ตอนที่ 1551 พิษประหลาด
แมลงเม่าประหลาดเปล่งเสียงซือๆ ออกมาจากปากไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าการโจมตีเมื่อครู่ทำให้มันรู้สึกประหลาดใจ แต่ทันใดนั้นดวงตาสีแดงทองก็ฉายแววโหดเ**้ยมออกมา สองมือพลิ้วไหว กายเนื้อบนแขนที่รางเลือนมีลำแสงสีเขียวปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง บาดแผลหายเป็นปลิดทิ้งอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันปีกที่แผ่นหลังพลันสะบัด เปล่งแสงสีขาวนวลเจิดจ้า ปีกทั้งสองเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป กลับเผยมีดบินโปร่งใสเป็นร้อยๆ เล่มออกมา ทุกเล่มล้วนมีความยาวครึ่งฉื่อ ลำแสงเย็นเยียบเปล่งแสงสว่างวาบ ไอทมิฬกดดันผู้คน ทันใดนั้นแววตาของตัวประหลาดตัวนี้พลันฉายแววโหดเ**้ยม มีดบินที่แผ่นหลังเปล่งเสียงหึ่งๆ ออกมา ดูเหมือนหมายจะกระโจนเข้ามาอีกครั้ง และในตอนนั้นเองหานลี่กลับเปล่งเสียงหัวเราะออกมา ลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบขึ้นบนร่าง เกล็ดที่ปรากฏขึ้นบนผิวหนังทยอยกันหายไป แขนสีทองทั้งสี่เองก็รางเลือนหายวับไป นี่ทำให้แมลงเม่าประหลาดที่สติปัญญาไม่ต่ำต้อยนักตะลึงงัน การโจมตีอดที่จะหยุดชะงักลงไม่ได้ ส่วนหานลี่ที่อยู่ตรงข้ามกลับใช้มือหนึ่งร่ายคาถา แผ่นหลังมีเสียงฟ้าฟาด ปีกขนนกผลึกลำแสงคู่หนึ่งปรากฏขึ้น แค่ขยับคนก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย ครู่ต่อมาเสียงฟ้าผ่าดังออกไปยี่สิบสามสิบจั้ง ร่างของหานลี่เปล่งแสงสว่างวาบปรากฏขึ้น แต่ไม่ได้สำแดงเคล็ดวิชาป้องกันตัวใดๆ กลับใช้มือกอดอก เผยสีหน้าอมยิ้มขณะมองไปยังแมลงเม่าประหลาด แม้นว่าแมลงเม่ายักษ์จะรู้สึกฉงนสงสัย แต่นิสัยความโหดเ**้ยมก็กดระงับความสงสัยไปในพริบตา ปากพลันร้องซือๆ ออกมา เกล็ดบนร่างลุกชัน ไล่ตามไป แต่ยามนั้นหานลี่พลันลูบฝ่ามือแล้วฉีกยิ้มน้อยๆ ปากก็พ่นคำว่า “ร่วง ร่วง ร่วง!” คำว่า‘ร่วง’ออกจากปากสามคำ แมลงเม่าประหลาดพลันรู้สึกหัวหนักอึ้ง ความรู้สึกวิงเวียนหน้ามืดปะทุขึ้นมาที่ศีรษะ จากนั้นทรวงอกพลันรู้สึกคันยิบๆ ร่างกายส่วนหนึ่งสูญเสียความรู้สึกไป ซวนเซไปมาอย่างไม่อาจทำกายให้มั่นคงได้ แน่นอนว่าอสูรประหลาดทั้งตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยว รีบร้อนก้มหน้าลงมองถึงพบว่า ตรงกลางรูโลหิตที่ทรวงอกไม่อาจสมานหากันได้ หนึ่งของร่างกายกลายเป็นสีดำสนิท ในเวลาเดียวกันกลิ่นคาวคละคลุ้งก็โชยออกมาจากผิวหนัง ส่วนจุดที่ปกติเป็นสีม่วงดำ นั่นก็คือจุดที่สูญเสียความรู้สึกไป คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะถูกพิษประหลาดที่ไม่เคยพบมาก่อน! พิษชนิดนี้มีคุณสมบัติในการอำพรางตัว คาดไม่ถึงว่าอาการที่ทำให้มันสูญเสียความรู้สึกนั้นมันกลับไม่รู้ตัวมาก่อนเลย และเมื่ออาการกำเริบ ก็แผ่ไปทั่วร่างแล้ว แมลงประหลาดรู้สึกตะลึงงันไม่น้อย! อ้าปากออกพ่นลำแสงสีเขียวออกมาอย่างไม่ต้องขบคิด ด้านในมีไข่มุกกลมสีเขียวมรกตขนาดเท่าไข่ไก่อยู่เม็ดหนึ่ง เปล่งแสงสว่างวาบแล้วไปถึงรูโลหิตตรงทรวงอก ไข่มุกกลมหมุนคว้าง ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงเจิดจ้าแสบตา ในเวลาเดียวกันกลิ่นหอมกลุ่มหนึ่งก็โชยออกมาจากไข่มุกกลม ทำให้กลิ่นคาวคละคลุ้งเจือจางไป พิษสีม่วงดำที่กำลังแพร่ออกมาแข็งแน่น ชั่วพริบตาพลันหยุดขยายขนาดออกมา หานลี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้น พลันรู้สึกประหลาดใจอยู่สองสามส่วน ความรุนแรงของพิษจากคลื่นลำแสงภยันตรายนั้น เขาเคยเห็นมากับตา คาดไม่ถึงว่าจะไม่ทำให้มันจบชีวิตในทันที เห็นได้ชัดว่ากายเนื้อของมันมีพลังต้านทานพิษอย่างแน่นอน แต่ทันใดนั้นหานลี่พลันหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา ร่างกายพลันกระโจนไปข้างหน้า ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นวิหคยักษ์สีเขียวความยาวสิบจั้งตัวหนึ่ง แล้วกระโจนเปล่งแสงสว่างวาบออกไปในเวลาเดียวกัน แค่กะพริบวาบสองครั้ง วิหคยักษ์ก็พาพายุหมุนสีเขียวมาปรากฏตัวเหนือศีรษะของแมลงเม่าประหลาดที่กำลังติดพิษ สองปีกสยายออก เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นขึ้น! ชั่วพริบตานั้นผิวของวิหคยักษ์พลันมีประจุไฟฟ้าสีทองหนาๆ ปรากฏขึ้นเป็นสายๆ กรงเล็บยักษ์สีทองอ่อนคู่หนึ่งตะปบลงมา แมลงเม่าประหลาดที่อยู่ด้านล่างพลันร่างกายสั่นเทา มีดประหลาดที่แผ่นหลังพุ่งออกมาราวกับห่าฝน วิหคยักษ์เผชิญหน้ากับลำแสงสีขาวที่ดาหน้าเข้ามาก็ไม่ได้สนใจ ไม่ลดความเร็วการบินลงเลยสักนิด หลังจากเสียงเคร้งๆๆ ดังขึ้น มีดประหลาดทั้งหมดที่โจมตีไปยังปีกขนนกก็ทยอยกันดีดตัวกลับมา ใบมีดที่ดูเหมือนแหลมคมเป็นพิเศษ คาดไม่ถึงว่าจะไม่อาจทำอันตรายวิหคยักษ์ได้เลยสักนิด นี่กลับไม่น่าแปลกประหลาดเลยสักนิด กายเนื้อของหานลี่เดิมทีก็แข็งแกร่งจนถึงขีดสุดแล้ว ประกอบกับที่แปลงกายเป็นวิหคคุนเผิง กายเนื้อก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหลายส่วน แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่สิ่งที่มีดแหลมคมจะทำอันตรายได้ กลับกันกรงเล็บแหลมคมคู่หนึ่งกลับฉีกการต้านทานด้วยใบมีดแหลมคมสิบกว่าเล่มได้อย่างง่ายดายแล้ว