Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 116 นั่งประจันหน้ากันสามคน
“ท่านเขยดื่มชาเจ้าค่ะ”หลิ่วเอ๋อร์วางชาตรงหน้าหนิงอวิ๋นเจา ขัดอาการเหม่อลอยของเขาหนิงอวิ๋นเจายิ้มพยักหน้า“ครั้งก่อนไม่มีโอกาส ครั้งนี้เชิญเจ้าลองชิมชาบ้านข้า” คุณหนูจวินเอ่ย ยื่นมือทำท่าเชิญครั้งก่อนไม่มีโอกาสคำพูดนี้ฟังแวบแรกไม่มีที่มาที่ไปอยู่บ้าง อย่างน้อยก็สำหรับหลิ่วเอ๋อร์ แต่หนิงอวิ๋นเจายิ้มทันทีครั้งก่อน งานสังสรรค์ใหญ่ที่หอจิ้นอวิ๋นวันที่สามเดือนสาม มีตะลึงมียินดีมีเศร้าโศกมีเสียใจ เรียกได้ว่าหนึ่งวันนั้นทำให้เขาเผชิญอารมณ์สะเทือนใจของทั้งชีวิตเขาปลอบน้องสาว รับมืออาลักษณ์หลิน ม้าวิ่งไม่ได้หยุดห่มดาวทูนเดือนวิ่งวุ่นระหว่างหยางเฉิงกับเป่ยหลิว ชั่วขณะบุ่มบ่ามเที่ยงคืนเข้าประตูตระกูลฟาง พบหน้ากับอดีตคู่หมั้นที่ตอนนั้นเป็นภรรยาของผู้อื่นคนนี้ในละครมักพบฉากนี้อยู่บ่อยๆ ยังมักจะมาคู่กับบทกวีสองวรรคด้วย ลอบหมั้นหมายในสวนบุปผา บัณฑิตตกยากได้เป็นจอหงวนแม้เขาไม่ใช่บัณฑิตตกยาก แต่ตอนนี้ก็ได้เป็นจอหงวนแล้ว นอกจากนี้ตอนนี้พวกกเขาก็นับว่าลอบหมั้นหมายเหมือนกัน แม้ไม่ใช่ที่สวนดอกไม้หลังบ้านก็ตามคิดๆ ดูก็น่าสนใจจริงๆ นี่ก็คือความสนุกสนานของชีวิตมนุษย์สินะ เจ้าไม่มีวันรู้ว่าอนาคตจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเวลานั้นเพราะค่ำมืดคนสงบ คุณหนูจวินบอกว่าไม่สะดวกเชิญเขาดื่มชาสักถ้วย มอบสาลี่ผลหนึ่งให้เขาแทนการดื่มชาแม้อยู่ที่เมืองหลวงเขากับนางเคยดื่มชากันมาหลายครั้ง แต่ในเรือนตระกูลฟางแห่งนี้ยังเพิ่งเป็นครั้งแรกจริงๆหนิงอวิ๋นเจายิ้ม ยกชาดื่มคำเดียวหมด“ชาดี” เขายิ้มเอ่ยคุณหนูจวินก็ยิ้มดื่มครึ่งถ้วยชาเช่นกัน“เจ้าอยากถามข้าเรื่องอะไร?” นางเอ่ยถาม“เจ้าทำไมกะทันหัน..” หนิงอวิ๋นเจาเอ่ยถามคนพูดยังไม่ทันเอ่ยจบก็มีเสียงฝีเท้าดังมา พร้อมกันนั้นเสียงสดใสดังขึ้น“จิ่วหลิง ข้ากลับมาแล้ว”หลังเสียงดังขึ้น มีคนมายืนที่ประตู“เจ้าดูสิข้าเอาอะไรมาให้เจ้า?”เด็กหนุ่มยิ้มแย้มแจ่มใสชูถุงกระดาษในมือ แต่นาทีต่อมาก็อึ้งไป ราวกับเพิ่งค้นพบว่าในห้องมีคนเพิ่มมาคนหนึ่ง“นี่คือ…” เขากระดากอายนิดหน่อย ติดจะกังวลอยู่บ้าง “เจ้ามีแขกหรือ”หนิงอวิ๋นเจามองเด็กหนุ่มที่สวมอาภรณ์หรูหราแต่เพราะใบหน้างดงามกลับไม่แลดูโอ้อวดสักนิดคนนี้ ลุกขึ้นยืน“นายน้อยฟาง” เขายิ้มเอ่ย “ข้าน้อยหนิงฉาง”ดวงตาของฟางเฉิงอวี่เปล่งประกาย“อ้อ อ้อ” เขาสีหน้าตื่นเต้นยินดี “ที่แท้ท่านก็คือคุณชายสิบหนิง”พูดพลางก้าวเข้ามาหลายก้าว เหมือนอยากจับมือคุณชายสิบหนิง