God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ ตอนที่ 1332

อ่านนิยายจีนเรื่อง God Level Demon ระบบความเกลียดชังปีศาจ ตอนที่ 1332 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

อีกทั้งไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหน โฮ่วซานก็ได้ตื่นขึ้นมาอย่างเงียบๆ
“เจ็บจริงๆ!”
เมื่อตื่นขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่หน้าผากของตนเอง ความรู้สึกนี้เหมือนกับว่ามีใครได้เจาะทะลุหน้าผากของตนเอง มีเลือดไหลออกมา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ท้ายที่สุดแล้วเกิดอะไรขึ้น?”
โฮ่วซานยังคงรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เขานึกได้เพียงแค่ว่าตนเองถูกอิฐทุบเข้าไปจนสลบ ทุบเข้ามาที่หน้าผากของตนเองอย่างโหดเหี้ยม
เดี๋ยวก่อน อิฐหรือ?!
เขาตาสว่างขึ้นมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็ได้สำรวจกระเป๋ากางเกงทันที ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็เย็นเยียบ
“ทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีด ทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดของข้าอยู่ที่ใดกัน?! เจ้าบัดซบนั่นที่ใช้อิฐทุบข้าได้ขโมยมันไปหรือ?” โฮ่วซานกรีดร้องออกมา สีหน้าของเขาซีดเผือด เหมือนกับถูกบีบบังคับให้อมคางคกอยู่ในปาก
ทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนั้นเป็นสิ่งที่จะใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา จะทำให้เขาก้าวเข้าสู่จุดที่รุ่งเรืองที่สุดของชีวิต ทว่าตอนนี้ไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรเหลือ เป็นเหมือนกับการใช้ตะกร้าไม้ไผ่หาบน้ำ
“เดี๋ยว นี่มันคืออะไรกัน?”
โฮ่วซานสังเกตเห็นอย่างรวดเร็ว ข้างๆตนเองมีหินอยู่ก้อนหนึ่ง ทว่าบนก้อนหินนี้มีตัวอักษรบางอย่างที่เขียนเอาไว้: ทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนั้นเป็นสิ่งที่โชคชะตาลิขิตมาเพื่อข้า ด้วยเหตุนี้จึงขอนำมันไป หวังว่าจะยกโทษให้ ลงนาม:อู๋ตี่
ยกโทษตูดข้าสิ!
โฮ่วซานเดือดระอุขึ้นมาทันที กัดฟันอย่างแน่น เป็นสิ่งที่โชคชะตาลิขิตมาเพื่อเจ้า ดังนั้นจึงขโมยไปได้หรือ? ถ้าอย่างนั้นตามความจริงนี้ สมบัติทั่วทั้งจักรวาลก็เป็นสิ่งที่โชคชะตาลิขิตมาเพื่อข้า ข้าก็สามารถที่จะขโมยพวกมันมาได้หมดหรือ?!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับบุคคลที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการขโมย ไม่คาดคิดว่าจะอ้างเหตุผลให้ฟังดูดี ช่างมีใบหน้าที่ด้านหนาอย่างถึงที่สุด
“บัดซบ หน้ากากปลอมตัวของข้า มีดสั้นของข้า ยันต์ที่ข้าได้ทำงานมาอย่างหนักและสูญเสียไปมากมายกว่าที่จะได้มา หายไปไหนกัน พวกมันหายไปไหนกัน?” โฮ่วซานตะโกนออกมา
เขาก็ค้นพบอย่างรวดเร็วว่าทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนั้นไม่ใช่สิ่งเดียวที่ถูกขโมยไป แม้แต่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของเขาหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากปลอมตัวและสมบัติอื่นๆต่างก็หายไป
ตอนนี้เขาสะอาดอย่างมาก ไม่มีอะไรหลงเหลือนอกจากเสื้อผ้า แม้แต่อาหารแห้งที่เขาเก็บไว้ก็ถูกขโมยไปเช่นกัน เรียกได้ว่าได้ตอนนี้ความมั่งคั่งของเขานั้นสะอาดยิ่งกว่าใบหน้าเสียอีก สิ่งมีค่าต่างๆได้หายไปทั้งหมด
“เจ้าอู๋ตี่ ข้าและเจ้าจะมีความอาฆาตแค้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด! แม้แต่อาหารแห้งของข้าก็ขโมยไป เจ้ายังมีความเป็นมนุษย์อีกหรือไม่?! มีความละอายใจบ้างหรือไม่?! ทำไมเจ้าถึงไม่เอากางเกงในของข้าไปด้วยเลย!”