ทะลวงเข้าไปในร่างของแมลงเม่าประหลาดอย่างรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า แต่หลังจากเห็นกรงเล็บลำแสงเปล่งแสงสว่างวาบแล้ว เงาร่างแมลงเม่าประหลาดก็ฉีกออกเป็นชิ้นๆ ด้านในว่างเปล่า ดูไม่มีเลือดเนื้อในนั้นเลยสักนิด คิดไม่ถึงว่าแมลงเม่าประหลาดตัวจริงจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเอาไว้เพียงเปลือกบางๆ ชั้นหนึ่งเท่านั้น แม้กระทั่งไข่มุกกลมสีเขียวที่ใช้กำจัดพิษตรงหน้า ยามนี้ก็เปล่งแสงสว่างวาบสลายหายไป ทว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น วิหคยักษ์พลันตะลึงงัน แต่หลังจากกวาดสายตาไปรอบๆ พร้อมกับลำแสงสีฟ้าที่เปล่งประกายจางๆ แล้ว ทันใดนั้นปึกทั้งสองพลันกระพือไปมาสองสามครา ชั่วขณะนั้นประจุไฟฟ้าสีทองบนเรือนร่างพลันดีดออกอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นพลันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วรวมตัวกันกลายเป็นประจุไฟฟ้าสีทองขนาดหนาเท่าปากชาม เปล่งแสงสว่างวาบแล้วดีดตัวออกไป มีความยาวประมาณยี่สิบสามสิบจั้ง เสียงหวีดร้องดังสนั่นขึ้น! ชั่วพริบตาประจุไฟฟ้าสีทองก็กะพริบวาบอยู่ห่างออกไปในรัศมีสองสามร้อยจั้ง กระโดดไปมาอย่างลึกลับไม่หยุด แค่พริบตาก็อยู่ห่างออกไปไกลโข เสียงดังสนั่นดังขึ้น! ประจุไฟฟ้าระเบิดออกกลางอากาศห่างออกไปห้าสิบจั้ง เส้นไหมไฟฟ้าบางเบาจำนวนนับไม่ถ้วนกะพริบระยิบระยับ กลายเป็นตาข่ายสีทองขนาดยักษ์ปกคลุมลงมา แต่ด้านล่างพลันมีลำแสงสีเขียวมรกตเปล่งประกาย ตาข่ายไฟฟ้าสีทองถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว และขณะที่ลำแสงอัสนีสีทองกำลังกะพริบระยิบระยับ ด้านล่างพลันมีเงาร่างซวนเซปรากฏขึ้น นั่นก็คือแมลงเม่าประหลาดที่ใช้กลยุทธ์จักจั่นลอบคราบ! แต่แค่เจ้าตัวประหลาดในยามนี้ร่างกายสองในสามกลายเป็นสีม่วงดำ มีเพียงลำแสงสีเขียวที่เปล่งแสงระยิบระยับไปมา คาดไม่ถึงว่าจะมีไข่มุกสีเขียวเม็ดนั้นแฝงอยู่ ทำให้พิษยังคงวนเวียนไปมาอยู่ที่คอ ไม่อาจพุ่งมาที่ศีรษะได้ แขนอีกสองข้างและหางดูเหมือนว่าจะมีพลังต้านทานพิษ ท่ามกลางลำแสงสีเขียวอ่อน มีแค่ไอสีดำอ่อนปรากฏขึ้นชั้นหนึ่งเท่านั้น ทว่าเช่นนั้นก็เห็นได้ชัดว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ถูกพิษกำเริบ ท่าทางจะล้มแหล่มิล้มแหล่ มิน่าล่ะมันจึงไม่กล้าประมือกับหานลี่อีกครั้งเลยแม้แต่น้อย สะกดพิษและคิดจะหนีในทันใด ทว่าน่าเสียดายถึงแม้ว่ามันจะเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาอำพรางกาย ก็ไม่อาจหลบซ่อนจากเนตรวิญญาณวารีกระจ่างของหานลี่ได้ ถูกหาพบในพริบตา เพื่อต้านทานกับอัสนีเทวะปัดเป่าภยันตราย มันยังจำใจต้องทำใจดีสู้เสือโคจรพลังลมปราณเข้าต้านทาน ผลคือด้วยเหตุนี้ พิษที่เพิ่งจะสะกดลงได้พลันกำเริบขึ้นมาอีกครั้งในทันใด ทำให้มันไม่อาจต้านทานได้อีก ในเวลาเดียวกันวิหคสีเขียวพลันพุ่งออกมาท่ามกลางประจุไฟฟ้า ปีกทั้งสองเปล่งแสงสว่างวาบ ร่างกายอันใหญ่โตเปล่งแสงสว่างวาบสองสามคราแล้วมาปรากฏตรงแมลงเม่าประหลาด สายตามองมาด้านล่างด้วยความเย็นชา แม้นว่าหานลี่ที่แปลงเป็นวิหคยักษ์จะไม่ใช่จิตวิญญาณเที่ยงแท้คุนเผิงที่แท้จริง แต่เป็นเพราะมีโลหิตของจิตวิญญาณเที่ยงแท้ แน่นอนว่าจึงยังคงมีพลังอานุภาพที่แข็งแกร่ง แมลงเม่าประหลาดที่อยู่ด้านล่างเห็นเช่นนั้น ในที่สุดดวงตาสีทองก็ฉายแววหวาดกลัว ผิวเปล่งแสงสีเทาสว่างวาบ หลบหนีไปด้วยเคล็ดวิชาหลีกหนีอะไรสักอย่างอีกครั้ง แต่ครู่ต่อมาพลันมีเสียงก้องกังวานดังขึ้น คาดไม่ถึงว่าไข่มุกสีเขียวมรกตในปากจะแตกตัวออกอย่างประหลาด ความเปลี่ยนแปลงที่พิสดารนี้ทำให้หานลี่และแมลงเม่าประหลาดตะลึงค้าง แต่ทันใดนั้นแมลงเม่าประหลาดก็เปล่งเสียงร้องแหลมสูงออกมา ทันใดนั้นร่างกายพลันระเบิดลำแสงเจิดจ้าออก ขยายใหญ่ขึ้นสองสามเท่าในเวลาเดียวกัน แต่งูเหลือมยักษ์กลับเอียงหัว ลำแสงสีเทาสว่างวาบ หัวสิงโตอีกหัวหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างแปลกประลหาด จากนั้นสัตว์ประหลาดตัวนี้พลันพลิ้วกาย กระโจนเข้ามาหานลี่ด้วยสีหน้าที่โหดเ**้ยม แขนสองข้างโบกสะบัด กรงเล็บลำแสงเต็มท้องฟ้าพุ่งแหวกผ่านอากาศส่งเสียง ฟิ้วๆ รวมตัวกันกลายเป็นกรงเล็บเงายักษ์สองข้าง ท้องฟ้าในบริเวณสองสามลี้มีดวงลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ครู่ต่อมาพลันถูกกรงเล็บยักษ์ทั้งสองสูดเข้าไป กรงเล็บเงาทั้งสองขยายใหญ่ขึ้น ให้ความรู้สึก ปกคลุมทั้งท้องฟ้าเอาไว้ และค่อยๆ ตะปบไปทางหานลี่อย่างเชื่องช้า ขณะที่กรงเล็บเงากำลังตะปบลงมา หานลี่รู้สึกเพียงว่าไม่ว่าตนเองจะหลบหลีกอย่างไร ก็ไม่อาจหลบหลีกการโจมตีนี้ได้ รูม่านตาอดที่จะหดเล็กลงไม่ได้ ดังนั้นวิหคยักษ์พลันเปล่งเสียงร้องไพเราะออกมาจากปากทันที! ผิวมีลำแสงสีเขียวโคจรไปมา เพียงชั่วลมหายใจ วิหคยักษ์พลันกลายเป็นนกยูงที่ถูกลำแสงห้าสีห่อหุ้มเอาไว้ มีขนาดแค่สองสามจั้ง แต่เปลวเพลิงที่ปกคลุมรอบกายกลับดูเจิดจ้าแสบตาราวกับมีรูปร่าง คาดไม่ถึงว่าหานลี่จะกระตุ้นคาถาตื่นจากจำศีลแปลงกาย ชั่วครู่ก็กลายเป็นนกยูงห้าสี มองเห็นกรงเล็บเงาแปลกประหลาดคู่นั้น ไม่รู้เพราะเหตุใดหานลี่ถึงได้แปลงกายเช่นนี้ไปตามความรู้สึก ผลคือฉากที่น่าตกตะลึงพลันปรากฏขึ้น! มองเห็นกรงเล็บเงาตะปบมา