แล้วก็ขัดเขินอยู่บ้างจึงหยุดไป“ชื่นชมชื่อเสียงโด่งดังมานาน เพียงแต่ข้าอยู่ในบ้านมาตลอดจึงไร้วาสนาพานพบ”หนิงอวิ๋นเจายิ้มคำนับฟางเฉิงอวี่คิดอะไรได้ทำหน้าจริงจัง ประสานมือโค้งต่ำให้หนิงอวิ๋นเจา“ขอบคุณคุณชายหนิงผดุงคุณธรรมให้ความช่วยเหลือ” เขาเอ่ยเขารู้หรือ หนิงอวิ๋นเจาอดไม่ได้มองคุณหนูจวินทีหนึ่ง สาวใช้ข้างกายยังไม่รู้ น้องชายคนนี้กลับรู้“นายน้อยฟางเกรงใจเกินไปแล้ว” เขายิ้มเอ่ย “เคยขอบคุณไปแล้ว”คนที่เขาช่วยเหลือคือคุณหนูจวิน คุณหนูจวินก็ขอบคุณไปแล้ว ดังนั้นไม่ต้องให้เขาขอบคุณหรือเปล่า?ฟางเฉิงอวี่ลุกขึ้นสีหน้าจริงใจ“จิ่วหลิงขอบคุณเป็นส่วนของนาง ข้าก็ต้องขอบคุณด้วย” เขาเอ่ยหนิงอวิ๋นเจายิ้มไม่พูด ไม่ได้ปฏิเสธอีก ก็เหมือนไม่เถียงกับเด็กน้อยคนหนึ่ง“เจ้าซื้ออะไรมา?” คุณหนูจวินเอ่ยถามฟางเฉิงอวี่รีบส่งถุงกระดาษในมือมาให้“ตอนเช้าข้าไม่ใช่บอกเจ้าแล้วหรือว่ามีร้านที่ทำหมั่นโถวอร่อยสุดๆ” เขาเอ่ย พลางเปิดถุงกระดาษ “เจ้ารีบลองชิม เย็นก็ไม่อร่อยแล้ว…”พูดถึงตรงนี้ก็มองไปทางหนิงอวิ๋นเจาอีกครั้ง“คุณชายหนิง ชิมด้วยกันสิ”เขาพูดพลางยิ้มขัดเขิน“ข้าซื้อมาสองลูกพอดี”สองลูกหรือ แต่ตอนนี้ในห้องมีคนตั้งสามคนหนิงอวิ๋นเจายิ้มพยักหน้า“งั้นหรือ? ร้านเปิดใหม่รึ? ข้าไม่ได้กลับมานานแล้ว” เขาเอ่ยท่าทางใคร่รู้อยู่บ้าง พลางสะบัดแขนเสื้อยื่นมือ “ก่อนหน้านี้หมั่นโถวของร้ายตาเฒ่าหยางที่ตรอกม่าวเอ่อร์อร่อยมาก ข้าลองชิมเทียบกับเขาซิเป็นอย่างไร”จะกินจริงหรือ!นี่มีแค่สองลูกเองนะมีแค่สองลูกนะฟางเฉิงอวี่มองเขา ประหลาดใจอยู่บ้างแล้วก็เสียใจอยู่บ้างบัณฑิตทำตัวเช่นนี้หรือ?หลิ่วเอ๋อร์ส่งอ่างแก้วใบหนึ่งมาด้านข้าง อีกมือหนึ่งถือผงจ่าวโต้ว[1]กล่องหนึ่งไว้“ท่านเขย ล้างมือเจ้าค่ะ” นางเอ่ยฟางเฉิงอวี่ถูกเบียดถอยหลังไปก้าวหนึ่งท่านเขยตอนนั้นเขาก็เป็นท่านเขย ไม่เห็นนางเรียกเช่นนี้เลยฟางเฉิงอวี่ก้มหน้าลงบีบนิ้วมือคุณหนูจวินด้านนี้วางถุงกระดาษไว้บนโต๊ะ ตนเองก็ล้างมือด้วยหนิงอวิ๋นเจานั่งลงแล้วหยิบหมั่นโถวขึ้นมาลูกหนึ่ง บิออกชิมคำหนึ่ง“อืม” เขาพยักหน้า ในดวงตาเต็มไปด้วยความพึงพอใจอย่างคิดไม่ถึง “ไม่เลว ไม่เลว”คุณหนูจวินได้ยินก็หยิบขึ้นมาบิออกทีหนึ่ง คิดอะไรได้มองไปทางฟางเฉิงอวี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างอีกครั้ง“เอ้า” นางเอ่ย ส่งครึ่งหนึ่งในมือมาให้หนิงอวิ๋นเจาได้ยิน สีหน้ารู้สึกผิดอยู่บ้าง“ดูข้าสิ ยังคิดว่านายน้อยฟางกินมาแล้ว” เขาเอ่ย รีบร้อนส่งอีกครึ่งหนึ่งในมือมาให้บ้างอั้ยย่ะ บัณฑิตหนอบัณฑิตฟางเฉิงอวี่มองหนิงอวิ๋นเจายกยิ้ม“ข้ากินมาแล้วลูกหนึ่ง” เขาเอ่ย ยื่นมือรับครึ่งหนึ่งในมือคุณหนูจวินไป ฉวยโอกาสนั่งลงข้างตัวคุณหนูจวิน “ข้ากินอีกครึ่งหนึ่งก็พอแล้ว”หนิงอวิ๋นเจายิ้มไม่เอ่ยวาจา กินอย่างเรียบร้อยและสง่างามหลิ่วเอ๋อร์ดีอกดีใจเติมชาให้พวกเขา“ไม่สู้ให้ห้องครัวทำของว่างมาอีกสักหน่อย” นางเอ่ยขึ้นอีก จะร้องเรียกไป๋เสาก็ตบมือทีหนึ่ง “จัดงานเลี้ยงไปเลยเถอะ”พูดจบมองหนิงอวิ๋นเจา“ท่านเขยทานอาหารแล้วค่อยไปนะเจ้าคะ”“ใช่แล้ว” ฟางเฉิงอวี่งับหมั่นโถว กินแก้มตุ่ย ดวงตากลมมองหนิงอวิ๋นเจา “คุณชายหนิงอุตส่าห์มาแล้ว อย่างไรก็ต้องทานอาหารสักมื้อ”พูดแล้วก็หยั่งเชิงถาม“น่าจะไม่รบกวนเวลาคุณชายหนิงกระมัง?”หนิงอวิ๋นเจายิ้มส่ายศีรษะ“ไม่ล่ะ ข้าตั้งใจมาถามธุระเรื่องเดียว” เขาเอ่ย “วันนี้ยังไงก็รีบกลับดีกว่า”คุณหนูจวินตอบอ้อ“เมื่อครู่เจ้าจะถามว่าอะไรนะ?” นางเอ่ยขึ้นได้ยินคำพูดของคุณหนูจวิน ฟางเฉิงอวี่ก็ไม่เอ่ยปากอีก นั่งหลังร่างคุณหนูจวินอย่างว่าง่าย ทั้งยังตั้งใจกินหมั่นโถวครึ่งชิ้นในมือต่อ“ข้าจะถามเจ้าว่าทำไมกะทันหันก็กลับมา?” หนิงอวิ๋นเจาเอ่ย สีหน้ากังวลอยู่บ้าง “ไม่ใช่ตอนแรกบอกว่าจะไม่กลับมาหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”กะทันหัน สองคำนี้เขาใช้ได้ดี สำหรับเขาแล้ว การกลับมาครั้งนี้ของคุณหนูจวินกะทันหันเหลือเกินเพราะไม่รู้ว่าคนในตระกูลฟางรู้หรือไม่รู้ ไม่อยากแล้วก็ไม่อาจทำความลำบากให้คุณหนูจวิน ดังนั้นเมื่อครู่จึงเลี่ยงหลบนายหญิงผู้เฒ่าฟางกับนายหญิงใหญ่ฟางแต่ ฟางเฉิงอวี่หรือหนิงอวิ๋นเจามองฟางเฉิงอวี่ที่นั่งเชื่องๆ อยู่หลังร่างคุณหนูจวินดั่งลูกกวางตัวหนึ่งเด็กหนุ่มที่ป่วยมาเกือบสิบปี วันหนึ่งหายดีก็เฉิดฉายจับตาชวนตะลึงเช่นนี้ ต้องไม่ใช่เพียงเพราะหน้าตาโดดเด่นแน่เรื่องในตระกูลแห่งนี้ นายหญิงผู้เฒ่าฟางกับนายหญิงใหญ่ฟางอาจไม่รู้ แต่ไม่มีเรื่องที่เขาไม่รู้แน่นอนอย่างที่คิด สิ้นเสียงคำพูดของเขา คุณหนูจวินยังไม่ได้เอ่ยปาก ฟางเฉิงอวี่ก็เงยหน้าอีกครั้ง“คุณชายหนิงช่างใส่ใจจริงๆ” เขาเอ่ย สีหน้าซาบซึ้งแล้วถอนหายใจ “เกิดเรื่องขึ้นไม่น้อยจริงๆ”หนิงอวิ๋นเจามองเขาฟางเฉิงอวี่กลับไม่พูดแล้ว ยื่นมือผลักแขนของคุณหนูจวิน“จิ่วหลิง เจ้าเล่า เจ้าเล่า” เขาเอ่ย “เจ้าเล่าจะได้ชัดเจน”นางเล่าได้ชัดเจน เจ้ายังเอ่ยปากทำอะไรจะบอกข้าว่าเจ้ารู้หรือ?เป็นเด็กน้อยคนหนึ่งจริงๆหนิงอวิ๋นเจายิ้มไม่เอ่ยคำ………………………………………. [1] จ่าวโต้ว (澡豆) ของใช้สำหรับอาบน้ำ ล้างมือ ล้างหน้าผลิตจากถั่วผสมกับสมุนไพร มีสภาพเป็นผง
คอมเม้นต์