไร้เทียมทานในยุคสมัยโบราณได้คิดค้นขึ้นมา เดิมทีเขานั้นมีฮาเร็มของผู้หญิงจำนวนสามพันคน ซึ่งผู้หญิงแต่ละคนนั้นต่างก็เป็นดั่งเทพธิดาในยุคนั้น มีพรสวรรค์ระดับสุดยอดการที่ใช้ทักษะการบ่มเพาะนี้ เซนต์ผู้นี้จึงได้ทำการบ่มเพาะคู่กับหญิงสาวทั้งสามพันคน จากนั้นก็ได้เรียนรู้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของหญิงงดงามทั้งสามพันคนอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าประหยัดระยะเวลาและความพยายามในการบ่มเพาะไปมากแค่ไหนนี่เทียบเท่ากับการมีร่างโคลนหลายพันร่างที่ช่วยในการบ่มเพาะก็ว่าได้ทว่าข้อกำหนดของทักษะลับนี้ก็สูงมากเช่นกัน พรสวรรค์ของผู้หญิงและผู้ชายทั้งสองนั้นจะต้องอยู่ในระดับสูงสุดจึงจะสามารถบ่มเพาะด้วยกันได้ ต่อให้ขาดเพียงเล็กน้อย ก็จะถือว่าไม่ตรงตามข้อกำหนดดังนั้นศิลาจารึกนี้จึงได้ตรวจสอบว่าทั้งสองคนนั้นมีพรสวรรค์ตามธรรมชาติระดับสูงสุด เป็นผู้หญิงและผู้ชายที่ตรงตามเงื่อนไขของการสืบทอดทักษะเชื่องโยงจิตใจนี้อย่างสมบูรณ์แบบ นี่เป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อนานแค่ไหน“ไม่นะ!!”รู้สึกได้ถึงทักษะที่น่าอัศจรรย์นี่ เซี่ยปิงและหลิวหยูหลานทั้งสองคนก็ดื่มด่ำไปกับมันโดยที่ไม่ตั้งใจ ทำการบ่มเพาะอย่างอัตโนมัติ ไม่คาดคิดว่าจะสำเร็จการบ่มเพาะทักษะนี้อย่างกะทันหัน มือเท้าทั้งสองต่างก็สัมผัสซึ่งกันและกันปัง!ร่างกายของทั้งสองสั่นสะท้าน บนอากาศมีเสียงระเบิดที่ได้ดังขึ้นมา ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของทั้งสองจะลอยออกมาจากร่างกายและลอยขึ้นไปบนอากาศในช่วงเวลานี้จิตวิญญาณของเซี่ยปิงและหลิวหยูหลานทั้งสองคนต่างก็เชื่อมโยงกัน อยู่ในสภาวะที่ดั้งเดิมที่สุดและเปลือยเปล่า นี่คือแก่นแท้ของหยินและหยาง ทั้งสองฝ่ายต่างก็ถูกดึงดูดเข้าด้วยกันโดยที่ไม่ตั้งใจ เชื่อมโยงซึ่งกันและกันโดยเฉพาะขาที่เรียวยาวของหลิวหยูหลาน เอวเพรียวบางของเธอและผิวที่ขาวผุดผ่อง ซึ่งต่อให้จะอยู่ในรูปของจิตวิญญาณ รูปร่างที่เย้ายวนนี้ไม่ว่าใครเห็นก็ไม่สามารถที่จะต้านทานอารมณ์ของตนเองได้ นี่คือหญิงสาวที่งดงามอันดับต้นๆของทวีปโลหิตวิญญาณ“ไม่ ไม่ต้องการ”ใบหน้าของหลิวหยูหลานแดงยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศเสียอีก ทว่าก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านได้ ทำให้เพียงแค่คล้อยตามกระบวนการไป
คอมเม้นต์