ขนนกบนตัวของนกยูงห้าสีพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน ชั่วพริบตาก็หลอมละลายไปที่ผิวของเปลวเพลิงลำแสง ชั่วขณะนั้นลำแสงวิญญาณห้าสีพลันขยายใหญ่ขึ้นสองสามเท่า จากนั้นกรงเล็บเงายักษ์ที่โถมเข้ามาด้านล่างพลันหมุนวน มองจากไกลๆ ราวกับสายธารลำแสงห้าสีสายหนึ่งกำลังไหลย้อนกลับ! สองหัวของแมลงเม่าประหลาดเห็นท่าทางน่าหวาดกลัวของนกยูงห้าสีและลำแสงห้าสี ชั่วขณะนั้นแววตาพลันฉายแววไม่อยากจะเชื่อ ทว่ายามนี้มันกลับไม่อาจควบคุมการโจมตีของตนเองได้ เปล่งแสงสว่างวาบ กรงเล็บเงายักษ์และลำแสงห้าสีปะทะกันในพริบตา ผลคือคาดไม่ถึงว่าจะเงียบเชียบ! ลำแสงห้าสีกะพริบวาบๆ กรงเล็บเงายักษ์จมหายเข้าไปในธารลำแสงราวกับฟองสบู่ แล้วหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย ท่าทางน่าดุดันก่อนหน้า ราวกับเป็นแค่ดอกถานฮวาชั่วค่ำคืน แต่เพื่อความปลอดภัย หานลี่ไม่ก้าวเข้าไปแต่กลับถอย บนผิวมีลำแสงห้าสีเปล่งแสงสว่างวาบ นกยูงปรากฏอีกที่ห่างออกไปยี่สิบจั้งเศษอย่างลึกลับ หลังจากที่แมลงเม่าประหลาดดูเหมือนจะโจมตีไร้ผลแล้ว กลับลอยอยู่ที่เดิมนิ่ง หัวทั้งสองจ้องเขม็งมายังหานลี่ สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่ครู่ต่อมา ไอพิษสีม่วงดำพลันหมุนวนกวาดออกไป หัวทั้งสองกลายเป็นสีม่วงดำ ทำให้สัตว์ประหลาดร่างกายสั่นเทา ดวงตาทั้งสี่สูญเสียสติสัมปชัญญะ ทันใดนั้นก็ร่วงลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วราวกับไร้กระดูก และในตอนนั้นเองนกยูงห้าสีพลันหุบปีกทั้งสอง ร่างกายหดเล็กลงสองสามเท่า กลับคืนร่างคนอีกครั้ง หานลี่ลอยนิ่งอยู่ตรงนั้น จ้องมองแมลงเม่าประหลาดที่ตกลงไปด้วยความเย็นชา ไม่มีท่าทีจะบินเข้าไปเลยสักนิด เสียง “ตูม” ดังขึ้น ร่างสีม่วงดำของแมลงเม่าประหลาดกระแทกลงบนน้ำแข็ง ขยับตัวไม่ได้อีก หานลี่พลันเลิกคิ้ว แล้วถึงได้ใช้มือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศ เสียง พรึ่บ ดังขึ้น ลูกบอลเพลิงสีเงินลูกหนึ่งเปล่งแสงสว่างวาบแล้วปรากฏขึ้น นั่นก็คือเพลิงกลืนวิญญาณที่ถูกแมลงเม่าประหลาดกักเอาไว้แต่เดิม! ภายใต้ความคิดที่เคลื่อนไหวของหานลี่ ลูกบอลเพลิงสีเงินพลันพุ่งไปด้านล่าง และเปล่งแสงสีเงินสว่างวาบกลางทาง กลายเป็นวิหคเพลิงสีเงินระยิบระยับตัวหนึ่งอีกครั้ง วิหคตัวนี้แค่กะพริบวาบ ก็มาอยู่เหนือซากศพของแมลงเม่าประหลาด สยายปีกทั้งสองออกคิดจะกระโจนเข้ามา ในตอนนั้นเองสองหัวของวิหคเพลิงพลันระเบิดออกพร้อมกัน กลายเป็นหมอกสีโลหิต กลางหมอกโลหิตมีเสียง พรึ่บๆ ดังขึ้น เพลิงสีเขียวขนาดเท่ากำปั้นสองดวงปรากฏขึ้น และพุ่งไปยังทิศทางตรงข้าม
คอมเม้นต์