โฮ่วซานโมโหอย่างมาก ความรู้สึกของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง คำรามออกสู่ท้องฟ้า โศกเศร้าและไม่พึงพอใจ เขาปรารถนาที่จะหั่นเจ้าอู๋ตี่นั่นให้เป็นชิ้นๆ เจ้าโจรบัดซบนี่ช่างไม่มีจิตใต้สำนึกแม้แต่น้อย
เขาคิดว่าการที่ได้มาเจอกับเจ้าบัดซบนั่น ช่างเป็นเหมือนการเผชิญกับหายนะก็ว่าได้ แม้แต่เผ่าพันธุ์เทาเที่ยก็ไม่ได้ละโมบถึงขั้นนี้ เงินแดงเดียวก็ไม่ได้หลงเหลือไว้ให้เขา
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่พึงพอใจที่สุดก็คือความยโสโอหังอย่างเจ้านี่ ดูถูกเหยียดหยามผู้คนอย่างแท้จริง เห็นได้ชัดว่าขโมยสิ่งของคนอื่นไป ไม่คาดคิดว่าจะกล้าทิ้งชื่อของตนเองไว้ อันที่จริงเจ้านี่ต้องการที่จะดูถูกเหยียดหยามเขาจนถึงขั้นไหนกัน
คิดว่าต่อให้จะทิ้งชื่อเอาไว้ เขาก็ไม่มีความสามารถพอที่จะล้างแค้นเจ้าบัดซบนั่นหรือ?!
โฮ่วซานกัดฟันอย่างแน่น รู้สึกเคียดแค้นอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทว่าหากเขาได้พบเจอกับเจ้าบัดซบอู๋ตี่นั่นล่ะก็ เขาจะต้องต่อสู้กับเจ้าบัดซบนั่นจนตัวตายอย่างแน่นอน ไม่ยอมหยุดจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง
………..
ทว่าในตอนนี้ เซี่ยปิงก็ได้เดินทางกลับมาอย่างรวดเร็ว มาถึงที่หุบเขาแห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นสถานที่ที่เขาและกลุ่มของเจียงยารุได้ตกลงที่จะนัดเจอ
ทว่าเมื่อเข้ามาในหุบเขาแห่งนี้ เขากลับรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เลวร้ายบางอย่าง
ในช่วงเวลานี้ เจียงยารุและคนอื่นๆ รวมถึงกลุ่มของเด็กตัวเล็กๆกำลังถูกกลุ่มอาชญากรที่ชั่วร้ายล้อมรอบอยู่ ในมือของพวกเขามีหอกยาว ดาบใหญ่ ขวานและอาวุธอื่นๆ
ผู้คนเหล่านี้ดูโหดร้ายอย่างแท้จริง บางคนมีแผลเป็นบนใบหน้า บางคนหัวโล้น บางคนมีรอยสัก เพียงแค่มองแวบเดียวก็สามารถที่จะรู้ได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนดี จะต้องเป็นกลุ่มอาชญากรที่ได้สังหารผู้คนมาแล้วนับไม่ถ้วน
เพราะว่ามีผู้คนจำนวนมากที่ได้เข้ามาในหุบเขาแห่งนี้เพื่อทำการสำรวจหาทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนั้น ดังนั้นกลุ่มอาชญากรที่โดดเด่นเหล่านี้จึงได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่อยู่รอบๆเช่นกัน พวกเขาต่างก็มองเข้ามาอย่างสงสัย
“นี่เป็นกิจการของแก๊งเสือดำ บุคคลภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องให้รีบออกไปซะ ไม่อย่างนั้นจะต้องถูกสังหารโดยที่ไร้ความปราณี!”
ชายหัวโล้นตะโกนออกมาอย่างโมโห จิตสังหารกำลังเดือดดาลออกมา เผด็จการอย่างมาก จ้องมองกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยสายตาที่ดุร้าย
แก๊งเสือดำ?!
ผู้คนที่อยู่รอบๆก็สะดุ้งตกใจ พวกเขาก็เคยได้ยินชื่อของแก๊งเสือดำมาก่อน เป็นองค์กรมืดที่เลื่องลือในเมืองตะวันออกอันไกลโพ้น เป็นแหล่งรวมของอาชญากรต่างๆนาๆ มีสมาชิกเป็นจำนวนมาก
แม้แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง องค์กรนี้ก็ยังถือว่าเป็นเผด็จการท้องถิ่น ปกครองดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง
ถึงแม้ว่าสำหรับบุคคลที่ยิ่งใหญ่เรื่องนี้จะไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง ทว่าสำหรับบุคคลที่ต่ำต้อยและไม่ได้มีสถานะสูงส่งนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้อย่างแน่นอน อย่าพูดถึงว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นก็เป็นผู้คนจากโลกใต้ดินที่สามารถล้างแค้นให้กับเรื่องที่เล็กน้อยที่สุดได้
หากยั่วยุฝ่ายตรงข้ามล่ะก็ บางทีพวกเขาอาจจะเผชิญกับปัญหาใหญ่ได้
ทันใดนั้นผู้คนจำนวนมากก็ได้ล่าถอยออกไป ไม่กล้าที่จะยุ่งเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้
ทว่าก็ยังมีบางคนที่ไม่ได้ออกไป เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วการที่พวกเขากล้าที่จะสำรวจหาทักษะหล่อหลอมเปลวไฟสามขีดนั้น พวกเขาก็มั่นใจในพลังอำนาจของตนเองเช่นกัน สำหรับบุคคลที่มีความดื้อรั้นและภาคภูมิใจในตนเองนั้น มีที่ไหนที่จะอดทนอดกลั้นกับคำพูดที่ยโสโอหังเช่นนี้ได้
“เดี๋ยว นี่มันไม่ใช่ลู่หู่หัวหน้าแก๊งเสือดำหรือ? ไม่คาดคิดว่าเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นกัน”
บางคนที่ตะโกนออกมา เขาสังเกตเห็นอย่างกะทันหันว่าในฝูงชนนั้นมีชายหัวโล้นร่างกำยำที่มีความสูงสองเมตรสองอยู่คนหนึ่ง ทั่วทั้งร่างกายของฝ่ายตรงข้ามนั้นมีออร่าของพยัคฆ์ดุร้ายที่แผ่ออกมา โดดเด่นยิ่งกว่าคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีทางที่จะเพิกเฉยได้
ไม่ว่าใครที่เห็นชายกำยำคนนี้ก็จะต้องรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ใช่บุคคลที่ควรไปท้าทายด้วยอย่างแน่นอน
พวกเขาก็เคยได้ยินว่าลู่หู่นั้นเป็นยอดฝีมือในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด ขาดอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นในการที่จะเลื่อนขั้นไปในระดับหล่อหลอมสมบัติ พลังอำนาจเช่นนี้ในเมืองระดับต่ำนั้น ถือว่าไม่ได้เป็นรองใคร!
เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ผู้คนจำนวนมากก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา ในเมื่อลู่หู่ปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่ ก็แสดงว่ายอดฝีมือส่วนใหญ่ของแก๊งเสือดำก็ต้องติดตามมาเช่นกัน พวกเขาไม่ต้องการที่จะยั่วยุกลุ่มอิทธิพลเช่นนี้
ตึบ!
ลู่หู่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับจ้องมองไปที่เจียงยารุและคนอื่นๆ จากนั้นก็ถามด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ เหมือนกับพึมพำอยู่ก็ว่าได้ “อู๋ตี่ เจ้าอู๋ตี่อยู่ที่ไหนกัน ทำไมถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันกับพวกเจ้า?”
เขารู้สึกสงสัยในจุดๆนี้มาก เพราะว่าตามรายงานก่อนหน้านี้นั้น เจ้าอู๋ตี่กำลังเดินทางร่วมกับคนกลุ่มนี้ ทว่าเมื่อเขารีบเดินทางมาอย่างรวดเร็ว กลับพบว่าร่องรอยของอู๋ตี่ได้หายไป
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก หากเจ้าอู๋ตี่หายไปและกลับไปสู่เมืองตะวันออกอันไกลโพ้นล่ะก็ บางทีเขาอาจจะไม่สามารถหาโอกาสเช่นนี้ได้อีกแล้ว
สำหรับเรื่องนี้ เขาไม่มีทางอนุญาตให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่าเขาได้ลากผู้คนมาเกี่ยวข้องมากเกินไป อีกทั้งยังสูญเสียเงินทองไปอย่างมหาศาลเพื่อนำเข็มวิญญาณน้ำแข็งนี่มา ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะต้องกลับไปมือเปล่า เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้
“มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”
เจียงยารุและคนอื่นๆเปล่งเสียงออกมาในลำคอ ไม่ได้วางแผนที่จะบ่งบอกอะไรพวกเขา
“พูดถูก”
“เจ้าหัวโล้น อย่าคิดว่าการที่มีร่างกายใหญ่โตจะทำให้ผู้อื่นหวาดกลัวได้”
“ใช่ ผู้ใหญ่ที่หน้าตาโง่เขลาอย่างเจ้า ข้าสามารถรับมือได้สิบๆคนพร้อมกัน”
“ควรที่จะกลับไปทันที ไม่อย่างนั้นหากพวกเราโมโหขึ้นมา แม้แต่พวกเราเองก็เกรงกลัวตัวเองเช่นกัน”
กลุ่มของเด็กชายและเด็กสาวตัวน้อยต่างก็ตะโกนพร้อมกับแยกเขี้ยวออกมาเช่นกัน เผยให้เห็นถึงท่าทางที่ดุร้าย
ทันใดนั้นสมาชิกแก๊งเสือดำจำนวนมากก็อดใจที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ไม่คาดคิดว่ากลุ่มของเด็กเหล่านี้จะกล้าข่มขู่พวกเขาซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กรมืด สังหารผู้คนมาแล้วนับไม่ถ้วน บางทีความไร้เดียงสาก็เป็นบ่อเกิดของความกล้าหาญได้เช่นกัน
พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกกลุ่มของแกะตัวน้อยข่มขู่อยู่ก็ว่าได้ ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด